เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง

1908 Words
ภายในมิติจิตที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่ามีอยู่จริงบนโลกใบนี้ วิญญาณของหลี่เจียซินเดินวนเวียนอย่างไร้จุดหมาย สถานที่แห่งนี้ดูอุดมสมบูรณ์ มีลำธารและภูเขาที่เขียวชอุ่ม กลิ่นหอมของดอกไม้ที่บานสะพรั่งส่งกลิ่นอบอวลไปในอากาศ เสียงน้ำไหลผสานกับเสียงนกร้องช่างไพเราะเสนาะหู อีกฟากฝั่งมีแปลงผักลำต้นอวบอิ่มปลูกอยู่หลายชนิด ถัดไปหน่อยมีกระท่อมหลังน้อยที่ตั้งอยู่กลางหมู่มวลไม้งาม " นี่ที่ไหนกัน ทำไมเราถึงไม่เคยเห็นหรือนี่คือโลกหลังความตาย อึก เราคงจะได้พบกับพ่อแม่แล้วสินะ " หญิงสาวน้ำตานองหน้า เธอก้มดูเนื้อตัวที่มีแต่รอยฟกช้ำ พร้อมทั้งคิดว่าเธอคงหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานแล้ว " อาซิน อาซินมาที่นี่ทำไมลูก มันยังไม่ถึงเวลาที่เราจะได้พบกันเลยนะลูก กลับไปเถอะ กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ พ่อกับแม่ขอโทษที่ส่งลูกไปอยู่ที่บ้านหลังนี้ให้คนอื่นรังแก " หลี่เจียซินได้ยินเสียงของบิดา เธอหันมองไปทั่วบริเวณแต่ก็ไม่เห็นผู้ใด " พะ พ่อหรือจ๊ะ นั่นเสียงพ่อจริง ๆ ใช่ไหม อึก " " นังหนู ยังไม่ถึงเวลาของเจ้าที่จะได้ไปอยู่กับพ่อแม่ เจ้าจงกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่เถิด " ชายชราชุดขาวไม่รู้ว่ามาปรากฏตัวอยู่หลังเธอตั้งแต่ตอนไหน เจียซินหันไปมองตามทิศทางของต้นเสียงก่อนจะเอ่ยถาม " ท่านตาเป็นใครหรือจ๊ะ ทำไมถึงเข้ามาอยู่ในนี้ได้ แล้วพ่อแม่ของหนูอยู่ไหนจ๊ะ " เจียซินเอ่ยถามชายชราที่มีใบหน้าอิ่มบุญจนน่าเลื่อมใส " ฟังข้าเถิดนังหนู ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าจะไปสู่ภพภูมิอื่น จงกลับไปใช้ชีวิตของเจ้าอีกครั้งเถิดเราจะมอบมิติแห่งนี้ ให้ติดตัวเจ้าไป ถือเป็นการตอบแทนความดีของเจ้าในครั้งก่อนเก่าที่ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน " เจียซินมองไปบริเวณโดยรอบก่อนจะเอ่ยถามชายชรา " ให้มิติจิตแห่งนี้หรือจ๊ะท่านตา แล้วหนูจะใช้ยังไงหนูจะสามารถทำอะไรได้บ้าง " " ก่อนอื่นเจ้าจงไปดื่มน้ำมรกตในลำธารนั่นก่อน หรือจะลงแช่ตัวเลยก็ได้ สายน้ำมรกตแห่งนี้จะช่วยสมานแผล และเยียวยาจากภายในสู่ภายนอกไม่ว่าจะมีแผลหรืออาการป่วยไข้ ที่สาหัสเพียงใดก็สามารถช่วยให้หายได้เพียงชั่วข้ามคืน " เจียซินรีบเดินไปที่ลำธารแล้วใช้สองมือ ตักน้ำขึ้นดื่มกินตามที่ชายชราบอก " อ๊าาา สดชื่นจัง " หญิงสาวค่อย ๆ เดินลงไปแช่ในลำธารทันที ขณะที่เธอเดินลงไปเจียซินรู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายเมื่อถูกสายน้ำมรกตชำระล้างร่างกาย เธอเดินลงไปในจุดที่ลึกอีกหน่อยก่อนจะมุดลงไปในสายน้ำที่ไหลเอื่อยครู่หนึ่ง ขณะที่เจียซินโผล่ขึ้นมาจากน้ำ เธอรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ราวกับว่าภาระที่หนักอึ้งถูกปลดออกจากบ่าของเธอ รอยแผลตามตัวของเธอจางหายไปจนหมด ผิวที่หยาบกร้านเพราะการทำงานหนักแปรเปลี่ยนเป็นชุ่มฉ่ำนวลเนียนสวยสะพรั่งสมวัย มิใช่เพียงวิญญาณของเธอที่มีสภาพที่ดีขึ้น ร่างกายของเธอที่อยู่ในสภาวะจำศีลนอกมิติก็แปรเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน " เป็นอย่างไรบ้าง ดีอย่างที่ข้าบอกใช่หรือไม่ " ชายชราเอ่ยถามเจียซินด้วยรอยยิ้ม ท่านคือผู้ให้ ท่านย่อมมีความสุขเมื่อผู้รับมีความสุขไปด้วย แต่การให้ย่อมต้องเลือกสรรแต่ผู้ที่คู่ควรจะได้รับเท่านั้น " ดีจ้ะท่านตา แล้วหนูต้องทำอย่างไรต่อหรือจ๊ะ " " มิตินี้เจ้าสามารถเข้าออกได้ตลอดเวลา เพียงเจ้านึกอยากเข้าก็สามารถเข้ามาได้แล้ว น้ำมรกตหากเจ้าอยากช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเจ้าจงทำให้แนบเนียนอย่าให้มีใครจับได้ ท้ายที่สุดมันจะเป็นอันตรายต่อเจ้าเอง " " หนูอยากไปจากหมูบ้านแห่งนี้จ้ะ หนูไม่อยากอยู่กับสองคนแม่ลูกนั่นแล้ว หนูเหนื่อยเหลือเกินท่านตา " ใบหน้านวลเนียนฉายแววสลดลงเมื่อนึกได้ว่าต้องออกไปอยู่กับสองแม่ลูกที่ทำร้ายเธอ เมื่อวานเธอออกไปหางานรับจ้างเหมือนทุกวัน แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีใครจ้าง เมื่อถึงเวลาใกล้พลบค่ำเธอจึงกลับมาบ้าน แต่พอบอกสองแม่ลูกว่าไม่มีเงินให้เธอก็ถูกทำร้ายอย่างทารุณ หลายครั้งที่เธอนึกโกรธให้พ่อแม่ที่ส่งเธอมาอยู่ในบ้านหลังนี้ มีเพียงลุงของเธอเท่านั้นที่ทำดีกับเธอ แต่ลุงก็ต้องออกไปทำงานรับจ้างจึงไม่สามารถปกป้องเธอได้ตลอด เดิมทีช่วงที่เกิดการปฏิวัติบ้านเมืองวุ่นวาย พ่อและแม่ของเธอเป็นอาจารย์ทั้งคู่ จึงถูกจัดอยู่ในฝ่ายที่ต่อต้านการปฏิวัติในครั้งนั้น ทั้งสองจึงส่งลูกสาวมาอยู่บ้านที่ตนเองเป็นคนส่งเงินมาสร้างไว้เพื่อพักอาศัยเวลามาเยี่ยมบ้าน หลี่เจียซินนั่งรถไฟออกจากเมืองใหญ่เพื่อหลบหนีภัยอันตรายมาเพียงคนเดียวในวัยเพียง 12 ขวบ พ่อแม่ของเธอจับเธอแต่งตัวเป็นเด็กผู้ชายเพื่อไม่ให้เตะตาใคร เมื่อมาถึงหมู่บ้านได้เจอหน้าผู้เป็นลุง เจียซินก็ยื่นจดหมายให้ลุงหลี่จื้อได้อ่าน เมื่ออ่านเสร็จหลี่จื้อตัวชาวาบที่น้องชายเขียนมาว่าอาจจะไม่ได้กลับมาแล้ว จากนี้ไปฝากให้เขาดูแลเจียซินด้วย เจียซินเคยมาที่หมู่บ้านบ่อยแล้วตั้งแต่ตอนที่ปู่ย่ายังมีชีวิตอยู่ พ่อแม่พากลับมาเยี่ยมปู่ย่าอยู่บ่อยครั้งจนตัดสินใจสร้างบ้านเอาไว้ เจียซินมีเงินติดตัวมาหลายพันหยวนที่พ่อแม่ให้ติดตัวมา ลุงหลี่จื้อรู้ดีว่าภรรยาของเขาเป็นคนอย่างไรจึงได้พาเธอเอาเงินบางส่วนไปฝังไว้ที่โคนต้นไม้ข้างกระท่อมกลางทุ่งนา เพียง 1 เดือนกว่า ๆ ที่เธอมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ เถ้ากระดูกของพ่อและแม่ของเธอก็ถูกส่งมาให้เธอ โดยสหายของทั้งคู่เป็นธุระจัดการให้ ในกล่องนั้นมีจดหมายเขียนบอกเอาไว้ว่าเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เธอถูกส่งขึ้นรถไฟไป พ่อและแม่ของเธอก็ถูกจับตัวไปทารุณจนเสียชีวิต ตอนนั้นเจียซินร้องไห้จนเป็นลมไปหลายครั้ง เมื่อชีวิตของเธอไม่เหลือใครให้เป็นที่พึ่งแล้ว เธอจึงจำต้องอยู่ในบ้านของเธอที่ถูกสองแม่ลูกนั้นยึดครองไปเสียแล้ว บ่อยครั้งที่เจียซินต้องไปเอาเงินเก็บส่วนนั้นออกมาใช้จนตอนนี้เหลืออยู่เพียง 200 กว่าหยวน " ไปอยู่ที่อื่นเถิด กลับไปที่เมืองใหญ่ที่เจ้าจากมาก็ได้เช่นกัน ที่ของเจ้าคือที่นั่น คนของเจ้าก็อยู่ที่นั่น " หญิงสาวขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ว่าใครคือคนของเธอ " ไม่ต้องสงสัยไปหรอก เมื่อถึงเวลาเจ้าก็จะเข้าใจทุกอย่างเอง ตอนนี้นอกมิติเป็นเวลาใกล้รุ่งสางแล้ว เจ้าควรกลับเข้าร่างแล้วออกไปจากหมู่บ้านก่อนที่ใครจะมาเห็นเข้า " " จ้ะท่านตา ว่าแต่หนูต้องกลับเข้าร่างของตัวเองอย่างไงหรือจ๊ะ " " หลับตาเถิด " วืดดดดดดด วิณญาณของเจียซินกลับเข้าร่างที่อยู่ในผ้าห่ม เธอรีบหมุนตัวออกจากผ้าห่มที่ห่อหุ้มร่างกายของเธออยู่อย่างรวดเร็ว เจียซินตั้งสติก่อนจะมองบริเวณโดยรอบ เธอเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าใบเก่าของเธอ เจียซินรีบลุกขึ้นไปเปิดดูเมื่อเห็นว่าเป็นเสื้อผ้าของเธอ เธอจึงหิ้วมาไว้ในมือ " รีบไปเอาสิ่งของที่เจ้าฝังไว้ แล้วบอกลาลุงของเจ้าเสียเถิด เขารอเจ้าอยู่ที่นั่นแล้ว " เมื่อบอกทุกอย่างแก่หญิงสาวแล้วชายชราก็หายตัวไปทันที " จ้ะท่านตา ขอบคุณท่านตามาก ๆ เลยนะจ๊ะที่ให้หนูได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง " หลี่เจียซินหันหลังเดินออกไปจากหุบเขาทันที เธอมุ่งหน้าไปยังทิศทางกระท่อมกลางทุ่งนาเพื่อไปเอาเงินก้อนสุดท้ายของเธอ เมื่อไปถึงเธอก็เห็นผู้เป็นลุงนั่งถือกล่องเงินรออยู่ก่อนแล้ว ข้างกายของเขาเป็นตะเกียงไฟอันเล็ก ๆ ที่พกติดตัวเพื่อนำทางมาด้วย " อาซิน หลานจริง ๆ ด้วย ทำไมหลายถึง...ช่างเถอะ ขอแค่หลานปลอดภัยลุงก็ดีใจแล้ว " หลี่จื้อแปลกใจไม่น้อยที่หลายสาวมีสภาพร่างกายที่ดีขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน เขารู้ได้เลยว่าต้องมีเรื่องลี้ลับเกิดขึ้นกับเจียซินเป็นแน่ เมื่อวันก่อนตอนเช้าที่เจอหลานสาวรอยแผลเป็นยังเต็มตัวของเธออยู่เลย " ละ..ลุง หนูจะไปจากที่นี่ อย่าบอกพวกเขาได้ไหมจ๊ะว่าหนูยังมีชีวิตอยู่ " หลี่จื้อน้ำตาตกทันทีที่ได้ยินหลานสาวพูดแบบนั้น เขาไม่รู้ว่าภรรยาและบุตรสาวทารุณอะไรเจียซินเอาไว้บ้างเธอถึงได้คิดจะหนีไปแบบนี้ " ได้สิ แต่หลานเล่าให้ลุงฟังได้ไหมว่าอาเผิงกับซูหนี่ทำร้ายอะไรหลานบ้าง " เจียซินตัดสินใจเล่าสิ่งที่สองแม่ลูกกระทำกับตนเองจนสิ้นใจ แล้วเอาร่างของเธอไปทิ้งที่หุบเขา แต่เธอไม่ได้เล่าเรื่องมิติจิต หลี่จื้อโกรธจนหน้าแดงเมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมด เขาอยากจะจับภรรยามามัดไว้แล้วฟาดด้วยแส้แรง ๆ สักหลายทีก็ไม่รู้จะสาสมหรือไม่ " ลุงรับปากฉันได้ไหมจ๊ะว่าจะไม่บอกใครว่าฉันยังมีชีวิตอยู่ " เจียซินเอ่ยด้วยสายตาที่อ้อนวอน เธออยากมีชีวิตใหม่ที่ไม่ต้องเจ็บปวดแบบนี้อีกแล้ว 12 ปี ที่เธออยู่ที่นี่มันยิ่งกว่าตกนรกเสียอีก " ลุงสาบานได้ ลุงจะไม่บอกใครแน่นอน นี่เป็นเงินของหลานให้หลานเอาติดตัวไปด้วยแล้วดูแลตัวเองให้ดี " หลี่จื้อยังเงินที่เหลืออยู่ 200 หยวนในกล่องเหล็กให้หลานสาว ก่อนจะเดินไปเตรียมจักรยานเพื่อจะปั่นไปส่งเจียซินก่อนที่ฟ้าจะสว่าง " ขอบคุณจ้ะลุง นอกจากพ่อกับแม่ฉันก็เหลือเพียงแค่ลุงที่หวังดีกับฉัน หากวันใดที่ฉันเข้มแข็งพอฉันจะกลับมาเยี่ยมลุงนะจ๊ะ " " อย่าคิดมากเรื่องพวกนั้นเลย มาขึ้นจักรยานเร็วเข้า หาผ้าโพกหัวสักหน่อยเดี๋ยวลุงจะปั่นจักรยานไปส่งขึ้นรถก่อนที่ชาวบ้านจะตื่น " เจียซินรีบเดินไปขึ้นจักรยานอย่างรวดเร็ว หลี่จื้อรีบปั่นออกจากหมู่บ้านโดยใช้อีกเส้นทางหนึ่งที่เป็นทางลัดเข้าถึงภายในอำเภอได้อย่างรวดเร็ว
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD