รักลับ : EP9

1950 Words
หลายวันต่อมา ฉันยังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม และป้าฉันก็ขายข้าวเหมือนเดิม หยุดพักแค่วันเดียวเท่านั้นเอง แต่ท่านก็ดูแข็งแรงเป็นปกติดีแล้วแหละ “ขึ้นรถเลยครับ” เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่มาวอแว เขาก็ทำตามคำพูดของเขาจริง ๆ นะ คือมารับมาส่งตลอด เพียงแต่ว่าเขาจะมาช้าไปสักนิด เนื่องจากต้องไปทำความสะอาดตึกอะไรของเขาก็ไม่รู้ ฉันเปิดประตูขึ้นนั่งประจำที่ แต่วันนี้รู้สึกเบาะเปลี่ยนไป เหมือนมันถอยไปทางข้างหลังเยอะ “นี่ใครนั่ง” ฉันหันไปถามเจ้าของรถ ก็รู้นะว่าไม่ได้มีสิทธิ์อะไร มันรถเขา เขาจะให้ใครนั่งก็ได้ แต่ที่ถามก็เพราะว่าถ้าเป็นแฟนเขา ฉันจะได้ไม่ต้องไปไหนด้วยอีก กลัวจะโดนรุมตบเอาน่ะ “เพื่อนพี่ ไอ้ณัฐมันนั่ง ตอนที่เข้าไปทำความสะอาดตึกอะแหละ มันขี้เกียจขับเองเลยติดรถพี่ไป แล้วก็ติดรถออกมาอีกที” เขาตอบกลับ คำพูดและน้ำเสียง น่าเชื่อถือพอสมควร ก็โอเค ถือว่าผ่านได้ ไม่มีอะไรต้องเซ๊าซี๊ถามต่อ “ไอ้ณัฐมันสูงพอ ๆ กับพี่นี่แหละ ขามันยาวต้องปรับให้ถอยไปหน่อย” “นี่! พี่อิฐ!” ฉันเอ่ยออกมาด้วยความตกใจ เมื่อเขาพูดพร้อมกับขยับเข้ามาปรับเลื่อนเบาะให้ ฉันดันไหล่เขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล หนำซ้ำเจ้าเบาะนี่ดันปรับยากอีก ฉันคอยหันซ้ายหันขวาเพื่อที่จะดูว่ามีใครมองเข้ามาหรือเปล่า “อะ เสร็จละ” ได้ยินเขาบอกแบบนั้นฉันก็พ่นลมออกจากปากอย่างโล่งใจ ทีหลังฉันจะไม่ถามอีกแล้ว! เขาขับรถมาส่งฉันที่แถวบ้านเหมือนทุกวัน และแน่นอนว่าก่อนลงฉันก็ไม่ได้หันไปขอบคุณเหมือนเดิม ฉันเดินต่อมาอีกหน่อยจนถึงบ้าน สองขาหยุดชะงักด้วยความตกใจจากภาพตรงหน้า สิ่งแรกที่ฉันนึกถึงในตอนนี้คือพี่อิฐ! ฉันหันไปมองที่รถเขา แต่เขากำลังกลับรถแล้ว ฉันจึงรีบวิ่งไปหา “พี่อิฐ... พี่อิฐ” ทั้งวิ่งทั้งตะโกน โชคดีที่เขาคงมองผ่านกระจกมาเห็น ถึงได้จอดรถ “มีอะไร...” เขาลดกระจกลงแล้วเอ่ยถาม หัวคิ้วของเขาย่นเข้าหากัน คงสงสัยว่าทำไมฉันถึงวิ่งมาแบบนี้ “ป้า ป้าบัวนอนอยู่ที่พื้น พี่อิฐไปช่วยหน่อย” ภาพที่ฉันเห็นคือป้าของฉันนอนอยู่ที่พื้น ไม่ใช่การนอนหลับพักผ่อนตามประสาแน่ เพราะท่านคงไม่มานอนอยู่แบบนั้นหรอก พี่อิฐไม่พูดไม่ถามอะไรต่อ เขาถอยรถไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบเข้าไปในบ้าน ฉันวิ่งตามเขามา แต่พอมาถึงบ้าน พี่อิฐก็อุ้มป้าฉันออกมาแล้ว ฉันจึงรีบเปิดประตูเบาะหลังให้พี่อิฐได้ประคองป้าฉันให้นั่งลง “น่าจะเป็นลม” พี่อิฐพูดขึ้นมา แล้วให้ฉันนั่งประคองป้าที่เบาะหลัง เขารีบพามาส่งที่โรงพยาบาลเค และพูดคุยกับคุณหมอให้เอง ซึ่งก็คือความดันป้าฉันขึ้นสูง แล้วหน้ามืดเป็นลมไป “ป้าไม่เป็นอะไรแล้วน่า” พี่อิฐเดินมาลูบศีรษะฉันอย่างอ่อนโยน “...” ฉันไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เงยหน้าขึ้นมองหน้าเขา ดวงตาของฉันเต็มไปด้วยน้ำสีใสที่คลออยู่ “ขี้แง” เขาแซวอย่างยิ้ม ๆ แต่รอยยิ้มของเขาทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก “ขอบคุณมากนะ ขอบคุณที่ไปช่วยป้า ขอบคุณที่พามา ถ้าไม่มีพี่อิฐ เบสท์คงทำอะไรไม่ถูกแน่ ๆ” ฉันจับมือเขาที่วางอยู่บนศีรษะของฉันลง แล้วกุมมือของเขาไว้ “มาบทซึ้ง ทำตัวไม่ถูกนะเว้ย” เขาดูเก้ ๆ กัง ๆ ทำตัวไม่ถูกอย่างที่เขาว่านั่นแหละ “ว่าแต่โทรบอกแม่หรือยัง” เขาถามต่อ “เออ ลืม” จริงสิ ฉันมัวแต่ตกใจจนลืมโทรบอกทุกคนเลย “โทรไปได้แล้ว” ฉันพยักหน้ารับแล้วกดต่อสายหาแม่ บอกให้แม่รับรู้ซึ่งท่านจะมาในวันพรุ่งนี้ ก็เหลือแต่พี่โบ๊ทที่จะต้องโทรบอก แต่ถ้าโทรตอนนี้พี่อิฐก็อาจจะสงสัยได้ “พี่อิฐกลับไปก่อนก็ได้ เบสท์จะอยู่เฝ้าป้า” ฉันวางสายจากแม่แล้วก็หันไปบอกพี่อิฐ “ไม่กลับด้วยกันเหรอ เบสท์จะอยู่นี่เหรอ” เขาถามย้ำ เหมือนไม่อยากให้ฉันอยู่ “ใช่ค่ะ เบสท์อยู่ได้ ไม่ต้องห่วงนะ” “พูดเพราะอีก ขนลุกหมดแล้วเนี่ย” เขาทำหน้าทะเล้นอีกทั้งยังลูบแขนตัวเอง “ฮ่า ๆ กลับไปได้แล้ว” “อะ ๆ ไปก็ได้ ถ้ามีอะไรเร่งด่วนก็โทรมานะ เดี๋ยวจะรีบมาหา” “ค่ะ ขอบคุณมากนะ” “ครับ” เขาเดินออกไป ฉันมองแผ่นหลังเขาจนลับสายตา แล้วเผลอยิ้มออกมา ไม่รู้สิ เขาดูอบอุ่น อบอุ่นมาก อยู่ด้วยแล้วรู้สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและอ่อนโยนของเขา -พี่ชาย- พอพี่อิฐกลับออกไปฉันก็รีบโทรหาพี่โบ๊ท แต่สัญญาณเรียกจนสายตัด เขาก็ไม่รับสาย มันไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ถ้าเขารับนั่นแหละแปลก... LINE -BOAT- BEST : พี่โบ๊ทคะ BEST : ป้าเป็นลม ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลนะคะ ฉันกดส่งไลน์ไปแทน เผื่อว่าเขาจะเห็นแล้วจะตอบกลับบ้าง ซึ่งก็ได้ผลจริง ๆ ด้วย แต่เขาไม่ได้พิมพ์ตอบมาหรอกนะ เขาโทรมาเลย -พี่ชาย- “ฮัลโหล” ฉันรีบกดรับสายในทันที “ป้าบัวอยู่โรงพยาบาลไหน โรงพยาบาลเคหรือเปล่า” น้ำเสียงของพี่ชายฉันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อย่างว่า เขารักป้าบัวของเขามาก ไม่ต่างอะไรจากฉันเลย “ใช่ค่ะ” ตอบกลับไปปุ๊บ พี่โบ๊ทก็วางสายปั๊บ ไม่ได้รอฟังอะไรทั้งนั้น ฉันมองหน้าจอแล้วถอนหายใจออกมาหนัก ๆ เมื่อไหร่นะที่เขาจะยอมรับฉันเป็นน้องสาว ไม่ห่างเหินกันแบบนี้ ฉันลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ เตียงของป้า กะว่าอีกสักพักก็จะลงไปหาข้าวกิน เพราะตอนนี้ท้องเริ่มร้องประท้วงแล้ว แต่จะทิ้งป้าอยู่เพียงลำพังก็ทำไม่ได้ ฉันเลยกะจะรอให้พี่โบ๊ทมาถึงก่อน แกร๊ก เสียงประตูห้องถูกเปิดออก ฉันหันไปก็เห็นว่าเป็นพี่ชายฉันนั่นเอง เขาเดินเข้ามาพร้อมกับพี่ผู้หญิงอีกคนหนึ่ง หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มมากเลยทีเดียว ถ้าบอกว่าเป็นแฟนกันก็ไม่ติดอะไรเลย ดูเหมาะสมกันมาก ๆ “หวัดดีค่ะ” ฉันมัวแต่ชื่นชมความน่ารักของพี่สาวคนนั้น เลยลืมที่จะทักทายทั้งสองคน เมื่อตั้งสติได้ก็เลยรีบยกมือขึ้นไหว้ พี่โบ๊ทเมินฉันอีกตามเคย เขาเดินอ้อมไปอีกฝั่งเพื่อที่จะหาป้า ขนาดพี่คนนั้นที่มาด้วยกันยังมองพี่ชายฉันด้วยความงง ว่าทำไมเขาถึงเมินฉันแบบนี้ แต่พี่สาวหันมายิ้มหวาน ๆ ให้ฉัน ก่อนจะเอ่ยทักออกมา “หวัดดีจ้ะ น้อง...” “เบสท์ค่ะ เป็นน้องสาวของพี่โบ๊ท” ฉันแนะนำตัวเอง “เป็นน้องสาว...” พี่เขาดูงง ๆ กับสถานะของฉัน เธอหันไปมองหน้าพี่โบ๊ทราวกับว่ากำลังจะถามอะไรบางอย่าง พี่โบ๊ทพยักหน้ายืนยันความสัมพันธ์ของฉันกับเขา แต่ก็แบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่อะนะ “พี่ชื่ออะไรเหรอคะ” ฉันถามพี่สาวตรงหน้า “ณิชาจ้ะ” เธอยิ้มแย้มตลอด ดูเป็นคนน่ารักและสดใสดีจัง ฉันอยากจะสดใสให้ได้สักครึ่งหนึ่งของพี่ณิชา “กินอะไรหรือยัง” พี่ณิชาถามต่อ ฉันจึงส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ “โบ๊ทพาน้องลงไปกินข้าวสิ” พี่ณิชาเลยหันไปพูดกับพี่โบ๊ท น้ำเสียงของเธอเหมือนจะออกแนวสั่งเลยแหะ ขนาดพี่โบ๊ทยังรู้สึกได้ เขาถึงได้เงยหน้าขึ้นมาอ้าปากค้าง ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “ใช่ ไปสิ พาน้องไปกินข้าว” พี่ณิชาย้ำคำเดิม “แต่...” “ไม่มีแต่” “โอเค” ดีจังแหะ ออกคำสั่งพี่โบ๊ทได้ด้วย ฉันนั่งยิ้มแป้นด้วยความดีใจ ถ้าได้เจอพี่ณิชาบ่อย ๆ ก็คงดี พี่โบ๊ทเดินไปที่ประตู เขาปรายตามองฉัน ฉันก็เลยรีบลุกเดินตามเขาออกไป “พี่ณิชาเป็นแฟนพี่โบ๊ทเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามขึ้นมาขณะที่เรากำลังนั่งกินข้าวกันอยู่ที่ร้านอาหารของโรงพยาบาล “เปล่า” “อ้าว...” “กำลังจีบ” “อ๋อ” ฉันก็ว่าแล้วเชียว ว่าพี่ณิชาคงไม่ใช่แค่เพื่อน ไม่งั้นคงไม่พามาแบบนี้ และไม่สามารถสั่งพี่ชายฉันแบบนี้ได้แน่ ๆ ถ้าไม่สำคัญจริงอะนะ “ขอให้จีบติดนะคะ” สิ้นเสียงของฉันพี่โบ๊ทก็เงยหน้าขึ้นมองหน้าฉัน ด้วยสีหน้าที่สงสัยก่อนจะปริปากถามกลับมา “ทำไม? เธอชอบ?” “ค่ะ หน้าตาน่ารักดี เสียงยังน่ารักเลย” “ฮึ” สงสัยคำตอบของฉันจะถูกใจพี่โบ๊ท เขาถึงได้มีรอยยิ้มผุดขึ้นที่มุมปาก นับว่าเป็นครั้งแรกในรอบปี ที่ได้เห็นรอยยิ้มเล็ก ๆ ของเขาแบบนี้ “พี่จะยิ้มพี่ก็ยิ้มเถอะค่ะ ไม่ต้องเก๊กขรึม” “อย่าเยอะ ๆ” ฉันไม่น่าไปแซวเขาเลย จากที่ยิ้ม ๆ กลายเป็นหน้าโหด ๆ อีกแล้ว “ว่าจะถาม...” พี่ชายฉันเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง ฉันเลยมองหน้าเขานิ่ง ๆ รอฟังคำถาม “ใครพาป้ามาโรงพยาบาล” คำถามของเขาทำให้ฉันนิ่งไปกว่าเดิม ถ้าบอกว่าเป็นพี่อิฐ เขาคงโวยวายแน่ ๆ แต่... พี่อิฐเป็นคนช่วยนี่นา แล้วพี่โบ๊ทจะกล้าโวยวายเหรอ “เอ๊า ถามเนี่ย” พี่โบ๊ทเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง เพราะฉันเงียบไป ไม่ได้ตอบคำถามของเขา “คือ... รุ่นพี่ค่ะ รุ่นพี่พามา” “รุ่นพี่? เธอเรียนมอหก” เออใช่ ฉันเรียนม.6 แล้วใครจะเป็นรุ่นพี่อีกล่ะ อุตส่าห์ตอบเลี่ยง ๆ ก็โดนจี้ถามอีกจนได้ “แฟน?” “เปล่าค่ะ ไม่ใช่แฟน ไม่มีแฟน ไม่มีคนมาจีบ ไม่มีคนมายุ่งด้วยเลย ไม่...” “พอ ๆ ถามแค่นิดเดียว” ฉันยังไม่ทันได้แก้ตัวต่ออีก พี่โบ๊ทก็ขัดขึ้นมา จะว่าไป อาการฉันออกขนาดนี้ ถ้าเขาดูไม่ออกก็โคตรจะแปลกแล้วล่ะ “ฝากขอบคุณด้วยก็แล้วกัน” พี่โบ๊ทพูดต่อ “ค่ะ” ฉันยิ้มแป้นให้ แต่เขาก็หันหน้าหนี อีกทั้งลุกไปจ่ายเงินให้กับคนขายแล้วเดินนำลิ่วออกไป ฉันรีบยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม แล้วรีบวิ่งตามหลังพี่โบ๊ทไป เกือบจะไม่ทันแล้วเชียว! กลับขึ้นมาถึงห้อง พี่โบ๊ทก็ชะงักไม่เดินเข้าไปต่อ ฉันเลยหยุดยืนอยู่ข้างหลังเขาแล้วชะโงกหน้ามองเข้าไปด้านใน...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD