bc

เมียรักจอมมาร

book_age18+
141
FOLLOW
1.5K
READ
HE
sweet
mystery
city
like
intro-logo
Blurb

“ก็รีบๆ จูบแล้วก็กอดซะสิ และถ้าพอใจแล้วละก็ ช่วยไปนอนอยู่ข้างๆ อย่ามายุ่งย่ามกับเนื้อตัวฉันอีก” แว้ดออกมาเสียงขุ่นเขียว พลางหลับตาปี๋ ไม่ขอรับรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้น

เห็นอาการของคนตัวเล็กแล้ว เจ้าพ่อโรงแรมถึงกับคลี่ยิ้มร้ายกาจ รีบเคลื่อนหน้าเข้าไปใกล้ ปล่อยลมหายใจร้อนๆ รวยรินชิดปลายจมูกเชิดรั้น ก่อนจะทาบทับปากหยักบดเคล้ากลีบปากอิ่ม ค่อยๆ คลุกเคล้าบดเบียดละเลียดความหอมหวานปานน้ำผึ้งกลืนกินสู่อุ้งปากอย่างช้าๆ ละเมียดละไม

ใช้เวลาดื่มด่ำกับปากนุ่มอยู่นานนับห้านาที จึงผละออกปล่อยให้หญิงสาวได้หายใจหายคอ จากนั้นก็เคลื่อนจูบลงมาที่ข้างแก้ม ขณะกำลังไต่ระดับลงซอกคอ คนตัวเล็กก็ยกมือผลักดันให้ออกห่างเสียก่อน

“เดี๋ยวๆ นายจะทำอะไรน่ะ”

พัณณิตาพยายามบังคับจังหวะลมหายใจตัวเองให้เป็นปกติ เพราะเมื่อครู่ฤทธิ์จูบของเขาทำเอาเธออ่อนระโหยโรยแรง แทบขาดใจตายอยู่รอมร่อ

“ถอยไปห่างๆ เลยนะ” สั่งเขาแล้วถลึงตาใส่

“ถอยได้ไง ยังจูบไม่เสร็จเลย” ชายหนุ่มตอบด้วยดวงตาใสซื่อ “ยังเหลืออีกเยอะเชียว”

“ก็นายจูบไปแล้วนี่ รู้ไหมว่าปากฉันเจ็บหมดแล้วเนี่ย”

“ผมบอกคุณหรือไงว่าจะจูบแค่ปาก”

chap-preview
Free preview
บทที่๑คนบ้าอำนาจออกโรง(๑)
บริษัทแฮคตันโฮลล์มีโรงแรมในเครือนับร้อยแห่งครอบคลุมทั่วโลก ที่ตั้งทำการของบริษัทยักษ์ใหญ่คือโรงแรมหรูกลางเมืองแมนฮัตตัน ซึ่งมีความสูงถึงหนึ่งร้อยสามสิบชั้น ชั้นที่หนึ่งเป็นโซนของพนักงานระดับล่าง ส่วนชั้นที่สองจนชั้นที่หนึ่งร้อยยี่สิบถูกจัดไว้เป็นห้องพักสำหรับแขกที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งก็มีหลากหลายราคาให้เลือกสรร นอกเหนือจากนั้นเป็นห้องทำงานและห้องพักของผู้บริหารระดับสูงซึ่งลดหลั่นกันไปตามอำนาจที่พึงมี บริเวณชั้นที่หนึ่งร้อยยี่สิบเก้าซึ่งล้อมรอบด้วยกระจกใสกันกระสุนหนาทึบถึงสามนิ้วทั้งสี่ด้านปรากฏร่างสูงในชุดสูทสีดำสุดเนี้ยบไร้รอยยับย่นกำลังยืดตัวผละลุกจากเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ซึ่งถูกแผ่นหลังทรงพลังนั้นแนบพิงมานานนับสามชั่วโมงเต็ม เวลานี้คิ้วเข้มของแฟรงค์ แฮคตัน บุรุษหนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกัน กำลังย่นยู่เข้าหากัน ผิวสีแทนเข้มเสมือนมารดาส่งผลให้ใบหน้าดูถมึงทึงน่ากลัว พึ่บ! เอกสารปึกใหญ่ถูกทิ้งลงบนโต๊ะทำงานเต็มแรง ดวงตาสีน้ำตาลไหม้ตวัดมองไปยังลูกน้องคนสนิทซึ่งพ่วงตำแหน่งบอดี้การ์ดและเลขาฯ ส่วนตัวด้วยแววตาเอาเรื่อง มือทั้งสองข้างตบโต๊ะจนเกิดเสียงดังสนั่น เพราะลูกน้องตัวดีเอาแต่อมพะนำ ไม่ยอมปริปากพูด “นี่มันเรื่องบ้าอะไรฮ้า!” ตะเบ็งเสียงถามอย่างหัวเสีย สีหน้าเจ้าพ่อแห่งวงการโรงแรมคล้ายอยากจะฆ่าใครสักคนให้ตาย เพื่อจะได้สาสมกับความหายนะของโรงแรมในเครือซึ่งถูกทิ้งอย่างไม่ไยดี “นายลองตอบฉันหน่อยสิ โรงแรมที่เมืองไทยมันเกิดอะไรขึ้น ทำไมกำไรถึงได้ดิ่งลงเหวจนติดลบแบบนี้” สิ้นเสียงเข้มที่ดังลั่นห้อง คนถูกถามก็ยังคงปิดปากนิ่งสนิทเหมือนเดิม “แบรด! นายเป็นใบ้หรือยังไง ทำไมไม่ตอบ” แบรด เอ็ดสันกะพริบตาปริบๆ พลางสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด แล้วรีบรายงานก่อนที่ชีวิตจะถึงจุดจบ “คือว่าโรงแรมนี้คุณเฟียซเคยไปดูเมื่อสามเดือนก่อนครับ เห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี จนกระทั่ง...” “เรียบร้อยบ้าน่ะสิ ผลขาดทุนยับมาสามเดือนเต็มแบบนี้” ลูกน้องรายงานยังไม่ทันจบประโยค แฟรค์ก็ร้องขัดขึ้นอย่างหัวเสีย ก่อนจะบ่นระอาต่อ “ที่เมืองไทยมีผีหรือไง ถึงได้ปิดหูปิดตาเจ้าเฟียซขนาดนี้ ดูสิมองขาดทุนเป็นกำไร อนาคตข้างหน้าคงล้มละลายกันพอดี” ลูกน้องหนุ่มลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ ก่อนจะรายงานสิ่งที่ตัวเองพอสืบรู้มาบ้าง “ที่จริงแล้วเหตุผลหลักๆ คงเป็นเพราะว่าผู้บริหารของที่นั่น...เอ่อ...มีลูกสาวเป็นนางแบบครับ” “นางแบบ?” แฟรงค์พึมพำ มุมปากเหยียดออกเล็กน้อย มิน่าล่ะตาของเจ้าน้องชายตัวแสบถึงได้ปิดสนิท เพราะเรื่องผู้หญิง เฟียซ แฮคตันไม่เคยเป็นสองรองใคร ใช้ผู้หญิงเปลืองยิ่งกว่าถุงเท้าที่เจ้าตัวผลัดเปลี่ยนในแต่ละวันซะอีก ซึ่งนิสัยแบบนี้ทำให้มาดามอภิศราถึงกับลมจับครั้งแล้วครั้งเล่า จนต้องส่งน้องสาวอย่างอภิชญาไปคอยจัดระเบียบสตรีให้เฟียซอยู่บ่อยๆ และผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างกันเลย นั่นก็คือผู้หญิงของเจ้าเฟียซต้องกระเจิงทุกราย เมื่อคิดถึงน้องชายตัวดีซึ่งป่านนี้พ่อคุณน่าจะเหล่สาวอยู่ส่วนไหนสักแห่งของเมือง รอคอยเวลาเหยื่อติดกับแล้วลงมือขย้ำจนเต็มอิ่ม ริมฝีปากหยักสวยยิ่งกว่าสตรีก็แย้มบางๆ แล้วเอ่ยสั่ง “ต่อสายหาหมอนั่นเดี๋ยวนี้!” คนได้รับคำสั่งรีบปฏิบัติอย่างรวดเร็ว หยิบโทรศัพท์มือถือของผู้เป็นนายซึ่งมีนับสามเครื่องออกมาจากกระเป๋าเสื้อสูท แล้วจึงเลือกใช้เครื่องที่ติดต่อกันภายในครอบครัวเพื่อโทรหารองประธาน หากปลายสายกลับเงียบกริบ จนต้องส่งยิ้มแหยๆ ให้คนเป็นนาย “โทรไม่ติดครับ” “กดต่อไป ถึงนิ้วนายจะหัก นายก็ต้องติดต่อเจ้านั่นให้ได้” สั่งการเสร็จก็ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ทำงานอย่างเซ็งๆ คว้าปากกายี่ห้อหรูขึ้นมาติดมือ แล้วหยิบเอกสารเจ้าปัญหาขึ้นมาพิจารณา ตัวเลขหายไปร่วมสิบล้านบาทแบบนี้ ต้องมีคนเล่นตุกติกแน่ๆ ดูท่าทางจะเป็นยักษ์ตัวเป้งซะด้วย ครุ่นคิดอยู่ไม่กี่นาที ลูกน้องหนุ่มก็ยื่นโทรศัพท์มาให้ ท่านที่ปรึกษา “ครับแด็ด” “รู้เรื่องที่เมืองไทยแล้วใช่ไหม” “ทราบแล้วครับ” ตอบรับด้วยเสียงเนือยๆ เพราะรู้ทันทีเลยว่า เจ้าน้องบังเกิดเกล้าคงรีบรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ผู้เป็นบิดารับทราบเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่รอดูผลที่จะตามมาเท่านั้น ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเดาว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน ก็ในเมื่อน้องชายตัวแสบนั้นเปรียบเสมือนองค์ชายประจำบ้าน ฉะนั้นต่อให้ผิดขนาดไหน มัมกับแด็ดก็ให้อภัยทุกครั้ง “พ่อจะคุยกับลูกเรื่องนี้อยู่พอดี พ่อว่าลูกคงต้องไปเมืองไทย” คำที่ดังก้องอยู่ในหูทำให้คิ้วเข้มๆ ของท่านประธานถึงกับย่นเข้าหากัน เพราะนาทีนี้ไม่ใช่เมืองไทยเท่านั้นที่มีปัญหา หากยังมีที่อื่นอีกหลายแห่งซึ่งรอคอยการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน “แต่ผมต้องไปดูไบนะครับ” ชายหนุ่มเอ่ยทัดทานขึ้นมาทันควัน โดยกำหนดการเดินทางไปดูไบก็คือบ่ายโมงตรงของวันนี้ ซึ่งก็เหลือเวลาอีกเพียงสามชั่วโมงเศษเท่านั้น “น้องชายเราไม่ได้บอกหรือไง ว่าจะไปที่นั่นด้วยตัวเอง เห็นขึ้นเครื่องไปตั้งแต่เช้ามืดแล้ว” “อะไรนะครับ เฟียซไปดูไบ?” “ใช่แล้วละ เพราะฉะนั้นลูกต้องไปจัดการที่เมืองไทยให้เรียบร้อย แล้วพ่อจะส่งทีมตรวจสอบทุจริตตามไป” เมื่อได้ยินเช่นนั้น ชายหนุ่มก็บังคับตัวเองไม่ให้กลอกตาไปมา รู้ดีว่าทีมตรวจสอบที่ว่าคือทีมโอดอลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องการจัดการกับคนโกง โดยทีมนี้จะทำตั้งแต่ตรวจสอบเอกสาร รวมถึงบุคคลต้องสงสัย และสุดท้ายก็จัดการเก็บกวาดจนสิ้นซาก การสนทนาดำเนินต่อไปอีกห้านาทีก็สิ้นสุด หลังจากนั้นเจ้าพ่อหนุ่มก็สั่งการให้คนสนิทเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง ซึ่งต้องเปลี่ยนจุดหมายจากดูไบเป็นเมืองไทยอย่างกะทันหัน นาทีนี้นึกเคืองน้องชายตัวดียิ่งนัก ที่ชอบก่อเรื่องไว้ให้ตามเก็บกวาดอยู่ร่ำไป หากมีเจ้าพอร์ชคอยช่วยก็คงจะดีกว่านี้ ทว่ามันก็เป็นเพียงแค่ความคาดหวัง เพราะพอร์ช แฮคตัน น้องชายคนรองหายสาบสูญไปร่วมยี่สิบเก้าปีแล้ว “ถ้านายยังอยู่กับพวกเรา ป่านนี้นายก็อายุสามสิบเอ็ดแล้วสินะ” เจ้าพ่อหนุ่มหล่อรำพันด้วยความเจ็บปวด ทุกคนในบ้านต่างจำเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้ดี วันนั้นมัมเจ็บท้องจะคลอดเฟียซ แด็ดจึงรีบเร่งไปยังโรงพยาบาล แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เพราะเมื่อเฟียซคลอด พอร์ชก็หายออกจากบ้านไปอย่างไร้ร่องรอย บาดแผลนี้ล้วนทำให้ทุกคนเจ็บปวด โดยเฉพาะมัมที่ถึงกับร้องไห้เจียนขาดใจ แม้เวลาผ่านไปหนึ่งปีแต่อาการเศร้านั้นก็ไม่จางหาย กระทั่งตั้งท้องและคลอดลูกพีชออกมา ทุกอย่างจึงดีขึ้นตามลำดับ แต่กระนั้นตลอดหลายสิบปีมานี้ความรู้สึกของทุกคนก็ยังมีพอร์ชอยู่ใกล้ๆ ยังจัดงานวันเกิดให้พอร์ชทุกปี พี่น้องทุกคนได้อะไร พอร์ชก็จะได้เช่นกัน และตอนนี้ทุกคนก็รอให้พอร์ชกลับมาสู่อ้อมกอด ถึงแม้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาจะลงทุนจ้างนักสืบนับสิบๆ รายให้สืบค้น แต่ก็ยังคงไร้วี่แวว แม้ผลจะเป็นเช่นนั้น หากทุกคนก็ไม่เคยหมดหวัง และเชื่อมั่นว่า พอร์ช แฮคตันยังคงมีชีวิตอยู่ และสักวันคงจะได้กลับมาอยู่ร่วมกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ท่านประธานหนุ่มตีหน้าเครียด ปล่อยตัวเองอยู่กับภวังค์ความเจ็บปวดซึ่งไม่เคยเลือนหาย กระทั่งได้ยินเสียงลูกน้องมือดีร้องเรียกอยู่ใกล้ๆ ถึงได้ขยับตัว แล้วเงยหน้าขึ้นเพื่อข่มความอ่อนแอที่ฉาบขึ้นมาเกลื่อนดวงตา เมื่ออาการกลับเป็นปกติ ปากหยักจึงร้องถาม “มีอะไร” “คุณเฟียซโทรเข้ามาเบอร์นี้ครับ” แบรดรายงาน พร้อมยื่นโทรศัพท์อีกเครื่องมาตรงหน้า แฟรงค์จ้องโทรศัพท์อยู่เพียงครู่เดียว ถอนหายใจพรืดใหญ่ แล้วคว้ามาแนบใบหู ก่อนจะกรอกเสียงห้าวเข้มทักทายต้นสายด้วยถ้อยคำติดจะต่อว่าแกมประชดเล็กน้อย “โทรหาพี่ได้แล้วเหรอ นึกว่าจะไม่ติดต่อกลับมาซะอีก” “ไปกินรังมดที่ไหนมาครับคุณพี่ชาย กัดซะเจ็บเชียว” คนอยู่ดูไบเอ่ยเย้าหยอก แต่ต้องเย็นวาบไปทั้งสันหลัง เมื่อคนเป็นพี่ยังเอ่ยเสียงดุเสมอต้นเสมอปลาย “นายไปดูไบทำไมไม่บอกพี่”

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

พะยอมอธิษฐาน

read
1.8K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
6.1K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
7.9K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1K
bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
13.2K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K
bc

ป๊ะป๋าผมเป็นมาเฟีย

read
1.3K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook