ตอนที่11

3041 Words
ก๊อกก๊อกๆ "เชิญค่ะ" "พี่แก้ม" "หือ แค่ศิมาทานมื้อเช้าด้วยต้องยิ้มหน้าบานมาขนาดนี้เลย" กวิสราเอ่ยแซวเมื่อเห็นว่าใครที่เข้ามาในห้องตรวจ  "ไม่ใช่เรื่องศิที่ทำให้นินยิ้มแบบนี้ค่ะ พี่แก้ม อุ๊ย คันปากต้องเล่า พี่รู้มั้ยตอนนี้พี่เกมส์กับคุณพายก้าวหน้าไปถึงขนาดสั่งอาหารเช้าไว้รอกันเลยนะคะ แถม มีเบอร์ติดต่อกันแล้วด้วย ที่สำคัญเมื่อเช้าคุณพายโทรตามพี่หมออีกต่างหาก พี่แก้ม สนิทขนาดไหนแล้วคะแบบนี้" "จริงเหรอคะ แล้วนินรู้ได้ไงว่าคนที่โทรมาเป็นคุณพาย" "จะไม่รู้ได้ไงคะก็ตอนคุณพายเธอโทรมาน่ะพี่เกมส์รับสายถึงจะไม่ได้เปิดลำโพงแต่เสียงมันก็พอจับใจความได้ แล้วนินนั่งข้างพี่เขา เธอเรียกแทนตัวว่าพายแถมพี่หมอยังแทนตัวเองว่าพี่ทุกคำเลย ไหนจะสั่งอาหารเช้าสองอย่าง นินก็เลยแซวว่าพี่หมอหิวมากเหรอสั่งไปสองถุง พี่เขาบอกมีคนสั่ง แล้วชาเขียวนะ สรุปคือสั่งมาเผื่อคุณพายนั่นแหละค่ะ" ชญานินเล่าด้วยอารมณ์ตื่นเต้นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่กับเหตุการณ์ที่พบเจอจะ ๆคาตา กวิสรามองน้องแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้ "ถ้าถึงขนาดนี้พี่เกมส์คงจริงจังแล้วล่ะ แต่นิสัยพี่เขาชอบทำตัวเหมือนไม่คิดอะไร แล้วยิ่งคุณพายเธอเป็นคนดังด้วยพี่เกมส์คงต้องคิดเยอะกว่า รู้แบบนี้พี่ก็ดีใจนะอย่างน้อยพี่สาวพี่ก็คิดจะเปิดประตูใจรับใครเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง เราคงต้องคอยลุ้นว่าคุณพายเธอจะยังไง" "นั่นสิคะ แต่เท่าที่นินเคยอ่านประวัติหรือความชอบส่วนตัว เธอก็ไม่เคยแอนตี้ความรักเพศเดียวกัน แถมเพื่อนสนิทสองคนยังแต่งงานกับผู้หญิงด้วยกันอีก งานนี้เราน่าจะลุ้นขึ้นนะคะพี่แก้ม พี่หมอน่ะดูอบอุ่นเป็นผู้ใหญ่ ใครอยู่ใกล้ก็เหมือนมีคนดูแล อืม คุณพายเธอเป็นลูกคนสุดท้องด้วย คนทั้งบ้านก็คงโอ๋เอาใจพอสมควร เธออาจจะติดความเอาแต่ใจหรือขี้อ้อนนิด ๆ ก็ได้ พี่เกมส์ชอบคนขี้อ้อนไม่ใช่เหรอคะ" กวิสราพยักหน้ายิ้ม "คุณพายเธอคงจะมีอะไรในตัวที่ดึงดูดพี่หมอบ้างแหละค่ะ ไม่งั้นคงไม่เดินหน้าขนาดนี้ นินก็รู้ว่าพี่เขาชอบคนยากจะตาย" "ขั้วบวกขั้วลบมาเจอกัน คิก ๆ ก็เลยสปาร์ค นี่พี่แก้ม สมมุติว่าสองคนนี้สมหวังจนได้แต่งงานกันนะ เหตุการณ์ที่พี่หมอโฉบรับช่อดอกไม้ตอนนั้นมีใครถ่ายคลิปเอาไว้ทันมั้ย น่าเอาไว้เปิดงานแต่งพี่เขามาก ๆ เลยค่ะ ใครจะรู้ว่าจากเหตุบังเอิญสองคนนี้จะมาสนิทกันได้แบบวันนี้" กวิสราหัวเราะเบา ๆ กับสิ่งที่น้องพูด "มีนะ ก็ตากล้องที่ตามเก็บภาพในคืนนั้นแหละ เขาถ่ายได้ พี่กับปัณก็ยังเปิดดูอยู่ แล้วนินลืมอะไรไปหรือเปล่า ว่าหนึ่งในนั้นคนที่รับช่อดอกไม้ได้อีกคนคือน้องศิ" คำทักของรุ่นพี่ก็ทำเอาคนฟังอึ้งใบหน้าเหวอจนพี่ต้องกลั้นขำ มัวแต่เชียร์คนอื่นคงลืมเรื่องตัวเอง "เมื่อไหร่จะชัดเจนกันสักที ลูกพี่จะขวบแล้วนะ" ชญานินมองหน้าคนแซวที่ยังคงยิ้มด้วยสายตาล้อกันอยู่ "ก็นินยังไม่มั่นใจนี่คะ ว่าศิเขาคิดยังไง อีกอย่าง พี่ก็รู้นินไม่เคยรู้สึกอะไรกับผู้หญิงด้วยกันมาก่อน มันก็เลยแบบ อืม จะว่ายังสับสนตัวเองอยู่ก็ได้ค่ะ" "เอาเถอะ ถ้ายังไม่มั่นใจก็เป็นเพื่อนไปแบบนี้แหละค่ะ ถ้าเมื่อไหร่ที่รู้สึกว่าหวงเขาเกินเพื่อนค่อยมาบอกพี่" ชญานินยิ้มขำกับคำพูดนั้น "ขอบคุณค่ะ งั้นนินไปทำงานดีกว่า" กวิสราพยักหน้ายิ้มให้ เพราะอีกไม่กี่นาทีก็ถึงเวลาทำงานของพวกเธอแล้ว     พิชญากรมองมือถือตัวเองแล้วก็ต้องแอบถอนหายใจเล็ก ๆ เมื่อตอนนี้มีแอฟหนึ่งแจ้งเตือนเพื่อนใหม่เด้งขึ้นมา บ้าจัง เผลอโทรหาพี่เขาจนได้ "หิวเหรอคะหน้ายุ่งเชียว" "พี่หมอ?" "คะ?" กนิษฐาวางของลงที่โต๊ะแล้วมองคนที่เรียกค้างไว้ ก่อนที่อีกฝ่ายจะส่ายหน้าเล็กน้อย "เปล่าค่ะ นั่นถุงอะไรคะ" นิ้วชี้ไปที่ถุงกระดาษใบหนึ่ง "อ้อ เสื้อกีฬาที่น้องเขาฝากมาให้เซ็นต์น่ะ พอดีพ่อเขายุ่งพี่ก็เลยอาสาถือขึ้นมาให้ พายจะเซ็นต์เลยก็ได้ เดี๋ยวตอนเย็นเขามาเอา" พิชญากรจึงหยิบถุงไปเปิดดูภายในก็เห็นเป็นเสื้อกีฬาสองตัวสภาพค่อนข้างใหม่ "น้องเขาเป็นนักกีฬาโรงเรียนเหรอคะ"  "พี่ก็ไม่รู้อะไรมากนะเคยได้ยินแต่พ่อเขาพูดว่าไผ่ชอบเล่นกีฬาน่ะ" "มีเสื้อบาสกับเสื้อบอลค่ะ" กนิษฐามองเสื้อในมือของพิชญากรมือก็จัดการแกะข้าวต้มกับโจ๊กใส่ชามเตรียมไว้ให้ เสร็จแล้วก็เดินไปหยิบแก้วมาเทน้ำเปล่ารอคนที่แจกลายเซ็นต์ พิชญากรปรายตามองชามสองใบ "มีโจ๊กด้วย น่ากินจังค่ะ เออ พี่หมอสั่งของพวกนั้นมาใหม่เหรอคะ" พิชญากรชี้ไปบนชั้นที่ตอนนี้มีของมาเพิ่มจากเมื่อวานจนสังเกตุได้ "ค่ะ สั่งมาเผื่อคุณอยากจะทำไปให้ทีมงานได้ดื่มกันด้วยน่ะ" "ขอบคุณนะคะ ไม่เห็นต้องลำบากเลยแค่นี้ก็เกรงใจแล้ว" "ไม่ลำบากหรอกค่ะ ของมันไม่เน่าเสียง่าย ๆ" สายตาหวานช้อนขึ้นมองคนพูด "ใจดีจังนะคะ" กนิษฐาหลุดยิ้ม ไม่รู้โดนชมหรือโดนเหน็บ "กับบางคนเท่านั้นแหละค่ะ" จึก อีกแล้วนะชอบทำให้ใจเต้นเรื่อยเลย ริมฝีปากสวยเผลอกดเม้มเข้าหากัน ก่อนที่จะทำทีพับเสื้อเข้าเก็บใส่ถุงให้เรียบร้อย แต่ทุกอาการมันอยู่ในสายตาคนเป็นพี่ตลอด คุณหมออมยิ้มอย่างพอใจ "ทานได้แล้วค่ะ เย็นมากจะไม่อร่อย" ชามข้าวต้มที่ยังมีไอควันลอยให้เห็นจาง ๆ ถูกยื่นมาให้ตรงหน้า แต่สายตาของน้องกลับจ้องไปที่ชามอีกใบที่มีหมูสับก้อนกลมหลายก้อนปนอยู่ในโจ๊ก และตอนนี้กนิษฐากำลังจะเทเครื่องปรุงลงใส่ "พี่หมอ อยากกินอันนั้น" "หืม โจ๊กนี่เหรอคะ" คุณหมอเลิกคิ้วถาม ก่อนจะหลุดยิ้มด้วยความเอ็นดูเมื่อได้ยินคำตอบ "เปล่า อยากกินหมูสับค่ะ ขอชิมหน่อย" กนิษฐาจึงยกชามโจ๊กไปใกล้ เรียกรอยยิ้มเหมือนเด็กได้ของถูกใจ "ระวังค่ะมันยังร้อนอยู่" เมื่ออีกคนตักหมูสับก้อนกลมขึ้นมาจะใส่ปากคนพี่เลยต้องรีบเตือน พิชญากรชะงักก่อนจะยิ้มแหยแล้วค่อย ๆ เป่าสักพัก "อร่อยมั้ย" "อร่อยค่ะ นุ่มแล้วก็เด้งเหมือนกับโจ๊กเจ้าดังเลย" ใบหน้าสวยพยักหน้าชมออกมาให้ได้ยิน กนิษฐาระบายยิ้มบาง "เปลี่ยนใจมั้ย จะกินโจ๊กหรือกินข้าวต้ม" คำถามพาให้คนสวยมองอาหารเช้าสองอย่างด้วยสายตาลังเล ก็มันน่ากินทั้งสองอย่างนี่นากลิ่นหอมยั่วน้ำย่อย ข้าวต้มปลาก็น่ากินเหมือนจะเป็นเนื้อปลากระพงซะด้วย คุณหมอกลั้นยิ้มเอาไว้ไม่ไหวจริง ๆ "งั้นทานด้วยกันค่ะ" คำตัดสินของพี่ก็ทำให้น้องแย้มยิ้มออกมาทันที "คุณปรุงข้าวต้มพี่จะปรุงโจ๊ก แล้วทานเผ็ดหรือเปล่าคะ" "ไม่เผ็ดมากค่ะ" "แล้วขิงล่ะ ใส่มั้ย" พิชญากรพยักหน้า มือก็จัดการปรุงข้าวต้มของตัวเองไปด้วย ไม่นานอาหารสองอย่างก็ถูกเลื่อนมาวางตรงหน้าให้ทั้งคู่ได้ลงมือ "มื้อนี้เท่าไหร่คะพายจะจ่ายเอง" กนิษฐามองคนถามพลางยิ้มเล็ก ๆ "ไม่เป็นไรหรอกแค่ร้อยเดียวเอง มีน้ำเต้าหู้ด้วยนะ" "ไม่เป็นไรไม่ได้ค่ะเมื่อวานพี่หมอก็จ่ายไปแล้ว เพราะฉะนั้นเปลี่ยนกันค่ะ" สีหน้าจริงจังของดาราสาวทำให้คุณหมออดยิ้มไม่ได้ "โอเคค่ะ มื้อเช้าคุณจ่าย" นั่นแหล่ะรอยยิ้มแสดงความพอใจถึงผุดขึ้นบนใบหน้าสวย "พี่หมอทำงานที่นี่นานแล้วเหรอคะ" "ก็ตั้งแต่เรียนจบใหม่ ๆ พอใช้ทุนเสร็จก็มาทำงานที่นี่เลย ถึงปีนี้ก็แปดปีแล้วค่ะ" "ที่นี่เขาคัดหน้าตาแพทย์พยาบาลหรือเปล่าคะ" หึ ๆ  "ทำไมคะ ก็รับสมัครตามเกณฑ์ความรู้ความสามารถปกตินั่นแหละค่ะ ไม่เกี่ยวกับหน้าตาหรอก" กนิษฐาตอบทั้งยิ้มขำกับสิ่งที่น้องถามมา "ก็เห็นมีแต่คนหน้าตาดีเยอะ เลยนึกว่าคัดหน้าตาเข้ามาทำงาน" กนิษฐายิ้มแล้วส่ายหน้าเล็ก ๆ เสียงฝีเท้าที่ดังเป็นจังหวะใกล้เข้ามาบ่งบอกว่ามีคนกำลังตรงมาทางนี้ ไม่นาน "สวัสดีครับสาว ๆ" นนทวัชร์เอ่ยทักทายออกไปด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เขาได้ยินเสียงคุยกันแว่ว ๆ อยู่ก่อนแล้ว จะว่าตั้งใจมาขัดก็ไม่เชิงหรอก แค่มาดูให้แน่ใจเท่านั้น "สวัสดีค่ะคุณหมอ" พิชญากรทักกลับพร้อมยิ้มให้คุณหมอหนุ่ม กนิษฐาเพียงแค่ยิ้มรับออกไปเท่านั้น "ถ้าคุณพายมาถ่ายละครที่นี่ทุกวันหมอเกมส์คงเจริญอาหารนะครับเนี่ย" นนทวัชร์เอ่ยขึ้นมายิ้ม ๆ เมื่อมองเห็นชามสองใบที่อาหารพร่องไปจนเกือบหมดแล้ว "ทำไมคะ หรือปกติพี่หมอทานข้าวไม่ได้" "ปกติผมไม่ค่อยเห็นหมอเขาทานข้าวเช้ามากกว่าครับ นอกจากโกโก้แก้วนึงกับพวกขนมปังง่าย ๆ สักชิ้น" สายตาหวานหันมามองคนเป็นพี่ทันที คิ้วสวยขมวดเล็กน้อย "ทานแค่นั้นมีแรงตรวจคนไข้เหรอคะ" นนทวัชร์ถึงกับต้องกลั้นยิ้มเอาไว้ ก่อนทำทีเดินไปหยิบแก้วชงกาแฟ แต่หูก็คอยเงี่ยฟังไปด้วย "พี่ไม่ได้อดอาหารนี่คะ ก็ทานให้ได้พลังงานเพียงพอนั่นแหละ" พิชญากรส่ายหน้าช้า ๆ  "แค่นั้นจะไปพออะไรคะ ขนาดพายเป็นนักแสดงที่ต้องคุมน้ำหนักยังต้องทานเยอะกว่านั้นเลย อาหารที่นี่ก็อร่อยดีนี่คะทำไมถึงไม่ชอบทานข้าวเช้าล่ะ" กนิษฐาปรายตาไปมองตัววางเพลิงเล็กน้อยก็ทันได้เห็นรอยยิ้มขำของหมอหนุ่ม "คนโสดก็แบบนี้แหละครับคุณพาย ไม่ค่อยดูแลตัวเองเท่าไหร่หรอก เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่าว่าแต่หมอเกมส์เลย แต่พอมีครอบครัวโดนบังคับด้วย อีกอย่างพอมีครอบครัวเราก็รู้สึกรักตัวกลัวตายมากขึ้น เพราะอยากจะอยู่กับคนที่เรารักนาน ๆ" นี่ผมช่วยแล้วนะหมอ ไม่ได้มาวางเพลิงอย่างเดียว นนทวัชร์พูดออกไปทั้งยังยิ้มไม่หุบ แต่เหมือนคำพูดเขาจะมีเอฟเฟคสะท้อนนิดหน่อย  "พี่หมอไม่รักตัวเองเหรอคะ" "ก็รัก หมอนนท์ก็พูดเกินจริงพี่ไม่ได้อดจนขาดสารอาหารสักหน่อย นี่ไงคะก็ทานจนหมด" "แล้ววันอื่นพี่จะทานอะไรมากกว่าขนมปังไม่กี่แคลอรี่นั่นหรือเปล่า" กนิษฐาหลุดยิ้มกับคำถาม "เป็นห่วงพี่เหรอคะ" อื้อหือ นี่คือวิธีจีบสาวของหมอเกมส์ใช่มั้ยนี่ นนทวัชร์อมยิ้ม ลืมไปหรือเปล่าว่าเขายืนหัวโด่คนกาแฟอยู่ตรงนี้ "ปะ เปล่าซักหน่อย ห่วงคนไข้พี่หมอหรอก เป็นหมอไม่รักษาดูแลสุขภาพตัวเองดี ๆ แล้วคนไข้จะพึ่งพาได้ยังไงละคะ" ใบหน้าสวยกำลังร้อนผ่าวขึ้นมากับคำพูดและรอยยิ้มของคนตรงหน้า  "แล้วไม่คิดว่าหมอก็ต้องการคนดูแลบ้างหรือไงคะ" โอ้ บระเจ้า เหมือนกำลังดูฉากรักในละครที่พระเอกกำลังจีบนางเอกเลย นนทวัชร์อยากจะถ่ายคลิปไปแจกน้อง ๆ ดูซะจริง ๆ หมอเกมส์นี่ก็ไม่ธรรมดาเห็นเงียบมานานหึ ๆ เล่นเอาคุณนางร้ายคนสวยอายม้วนไปเลย "พี่ก็หาสิคะ จะมาบอกพายทำไม" "ก็คุณทำให้พี่อยากทานอาหารเช้าอย่างที่หมอนนท์พูดนั่นแหละค่ะ" พี่หมอน่ะ พูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ เห็นเธอเป็นวิตามินเสริมหรือไงที่เห็นหน้าแล้วจะนึกอยากอาหารน่ะ  "อะแฮ่ม งั้นก็ฝากดูแลอาหารการกินของหมอหน่อยนะคุณพาย ผมขอตัวไปเช็คน้ำตาลในเลือดก่อนนะครับ" นนทวัชร์รีบบอกขอตัวก่อนที่เขาจะอดปากไม่ได้แซวให้นางร้ายคนสวยอายไปมากกว่านี้ หมอเกมส์น่ะร้าย  สองสาวมองตามหลังหมอหนุ่มออกไปด้วยความรู้สึกต่างกัน กนิษฐานั้นหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่คนเป็นน้องยังคงไม่รู้จะวางหน้ายังไง "ดื่มค่ะเพื่อสุขภาพ น้ำเต้าหู้มีประโยชน์นะ" แก้วอีกใบที่ถูกยกมาวางให้ตรงหน้า พิชญากรมองคนที่ยังมีรอยยิ้มส่งมาให้ นี่กำลังโดนพี่เขาเอาคืนหรือเปล่า ก็เผลอไปดุพี่เขาเรื่องดูแลสุขภาพแบบนั้น "วันนี้ไม่ดื่มโกโก้แล้วเหรอคะ" "เอาไว้ตอนบ่ายค่ะ เช้านี้อิ่มแล้ว" พิชญากรพยักหน้าเพราะตัวเองก็อิ่มเหมือนกัน "ปกติพี่หมอพักกลางวันกี่โมง" "ถ้าไม่ติดเคสคนไข้ฉุกเฉินก็ประมาณเที่ยงครึ่งหรือเที่ยงสี่สิบค่ะ จะมาทานมื้อเที่ยงกับพี่เหรอคะ" คำถามพร้อมรอยยิ้มเย้าถูกส่งออกไปให้คนฟัง ยู่จมูกใส่อย่างนึกหมั่นไส้ "ถามเฉย ๆ ค่ะ ถ้าว่างเดี๋ยวจะมาชงเครื่องดื่มให้แทนค่าชาเขียวที่สั่งมาวันนี้นะคะ" "งั้นก็ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ เย็นนี้จะกลับพร้อมพี่หรือเปล่า ถ้าจะอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกันก็ส่งข้อความบอกเมนูอาหารมาแล้วกันเดี๋ยวพี่โทรสั่ง" "พายยังไม่รู้เลยที่นี่มีอะไรขายบ้าง" "ไว้พี่ส่งรายการร้านอาหารให้ดูก็ได้ค่ะ" ริมฝีปากสวยระบายยิ้มออกมาพร้อมคำขอบคุณ ก่อนที่จะช่วยกันจัดการล้างถ้วยชามแล้วแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป พิชญากรกลับไปยังห้องประชุมที่ถูกใช้เป็นห้องพักกองของทีมงาน "ไปทานอะไรมาคะ" นริสนันท์เอ่ยถามน้องที่เดินมานั่งลงข้าง ๆ "ข้าวต้มกับโจ๊กค่ะ ไม่ได้บ้านใกล้เหมือนพี่แนนที่ตื่นสายใช้เวลาเดินทางสิบนาทีก็ถึง" คำตอบปนแซะเล็กน้อยทำให้นริสนันท์หลุดขำก่อนจะแกล้งมะเหงกใส่หน้าผากน้องไปทีหนึ่ง บ้านเธออยู่ในโซนนี้พอดีก็เลยโชคดีไปไม่ต้องรีบออกเดินทางมาแต่เช้าเหมือนหลาย ๆ คน "ก็น้องสาวมีคนทานอาหารด้วยทั้งเช้าเย็นแล้วพี่เลยไม่ต้องห่วงรีบตื่นห่อข้าวมาทานเป็นเพื่อนไงคะ นาน ๆ จะได้นอนเต็มตื่นแบบนี้บ้าง" "แบบนี้เขาเรียกว่าละเลยหน้าที่ ว่าที่พี่สะใภ้ที่ดีหรือเปล่าคะ ทิ้งน้องเพราะห่วงนอน" นางเอกสาวหัวเราะเบา ๆ "อืม อันนี้ยอมรับค่ะ" สองสาวยังคงคุยเล่นกันไปรอทีมงานที่ไปจัดฉากเรียก "นี่ ๆ ทุกคนได้เข้าไปดูเพจละครมั้ยคะ ตอนนี้กำลังมีคนพูดถึงมากเลยนะตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว" เจ๊เชอรี่หัวหน้าทีมคอสตูมประจำกองพูดขึ้นมา "เออใช่ ๆ หนูก็เห็นคนเข้าไปคอมเมนต์ถามเยอะเลยเจ๊ แล้วล่าสุดเหมือนจะมีหมอที่นี่ไปตอบคอมเมนต์แล้วนะคะ" "พูดถึงคอมเมนต์อะไรกันคะพี่นุ้ย" พิชญากรถามขึ้นบ้าง  "ก็ในเพจละครของเราค่ะ ตอนนี้มีคนแห่เข้ามาคอมเมนต์ถามกันใหญ่เลยว่าคนที่แสดงเป็นอาจารย์หมอที่คุยกับนางเอกเราในฉากน่ะเป็นใคร เมื่อวานพี่หวานแกโพสต์รูปลงอัพเดตว่าละครฉากแรกเริ่มถ่ายแล้ว ลองเข้าไปดูสิคะ คอมเมนต์หลายร้อยแล้วนะ นี่คุณหมอเธอจะรู้ตัวมั้ยว่าในโลกโซเชียลกำลังพูดถึงคุณหมอมากเลยตอนนี้" พิชญากรกับนริสนันท์จึงคว้ามือถือขึ้นมากดเข้าไปในเพจละคร คอมเมนต์ถามตอบโต้มากมายหลายร้อย และส่วนมากจะเป็นทำนองคำแซวว่า หมอสวยบอกต่อ หรือ อยากลาป่วยทันทีที่เห็นหน้าหมอ เธอไล่ขึ้นไปอ่านคอมเมนต์แรก ๆ ที่เป็นต้นตอ "คนที่แสดงเป็นอาจารย์หมอในฉากคู่กับนางเอก เป็นดาราใหม่เหรอคะพี่หวาน สวยจัง ชื่ออะไรเหรอคะ" และจากนั้นก็มีคอมเมนต์เข้ามาถามแบบเดียวกันอีก ก่อนที่จะมีหนึ่งในทีมงานเข้าไปตอบ "เป็นคุณหมอในโรงพยาบาลจริง ๆครับ โรงพยาบาลนี้เจ้าหน้าที่สวยหล่อเยอะมากครับผม เจริญหูเจริญตามากครับ อิอิ" พิชญากรหลุดยิ้มออกมากับข้อความนี้เหมือนจะมีคนมากดถูกใจเกินร้อยไปแล้ว ก่อนจะไล่อ่านผ่านไปจนเจอคอมเมนต์หนึ่งที่รูปเจ้าของโปรไฟล์เป็นผู้ชายสวมเสื้อกาวน์ "Chaiwat_@ton: คุณหมอที่อยู่ในภาพคู่กับคุณแนน เป็นอาจารย์แพทย์ครับ ชื่อ ดร.พญ.กนิษฐา พัฒนหิรัญ แพทย์เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและสมอง เป็นขวัญใจของเหล่านักศึกษาแพทย์อย่างพวกเราด้วยครับ" ข้อความพร้อมสติกเกอร์รูปหัวใจต่อท้ายทำให้ยอดกดไลค์ร่วมสามร้อยกว่าไปแล้วตอนนี้ "คุณหมอเลยดังชั่วข้ามคืนอย่างพี่หวานพูดจริง ๆ ด้วย" นริสนันท์พูดขึ้นมาพลางยิ้มขำไปด้วย "นั่นสิคะ แถมเป็นขวัญใจของนักศึกษาแพทย์อีกต่างหาก" "แล้วคนที่พร่ำเพ้อชื่นชมคุณหมอเป็นร้อยเขาจะรู้มั้ยนี่ว่านางร้ายแถวหน้าของเมืองไทย ได้เดทกับคุณหมอขวัญใจของพวกเขาน่ะฮึ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD