บทที่11 เกมสิบคำถามในวันฝนพรำ

2393 Words
"นายหัวนอนนิ่งๆ ได้มั้ยอย่าเอามือมาโดนหน้าอกได้มั้ยคะฉันนอนไม่หลับ" "หน้าที่ของเมียนะ หน้าอกนี่มันของผมนะ แก้มนี่ก็ของผม ปากแดงๆ นี่ก็ของผม" นายหัวภาคินไม่พูดเปล่าเขาพลิกตัวขึ้นคร่อมร่างของมธุรสแล้วหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของสาวน้อยอย่างถือสิทธิ์ก่อนที่จะจูบริมฝีปากบางอยู่เนิ่นนานจนมธุรสหลงเคลิ้มไปกับรสจูบหวานๆ แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะเกินเลยหลงใหลกันมากไปกว่านี้เสียงฟ้าร้องก็ดังสนั่นขึ้นจนมธุรสสะดุ้งสุดตัว "อุ๊ย..." มธุรสร้องอุทานและสะดุ้งด้วยความตกใจ นายหัวจึงถอนจูบแล้วพูดปลอบมธุรสว่า "ตกใจเสียงฟ้าร้องเหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกมามะเดี๋ยวผัวจะปลอบเอง" พูดจบนายหัวก็ทำท่าจะลงมือทำรักเพราะพลั้งพร้อมเต็มที่ในการที่จะเข้าหออีกครั้งในคืนนี้แต่มธุรสกลับรีบปฏิเสธ "นายหัวเดี๋ยวก่อนค่ะ ฉันยังเจ็บระบม เอ่อตรงนั้นอยู่เลย ฉันขอเวลาก่อนได้มั้ยคะ" มธุรสดันหน้าอกของนายหัวเอาไว้ พร้อมกับส่งแววตาอ้อนวอนให้นายหัวเมตตาสงสารตนเอง "เจ็บอยู่อีกเหรอ แล้วเมื่อไหร่จะหายล่ะ" นายหัวถามเมียเสียงกระเส่าด้วยพิษเสน่หาในตัวแม่กวางสาวตาหวานคนนี้ "ก็คงจะสองสามวันมั้งคะ นะคะนายหัวสงสารฉันเถอะฉันยังเจ็บอยู่จริงๆ" มธุรสอ้อนแล้วจับมือหนาของนายหัวไว้อย่างต้องการขอความเห็นใจ "ให้ผมสงสารคุณก็ได้นะแต่มันก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อย" นายหัวพูดแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์เบาๆ "ข้อแลกเปลี่ยนอะไรอีกละคะ" มธุรสเลิกคิ้วถามนายหัว นายหัวจึงยิ้มน้อยๆ แล้วค่อย ๆ ขยับตัวลงไปนอนข้างๆ มธุรสแล้วตระกองกอดมธุรสเอาไว้หลวมๆ พร้อมกับบอกข้อแลกเปลี่ยนของตัวเองออกไป "เราสองคนเป็นผัวเมียกันแล้วนะ คุณควรเรียกผัวของคุณว่าพี่อคินแล้วแทนชื่อตัวเองว่าน้ำผึ้งหรือจะแทนตัวเองว่านุ้ยเหมือนสาวใต้ที่ชอบแทนตัวเองว่านุ้ยผมก็ไม่ติดนะ" "เป็นผัวเมียกันแบบมีเงื่อนไข ฉันก็เป็นแค่เมียเก็บเองทำไมต้องเยอะแยะด้วย แล้วนุ้ยที่สาวใต้ชอบแทนตัวเองกันแปลว่าอะไร นุ้ยที่แปลว่าน้อยหรือเปล่าคะ" "ถึงจะเป็นเมียแบบไหนก็เมียเหมือนกันนั่นแหละ นุ้ยแปลว่าน้อง ฟังแล้วดูน่ารักจะตายไป" "อ๋อ นุ้ยแปลว่าน้อง งั้นฉันไม่แทนตัวเองแบบนั้นดีกว่าค่ะ นุ้ยแปลว่าน้องฉันจะเป็นน้องนายหัวได้ยังไงกันอายุห่างกันทั้งสิบแปดปีแหนะ ฉันน่ะเป็นหลานเป็นลูกนายหัวได้แล้วนะคะ" มธุรสได้ทีพูดเหน็บว่านายหัวแก่ "เออ ผมแก่กว่าสิบแปดปี แก่กว่าแล้วไงแก่กว่าก็เป็นผัวคุณได้แล้วกัน ผมรับรองความอึดถึกไม่แพ้หนุ่มๆ เลยนะ ลองมั้ยล่ะ" นายหัวพูดเสร็จก็ทำท่าจะขึ้นคร่อมร่างบางอีกครั้ง "เอ๊ยๆ ไม่เอาค่ะ เรียกพี่อคินก็ได้ค่ะ ยอมๆ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ" มธุรสรีบใช้มือเรียวดันหน้าอกของนายหัวเอาไว้ "เรียกพี่อคินแล้วจะแทนตัวเองว่าอะไรดีล่ะ น้ำผึ้งหรือนุ้ยดี พี่ชอบให้แทนตัวเองว่านุ้ยเหมือนกันนะเอาจริง" นายหัวได้ทีรีบแทนตัวเองว่าพี่ "เรียกแทนตัวเองว่าผึ้งดีกว่าค่ะ แทนตัวเองว่านุ้ยผึ้งไม่ชิน" "งั้นก็ได้ พี่ก็จะเรียกเมียว่าน้องผึ้งก็แล้วกันนะ" "ค่ะ" มธุรสรับคำสั้นๆ "ค่ะ อะไร ไหนลองพูดลองเรียกให้ฟังหน่อย" "ผึ้งคิดว่าเราควรนอนได้แล้วนะพี่อคิน" มธุรสพูดขึ้นเรียกรอยยิ้มบางๆ ในกรอบหน้าหนวดของนายหัวในทันที "ฝนตกหนักขนาดนี้ อากาศก็เย็น บรรยากาศมันทำพี่ตื่นไปหมดเลย พี่นอนไม่หลับหรอก ถามจริงผึ้งง่วงนอนจริงๆ เหรอ" "อือ ก็หลับตาสิคะเดี๋ยวก็หลับไปเองแหละ" "ไม่หลับหรอกตื่นมาก ไม่เชื่อใช่มั้ยลองจับดูตื่นมากจริงๆ" นายหัวภาคินดึงมือบางของมธุรสมาจับตรงแกนกลางที่ตื่นตั้งโด่ของตัวเอง "เอ๊ย ไหนบอกว่าถ้ายอมเรียกพี่จะไม่ทำอะไรผึ้งแล้วไงคะ" มธุรสดึงมือกลับแล้วถามนายหัวออกไปด้วยความตกใจ "ก็ไม่ได้บอกว่าจะทำอะไร แค่บอกให้ทราบว่าผัวตื่น" "แล้ว แล้วต้องทำยังไงเล่าถึงจะได้ง่วงน่ะ" มธุรสถามแบบว่าอยากจะผ่านพ้นสถานการณ์ชวนอึดอัดนี่ไปเต็มที "ถ้าอยากให้เพลียจนง่วงมันก็ต้องออกกำลังกายนะพี่ว่าหรือผึ้งว่ายังไง" "บ้า ออกกำลังกายบ้าอะไรของพี่เล่าฝนตกหนักขนาดนี้" "อ้าวก็ออกในร่ม ออกมันในมุ้งนี่แหละ กิจกรรมเข้าจังหวะไง" "เอาอีกแล้วนะ" "เอาอะไร ยังไม่ทันได้เอาแต่อยากเอามากเลยนะ" นายหัวภาคินพูดเสียงอ้อนๆ มือไม้เริ่มไต่ไปตามเอวบางไล่ไปตามอกอวบอิ่มของเมีย "พี่อคิน" มธุรสพูดเรียกสติ ทั้งสติของนายหัวและสติของตัวเองด้วย "ครับ เรียกพี่ทำไมเสียงดังเชียว" "ผึ้งก็นอนไม่หลับแล้วเหมือนกัน แต่ยังเจ็บระบมตรงนั้นอยู่ คงเอ่อ เอ่อออกกำลังกายอย่างพี่ว่าไม่ได้จริงๆ นะ งั้นเอาอย่างนี้มั้ยค่ะเรามาเล่นเกมสิบคำถามกันดีมั้ยคะ" มธุรสพยายามเสนอความคิดหาทางออกและหาทางเอาตัวรอดให้กับตัวเอง "เกมสิบคำถามมันเป็นยังไงพี่ไม่เคยเล่นและไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย" "ไม่เคยเล่นเลยใช่มั้ยคะ งั้นก็ดีเลยค่ะเดี๋ยวผึ้งสอนพี่อคินเอง เริ่มเล่นกันเลยดีมั้ยคะ" มธุรสถามขึ้นน้ำเสียงกระตือรือร้นเป็นอย่างมาก "เดี๋ยวก่อนแล้วเกมนี้มันเล่นยังไง" นายหัวภาคินถามยิ้มๆ ถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเกมนี้มันเล่นยังไงเล่นเพื่ออะไรมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เขายังแอบชื่นชมในความฉลาดในการเอาตัวรอดแบบใสๆ ตามวัยของเมียเขาเลยแต่ก็ยังอยากแกล้งถาม "อ๋อเกมนี้ เป็นเกมที่ผลัดกันถามเรื่องของอีกฝ่ายที่เราอยากรู้ โดยเราจะสลับกันถามสลับกันตอบไปเรื่อยๆ จนครบสิบคำถามค่ะ ถามเรื่องอะไรก็ได้นะคะอีกฝ่ายต้องตอบห้ามปฏิเสธไม่ตอบนะคะ คำถามกับคำตอบมันจะช่วยให้เรารู้จักกันมากขึ้นซึ่งผึ้งคิดว่าเกมนี้มันเหมาะกับเราสองคนที่ต้องมาใช้ชีวิตกันภายใต้เงื่อนไขอย่างน้อยก็สี่ปีนะคะ" มธุรสอธิบาย "อือ ตกลงเล่นก็ได้ เกมสิบคำถามในคืนฝนพรำมันก็เป็นกิจกรรมที่ไม่เลวเลยนะ เริ่มกันเลยนะให้ผึ้งถามก่อนแล้วกัน" "พี่อคินชอบกินอะไรมากที่สุดคะ" "ถ้าตอนนี้เหรอก็คงชอบกินน้ำผึ้งมั้ง" นายหัวแกล้งตอบแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ "พี่อคินตอบเจ้าเล่ห์ ตอบจริงๆ สิคะ แบบว่าอาหารที่ชอบกินอะไรแบบนี้ค่ะ" มธุรสต่อว่าและพยายามอธิบาย "อ๋อหมายถึงอาหารใช่มั้ย พี่ชอบกินแกงไตปลากับไข่ต้มแล้วน้ำผึ้งละชอบกินอะไร อนุญาตให้ตอบว่าชอบกินพี่ได้นะพี่ไม่ว่า" "บ้าบอค่ะ ผึ้งชอบกินน้ำพริกปลาทู มีผักจิ้มเยอะๆ ค่ะ ตอบแล้วผึ้งถามคำถามที่สองเลยนะคะ พี่อคินมีพี่น้องกี่คนเหรอคะ" "มีพี่น้องสามคน พี่เป็นพี่ชายคนโตของบ้านมีน้องสาวสองคนแต่งงานหมดแล้วมีหลานสาวหนึ่งคนชื่อเจ้าเอย คำถามที่สองของพี่บ้างน้ำผึ้งเคยมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า" "ไม่มีค่ะ" "คนมาจีบก็ไม่มีเลยเหรอถามจริง" "มีสิคะ เยอะแยะออกจะสวยขนาดนี้" มธุรสตอบแล้วแกล้งพูดยกยอความสวยของตัวเองยิ้มๆ "เออก็จริงเนอะ แล้วทำไมมีคนมาจีบแล้วไม่รับเขาเป็นแฟนละ รอพี่เหรอ" "บ้าไม่ใช่เสียหน่อย แค่ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองยังเด็กอยู่และคุณพ่อของผึ้งก็ไม่ค่อยสบายป่วยอยู่หลายปี ผึ้งไม่มีเวลาคิดเรื่องไร้สาระหรอกค่ะ นี่พี่อคินขี้โกงนะถามคำถามยืดเยื้อค่ะ ผึ้งถามคำถามที่สามบ้างคำถามเดียวกัน พี่อคินมีแฟนมาแล้วกี่คน" "เก้าคน" "โอ๊ยเยอะจัง แล้วคนล่าสุดเลิกกันแล้วยัง" "ยัง คนที่เก้ากำลังนอนกอดอยู่" "ผึ้งยังไม่ตกลงเป็นแฟนพี่เสียหน่อยนะคะ" มธุรสเถียงนายหัวภาคิน "เออไม่ใช่แฟนก็ได้ เป็นเมียแล้วนี่น่า คำถามที่สามของพี่นะ มีผัวแล้วทำไมอยากไปเรียนต่อนักรู้หรือเปล่าผัวของผึ้งน่ะรวยมาก เลี้ยงเมียให้อยู่สบายแบบไม่ต้องทำงานไปทั้งชาติได้เลยนะ" "เพราะผึ้งอยากมีความรู้ติดตัวเอาไว้ ความรู้จะอยู่ในตัวเราจนตายไปกับเราค่ะ ความรู้สามารถใช้หาเลี้ยงตัวเองได้แต่มีผัวรวยถ้าผัวยังเลี้ยงก็ดีค่ะแต่ถ้าวันหนึ่งผัวตายหรือผัวไม่เลี้ยงเราก็จะตายได้ ยิ่งเป็นเมียเก็บแบบผึ้งด้วยแล้วยิ่งต้องมีความรู้ติดตัวค่ะ คำถามที่สี่ของผึ้ง พี่อคินสนิทกับพ่อหรือแม่มากกว่ากันคะ" "แม่ครับ แล้วผึ้งละ" "สนิทกับพ่อค่ะ คำถามที่ห้าเลยนะ ทำไมพี่อคินถึงเลิกกับแฟนคนล่าสุดคนที่แปดละคะ" "แฟนพี่ท้อง แต่ท้องกับคนอื่นนะไม่ใช่พี่" "เสียใจด้วยนะคะพี่คงเสียใจมาก" "ก็มีเสียใจนิดหน่อยแต่เสียหน้ามากกว่า คำถามข้อที่ห้าของพี่ต่อบ้างทำไมผึ้งถึงเลือกเรียนบัญชี" "เพราะผึ้งชอบเรื่องเงินค่ะ คงได้อิทธิพลด้านการจัดการเรื่องการเงินมาจากพ่อ คือพ่อของผึ้งจบด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินการบัญชี ทำงานเป็นผู้จัดการสาขาธนาคารค่ะ พ่อสอนผึ้งขายของหาเงิน คิดกำไรต้นทุนทำบัญชีรายรับรายจ่ายแต่เด็กผึ้งเลยตัดสินใจเรียนบัญชีค่ะ คิดคำถามไม่ออกแล้วค่ะ พี่อคินถามก่อนคำถามที่หก" "ก็ได้ ผึ้งชอบพี่มั้ย" นายหัวภาคินถามแบบคนใจร้อนมธุรสถึงกับอึ้งไปแต่ก็ตอบแบบกลางๆ แบบคนฉลาดมีไหวพริบตอบนายหัวไปว่า "ก็ไม่ได้เกลียดค่ะ" "ตอบไม่ตรงคำถามไม่เอาตอบใหม่ ชอบหรือไม่ชอบ" "ตรงแล้วค่ะ เพิ่งรู้จักกันได้ไม่กี่วันมันไวไปที่จะบอกว่าชอบหรือไม่ชอบนะคะ ผึ้งถามคำถามที่หกบ้างน้องหมากับน้องแมวพี่อคินชอบอะไรมากกว่ากันคะ" "ชอบน้องหมาเพราะมันซื่อสัตย์แล้วผึ้งละคำถามข้อที่เจ็ดของพี่" "ชอบน้องหมาเหมือนกันค่ะ ชอบที่มันซื่อสัตย์เหมือนกันด้วย คำถามข้อที่เจ็ดของผึ้งเลยนะ พี่อคินชอบแฟนคนไหนมากที่สุดในบรรดาแปดคนที่ผ่านมาของพี่อคินและเพราะอะไรถึงได้ชอบเขาที่สุดคะ" "ชอบคนที่เก้าคนนี้เพราะคือคนปัจจุบัน" "เจ้าเล่ห์ตอบไม่ตรงคำถาม เขาบอกว่าให้เลือกคนที่หนึ่งถึงแปด" "หนึ่งถึงแปดลืมหมดแล้วจำไม่ได้ไม่อยากจำ ถามคำถามที่สิบเลยข้ามแปดกับเก้าไปเพราะพี่ง่วงนอนแล้ว เราจะมีลูกกันกี่คนดี ผึ้งชอบเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากัน" "ตอบคำถามที่แปดของพี่ ผึ้งไม่คิดจะมีลูกหรอกค่ะ แต่ถ้าให้เลือกระหว่างเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชอบผึ้งคงชอบเด็กผู้ชายมากกว่าเพราะคิดว่าคงเลี้ยงง่ายกว่าเด็กผู้หญิง ผึ้งถามข้อที่แปดคำถามเดียวกันพี่ชอบเด็กผู้ชายหรือผู้หญิงมากกว่ากัน" "ชอบทั้งสองเพราะจะมีลูกสองคนผู้ชายคนหนึ่งผู้หญิงคนหนึ่ง ทำกันเลยดีมั้ย" นายหัวภาคินตอบแล้วแกล้งถามมธุรสอีก "ไม่เอาค่ะ ไม่ทำ ง่วงนอนแล้วแต่อยากเล่นให้ครบสิบคำถาม ถามอีกหน่อยได้มั้ยคะ" "ได้ ถามมาสิ" "คำถามข้อที่เก้า พี่อคินชอบทะเลหรือภูเขามากกว่ากันคะ" "ชอบภูเขา ทะเลมันร้อนเหนียวตัวด้วย ถามคำถามที่เก้าเหมือนกัน ผึ้งชอบทะเลหรือภูเขามากกว่ากัน" "ภูเขาค่ะ เพราะมันดูหนักแน่นอบอุ่นไม่อ้างว้างเหมือนทะเลค่ะ" "ถ้าชอบภูเขาก็อยู่เสียด้วยกันที่นี่สิ เพราะที่นี่ก็เป็นภูเขาที่โอบล้อมสวนยางเอาไว้รับรองความหนักแน่นเลย" "ไม่ได้หรอกค่ะ ผึ้งอายุยังน้อยต้องเรียนหนังสือให้จบก่อนและต้องพยายามพึ่งพาตัวเองให้ได้" "คำถามข้อที่สิบเลย ผึ้งง่วงนอนแล้วยัง ถ้ายังไม่ง่วงมีอะไรให้ช่วยหน่อย" "ยังคะให้ช่วยอะไรคะ" นายหัวภาคินยิ้มกริ่มแล้วก้มลงกระซิบที่ข้างหูมธุรสเบาๆ พร้อมกับเอามือเรียวสวยของมธุรสมาจับตรงเป้ากางเกงของตัวเอง "เออ ผึ้งนึกขึ้นได้ค่ะว่าควรถามคำถามที่สิบสุดท้ายว่าพรุ่งนี้เช้าพี่อคินอยากกินข้าวต้มปลาหรือว่า American Breakfast ดีคะ" มธุรสรีบดึงมือกลับแล้วถามคำถามที่สิบปิดท้ายเพื่อหาทางหลบเลี่ยงนายหัวภาคิน "ข้าวต้มปลาดีกว่า" "โอเคค่ะ ข้าวต้มปลานะคะ งั้นรีบนอนดีกว่าพรุ่งนี้เช้าผึ้งจะได้รีบตื่นมาทำข้าวต้มปลาให้พี่อคิน" พูดบอกนายหัวเสร็จมธุรสก็แกล้งหลับตาลงในทันที อากัปกิริยาของสาวเจ้าเรียกเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจจากนายหัวภาคินเสียงดังลั่น "ยายเด็กเจ้าเล่ห์เอ๊ย" นายหัวภาคินพูดอย่างนึกชอบใจก่อนที่จะก้มลงไปหอมแก้มเนียนแล้วขยับตัวลงมานอนกอดมธุรสแล้วหลับไปในที่สุด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD