บทที่ 3 กลั่นแกล้ง

1305 Words
หญิงสาวในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนคลุมหัวเข่ากับเส้นผมสีเข้มที่เป็นลอนคลาย ๆ ตามธรรมชาติถูกปล่อยสยายเต็มแผ่นหลัง ข้างกายเธอมีชายตัวสูงเกือบร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเดินอยู่ไม่ห่าง อคินณ์อยู่ในชุดเสื้อยืดสีขาวกับกางเกงยีนสีซีดแสนธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนร่างกายแสนเพอร์เฟกต์นั่นกลับดูโดดเด่นเอาเสียมาก ๆ เหมือนฝันถูกพามาที่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่เธอเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรกและมันยังหรูหราต่างจากที่เธอคิดไปมาก อีกทั้งการเดินทางมาที่นี่ก็ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมง ทำให้เดาได้ว่าที่นี่อยู่ห่างจากบ้านพอสมควร ดังนั้นหญิงสาวจึงเอาแต่ทำตัวตามติดอคินณ์เพราะกลัวว่าถ้าเกิดหลงกันขึ้นมาเธอจะลำบาก คนตัวสูงพาเธอเข้าร้านที่มีชุดนักศึกษาแขวนเรียงรายเต็มไปหมด และยังมีพนักงานยังเดินออกมาต้อนรับถึงหน้าร้านด้วยท่าทางนอบน้อมอย่างที่เธอไม่เคยได้รับมาก่อน “สวัสดีค่ะคุณคินณ์ ใกล้จะเปิดเทอมแล้วเลยมาดูเสื้อนักศึกษาใหม่หรือคะ” พนักงานสาวส่งยิ้มประจบประแจงให้ลูกค้า VVIP อีกทั้งอคินณ์คนนี้ยังมีฐานะเป็นถึงลูกชายเจ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งนี้อีกด้วย “อื้ม” คนตัวสูงตอบแค่นั้น ก่อนจะเดินเข้าในร้านด้วยท่าทีสบาย ๆ แตกต่างจากเธอที่ทำตัวไม่ถูกและได้แต่ยืนหันรีหันขวางก่อนจะเดินตามเขาเข้าไป เมื่อเข้ามาแล้วก็เห็นอคินณ์พูดอะไรบางอย่างกับพนักงานคนเดิมก่อนที่เจ้าหล่อนจะเดินเข้ามาหาเหมือนฝันด้วยรอยยิ้มพร้อมกับเชิญเธอไปเลือกดูเสื้อและกระโปรงนักศึกษาหลากหลายรูปแบบ และไม่นานเหมือนฝันก็ได้ชุดนักศึกษาที่ต้องการถึงห้าชุด ทั้งที่เธอตั้งใจจะซื้อเพียงสองชุดและค่อยซักบ่อย ๆ เอา อีกทั้งของที่เธอซื้อทั้งหมดยังถูกจ่ายด้วยบัตรเครดิตสีดำเมี่ยมของคนที่มาด้วยกัน “ขอบคุณมาก ๆ นะคะ” เมื่อได้ของที่ต้องการและชำระเงินเสร็จทั้งสองก็เดินออกมาจากร้าน การที่อคินณ์พาเธอมาซื้อของวันนี้ทำให้อคติที่มีต่อเขาลดลงเล็กน้อย เพราะชายหนุ่มไม่แม้จะหาเรื่องหรือพูดจาดูถูกเธอ “ไม่เป็นไรหรอก” “ค่ะ แต่ยังไงฝันก็ต้องขอบคุณคุณคินณ์มากจริง ๆ นะคะ ถ้าไม่ได้คุณคินณ์ฝันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะหาซื้อชุดพวกนี้ได้จากที่ไหน” “อื้ม ถ้าได้ของที่ต้องการครบแล้วก็กลับกันเลยดีไหม” “ดีค่ะ” เหมือนฝันตอบรับอย่างดีใจเพราะการออกมาที่หรูหราทำให้เธอทำตัวไม่ค่อยถูก แต่เหมือนเรื่องจะไม่ง่ายขนาดนั้น... หลังจากที่ตกลงกันว่าจะกลับบ้าน อคินณ์ก็บอกให้เธอรอที่หน้าห้างสรรพสินค้า เดี๋ยวชายหนุ่มจะขับรถมารับเพื่อที่จะได้ไม่ต้องแบกของพะรุงพะรัง พอดีกับเหมือนฝันที่ต้องการเข้าห้องน้ำทั้งสองจึงแยกกันตอนนั้น และตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบสามสิบนาทีแล้วแต่เหมือนฝันกลับไม่เห็นรถยนต์ที่เธออาศัยแล่นมาจอดยังสถานที่นัดหมายเสียที และเมื่อคิดจะโทรตามชายหนุ่มเธอก็ลืมเลยไปว่าตัวเองไม่มีเบอร์เขา ร่างเล็กยืนเก้ ๆ กัง ๆ อยู่หน้าห้างสรรพสินค้า เพราะเธอไม่รู้ทางกลับบ้านและข้าวของก็ยังพะรุงพะรังเต็มสองมือ จวบจนกระทั่งเวลาผ่านเลยไปกว่าสองชั่วโมงเหมือนฝันก็รู้ซึ้งและรู้ตัวแล้วว่าตนเองถูกทิ้ง... อคินณ์ไม่ได้มีน้ำใจอยากช่วยเหลือ แต่ทุกสิ่งที่เขาทำในวันนี้ก็เพื่อกลั่นแกล้งให้เหมือนฝันตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะค่อย ๆ เดินไปข้างถนนเพื่อโบกเรียกแท็กซี่และไม่นานเธอก็ได้ขึ้นรถ เหมือนฝันบอกชื่อหมู่บ้านของคุณลุงด้วยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา ก่อนจะได้รับสายตาไม่ค่อยไว้วางใจจากคนขับรถแต่ถึงอย่างนั้นอีกฝ่ายก็พาเธอมายังจุดหมายอยู่ดี รถยนต์สีเขียวเหลืองถูกจอดอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ในเวลาหัวค่ำ เพราะทั้งการจราจรที่ติดขัดและความไม่รู้ทางของเธอที่ทำให้คนขับรถหัวเสียไม่น้อย “เอ่อ...ช่วยรอแป๊บหนึ่งได้ไหมคะคือกระเป๋าสตางค์ฉันหาย” มือเล็กควานหากระเป๋าสตางค์ไปทั่วกระเป๋าผ้าใบเก่งแต่ก็ไม่พบ “นี่ อย่ามาล้อเล่นนะ เธออยู่บ้านนี้จริง ๆ หรือเปล่า” “จริง ๆ ค่ะ แต่กระเป๋าสตางค์ของฉันมันหายไป” “ฉันว่าเอาตัวไปส่งตำรวจดีกว่ามั้ง ใครมันจะบ้าไม่รู้จักทางบ้านตัวเองวะ อีกอย่างของที่อยู่ในมือนั้นขโมยมาหรือเปล่าก็ไม่รู้” “ไม่ใช่นะคะ คือฉันทำกระเป๋าสตางค์หายจริง ๆ แล้วก็ไม่ได้คิดจะเบี้ยวค่ารถด้วย ช่วยเปิดประตูให้ก่อนได้ไหม” “เปิดก็โง่สิวะ ถ้ามึงลงไปแล้วชิ่งหนีกูก็ซวยดิ” ไม่ทันที่คนขับรถจะได้สาดอารมณ์ใส่เธอไปมากกว่านี้กระจกข้างคนขับก็ถูกเคาะเสียก่อน “มีอะไรหรือเปล่า” ลุงพงษ์พนักงานรักษาความปลอดภัยของบ้านที่สังเกตว่ารถคันนี้มาจอดอยู่นานแต่ไม่ยักจะมีคนลงมาเสียทีจึงเข้ามาสอบถาม “ลุงพงษ์ นี่ฝันเอง” “อ้าวคุณฝัน มาถึงแล้วทำไมไม่ลงรถล่ะครับ” “คือว่า...” “เธออยู่บ้านนี้จริง ๆ สินะ” “ก็ใช่น่ะสิ เปิดประตูในคุณหนูของฉันลงมาได้แล้ว ส่วนนี้ค่ารถ” พงษ์ศักดิ์ตอบแทนและเมื่อเห็นสีหน้าลำบากใจของเหมือนฝันก็พอจะรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น และเมื่อคนขับรถได้สิ่งที่ต้องการก็ยอมปลดล็อกประตูและปล่อยให้เหมือนฝันลงจากรถ ก่อนจะขับออกไปอย่างรวดเร็ว “ขอบคุณคุณลุงมากเลยนะคะ ถ้าคุณลุงไม่เข้ามาช่วย เขาบอกว่าจะพาฝันไปที่สถานีตำรวจแล้ว” “ไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่ทำไมคุณฝันถึงได้กลับมาคนเดียวทั้งที่คุณคินณ์ก็-” “คุณคินณ์เขากลับมาแล้วเหรอคะ” “กลับตั้งแต่ช่วงบ่ายแล้วครับ” “อย่างนั้นเหรอคะ” ความหวาดกลัวแท็กซี่เมื่อสักครู่เปลี่ยนเป็นความขุ่นเคือง เหมือนฝันขอบคุณลุงพงษ์อีกรอบก่อนจะขอตัวเข้าบ้าน แต่ไม่ทันที่ขาเรียวจะก้าวเข้าไปในตัวบ้านเสียงของคนใจร้ายก็ทักทายกันเสียก่อน “ว้าว ฉลาดกว่าที่คิดนะเนี่ย” “...” “เห็นหน้าตาโง่ ๆ นึกว่าจะกลับมาไม่ถูกซะแล้ว หรือว่าเป็นสัญชาตญาณของพวกหมาที่มันจำที่เยี่ยวได้นะ” “ก็ยังดีกว่าพวกชอบรังแกคนไม่มีทางสู้แล้วกัน” นัยน์ตาคู่สวยมองอีกคนด้วยสายตาขุ่นเคือง แต่อคินณ์กลับเลิกคิ้วมองเธอด้วยท่าทางยียวน “ปากเก่งเหมือนกันนี่ นึกว่าจะเก่งแค่เรื่องเอาตัวเข้าแลก” “ฉันจะเอาตัวเข้าแลกหรือนอนกับใครมันก็เรื่องของฉัน แต่มันไม่มีวันเป็นคุณแน่นอน” “...” “ส่วนความหวังดีจอมปลอมของคุณฉันไม่ต้องการ” ตุบ ! ถุงชุดนักศึกษากระแทกอกหนาแล้วร่วงลงพื้น ก่อนที่เหมือนฝันจะเดินกระแทกไหล่อีกคนเข้าไปในตัวบ้าน นัยน์ตาสีรัตติกาลมองตามแผ่นหลังเล็กกระทั่งลับสายตา อคินณ์กระตุกยิ้มร้าย เห็นหน้าจืด ๆ นึกว่าจะไม่สู้คน แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกันน่าสนุกดี...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD