"ศินขอนะเปลว"
"..."
ตอนนี้สมองมันตีกันมั่วไปหมด เธอรู้ว่ามันผิด สมองมันสั่งว่าไม่ แต่หัวใจมันกลับต้องการ เธอต้องการทุกอย่าง ต้องการหัวใจ ต้องการความรัก และต้องการเขา
วศินจูบที่ริมฝีปากเหมียวอย่างแผ่วเบา ก่อนจะสอดลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เขากวาดต้อนความหอมหวานจากริมฝีปากนุ่มนิ่ม
จูบนี้มันหอมหวานยิ่งนัก เหมียวจูบตอบเขาอย่างเต็มใจ เขาตวัดลิ้นไปมา ลิ้นตวัดพันหยอกล้อ ก่อนเปลี่ยนเป็นจูบแบบหนักหน่วง เธอเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบ เขาผละจูบก่อนระดมหอมแก้ม จากนั้นก็จูบไซร้ลงมาที่คอ
"ตัวเปลวหอมจัง" เขาเอ่ยเสียงกระเส่าสูดดมความหอมจากคนร่างเล็กอย่างชื่นใจ นี่คือสิ่งที่เขาไม่กล้าฝัน แต่ตอนนี้ความฝัน ที่ไม่กล้าฝันมันกำลังเป็นจริง "เปลว!"
เหมียวหัวใจสะท้าน รู้สึกสะอึกทุกครั้งที่เขาเรียกเธอว่าเปลว การเป็นเงาคนอื่นมันเจ็บดีจัง เจ็บจนอยากจะร้องไห้
"..."
"ขอบคุณที่เปลวยอมอยู่กับศิน ศินรักเปลวนะ"
"..."
เขาปลดกระดุมเสื้อเธอออก จากนั้นก็ตามด้วยบราเซียร์ เหมียวทั้งที่รู้ว่าตัวเองต้องเจ็บถ้าหากว่าวศินรู้ความจริง จะต้องโกรธเกลียด
เธอรู้ว่ามันต้องเจ็บมาก แต่ทำไมหัวใจถึงยอม เขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกจากนั้นก็เอื้อมมือไปเปิดเพลงฟัง พอเปิดเสร็จเขาก็ก้มลงงับที่ยอดถัน พร้อมกับตวัดลิ้นรัว ๆ มือของเขาลูบไล้ไปตามตัว ก่อนจะไปหยุดที่เนินเนื้อ
"อ้ะ!"
วศินตวัดลิ้นเลียพร้อมดูดเสียงดัง อารมณ์มันลุกโชนอยากที่จะดับแล้ว เขาใช้นิ้วบี้ไปที่ติ่งเกสร จนน่างเล็กสะดุ้งเฮือก เสียวซ่านไปหมดทั้งกาย
"อ๊า"
เขาลากลิ้นเลียลงมาจนมาถึงเนินเนื้อสามเหลี่ยม ก่อนจะยกขาเธอออกกว้าง เสียงเพลงคลอดังเบาๆดังเบาๆ ยิ่งสร้างบรรยากาศ อารมณ์มันยากที่จะดับได้แล้ว
"อ้ะ!! อูยซี้ด"
หญิงสาวครางออกมาอย่างแผ่วเบา แม้จะพยายามห้ามปรามไม่ส่งเสียงแล้ว แต่มันก็ห้ามไม่ไหว ความเสียวมันจู่โจม เมื่อเขาตวัดลิ้นเลียไปที่รูสวาท พร้อมกับดูดดุนจนเกิดเสียงดัง
"อู้วซี๊ด!!
เขาเพิ่มแรงดูดพร้อมกับใช้ลิ้นแยง เธอร้อนวูบวาบไปหมดทั้งกาย ความสยิวจู่โจมเธอรุนแรงเสียดเสียวขึ้นสมอง ร่างเล็กสั่นเกร็งบิดกายไปมา ร่อนสะโพกด้วยความเสียว
เขาเพิ่มแรงดูดจากนั้นก็สอดลิ้นเข้าไปในรูสวาท เธอใช้มือกำผมเขาเอาไว้แน่น เพื่อบรรเทาความกระสัน ตอนนี้เธอใกล้จะถึงฝั่งฝันเต็มที
"อ้ะ!! ไม่ไหวแล้ว อร๊าย!" เหมียวกรีดร้องกระตุกเกร็งนอนหอบหายใจรัวๆ แรงๆ เขาลุกก่อนถอดบ็อกเซอร์ออก จากนั้นก็ใช้แก่นกายถูที่ร่องสวาทของเธอเบาๆ
ครืด!!ครืด!!
โทรศัพท์ของวศินมันสั่นรัวๆ เขาเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะมองเบอร์ในโทรศัพท์ ก่อนจะกดรับ
"ว่าไงพีช"
(มึงไม่มาเหรอ?)
"กูไม่ไป"
(คนสำคัญชวนนะมึง)
"ใครชวนก็ไม่ไป ตอนนี้กูอยู่กับเปลว"
(เปลวพ่อง! ตอนนี้เปลวอยู่ผับ เธอบอกให้กูโทรชวนมึง ถ้าติวหนังสือเสร็จก็รีบมานะ)
"ห้ะ!! เปลวชวน ถ้าเปลวอยู่กับมึง แล้วคนที่อยู่กับกูคือใคร" วศินถึงกับอุทานออกมาอย่างตกใจกับสิ่งที่ปลายสายเอื้อนเอ่ย เขารีบลุกออกจากตัวของคนที่อยู่ใต้ร่างพร้อมไปเปิดไฟ
เหมียวรีบคว้าผ้าห่มมาคลุมตัวเองเอาไว้ วศินเข้ามากระชากผ้าห่มออก จนตอนนี้เธอเปลือยเปล่าต่อหน้าเขา เธอก้มหน้าหลบสายตาของเขาทันที
"อีเหมียว!!
วศินตวาดหญิงสาวเสียงดังจนเธอสะดุ้ง มือเล็กรีบคว้าเสื้อผ้ามาใส่ด้วยมือสั่นเทา วศินมองหน้าเธอด้วยความโกรธ พร้อมกับกำมือแน่น
"มึงเข้ามาในห้องกูทำไม? มึงหลอกกูว่ามึงเป็นเปลวทำไม"
"เหมียวไม่ได้หลอก วศินพูดเองออเองทั้งนั้น"
"อีเหมียว!!
ชายหนุ่มตวาดเสียงดัง เขารีบใส่บ็อกเซอร์แล้วเดินไปกระชากแขนแรงๆ เขามองหน้าเธอด้วยแววตาโกรธจัด พร้อมกับกัดฟันกรอดๆ
เหมียวมองหน้าวศินด้วยแววตาสั่นระริกกับเธอเขาไม่เคยอ่อนโยน ไม่เคยแม้จะพูดดีๆด้วยสักครั้ง แต่ทำไมหัวใจเธอถึงรักแต่ผู้ชายใจร้ายคนนี้
"วศินรักแต่เปลว เปลวไม่เคยรักวศิน เหมียวต่างหากที่รักวศินไม่เปลี่ยนแปลง ทำไมวศินไม่มองมาที่เหมียวบ้าง?" เธอมองหน้าเขาน้ำตาคลอ ก่อนจะปล่อยน้ำตามันไหลอาบแก้ม
"มึงจำใส่สมองอันน้อยนิดของมึงเอาไว้เลย กูไม่เคยรักมึง ไม่เคยคิดจะรัก ออกไปจากห้องกู"
"ขอเเค่เศษเสี้ยวหัวใจของวศินได้ไหม? เหมียวอยากให้ศินมองเหมียวบ้าง ฮึก"
"ใจของกูมีไว้ให้เปลวคนเดียว คนแบบมึงก็แค่ของกินเล่น ต่อให้ประเคนให้กู กูก็ไม่เอา"
คำพูดของเขามันสะเทือนใจดวงน้อยๆ ของเธอเหลือเกิน ใจมันบีบรัดจนเจ็บไปหมด ต่อให้ทำยังไง เขาก็ไม่สนใจเธออยู่ดี เธอมันน่ารังเกียจน่าขยะแขยงขนาดนั้นเลยหรือ ทำไมเธอถึงไม่ได้รับความรักจากเขาบ้าง
"ออกไป!
"เข้าใจแล้ว ฮึก! เหมียวเข้าใจทุกอย่างแล้ว ฮื่อๆ"
เหมียวพูดออกมาด้วยความยากลำบาก แล้วพยายามกลืนก้อนตีบตันที่วิ่งมาจุกที่ลำคอ ก่อนจะก้าวขาออกมาจากห้องของเขา ดวงตามันถูกบดบังไปด้วยม่านน้ำตา ใจของเธอมันเจ็บเหลือเกิน
เธอรักเขาไปแล้ว รักมากไม่รู้จะหักห้ามใจยังไงไม่ให้รัก น้ำตาของเธอไหลรินราวกับเม็ดฝนโปรยปราย ใจดวงน้อยๆมันบีดรัดจนเเทบปริแตก รักเขาข้างเดียวมันเจ็บ แต่ใจเจ้ากรรมก็ไปรักเขาอยู่ดี