"พลาดได้ยังไง!!! แบบนี้พวกตำรวจมันก็ตามกลิ่นมาเล่นพ่องมึงตายห่ากันหมดอ่ะดิ ถุย...อีแค่งานกระจอกๆ ยังทำกันไม่ได้ พวกมึงจะเอาไรแดกกันเนี่ย ถ้าไม่มีกู"
หนุ่มร่างสูงเดินอาดไปมาด้วยความร้อนรนท่ามกลางเด็กหญิงชายหลายคนที่ยืนเรียงหน้ากระดานอยู่ตรงหน้าเขา ในห้องแคบๆ ที่เต็มไปด้วยสัมภาระมากมาย มืดทึบและอบอวลไปด้วยกลิ่นบุหรี่ มีเพียงแสงจากไฟนีออนหลอดเล็กเท่านั้นส่องสว่างให้ต่างก็เห็นว่าใครเป็นใครกันบ้าง
"แหม่...ลูกพี่ มันก็ต้องมีพลาดกันบ้างล่ะครับ ตำรวจเดี๋ยวนี้มันย้ายมาใหม่หลายคน ไม่ค่อยคุ้นหน้า พวกเราเลยไม่ทันระวัง ไม่นึกว่ามันจะล่อซื้อด้วยวิธีแบบนั้นด้วย"
"มึงน่ะตัวดีเลยไอ้อ้น " ชายที่ดูเหมือนเป็นผู้คุมสถานที่หันขวับกลับมาจ้องเขม็งคนพูด จนอีกฝ่ายรีบหลบหน้าถอยกรูด
"เอาน่าพี่...มาถึงขั้นนี้แล้วเราหาทางแก้กันดีกว่า ชักช้าเดี๋ยวจะโดนสอยกันทั้งแก๊ง" เด็กหนุ่มวัยไม่เกินสิบแปดอีกคนช่วยเสริม
"เออ! กูรู้ แล้วกูก็กำลังมีงานใหม่เข้ามาด้วย เงินดี...มากพอให้พวกเราแยกย้ายกันไปตั้งหลักสักพัก รอให้เรื่องที่ไอ้ปอกับไอ้ชัยถูกจับเงียบๆ ไปก่อน ให้แน่ใจว่าพวกมันไม่ลากใครเข้าไปติดแหด้วยเราค่อยกลับมารวมตัวกันใหม่"
คนพูดเดินวนมานั่งคร่อมเก้าอี้ไม้ คร่อมเข้าอี้แบบหันหน้าเข้าหาพนักพิงและกางศอกค้ำเอาไว้ สายตาเจ้าเล่ห์มองสำรวจบรรดาลูกสมุนทีละคน
"มึง...อีอาย มึงต้องรับหน้าที่นี้เลย"
"เอ่อ...ให้ทำอะไรเหรอพี่เชษฐ์" สาวน้อยในชุดเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว รวบผมที่ยาวเฟื้อยเอาไว้ลวกๆ ใบหน้ามอมแมมไปด้วยฝุ่นและคราบเหงื่อเอ่ยปากถาม
เชษฐ์แสยะยิ้ม...ลุกจากเก้าอี้อีกครั้งเดินเข้าหาหญิงสาวที่ตัวเล็กกว่า จ้องมองสำรวจและวนรอบตัว มาหยุดตรงหน้า ใช้มือจับปลายคางให้ใบหน้าเงยขึ้นมาชัดๆ อีกฝ่ายเริ่มระแวง...
"จะให้มันทำอะไรพี่ อีอายมันโง่จะตายเดี๋ยวก็พลาดเป็นเรื่องขึ้นมาอีก พวกเรายิ่งมีปัญหากันอยู่แล้วด้วย" เด็กหนุ่มที่ยืนข้างๆ เธอทักท้วง สีหน้าเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด และมีท่าทางพร้อมจะปกป้องทันทีหากเกิดอะไรขึ้น
"งานนี้ไม่ต้องใช้สมอง...ให้มันทำแหละดีแล้ว"
"เอามือออก..."
"เอ่อ..."
"เร็วสิ...ไม่อย่างนั้นก็ออกไปเลย จะทำงานมัวแต่เขินแต่อายคนอื่นเขาเสียเวลา"
หญิงวัยกลางคนในชุดสูทกระโปรงยาวเหนือเข่าๆ นิดๆ สวมแว่นตา ริมฝีปากฉาบด้วยสีแดง ใบหน้าขาวที่มีริ้วรอยแห่งวัยอยู่บ้างมีการแต่งเติมเล็กน้อย บุคลิกเหมือนคุณครูคณิตศาสตร์ ในความคิดของสาวน้อยวัยยี่สิบปีเต็มที่กำลังเปลือยกายล่อนจ้อนให้เธอคนนั้นสำรวจตรวจสอบ
"ชื่ออะไรนะเรา..."
"อายค่ะ..." คนถูกถามตอบอ้อมแอ้มพยายามเบียดทำตัวให้ลีบเล็กที่สุดด้วยความกระดากเขิน แม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกันแต่ถ้าต้องมาแก้ผ้าให้ตรวจตรากันทุกซอกทุกมุมแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติทั่วไปเสียหน่อย ใครบ้างจะไม่อาย
"ชื่อจริง...ตอบให้มันฉะฉานหน่อย แอ่นอก อย่ายืนหลังคู้งอตัวแบบนั้นเสียบุคลิก"
"แก้ววัลลาค่ะ"
"ออ...แม่แก้ววัลลา ไหนตอบมาสิว่าเคยมีแฟนมากี่คน"
"อืมมมม สองคนค่ะ ตอนอยู่อนุบาลสามกับตอนอยู่ ป.4"
คำตอบทำให้คนถามถึงกับย่นคิ้วเข้าหากัน...วางปากกาลงบนกระดาษที่กำลังจดข้อมูล
"นี่แม่คุณ ไม่รู้หรือแกล้งโง่ ไอ้ที่ถามถึงแฟนเนี่ย หมายถึงแฟนที่เคยมีอะไรกัน"
"หา!!"
"ไม่ต้องหาแล้ว แค่ตอบคำถามฉันเฉยๆ เธอนี่มันซื่อบื้อจริงๆ" พร้อมกันนั้นก็ส่ายศีรษะด้วยความระอาใจ
"ยังไม่มีค่ะ แฟนแบบนั้นหนูยังไม่มี!"
"แล้วเคยนอนกับใครมาบ้าง"
"ก็...หลายคนค่ะ"
"หืม...จะปลอดภัยไหมเนี่ย ฉันสงสัยว่าเธอจะไม่ผ่านเกณฑ์แล้วล่ะถ้าเป็นแบบนี้ ที่นี่เราไม่รับประเภทสำส่อนนะ เดี๋ยวต้องมีการตรวจร่างกายโดยละเอียดจากแพทย์อีกที ฉันไม่อยากมีปัญหาถ้าปล่อยให้เธอผ่านตรงนี้ มันจะเสียเวลาคนอื่นไปด้วย" แม่ครูก้มหน้าจดๆ รายละเอียดและอธิบายยืดยาว
จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเธอที่ยืนตาค้างเติ่ง... เธอต้องหาวิธีเกือบตายกว่าจะเข้ามารที่นี่ได้... มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะเพราะทุกอย่างดูจะมีลับลมคมในไปหมด
ไหนจะต้องมีการซักประวัติละเอียดยิบ...โชคดีที่ก่อนหน้าเมื่อนานแล้วมาพวกที่แก๊งได้ทำประวัติเถื่อนไว้ให้ใช้อยู่ก่อนหน้าเพื่อปกปิดฐานะที่แท้จริง
แต่ก็ยังต้องเข้ามาตรวจเช็กร่างกายภายนอก ที่ต้องถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นเพื่อโชว์สัดส่วนทางร่างกายอีกต่างหาก วัดกันแบบละเอียดยิบเซ็นต่อเซ็นกันเลยทีเดียว เธอผ่านการประเมินเบื้องต้น แล้วมามีปัญหาจบเห่กับอีแค่เรื่องที่เคยนอนกับคนอื่นเนี่ยนะ!!
"มีปัญหาอะไร...บอกแล้วไงที่นี่ไม่รับผู้หญิงหากินที่ทำงานที่อื่นมาก่อน"
"ฉัน...คือหนูไม่ใช่นะคะ หนูไม่เคยทำงานแบบนี้"
"อ้าว! ก็ฉันถามว่าเคยนอนกับใครมาก่อนไหม เธอก็บอกเองว่าเคยมาหลายคนแล้ว"
เฮ๊ย!! มนุษย์ป้านี่กำลังคิดอะไรอยู่เนี่ย
"ไม่ใช่ค่ะ ที่ว่าเคยนอนด้วยก็เป็นพ่อ แม่ แล้วก็เพื่อน ค่ะ หนูไม่เคยนอนกับผู้ชายแบบ...เอ่อ...แบบนั้น..."
"นี่เธอ..." แม่ครูมองอย่างวิเคราะห์ปนตกใจนิดหน่อย ก่อนจะถอดแว่นออกเพิ่งพินิจและเงียบไปชั่วครู่
"เธอยังไม่เคยมีเซ็กเหรอ...ฉันเห็นรอยสักนี่แล้วฉันก็ไม่อยากเชื่อนะว่าเธอยังซิงๆ อยู่" แม่ป้าขยับขาแว่นตาเพ่งไปที่รอยสักกลางหลังซึ่งเป็นรูปเครื่องรางอย่างหนึ่ง
แน่นอน...เด็กสาวสมัยนี้มากมายที่ฝากฝังสีสันชนิดนี้ไว้บนร่างกาย เพื่อความสวยงาม เพื่อความเท่ เพื่อความพอใจ แต่ในสังคมไทยโดยเนื้อแท้แล้ว ย่อมยังมีอคติกับเรื่องเหล่านี้อยู่
"ค่ะ...หนู หนูยังไม่เคยจริงๆ ส่วนรอยสักนั่นก็ตามความนิยมเท่านั้น ที่นี่ไม่รับคนมีรอยสักเหรอคะ"
"ไม่ใช่ สักหรือไม่สักไม่เกี่ยว ที่เราจะเข้มงวดก็เพราะต้องการรักษามาตรฐานความปลอดภัย ไม่ใช่จะส่งประกวดหนูน้อยฟันน้ำนม แต่ที่แปลกใจเนี่ย! รอดมาได้ยังไงแม่คุ๊ณ สมัยนี้ยังมีอยู่อีกเหรอ อายุอานามก็ปาเข้าไปตั้งยี่สิบแล้ว จุ๊ๆๆ ฉันหวังว่าเธอจะไม่โกหกหรอกนะ"
ผู้ตรวจสอบลุกเดินวนรอบๆ ตัวเธออีกครั้ง จับโน้นต้องนี่จนแก้ววัลลาต้องเขยิบเบียดตัวเองจนลีบเข้าไปอีก