บทที่ 8
เจิดจรัส
“เอาล่ะ ทุกคนพร้อมนะ อีก5นาที คนแรกสแตนด์บายไว้ได้เลย” เสียงคุณซูซานเรียกและกำกับนางแบบที่พร้อมกันที่หลังเวที ซึ่งตอนนี้มีเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องเท่านั้นถึงจะเข้ามาในบริเวณนี้ได้ โดยรอบๆ ได้มีการดูแลอย่างเข้มงวดจากบอดี้การ์ดเกือบ 50 ชีวิต
“ฟ้า มาถึงหรือยัง มีใครไปดูให้หน่อย” สิ้นเสียงคุณซูซานประตูห้องก็เปิดออก มีแฮรี่เดินนำหน้าเข้ามาก่อนที่จะเห็นพราวนภาเดินตามเข้ามาเงียบๆ เธอพยายามตั้งสติตัวเองอย่างมากในการที่จะไม่ให้ตื่นเต้น
“ซูซาน ผมฝากด้วยนะ ผมจะไปอยู่หน้าเวที ตอนนี้ห้ามใครเข้าออกห้องนี้อย่างเด็ดขาด เสร็จงานผมจะเป็นคนมาเปิดห้องให้เอง”
แฮรี่เอ่ยปากบอกซูซานซึ่งเป็นน้องสาวของคุณปีเตอร์พ่อของเขา แต่แฮรี่ไม่เคยเรียกซูซานว่าอาเลยแม้แต่ครั้งเดียว และซูซานก็ต้องการให้แฮรี่เรียกเธอด้วยชื่อเท่านั้นเหมือนกัน จึงมีน้อยคนนักที่จะรู้ว่าสองคนนี้มีความเกี่ยวพันกันทางสายเลือด
“ได้ตามนั้นค่ะคุณแฮรี่ จะไม่มีใครได้เข้าออกห้องนี้จนกว่าคุณจะมาเปิดห้อง” ซูซานบอกออกไป ถึงแม้ใครจะเข้าออกก็คงทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะคงมีคนเฝ้าหน้าห้องอยู่อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว
แฮรี่เหลือบตามองไปยังนางแบบที่เขาพาเข้ามาด้วยสายตาเรียบนิ่ง แต่ก็ยังมีแววของความข่มขู่อยู่ในที พราวนภารีบก้มหน้าหลบสายตาคมที่จ้องมา เมื่อแฮรี่เดินออกจากห้องไป เธอจึงเดินไปหาคุณซูซานเพื่อตรวจความเรียบร้อยของเธอ
“ทำไมหน้าซีดลง ปากก็เหมือนโดนเช็คออกไป เธอเอาหน้าไปทำอะไรมาเนี่ย” คุณซูซานทำเสียงเหมือนไม่พอใจและได้เรียกช่างแต่งหน้ามาเติมหน้าให้พราวนภาเมื่อเห็นว่าใบหน้าที่ตกแต่งไว้อย่างดีมีความบกพร่องไป พราวนภาหน้าแดงเรื่อขึ้นมาทันทีที่รู้ว่าหน้าที่ตกแต่งไว้ทำไมถึงมีความลบเลือนไป เธอยืนนิ่งๆให้ช่างแต่งหน้ามาเติมหน้าเติมปากแต่โดยดี
พราวนภามองไปที่นางแบบคนอื่นๆ เห็นทุกคนเตรียมพร้อมทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ตอนนี้ยืนเข้าแถวเพื่อออกไปโชว์ตามลำดับคอลเลคชั่นของดีไซเนอร์ที่ออกแบบเครื่องเพชรไว้ พราวนภาจะเดินออกไปหลังสุดซึ่งข้างหน้าเธอเป็นแอนนาที่หันมายิ้มให้รูมเมทของเธอ ก่อนจะยื่นมือออกมาจับมือเรียวของพราวนภาไว้บีบเบาๆ
“ตื่นเต้นใช่ไหม หายใจเข้าลึกๆ เชิดหน้าไว้ เดียวทุกอย่างจะดีขึ้น” แอนนาเอ่ยบอกพราวนภาและตบลงหลังมือของเพื่อนเบาๆ
“ขอบใจมากนะแอน ฟ้าดีใจที่มีแอนเป็นเพื่อนนะ” พราวนภาเอ่ยขอบคุณเพื่อนคนเดียวของเธอในงานนี้ออกไป เธอสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆเพื่อเรียกกำลังใจและสมาธิให้ตัวเอง
“สู้/สู้”
เสียงสองสาวประสานขึ้นมาพร้อมกันก่อนจะหัวเราะออกมาพร้อมกัน จนได้สายตาค้อนจากฟางฟางและเพื่อนๆที่ยืนอยู่ข้างหน้าแถว
“เอาๆๆ ทุกคนพร้อม ได้ยินเสียงเพลงข้างนอกไหม ขอให้ทุกคนมั่นใจในตัวเอง ฉันสวย ฉันเลิศ ท่องไว้ และออกไปโชว์ให้ทุกคนได้เห็นความสวยของเรากันเถอะ”
คุณซูซานปรบมือเสียงดังเพื่อเพิ่มกำลังความมั่นใจให้เหล่านางแบบทุกคนเป็นครั้งสุดท้าย
เสียงเพลงด้านนอกที่เป็นเพลงสื่อความอ่อนหวานเพื่อให้เข้ากับงานโดยออแกไนเซอร์ของงานได้จ้างนักร้องดังมาขับขานเพื่อเพิ่มบรรยากาศหวานให้แก่งานในครั้งนี้โดยเฉพาะ ไม่นานเกินรอ เสียงเพลงก็เบาลง ไฟกลางเวทีได้ลดแสงลงก่อนจะมีสปอตไลน์จะฉายมายังแคทวอล์คที่จะมีนางแบบมืออาชีพผลัดกันเดินขึ้นมาอวดโฉมของตัวเองและเครื่องเพชรเม็ดงามที่สวมใส่
เมื่อถึงเวลาทีมงานได้เข้ามาดูแลพราวนภาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนคุณซูซานจะเดินเข้ามาบีบมือพราวนภาเบาๆ
“ตั้งใจ ฉันรู้ว่าเธอทำได้ และจะต้องทำได้ดีด้วย ขอให้โชคดี”
“ขอบคุณค่ะ ฟ้าจะทำให้ดีที่สุดค่ะ” พราวนภาเอ่ยบอกออกไป ก่อนจะสูดลมหายใจลึกๆๆ และเดินเชิดหน้าขึ้นเวทีไปทันที
เสียงแฟลชดังระรัวเมื่อพราวนภาปรากฏตัวขึ้น ถึงแม้เธอจะรู้ว่าคนที่กดกล้องถ่ายภาพรัวเร็วก็เพราะเครื่องเพชรชุด Heart of the Kingdom แต่เธอก็เชิดหน้ายิ้มน้อยๆตามที่ซ้อมเดินมา จากที่มีเสียงแฟลชดังไม่ขาดสายอยู่แล้ว แต่เมื่อพราวนภายิ้มออกมาทำให้เกิดเสียง ฮือฮาของแขกที่มาร่วมงานดังกลบเสียงแฟลชกล้องถ่ายรูปได้ชะงัก หรืออาจจะเป็นเพราะช่างถ่ายภาพก็ชะงักค้างไปทันทีที่นางแบบสาวที่สวมเครื่องเพชรชุด Heart of the Kingdom เดินออกในชุดราตรีสีขาวหรูหราและสวยสง่า ชุดที่สวมตัดเย็บจากดีไซเนอร์ระดับโลกที่นอกจาก ชูให้เห็นความหรูหราสง่างามแล้วยัง ทำให้นางแบบได้อวดส่วนเว้าส่วนโค้ง เอวเป็นเอว สะโพกผายมน รวมถึงอกอวบอิ่มที่ดันออกมาจากชุด เมื่อประกอบกับใบหน้าที่คมขาวอมชมพู ดวงตากลมโตมีแววหวาน อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบที่เคลือบสีชมพูเรื่อไว้แต่พองาม ยังไม่สะกดแขกที่มาร่วมงานได้เท่ากับรอยยิ้มน้อยๆของนางแบบสาว จนมีหลายคนลุ้นว่าจะเห็นเธอยิ้มแบบเต็มหน้าบ้างไหม
