เอาคืน : 1.1

1136 Words
สองวันต่อมา... หลังจากที่อี้เฟยแจ้งแก่สหายว่าจะหมั้นหมายกับเฟิงซูเหยา เขาก็ทำตามขนบธรรมเนียมโดยการสู่ขอนางกับเสวียนสวี่ในเช้าวันต่อมา ทว่าเสวียนสวี่กลับยังไม่ตกปากรับคำ เขาไม่ได้ห้ามอี้เฟยหากจะคบหากับบุตรสาว แต่ยังไม่อยากให้ทั้งคู่ใจร้อน หากแต่ให้เรียนรู้ใจกันไปก่อนสักระยะ โดยอนุญาตให้เฟิงซูเหยาอาศัยอยู่ที่ค่ายนี้จนกว่านางจะเบื่อเพื่อทั้งสองจะได้ลองเรียนรู้ใจกันและกัน ซึ่งอี้เฟยมิได้ขัดข้องแต่อย่างใด เพราะเขาเองก็ไม่อยากให้ผลลัพธ์สุดท้ายที่เฟิงซูเหยาจะได้รับกลายเป็นตราบาปตลอดชีวิตของทั้งคู่ ส่วนเฟิงซูเหยาแม้จะผิดแผนไปสักหน่อยแต่ขอแค่ยังได้อยู่ในค่ายทหารแห่งนี้รวมถึงได้อยู่เคียงข้างองค์ชายสามเพื่อวางแผนแก้แค้นขั้นต่อไปก็พอใจแล้ว "คุณหนูรู้เรื่องหรือยังเจ้าคะ" อาถังเอ่ยถามเฟิงซูเหยาขณะที่กำลังเติมน้ำอุ่นให้นางเตรียมล้างเนื้อล้างตัวในเช้าวันนี้ "เรื่องอะไร" เฟิงซูเหยาถามกลับเสียงเรียบเพราะนางไม่มีเวลาสนใจเรื่องอื่นนอกจากเรื่องเตรียมแผนแก้แค้นคนที่ทรยศนาง "เรื่องคุณหนูรองไงเจ้าคะ" เจินเม่ยน่ะหรือ? จะว่าไปนางเกือบลืมสองแม่ลูกคู่นี้ไปแล้ว เรื่องโจรกระจอกที่สองคนนั้นส่งมาจัดการนาง เฟิงซูเหยายังไม่ได้เอาคืนเลย "พี่สาวข้าเป็นอะไรรึ หรือว่านางป่วยหนักจนต้องให้ข้ากลับไปดูใจ" "คุณหนู!" "ข้าล้อเล่น ตกลงแล้วมีเรื่องอะไร" ล้อเล่นที่ไหนกัน เฟิงซูเหยาอยากให้สองแม่ลูกนั้นตายตกตามฟ่างเซียนเซียนไปจริง ๆ แต่ถ้าจะตายขอให้ตายด้วยน้ำมือนางคงจะดีกว่า "บ่าวตกใจหมด คุณหนูอย่าพูดเล่นน่ากลัวแบบนี้อีกนะเจ้าคะ" "เจ้ากลัวว่าพี่สาวข้าจะตายจริง?" "เปล่าเจ้าค่ะ บ่าวกลัวว่าคนที่พูดจะไม่ใช่คุณหนูของบ่าว" "เจ้ากลัวว่าข้าจะเป็นฟ่างเซียนเซียนตัวปลอม?" "บ่าวกลัวคุณหนูจะถูกภูติผีสิงมากกว่าเจ้าค่ะ" เฟิงซูเหยาหัวเราะออกมาเบา ๆ "เจ้าอายุเท่าใดแล้วยังเชื่อเรื่องงมงายพวกนั้นอีก" ไม่มีหรอกภูติผีปีศาจ เพราะแค่เฟิงซูเหยาผู้นี้ก็น่ากลัวกว่าสิ่งเหล่านั้นแล้ว "ตกลงแล้วเกิดอะไรขึ้นกับพี่ข้า" เห็นสาวใช้เงียบไปนางจึงเอ่ยถามอีกครั้ง "ตอนนี้ฮูหยินรองกับคุณหนูเจินเม่ยอยู่ที่ค่ายแล้วเจ้าค่ะ" "เจ้าว่าอะไรนะ!?" ได้ยินข่าวจากอาถังเฟิงซูเหยาถึงกับตกใจ "ตอนแรกที่บ่าวรู้เรื่องทั้งสองคนมาที่ค่ายก็ตกใจเหมือนคุณหนูนี่ละเจ้าค่ะ" สองแม่ลูกคู่นี้ตั้งใจจะทำอะไรอีก หรือว่าลงทุนมาที่กันดารเช่นนี้เพื่อตามมาหาเรื่องนาง? ถ้าเป็นเรื่องนั้นถือว่าสองคนนี้ลงทุนลงแรงใช่เล่น แต่ถ้าตามลางสังหรณ์ของเฟิงซูเหยาลึก ๆ แล้วสองแม่ลูกนี้น่าจะมาดูทีท่าว่าเฟิงซูเหยาจะเดาผู้อยู่เบื้องหลังโจรนั้นออกหรือไม่มากกว่า "งั้นเราต้องรีบไปต้อนรับฮูหยินรองกับพี่ข้าแล้วละ" มาที่ค่ายได้สี่วันเริ่มรู้สึกเบื่อ ๆ แล้วเหมือนกัน หากได้มีเรื่องมีราวกับสองแม่ลูกนั่นคงคลายเบื่อให้เฟิงซูเหยาได้สักหน่อย "คุณหนูจะไปพบทั้งสองคนจริงหรือเจ้าคะ เรื่องโจรพวกนั้น..." แค่หวนคิดถึงวันที่ถูกเอาดาบจ่อคออาถังก็กลัวจนไม่กล้าสู้หน้าสองแม่ลูกนั่นแล้ว "มีเหตุผลอะไรที่ข้าจะต้องหลบหน้าพวกนาง" อาถังได้แต่มองหน้าเฟิงซูเหยาอย่างเป็นห่วง ห่วงว่าจะถูกกลั่นแกล้งถึงขั้นเลือดตกยางออกอีก "เจ้าเตรียมชุดสีแดงที่ข้าสวมออกจากจวนวันนั้นให้ที" "คุณหนูจะใส่ชุดวันนั้นทำไมเจ้าคะ" "ข้าจะเริ่มตีงูแก้แค้นให้เจ้าที่ถูกดาบจ่อคอ" เหตุใดถึงบอกว่าแก้แค้นให้สาวใช้อย่างนางกัน คนที่สมควรแก้แค้นให้คือตัวคุณหนูนางมากกว่า ทว่าอาถังก็มิได้ใคร่ถามอย่างที่สงสัย นางเชื่อใจคุณหนูของนางว่าทำการใดย่อมตริตรองมาแล้วอย่างดี "คุณหนูจะบอกเรื่องนี้กับท่านแม่ทัพใหญ่แล้วใช่หรือไม่เจ้าคะ" "ข้าบอกเจ้าแล้วเรื่องนี้ต้องเก็บเป็นความลับจากท่านพ่อ" "แล้วเหตุใดคุณหนูถึงกล่าวว่าจะตีงูที่นี่ล่ะเจ้าคะ" บางครั้งอาถังก็ตามความคิดของคุณหนูนางไม่ทัน "แค่ตีงูกระจอก ๆ ข้าไม่จำเป็นต้องพึ่งท่านพ่อให้เสียเวลา ทำตามที่ข้าสั่ง เตรียมชุดนั่นไว้ อีกประเดี๋ยวข้าจะขึ้นจากน้ำแล้ว" อาถังได้แต่รับคำสั่งเดินออกไปเตรียมชุดที่ว่าให้เฟิงซูเหยาอย่างไร้การไถ่ถามใด ๆ "ท่านพี่อี้เฟยอยู่ที่ใดเจ้าคะท่านพ่อ" เจินเม่ยที่เพิ่งเดินทางมาถึงค่ายทหารแห่งนี้ถามถึงบุรุษที่แอบมีใจให้ เพราะนางเคยพบเจออี้เฟยตั้งแต่เด็กบ่อยกว่าฟ่างเซียนเซียนน้องสาวและด้วยความที่อี้เฟยเคารพแม่ทัพใหญ่ฟ่างมากจึงเห็นนางเป็นน้องสาวคนหนึ่งเลยไม่ได้ใส่ใจหากนางจะเรียกเขาแบบนั้น "องค์ชายฝึกดาบอยู่กับคุณชายไป๋" เสวียนสวี่ตอบบุตรสาวพร้อมมองหน้าเจินซู่ "เหตุใดเจ้าถึงได้พาเจินเม่ยมาที่ค่ายนี้โดยไม่แจ้งแก่ข้าก่อน" น้ำเสียงที่ถามออกไปกึ่งไม่พอใจกึ่งเป็นห่วงผสมผสานกัน "ข้าต้องขออภัยท่านพี่ พอดีว่าเห็นเซียนเอ๋อร์ออกมาหลายวันแล้วแต่ไม่มีใครส่งข่าวกลับจวน พวกเราเลยเป็นห่วงนาง เร่งเดินทางมาดูด้วยตาตนเองว่าปลอดภัยดี" "ขอบคุณฮูหยินรองที่เป็นห่วงข้า" เสียงบุคคลที่อยู่ในบทสนทนาดังขึ้น เจินซู่รีบหันมองตามต้นเสียงนั้นเห็นบุตรสาวของมารหัวใจสวมชุดสีแดงโดดเด่นเดินเข้ามาพร้อมสาวใช้คนสนิท หากจำไม่ผิดนี่คือชุดที่นางออกจากจวนวันนั้น แต่สภาพยังดูดีไม่มีร่องรอยขาดวิ่นเหมือนไม่มีเรื่องร้ายอันใดเกิดกับนางมาก่อน "เซียนเอ๋อร์ลูกแม่" เจินซู่รีบตีสองหน้าทำเป็นห่วงใยเฟิงซูเหยาด้วยการถลาเข้ามาสวมกอด สร้างความกระอักกระอ่วนให้คนถูกแสร้งทำดีด้วยจนเกือบอาเจียนออกมา "เจ้านี่ดวงแข็งเสียจริง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD