bc

ดรุณียั่วรัก

book_age18+
393
FOLLOW
1.2K
READ
HE
forced
blue collar
sweet
city
friends with benefits
like
intro-logo
Blurb

เมื่อลูกสาวแสนสวยต้องมาอยู่บ้านเดียวกับพ่อเลี้ยงหนุ่มรุ่นอา น้ำตาลใกล้มดมันช่างน่ากลัว และก่อนที่แม่กับลูกสาวจะมีสามีคนเดียวกันมารตีจึงชิงลงมือหาสามีให้ลูกสาวเสียก่อน ตั้งแต่ค่ำคืนนั้นชีวิตของดรุณีแรกแย้มจึงต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

ตัวอย่างจากบางตอน

"ฉันอยากไปเรียนต่อ"

"เรียนต่อ แล้วจะไปเรียนยังไงเธอมีผัวแล้วนะ"

"สมัยนี้เขามีผัวในวัยเรียนกันเยอะแยะไปค่ะ ที่เป็นเมียเก็บเมียน้อยเสี่ยก็มีให้เห็นถมเถไปไม่ใช่หรือคะ"

"นี้เธอกำลังจะบอกว่าเธอจะเป็นเมียเก็บของฉันแลกกับการที่จะให้ฉันส่งเธอเรียนต่ออย่างนั้นหรือมธุรส" นายหัวภาคินถามมธุรสน้ำเสียงฟังดูหงุดหงิดในท่าทีของสาวน้อยที่แสดงออกเหมือนไม่แคร์ไม่สนใจต่อความสาวหรือเรื่องที่ต้องนอนกับเขาแลกกับเงื่อนไขให้ได้มีเงินไปเรียนต่อ

"ค่ะ ใช่" มธุรสรับคำเสียงหนักแน่น"

"ดี ถ้าเธอเลือกแบบนั้น เธอก็ทำหน้าที่เมียเก็บให้ผมพอใจ ทำได้หรือเปล่า ไม่ใช่ได้แค่ทีสองทีแล้วจะเบื่อเอา มัวแต่นอนนิ่งเป็นขอนไม้ผุผู้ชายก็เสียอารมณ์ไม่ไหวมั้ยวะ" นายหัวภาคินพูดน้ำเสียงเยาะเย้ยมธุรส

"ค่ะ ได้ค่ะ ฉันจะทำเต็มความสามารถ นายหัวก็อย่าเผลอมาติดใจฉันจนตัดใจทิ้งฉันไม่ลงตอนเราหมดสัญญาซื้อขายกันก็แล้วกันค่ะ" มธุรสตอบรับคำอย่างเด็ดเดี่ยว ดวงตาหวานซึ้งคู่นั้นมีความแน่วแน่ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเบื้องหน้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมธุรสได้เลือกแล้ว

"น้ำผึ้ง อย่ามาทำท่าทีอวดดีใส่ผมแบบนี้นะ อย่ามาพยายามทำตัวกร้านโลกใส่ผมอีก" นายหัวภาคินโมโหจนเผลอบีบแขนเรียวของมธุรสอย่างแรงจนมธุรสต้องร้องโอ๊ยออกมาด้วยความเจ็บ

chap-preview
Free preview
บทที่1 ปฐมบท
"พ่อ พ่อขา พ่ออย่าจากน้ำผึ้งไปนะ พ่อตื่นขึ้นมาสิ" มธุรสร้องไห้และคร่ำครวญกับร่างอันไร้วิญญาณของพ่ออันเป็นที่รักของตนเอง นายเลอสรรค์ แก้วขจรพ่อของมธุรสจากไปด้วยโรคมะเร็งกระดูก นายเล่อสรรค์ทำงานเป็นผู้จัดการธนาคาร ตอนที่ยังมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเล่อสรรค์เป็นคนเก่งและฉลาดมาก สอนลูกเก่ง หาเงินเก่ง เขาเป็นเสาหลักให้กับครอบครัวดูแลลูกสาวเพียงคนเดียวกับภรรยาอย่างดีที่สุด จนเมื่อประมาณสามปีที่แล้วเลอสรรค์เริ่มล้มป่วยและพบว่าตนเองนั้นเป็นมะเร็งกระดูก อาการหนักมากขึ้นต้องรักษาตัวและใช้เงินเก็บไปกับการรักษาค่อนข้างเยอะ แทบจะไม่เหลือไว้ให้มธุรสเรียนหนังสือ "ปล่อยพ่อเขาไปเถอะน้ำผึ้ง พ่อเราเขาต้องทุกข์ทรมานเพราะโรคร้ายมานานแล้วนะลูก" นางมารตีปลอบลูกสาวและน้ำตาไหลด้วยความสะเทือนใจ "แม่ขา เราไม่มีพ่อแล้ว แล้วเราสองคนจะอยู่ต่อไปกันได้ยังไง" เด็กสาวสะอื้นไห้แล้วกอดแม่ของตัวเองเอาไว้แน่นอย่างต้องการหาที่พึ่ง "เราต้องอยู่กันให้ได้นะลูกน้ำผึ้ง เราสองคนต้องเข้มแข็ง อย่าทำให้พ่อเขาต้องเป็นกังวล แม่จะดูแลน้ำผึ้งเอง" นางมารตีพูดปลอบโยนลูกสาวทั้งๆ ที่ภายในใจก็เจ็บร้าวรู้สึกมืดมนไร้หนทางเช่นกัน ตั้งแต่เรียนจบแต่งงานมาก็ได้สามีส่งเสียเลี้ยงดู การศึกษามารตีก็จบแค่ชั้นปวช. ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทำงานหาเงินเองยังไง หลังจากจัดการเรื่องงานศพของพ่อเรียบร้อยแล้ว มธุรสและแม่ก็ต้องเริ่มตั้งสติ ตั้งหลักชีวิตหางานทำ ตอนนี้มธุรสใกล้จะเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้วเหลืออีกแค่เทอมสุดท้าย "แม่คะ ผึ้งคิดว่าเราน่าจะเบิกเงินที่พ่อเก็บทิ้งไว้ให้ผึ้งออกมาลงทุนขายของดีมั้ยคะแม่" มธุรสออกความเห็น "แล้วผึ้งคิดว่าผึ้งจะขายอะไรดีละลูก" "ผึ้งคิดว่าแม่ทำอาหารอร่อย ขนม เบเกอรีต่างๆ แม่ทำแล้วเดี๋ยวผึ้งขายออนไลน์ช่วยแม่ หน้าบ้านเราก็มีพื้นที่พอจะวางขายของให้กับคนในหมู่บ้านได้ แม่คิดว่ายังไงบ้างคะ" มธุรสออกความเห็นและปรึกษาแม่ของตนเอง "แม่ทำได้นะ แต่แม่เคยทำแต่ให้พ่อกับผึ้งทาน ถ้าต้องทำขายแม่เองก็ไม่มั่นใจว่าจะต้องคิดต้นทุนและขายราคาเท่าไหร่" "ผึ้งช่วยแม่คิดต้นทุนได้นะคะ เราก็เอาต้นทุนวางลองทำดูว่าทำได้กี่ชิ้น แล้วเราก็บวกกำไรไปห้าสิบเปอร์เซ็นต์ สำคัญคือแม่ต้องทำออกมาดูก่อนว่าต่อชิ้นต้นทุนมันตกอยู่กี่บาทแล้วเราค่อยบวกกำไรต่อชิ้นเข้าไป" "ตกลงลูก ลองทำดูก็ได้นะ" นางมารตีรับคำลูกสาว หลังจากนั้นสองคนแม่ลูกก็ได้ช่วยกันทำขนมขาย ในแต่ละวันก็ขายหมดบ้างเหลือบ้าง แต่พอคำนวณต้นทุนหักลบค่าใช้จ่ายแล้วมันก็ยังได้กำไรน้อยไม่พอค่าใช้จ่ายภายในบ้านเลย ซ้ำร้ายบางวันก็ขายไม่หมดอีกทุนหายกำไรหด ทำไปได้แค่สองเดือนจึงเป็นอันต้องล้มเลิกกิจการขายขนมไป "แม่ว่าเราขายขนมต่อไปไม่ไหวแล้วนะผึ้ง แม่คิดว่าแม่จะไปสมัครทำงานที่ร้านอาหารของเพื่อนแม่ตอนสมัยที่เรียนอยู่พาณิชย์ด้วยกันดู" นางมารตีบอกลูกสาว "ค่ะแม่ งั้นผึ้งจะไปสมัครงานพาสทามร้านคาเฟ่ ทำหลังจากเลิกเรียนและวันเสาร์อาทิตย์ดู" มธุรสบอกแม่ หลังจากนั้นสองคนแม่ลูกก็ได้ช่วยกันทำงาน จนสามเดือนผ่านไปแม่ของมธุรสได้บอกกับมธุรสว่าตนเองนั้นได้ตัดสินใจจะแต่งงานใหม่กับนายหัวชาวสวนปาล์มที่ได้รู้จักกันผ่านแฟนของเพื่อน "น้ำผึ้งแม่มีเรื่องจะบอกให้หนูทราบ" "เรื่องอะไรคะแม่" "แม่จะแต่งงานใหม่นะผึ้ง ถ้าแม่แต่งงานกับเขา เขาจะสามารถดูแลปกป้องแม่กับผึ้งได้" นางมารตี บอกลูกสาว "อะไรนะคะแม่ แม่คะแต่มันจะไม่ไวไปหน่อยหรือคะ พ่อเพิ่งจะเสียไปได้ไม่นาน แล้วเขาที่แม่ว่านั้นเป็นใครมาจากไหน แม่จะเชื่อได้ยังไงว่าผู้ชายคนนั้นเขาจะเข้ามาดูแลแม่ได้ แม่เอาอะไรมามั่นใจหรือคะ" มธุรสถามและพยายามให้สติให้แม่คิดทบทวนให้ดีๆ ก่อนที่จะตัดสินใจ "แม่ตัดสินใจดีแล้วผึ้ง แม่กับนายหัวไกรสีห์เรารู้จักกันมานานแล้วแต่เพิ่งจะมาคุยกันจริงจัง เขาเป็นเพื่อนสนิทกับสามีของน้าวิภาเพื่อนของแม่ นายหัวอายุน้อยกว่าแม่สองปีตอนนี้เขาสามสิบแปดปีแล้ว เขาเป็นคนที่ฐานะมั่นคงเขาจะสามารถดูแลเราสองคนแม่ลูกได้นะผึ้ง" นางมารตีพูดยืนยันกับลูกสาว "แล้วเขามีลูกมีเมียอยู่แล้วหรือเปล่าคะแม่" มธุรสถามขึ้นด้วยความกลัวปัญหาที่จะตามมา "เคยมีเมียมาแล้วแต่ไม่ได้แต่งงาน ไม่มีลูก" "แม่แน่ใจดีแล้วเหรอคะ คนเคยมีเมียมาแล้วเขาเลิกกับเมียเขาได้แล้วกับแม่เล่าคะเขาจะดูแลได้ตลอดไปจริงเหรอ" "ทุกคนล้วนแล้วแต่เคยมีอดีตมาด้วยกันทั้งนั้นแหละยายผึ้ง แม่เองก็มีอดีต แต่พ่อของผึ้งเขาตายไปแล้วแม่ยังมีชีวิตอยู่และชีวิตแม่ยังจะต้องดำเนินต่อไปนะลูก ผึ้งเข้าใจแม่หรือเปล่า" "ผึ้งเข้าใจแม่ แต่ที่ผึ้งพูดเพราะผึ้งเป็นห่วงแม่" "ผึ้งไม่ต้องห่วงแม่หรอก แม่ไม่มีอะไรจะเสีย แม่ต้องสู้และลองดูสักครั้ง ผึ้งเองก็จะสอบเทอมสุดท้ายแล้วเหลืออีกแค่เดือนเดียว ผึ้งเตรียมตัวเอาไว้นะแม่จะพาผึ้งไปอยู่ด้วย แล้วแม่จะขายบ้านหลังนี้ทิ้ง" "แม่ไม่ขายบ้านได้มั้ย ผึ้งอยากเก็บบ้านของพ่อเอาไว้ ผึ้งขอร้องนะคะ อีกอย่างผึ้งอยากเรียนต่อผึ้งไม่อยากไปกับแม่" "แล้วผึ้งจะอยู่คนเดียวได้ยังไง ไปอยู่กับแม่ไปขอทำงานกับนายหัวเขา ผึ้งก็ไปเรียนทางใต้แม่ทิ้งผึ้งไว้คนเดียวไม่ได้หรอกนะ เรื่องบ้านที่จะขายมันก็ไม่ได้จะขายกันง่ายๆ ถ้าผึ้งจะเก็บไว้แม่ก็ไม่ว่าหรอกแต่ยังไงก็ตามแต่ผึ้งต้องไปกับแม่" "แม่จะเดินทางไปเมื่อไหร่ ผึ้งยังไม่ทันได้สอบปลายภาคเลยต้องรอผลการเรียนออกก่อน" "แม่ก็จะรอให้เรื่องการเรียนของผึ้งเรียบร้อยก่อนที่จะเดินทางนั่นแหละ" "แม่คิดดีแล้วจริงๆ เหรอคะ แม่ต้องการจะให้ผึ้งไปอยู่กับครอบครัวใหม่ไปอยู่ในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ของแม่จริงๆ หรือคะ" "ผึ้ง ลูกฟังแม่นะ ที่แม่ทำทุกอย่างที่แม่ต้องตัดสินใจแต่งงานใหม่กับนายหัวก็เพราะแม่ต้องการทำเพื่อเราสองคน แม่ต้องการทำให้เราสองคนอยู่สุขสบายขึ้น ผึ้งเข้าใจแม่มั้ย" "ผึ้งไม่เคยคิดว่าบนโลกนี้นอกจากพ่อแล้วใครจะรักหรือมาทำอะไรให้ได้เราฟรีๆ ได้นะคะแม่ นายหัวคนนั้นเขาจะหลอกแม่หรือเปล่า" "เราก็ต้องลองเสี่ยงดู แม่ตัดสินใจแล้ว ผึ้งเตรียมตัวเอาไว้แล้วกันยังไงผึ้งก็ต้องเดินทางไปกับแม่" นางมารตีพูดสรุปบอกลูกสาว วันสอบปลายภาควันสุดท้าย "น้ำผึ้งตกลงแกจะรายงานตัวคณะบัญชีที่สอบได้ไว้ก่อนมั้ย" ดารินทร์เพื่อนสนิทของมธุรสถามขึ้น "ฉันยังไม่รู้เลยดา อาทิตย์หน้าฉันก็ต้องเดินทางตามแม่ไปสุราษฎร์ธานีแล้ว แม่อยากให้ฉันไปเรียนต่อมหาลัยทางภาคใต้ ถ้าอยากได้มหาวิทยาลัยดีๆ เข้าเรียนฉันก็ต้องหยุดเรียนแล้วสอบใหม่ปีหน้า" มธุรสบอกเพื่อนรู้สึกสับสนกังวลใจในชีวิตและหนทางข้างหน้าไปหมด "ฉันคิดว่าแกควรรายงานตัวไว้ก่อน กว่าจะลงทะเบียนเปิดภาคเรียนก็อีกหลายเดือนนะ ถึงตอนนั้นแม่กับพ่อเลี้ยงของแกเขาอาจจะอยากให้แกขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพเหมือนเดิมก็ได้นะ" "เงินค่ารายงานตัวฉันพอมีนะเว้ยยายดา แต่เงินค่าลงทะเบียนเรียนฉันยังหาได้ไม่ครบ ฉันคงต้องทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยแต่ฉันยังหางานทำไม่ได้เลย" "เอาน่า ทำและแก้ปัญหากันไปทีละเรื่องนะ" ดารินทร์ปลอบเพื่อน หลังจากสอบเสร็จดารินทร์กับมธุรสก็ได้ไปรายตัวเพื่อเข้าเรียนในคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง หลังจากรายงานตัวเข้าเรียนต่อแล้วมธุรสก็ได้ตามแม่ย้ายไปอยู่กับครอบครัวของสามีใหม่ของแม่ "นี่น้ำผึ้งลูกสาวของมารตีค่ะนายหัว น้ำผึ้งไหว้นายหัวไกรสีห์เสียสิลูก" นางมารตีแนะนำลูกสาวให้สามีใหม่ได้รู้จักกัน มธุรสจึงยกมือไหว้พ่อเลี้ยง "สวัสดีค่ะนายหัว" "สวัสดีครับ หนูน้ำผึ้งโตเป็นสาวแล้วสวยเหมือนคุณแม่เลย แล้วนี่เรียนอยู่มัธยมอะไรแล้วนะ" "เรียนจบแล้วค่ะนายหัวนี่กำลังจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว มารตีอยากให้ลูกมาเรียนต่อมหาวิทยาลัยทางภาคใต้ แต่น้ำผึ้งน่ะเขาเรียนเก่งสอบตรงติดที่มหาวิทยาลัยดังในกรุงเทพแล้ว นี่ก็ยังคิดๆ ลังเลอยู่ว่าจะสละสิทธิ์มาเรียนต่อทางนี้ดีมั้ย" มารตีตอบแทนลูกสาวของตัวเอง "อ๋อ แล้วหนูน้ำผึ้งเขาอยากเรียนที่ไหนละ เราก็ต้องตามใจลูกนะคุณ ว่าไงหนูน้ำผึ้ง" นายหัวไกรสีห์ถามมธุรส "อยากเรียนที่กรุงเทพค่ะ แต่ผึ้งคงต้องหางานทำก่อนอยากเก็บเงินก่อนค่ะนายหัว" "ดีนะ ถ้าอยากทำงานผมมีงานให้ลูกสาวคุณทำนะ ร้านอาหารของฟาร์มสเตย์ผมกำลังต้องการพนักงานช่วยดูบัญชีและงานต้อนรับลูกค้าด้วย" "จริงหรือคะ ผึ้งขอบคุณนายหัวมากนะคะ" มธุรสยกมือไหว้ขอบคุณ "ครับ เรื่องงานเรื่องเรียนยังไม่ต้องคิดมากนะ ผมให้เด็กจัดห้องไว้ให้ลูกสาวคุณแล้วนะคุณมารตี เดี๋ยวผมพาคุณไปดูห้องของเราและเดี๋ยวให้เด็กพาหนูผึ้งไปที่ห้องจะได้พักผ่อน เดินทางกันมาเหนื่อยๆ พักก่อนดีกว่า" นายหัวไกรสีห์พูดและยิ้มให้มารตีกับลูกสาวก่อนที่จะให้สองแม่ลูกจะได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สะใภ้ขัดดอก

read
34.5K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
4.8K
bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
8.4K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
2.9K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
11.7K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook