เหมียวนั่งอยู่มุมหนึ่งของร้านกับแพรวพีช ส่วนเปลวกับชุมพลไม่มา เธอนั่งมองน้ำสีสวยในแก้วอย่างเหม่อลอย เหล้าที่เธอกำลังมองอยู่ตอนนี้ มันเป็นที่พึ่งทางใจได้ดี มันชัดเจนตลอด กินแล้วก็เมาไม่เคยหลอกลวง
"เหมียวใช่วศินหรือเปล่า?" แพรวชี้ไปที่โต๊ะมุมหนึ่งของร้าน ตอนนี้เขากำลังเมาเต็มที่นั่งอยู่กับชะนีนางหนึ่ง
"คงใช่มั้ง" เหมียวตอบแล้วปรายตามอง ก่อนจะก้มมองน้ำสีสวยในแก้ว พร้อมกับถอนหายใจออกมาเบา ๆ มาคลายเครียด เหมือนจะเครียดมากกว่าเดิม
'ช่างเขาเถอะ เดี๋ยวเขาก็ดีขึ้น'
หญิงสาวได้แต่บอกตัวเองในใจ ยอมรับว่ายังรักเขามาก แต่เธอไม่สามารถเปลี่ยนความเกลียดชังในใจเขาที่มีต่อเธอ ให้เปลี่ยนเป็นรักเธอได้ ทำได้แค่มองเงียบๆ เท่านั้นเอง
"เดี๋ยวแพรวไปทักทายเพื่อนก่อน พีชไปด้วยกันสิ"
"ไปด้วยกันไหมเหมียว" พีชลุกขึ้นแล้วเอ่ยถามหญิงสาว
"ไม่ไป"
เหมียวพูดจบก็กระดกรวดเดียวเลย การที่ทำเป็นไม่สนใจมันดีที่สุด รักตัวเองให้มากแล้วทุกอย่างจะดีขึ้น
เธอมองพีชที่เข้าไปทักทายกับวศินพร้อมกับนั่งกินเหล้าเป็นเพื่อน เเพรวชี้มาทางเธอ พร้อมกับพูดคุยกับวศิน เหมียวมองเขาที่มองมาที่เธอเช่นกัน
เหมียวนั่งดื่มไปเรื่อยๆ ปล่อยหายปล่อยใจปล่อยความรู้สึกไปตามเสียงเพลง สักพักก็มีคนมานั่งตรงข้าม เธอจะไม่ใส่ใจเลยถ้าคนๆนั้นไม่ใช่วศิน
ตอนนี้เขาเมามากๆ แววตาของเขาแดงก่ำ เธอรู้ว่าเขากำลังเสียใจเรื่องเปลว เธอเคยมีความรู้สึกแบบนี้ เธอรู้ว่ามันเจ็บมากแค่ไหน
"..."
"ไม่ทักทายกันบ้างเลยนะ เงียบไปหลายเดือนเลย" เขาพูดอ้อแอ้ตามแบบฉบับคนเมา ดูเมามากซะด้วยสิ
"..."
"พูดอะไรกับกูบ้างสิ ตอนนี้ใจกูมันเจ็บ มึงจะไม่พูดอะไรกับกูเลยหรือ"
"..."
"พูดกับกูหน่อยเหมียว" นี่เธอหูฝาดไปเหลือเปล่า คนปากหมาแบบวศิน อยากให้เธอพูดกับเขา แค่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ใจของเธอมันเต้นแรงขึ้นมาทันที เกลียดตัวเองที่เจ็บแล้วไม่จำ
"..." เหมียวเงียบแทนคำตอบทุกอย่าง ผ่านมาหลายเดือนที่เธอไม่เคยอยูในสายตา วันนี้เขากลับอยากมาพูดกับเธอ มันยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกงงงวย
"มึงคุยกับได้ไหมวะ มึงจะไม่พูดกับกูหน่อยเหรอ?"
"มีอะไรก็พูดมาเลย" เป็นการพูดกันแบบดีๆในรอบหลายเดือน ตอนนี้วศินก้มหน้ามองแก้วเหล้าในมือ
"ใจกูตอนนี้มันเจ็บเหลือเกินเหมียว เปลวเขารักชุมพล ตกลงยอมเป็นแฟนกับมันแล้ว กูเสียใจ กูเจ็บ กูควรจะทำยังไงกับความรู้สึกแบบนี้ ใจกูมันเจ็บจนกูแทบทนไม่ไหว การรักเขาข้างเดียวมันเจ็บ กูควร.ทำยังไงดี" เขาเสียงสั่นเครือ
"เหมียวก็เคยเป็น วศินเจ็บยังไง เหมียวก็เคยเจ็บแบบนั้นแหละ ความรู้สึกมันไม่ได้แตกต่างมากมายนักหรอก" เธอโพล่งออกมาทันที เธอเองก็เสียใจเหมือนกันที่รักเขาข้างเดียว
ใจเธอมันสั่นระริกเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ขอบตารื้นด้วยน้ำตาก่อนจะไหลออกมาอาบแก้ม ความอดทนอดกลั้นของเธอมันพังทลายลง
เขาคงจะรับรู้ความเจ็บของเธอแล้วว่าเธอเจ็บมากแค่ไหน กับคำพูดกับการกระทำของวศินที่แสดงออกมา เธอมองหน้าของเขาที่จ้องเธออยู่เหมือนกัน
เขาเมามากแล้ว เธอเองก็เหมือนกันถึงได้ระบายความอัดอั้นออกมา หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกๆเธอควรจะกลับบ้านได้แล้ว ไม่ควรแสดงความอ่อนแอให้เขาได้เห็นอีก
"เหมียวกูขอโทษ"
"ช่างเถอะ ต่างคนต่างอยู่ เหมียวจะไม่ไปวุ่นวายอะไรในชีวิตของวศินเลย เหมียวรู้ว่าวศินเกลียดเหมียว"
"เหมียว"
"เหมียวขอตัวกลับก่อนนะ"
"เหมียว"
เหมียวลุกขึ้นพร้อมกับหันหลังให้ เธอไม่ปฏิเสธว่ายังรักเขา รักเขาตลอดรักเขาไม่เปลี่ยนแปลงและเธอไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว เขาจะเป็นรักแรกและรักเดียวของเธอ
หมับ!!
เขาคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ หญิงสาวหันมองมือก่อนจะหันไปมองหน้าเขาอย่างงงๆ เหล้ามันทำให้ให้คนเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้เลยหรือ ถึงเขาจะพูดดีกับเธอตอนเมา พอสร่างเมาเขาจะเป็นคนปากหมาเหมือนเดิม และจะพ่นคำพูดร้ายๆ ให้เธอเจ็บปวดหัวใจอยู่เสมอ
"ได้โปรด ปล่อยมือด้วย"
"กินเหล้าเป็นเพื่อนได้ไหม?"
"ไม่ได้ นายไปกินกับพีชแพรวเถอะ"
วศินลุกขึ้นแต่ไม่ปล่อยมือออกจากแขนเธอ เขาเดินโซซัดโซเซมาใกล้ ๆ ตอนนี้เขาเมามาก
"กูขอโทษที่เคยพูดแย่ๆใส่มึง ขอเห็นแก่ความเป็นเพื่อนระหว่างเรา อยู่กินเหล้ากับกูนะ"
"มันจะไม่มีคำว่าเพื่อน ปล่อย เหมียวจะกลับบ้านแล้ว"
"นะเหมียว" วศินเอ่ยอ้อนวอน เวลาเขารู้สึกเจ็บปวด เขาอยากมีใครสักคนอยู่ข้างๆ
"..."
"ได้โปรด" วศินมองหน้าเธอด้วยสายตาอ้อนวอน เธอเม้มปากเป็นเส้นตรง ก่อนจะถอนหายใจออกมา
"ก็ได้" เธอพูดออกมา ใจอ่อนอีกแล้ว เจ็บไม่เคยจำ
"ขอบคุณนะ"
"อืม"
เธอนั่งลงพร้อมกับดื่มเหล้าเป็นเพื่อนวศิน ไม่รู้ผีห่าซาตานตนใดสิงหัวใจเขา เขาถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ คงเพราะความเมาเพราะความเสียใจ มันทำให้เปลี่ยนไป
"เปลวเขารักไอ้พลไปแล้ว กูควรจะทำยังไง?"
"ทำใจไง" หญิงสาวเอ่ยพร้อมกระดกเหล้าเข้าปาก
"ทำใจไม่ได้หรอก กูรักของกูมาตั้งแต่เด็ก" เขาพูดเสียงเศร้าๆ
"อืม รักแรกสินะ"
"ใช่ เปลวคือทุกสิ่งทุกอย่างของกู"
"ใช่บอกเหตุผลที่เกลียดเหมียวได้ไหม?"
"ไม่ได้เกลียด"
วศินพูดอ้อแอ้ก่อนจะเอาหน้านาบลงกับโต๊ะพร้อมกับหลับตา เขารู้สึกเจ็บปวดจนรู้สึกปวดหัวใจไปหมด เจ็บจนอยากจะกินให้เมาแล้วหลับไป
"วศิน" เหมียวเขย่าแขนของเขาเบาๆ เธอตัดสินใจเรียกพนักงานของร้าน ช่วยพยุงเขาไปที่รถ พนักงานช่วยกันเอาวศินไปนั่งบนรถ
"นี่ค่ะ" เธอยื่นเงินให้พนักงานคนล่ะพัน
"ขอบคุณครับ" เหมียวขึ้นรถจากนั้นก็ขับรถไปส่งเขาที่คอนโดเธอพาเขาขึ้นมาบนห้องด้วยความทุลักทุเล กว่าจะพาขึ้นมาข้างบนได้ หญิงสาวก็แทบแย่
"เฮ้อ เกือบตายตัวหนักชะมัด" เหมียวพยายามลากร่างหนาขึ้นไปบ้านเตียง
อ้วก!แหวะ!
"อี๋!! ไอ้วศิน ไอ้บ้า!! หญิงสาวสบถออกมาทันที เมื่อวศินอาเจียนใส่เสื้อเธอเละเทะ ตัวเขาเองก็เลอะไปด้วยอ้วก
เธอกลอกตามองบนพร้อมกับลากเขาไปในห้องน้ำ จากนั้นก็ถอดเสื้อผ้าเหลือบ็อกเซอร์ตัวเดียว เธอเปิดฝักบัวรดเขาพร้อมกับอาบน้ำให้
"เปลว…" เขาพึมพำออกมาเบาๆ
"ไม่ใช่เปลว นี่อีเหมียว!"
"เหมียวเหรอ?" เขาลืมตาขึ้นมามองหน้าเธอ
"อืม"
"ขอโทษที่อ้วกใส่ พาศินไปใส่เสื้อผ้าเถอะ หนาวแล้ว"
"อืม" เธอจับเขาลุกขึ้นพร้อมกับดึงผ้าเช็ดตัวมาพันท่อนล่างให้เขา จากนั้นก็ถอดบ็อกเซอร์ออกให้
"ขอบคุณนะที่ทำให้ทุกอย่าง"
"ไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่เนาะ" เหมียวเอ่ยอย่างจุกในอก เธอหิ้วปีกเขามานั่งบนเตียงจากนั้นก็เช็ดตัวให้ เธอใส่เสื้อผ้าให้เขาทำทุกอย่างให้อย่างเบามือ เธอจับเขานอนลงบนเตียง
"เหมียวกลับแล้วนะ"
"ไม่อาบน้ำก่อนเหรอ เหม็นอ้วกตายเลย ไปอาบน้ำก่อนค่อยกลับ เสื้อผ้าศินก็มีใส่ไปก่อนก็ได้กลับไปทั้งสภาพแบบนี้เหม็นตายห่า" วศินเอ่ยเสียงเบา
"อืม"เธอพยักหน้าหยิบผ้าเช็ดตัว จากนั้นก็เข้าไปอาบน้ำ ถ้าเขาเป็นแบบนี้ตลอดไปคงจะดี เป็นแบบนี้ตลอดไปยิ่งดี
พออาบเสร็จก็พันผ้าเช็ดตัวออกมา เธอเปิดตู้หยิบกางเกงบ็อกเซอร์ของเขาพร้อมกับเสื้อยืดออกมาใส่
"กลับก่อนนะ"
"มาหาศินก่อนได้ไหม"
สรรพนามที่เขาแทนตัวเองก็เปลี่ยนไป หญิงสาวเองดีใจไม่น้อยที่เขาแทนตัวเองแบบนี้ เธอเดินไปหาเขาที่เตียงก่อนจะนั่งลงข้างๆ พร้อมกับจ้องใบหน้าคมคาย
"นอนกับศินได้ไหม?"