พราวนภาก้าวยาวๆมาจนสุดรันเวย์ หยุดโพสยิ้มให้แขกของงานอีกครั้ง ก่อนที่ช่างภาพจะตะโกนให้เธอยิ้มค้างไว้เพื่อถ่ายภาพ เธอยืนนิ่งๆและฉีกยิ้มจนช่างภาพพอใจแล้วจึงเดินกลับมาที่กลางเวที เพื่อรอคนที่เป็นเจ้าของงานรวมถึงเป็นผู้ออกแบบเครื่องเพชรที่เธอสวมอยู่
ขณะที่พราวนภายืนฉีกยิ้มน้อยๆอยู่กลางเวที เฟยเทียนที่นั่งอยู่ด้านหน้าเวทีมองไปยังนางแบบสาวด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่มาดามหว่องที่นั่งอยู่ข้างๆกันรู้ว่าเขาตื่นเต้นแค่ไหนจากแรงบีบมือที่เขาบีบมือเธอแน่น มาดามหว่องเอามือตบลงบนหลังมือเฟยเทียนเบาๆอย่างปลอบใจ เขาหันกลับมาสบตาเธอเพียงแวบเดียวก่อนที่จะจ้องมองไปที่นางแบบสาวอย่างไม่ละสายตาอีกครั้ง
“สวยจริงๆ เลยนะคะคุณ” มาดามหว่องกระซิบที่ข้างหูเบาๆของเฟยเทียน โดยที่เฟยเทียนไม่ได้หันมาทางเธอแต่อย่างใด แต่มีเสียงตอบกลับมาพอให้ได้ยินเบาๆ เหมือนคนพูดจะพูดออกมาจากความรู้สึกข้างใน
“ใช่ สวย สวยมาก ฉิงเทียน สวยมากจริงๆ” เฟยเทียนเอ่ยออกมาเหมือนคนเลื่อนลอย สายตาไม่คลาดไปจากนางแบบบนเวลาแม้แต่วินาทีเดียว
พราวนภายืนยิ้มน้อยๆกลางเวทีก่อนที่ที่จะเห็นชายหนุ่มคนที่สวมเครื่องเพชรให้เธอภายในห้องแต่งตัวลุกขึ้น เขาโค้งศีรษะให้แขกในงานเล็กน้อยก่อนจะเดินขึ้นมาบนเวที แฮรี่ยืนอยู่ใกล้พราวภาเสียงแฟลชที่เงียบไปก็พลันดังขึ้นมาอีกมากกว่าเดิม คุณน้ำผึ้งลุกขึ้นเดินไปหน้าเวทีเพื่อมอบช่อดอกไม้ให้แก่ลูกชาย แฮรี่เมื่อได้รับช่อดอกไม้ก็ยกขึ้นจูบลงไปที่ช่อดอกไม้ก่อนจะยื่นมาให้หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ
พราวนภายืนงงกับการที่แฮรี่ยื่นช่อดอกไม้มาให้เธอ ในตอนซ้อมไม่มีบทนี้
“จะรับไปได้หรือยัง ห่ะ..”พราวนภารีบรีบช่อดอกไม้มาไว้ในอ้อมแขนทันทีที่ชายหนุ่มพูดกดเสียงต่ำในลำคอขึ้นมา รวมทั้งสายตาที่ส่งมาอย่างข่มขู่ทำให้เธอหุบยิ้มลงโดยอัตโนมัติ
“ ยิ้ม.. อย่าหยุดยิ้ม เดียวคนเขาจะว่าฉันทำอะไรเธอ” แฮรี่ส่งเสียงออกไปกำกับนางแบบสาวอีกครั้งเมื่อเห็นหน้าของเธอไม่ปรากฏรอยยิ้ม
เสียงแฟลชดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือที่กึกก้องห้องจัดงานเมื่อชายหนุ่มเจ้าของงานกับนางแบบสาวพร้อมใจกันยกยิ้มออกมา
“สวัสดีครับ ผมขอขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงานนี้ ผมมีความภูมิในเครื่องเพชรชุด Heart of the Kingdom เป็นอย่างมาก แต่ก็อย่างที่ชื่อชุดได้บ่งบอกไว้แล้วว่าชุดนี้เป็นชุดหัวใจพระราชา ที่ผมตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อมอบให้คนที่จะมาเป็นหัวใจของผม ฉะนั้นชุดนี้มองได้แต่ห้ามแตะนะครับ ส่วนชุดอื่นๆขอให้ทุกท่านจับจองได้ตามสะดวก ขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะครับ” แฮรี่พูดกับแขกในงานก่อนที่จะยกแขนขึ้นตั้งฉากเพื่อให้พราวนภาควงแขน ซึ่งเธอก็ยังคงยืนยิ้มอย่างไม่รู้จะทำตัวแบบไหนเพราะนี่ก็ไม่มีในบทซ้อม จนแฮรี่ออกคำสั่งทางสายตาเธอจึงสอดมือเข้าไปในแขนที่ตั้งศอกไว้ของชายหนุ่มข้างกาย
เป็นอีกครั้งที่เสียงแฟลชดังสนั่นห้องจัดงานเลี้ยงเมื่อชายหนุ่มเจ้าของงานเดินควงแขนกับนางแบบสาวไปจนสุดรันเวย์ ก่อนจะยืนนิ่งๆให้ถ่ายภาพจนพอใจ จึงเดินกลับเข้าไปในข้างหลังเวทีด้วยกัน
ด้านหน้าเวทีมีผู้คนที่นั่งอยู่แถวหน้าแสดงความรู้สึกออกมาอย่างหลากหลายเมื่อเห็นชายหนุ่มและหญิงสาวบนเวที คุณปีเตอร์ คุณน้ำผึ้ง คุณเกศสุรางค์ รวมทั้งคุณราฟาแอล ยิ้มออกมาด้วยความยินดีกับความสำเร็จของแฮรี่
เฟยเทียนมีใบหน้าเรียบนิ่งแต่นัยน์ตาที่ส่องประกายของความปราบปลื้ม มาดามหว่องยิ้มมุมมากเล็กออกมาเมื่อเห็นแววตาของสามี เธอรู้ว่าเขากำลังมีความสุข
ซูซี่นั่งกำมือแน่นอย่างข่มอารมณ์ เธอแทบจะลุกออกจากงานไปทันทีที่เห็นพราวนภาเดินออกมาจากหลังเวทีและแทบอยากกรี๊ดออกมาให้สุดเสียงเมื่อเห็นชายหนุ่มมอบช่อดอกไม้ในมือให้นางแบบสาว ที่ตรงนั้นมันควรจะเป็นของเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น คนที่ได้เดินควงแขนแฮรี่ต้องเป็นเธอ เดวิดที่หันมามองลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆจึงเห็นว่าตอนนี้ ซูซี่กำลังต่อสู้กับความรู้สึกภายใน เขาเอื้อมมือมาจับมือลูกสาวไว้แล้วบีบหนักๆให้เธอรู้ตัว ซูซี่หันจากภาพบนเวทีมาสบตาคนเป็นพ่อ น้ำตาที่จะไหลออกมาจากดวงตาเรียวสวยไหลกลับเข้าไปในอกทันทีที่เดวิดพยักหน้าให้เธอ
“ไม่เป็นไร ป๊าสัญญาว่าทุกอย่างจะเป็นของลูกใจเย็นๆนะซูซี่”
ซูซี่ยิ้มออกมาให้เดวิดเพื่อได้ยินสิ่งที่พ่อเธอบอกเพราะเธอรู้ว่าเดวิด เฉิง ทำได้ทุกอย่างที่รับปากเธอ
เดวิดมองไปบนเวทีด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง สายตาเรียวเล็กจ้องมองไปที่เครื่องเพชรที่นางแบบสวมใส่อยากหมายมาด หัวใจพระราชาเหรอ เดวิดคิดในใจ เครื่องเพชรชุดนั้นมันควรเป็นของเขา
ด้านหลังเวที
แฮรี่เดินกลับมาด้านหลังเวทีโดยมีพราวนภาเดินควงแขนมาด้วย เมื่อพ้นสายตาของแขกในงาน พราวนภาก็ดึงมือออกจากแขนของชายหนุ่มทันที แฮรี่บอกอาการที่พราวนภารีบเดินห่างเขาไปหาคุณซูซานด้วยความไม่พอใจ
“จะไปไหน เธอต้องไปกับฉันก่อน อย่าลืมว่าเธอสวมเครื่องเพชรของฉันอยู่”
แฮรี่เอ่ยกับพราวนภาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง จนเธอต้องหันกลับมายังชายหนุ่ม พราวนภามองไปยังนางแบบคนอื่นๆที่ตอนนี้กำลังถอดเครื่องเพชรออกส่งให้บอดี้การ์ดที่รอรับนำไปใส่กล่อง หากใครส่งเครื่องเพชรเรียบร้อยแล้วก็ไปนั่งรวมกันที่ทางเจ้าหน้าที่จัดไว้ให้
พราวนภาเห็นว่าทุกคนถอดเครื่องเพชรจนจะครบทุกคนแล้ว เธอจึงหันไปหาคุณซูซานเพื่อถามว่าเธอต้องถอดเครื่องเพชรให้ใคร
“อ่อ คุณซูซานคะ ฟ้ารบกวนถอดเครื่องเพชรได้ไหมคะ”
ซูซานหันกลับมาตามเสียงเรียกถามของพราวนภา ก่อนเธอจะเลิกคิ้วขึ้นสูงอย่างไม่เข้าใจ ซูซานมองไปที่ใบหน้าเรียบนิ่งของชายหนุ่ม ก่อนจะเบนสายตากลับมาที่นางแบบสาว
“ใครใส่ให้ก็ให้คนนั้นเป็นคนปลดสิ ใช่ไหมแฮรี่”
คุณซูซานบอกก่อนจะเดินออกไปจากจุดนั้น เธอไม่อยากเป็นกรรมการของเจ้าของงานกับนางแบบ
พราวนภาหันไปสบตากับคนที่สวมเครื่องเพชรให้เธอ ทั้งสองสบตากันโดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา จนพราวนภาทนไม่ไหวจำเป็นต้องเอ่ยถามขึ้นมาเมื่อไม่มีคำสั่งให้เธอทำตาม
“อ่อ ฉันคงต้องรบกวนคุณปลดเครื่องเพชรให้แล้วล่ะคะ”
“ ก็คงจะเป็นอย่างนั้น ตามมา..”
แฮรี่ตอบออกไปก่อนจะเดินออกจากห้องแต่งตัวหลังเวทีไปทันที ทั้งสองกลับมาอยู่ในห้องที่เตรียมไว้ให้พราวนภาแต่งตัวในตอนแรก เธอนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมเพื่อให้ชายหนุ่มปลดเครื่องเพชรได้สะดวก แต่.....
ปัง ปัง ปัง
เสียงอึกทึกจากจากข้างนอกห้อง รวมทั้งเสียงปืนที่ดังขึ้นทำให้แฮรี่ชะงักการที่จะช่วยปลดเครื่องเพชรให้พราวนภา ก่อนที่เขาจะได้ทำอะไรลงไปประตูก็เปิดออกโดยแดเนียล สีหน้าของผู้มาใหม่บ่อบอกได้ว่าเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นในเรือลำนี้
“แฮรี่ ข้างนอกเกิดเรื่องแล้ว มีโจรปล้นเรือ ตอนนี้ป้าน้ำผึ้งกับมาดามหว่อง โดนยิง ฉันว่าแกออกไปจัดการก่อนดีไหมวะ” แดเนียลรีบบอกเพื่อน แฮรี่ที่ได้ยินก็รีบจะเดินออกไปจากห้อง แต่เมื่อไปถึงประตูเขาได้หันมาที่พราวนภาที่นั่งหน้าตาตื่นกลัวอยู่บนเก้าอี้ เขาเดินกลับมาใกล้เธอก่อนจะออกคำสั่งเสียงเข้มที่ทำให้รู้ว่าคนรับคำสั่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
“อย่าออกไปจากห้องนี้เป็นอันขาด ฉันจะเป็นคนมาปลดเครื่องเพชรด้วยตัวเอง เข้าใจไหม” แฮรี่สั่งเสียงเข้ม พราวนภาได้แต่นั่งนิ่งก่อนจะได้สติตอบชายหนุ่มออกไป
“ ค่ะ ฉันจะไม่ไปไหนจนกว่าคุณจะกลับมา”พราวนภาเอ่ยปากสัญญาออกไปให้ชายหนุ่มสบายใจ
แฮรี่มองหน้าพราวนภาด้วยใบหน้าเรียบนิ่งๆอยู่ชั่วอึกใจเดียว ก่อนตัดสินใจหมุนกายเดินออกไปจากห้องแต่งตัวของนางแบบผู้สวมเครื่องเพชรชุด Heart of the Kingdom
เมื่อแฮรี่เดินออกไป พราวนภาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ไม่กล้าขยับตัวไปไหนตามคำสั่ง ผ่านไปไม่นานเธอรู้สึกว่าเกิดอาการง่วงนอนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามสะบัดหน้าเพื่อปลุกตัวเองไม่ให้หลับ แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ดวงตาคมโตที่มีแววหวานค่อยๆปิดลง จนพราวนภาหลับสนิทไปอย่างไม่รู้ตัว
แอด....
ประตูห้องแต่งตัวของผู้สวมเครื่องเพชรชุดหัวใจพระราชา เปิดออกอีกครั้ง ก่อนจะมีชายหนุ่มคนหนึ่งเดินเข้ามาที่หญิงสาวที่หลับอยู่บนเก้าอี้ เขาจับหญิงสาวให้นั่งหลังตรงขึ้นก่อนที่จะปลดสร้อยเพชรออกจากคอระหงส์ ไปใส่ไว้ในกล่องสีแดงบนโต๊ะ และจับมือหญิงสาวมาเพื่อจะถอดแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ แต่......เขาก็ชะงักมือก่อนจะปล่อยมือเรียวไว้ดังเดิม เขาเดินไปหยิบกล่องใส่สร้อยเพชรแล้วรีบสาวเท้าเดินออกไปจากห้องแต่งตัวทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าหลายคู่กำลังเดินมาที่ห้องนี้
แฮรี่รีบเดินกลับมาที่ห้องแต่งตัวของพราวนภาทันทีที่จัดการภายในห้องจัดงานเดินแบบเสร็จ เมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาก็รู้ถึงความผิดปกติของนางแบบสาวที่หลับสนิทอยู่บนเก้าอี้ทันที
เขารีบเดินมาที่ตัวเธอก่อนจะเห็นว่าบนคอระหงส์ของพราวนภาไม่มีสร้อยเพชรอยู่แล้ว สายตาคมเลื่อนลงไปจับมือของเธอขึ้นมา เขาถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าแหวนยังอยู่บนนิ้วนางข้างซ้ายของเธอ
แฮรี่ช้อนอุ้มร่างนางแบบในชุดราตรีเจ้าสาวขึ้นแนบอก ภาพที่บอดี้การ์ดเห็นถ้าในเวลาปกติคงเหมือนเจ้าบ่าวอุ้มเจ้าสาว แต่ในตอนนี้พวกเขามองเห็นเพียงภาพอสูรร้ายในร่างเจ้าชายกำลังอุ้มเจ้าหญิงที่หลับสนิทไปยังหอคอยเพื่อกักขังไว้ในนั้นตลอดกาล
“ฉันบอกเธอแล้วนะพราวนภา ว่าเธอจะต้องรับผิดชอบทุกอย่างในสิ่งที่เกิดขึ้น”