สตรีที่ฟื้นจากความตาย : 1.1

1095 Words
“กรี๊ด!!” เสียงกรีดร้องอย่างตกใจของสาวใช้ในเรือนหลานฮวาดังลั่น ส่งผลให้บรรดาบ่าวรับใช้คนอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียงวิ่งแตกตื่นมาตามต้นตอของเสียง “อาถังเจ้าเป็นอันใด” สาวรับใช้นางหนึ่งที่วิ่งตามเสียงร้องเข้ามาคนแรกถามไถ่กับสาวรับใช้คนสนิทข้างกายเจ้าของเรือนหลานฮวาแห่งนี้ “ค..คุณหนู คุณหนูสาม” ดวงตาเล็กเบิกกว้าง สีหน้าอาถังซีดเผือดด้วยอาการตกใจจนถึงขีดสุด ได้แต่ยกมือที่สั่นเทาชี้ไปด้านหน้าที่เป็นเตียงไม้สี่เสามีม่านสีสดใสทำจากผ้าเนื้อดีมัดไว้อย่างเรียบร้อย บนเตียงนุ่มนั้นมีร่างบอบบางของสตรีนางหนึ่งนอนหงายอยู่ หากมองเพียงผิวเผินเหมือนสตรีผู้นั้นกำลังหลับสู่ห้วงนิทรา ทว่ามือข้างหนึ่งกลับตกออกมาจากเตียงกว้างตามแรงโน้มถ่วง ใบหน้าสวยเรียวไร้เลือดฝาดเอียงมาทางสาวใช้ที่ห้อมล้อมมุงดู ริมฝีปากบางเริ่มขึ้นสีคล้ำมองอย่างไรคนผู้นี้ก็ไร้ลมหายใจแล้ว "ตามท่านหมอเร็วเข้า" เสียงทุ้มกังวาลของพ่อบ้านกุ้น พ่อบ้านประจำจวนฟ่างตะโกนสั่งบ่าวรับใช้ ทุกคนดูวุ่นวายและแตกตื่นกับเหตุการณ์ตรงหน้าจนทำอันใดไม่ถูก "อาถังเจ้าเข้าไปดูอาการคุณหนูสามเร็วเข้า" พ่อบ้านกุ้นสั่งสาวรับใช้คนสนิทที่ยังคงสติแตกตัวสั่นงันงกอยู่กับพื้น เมื่อได้ยินคำสั่งพ่อบ้านใหญ่อาถังรีบตั้งสติคลานอย่างทุลักทุเลเข้าไปบีบนวดคุณหนูของนาง "วุ่นวายอันใดกัน" เสียงเล็กแหลมของผู้มาใหม่ดังขึ้น การแต่งกายหรูหราราวนางพญา แต่งแต้มสีสันบนใบหน้าด้วยเครื่องประทินโฉมจนขาวโพน คิ้วเรียวถูกลงสีน้ำตาลเข้มให้ดูโก่งโค้งได้รูป ริมฝีปากแต้มสีแดงโดดเด่นขับให้ทั้งดวงหน้าสวยร้ายอย่างมิปิดบัง "ฮูหยินรอง" บ่าวรับใช้ทั้งหมดทำความเคารพฟ่างฮูหยินรองอย่างพร้อมเพียง เจินซู่กวาดสายตามองฐานกำนันที่ต่ำต้อยในสายตานางอย่างลวก ๆ ก่อนจะลากสายตาเฉี่ยวคมดุดันไปยังเตียงสี่เสากลางห้อง "เสี่ยวเซียน!" มือที่แต่งแต้มสีตามเล็บยกขึ้นทาบอกคล้ายตกใจ ทว่าหากมีคนช่างสังเกตจะเห็นว่ามีรอยยิ้มเกิดขึ้นที่มุมปากร้ายนั้นเล็กน้อย "ฮูหยินรองอย่าเพิ่งตกใจ ข้าให้บ่าวในจวนไปตามหมอแล้ว" พ่อบ้านกุ้นรายงานเสียงสั่นเครือ ทั้งตกใจกับสภาพคุณหนูสามทั้งหวาดกลัวต่อคนตรงหน้าที่ไม่รู้จะมาร้ายหรือดีกับเจ้าของเรือนหลานฮวาแห่งนี้ "ตามหมอ? สภาพเช่นนี้เจ้ายังให้คนไปตามหมองั้นรึ ควรจะไปซื้อโลงมาใส่นางมากกว่า" คุณหนูรองเจินเม่ยที่เพิ่งมาถึงเอ่ยอย่างมิได้มีความตกใจหรือเสียใจกับคนที่นอนแน่นิ่งบนเตียงสักนิดเดียว เหตุเพราะว่า บุตรีต่างมารดาทั้งสองนางมิถูกกันแต่ไหนแต่ไรแล้ว ฟ่างเซียนเซียนหรือคุณหนูสามเป็นบุตรีของฮูหยินเอกเหวินเหม่ยเซียวกับฟ่างเสวียนสวี่ ทำให้เจินซู่ที่ถูกตบแต่งเข้ามาทีหลังเกลียดชังลูกเลี้ยงนางนี้เป็นที่สุด ส่งผลให้เจินเม่ยบุตรสาวของตนเกลียดน้องเล็กอย่างฟ่างเซียนเซียนตามมารดาไป "เหตุใดคุณหนูรองกล่าวเช่นนั้นเจ้าคะ" อาถังที่รักคุณหนูสามราวน้องสาวแท้ ๆ เอ่ยขัดเมื่อสิ่งที่เจินเม่ยกล่าวมาช่างอัปมงคลเสียจริง "ข้าพูดอันใดผิด นางไม่หายใจมาตั้งห้าชั่วยามแล้ว แม้แต่หมอเทวดายังช่วยไม่ได้เลย" ทุกคนที่อยู่ในห้องต่างหันมองหน้าเจินเม่ยอย่างพร้อมเพียง "เหตุใดคุณหนูรองถึงกล่าวว่าห้าชั่วยามเจ้าคะ" อาถังเช็ดคราบน้ำตาออกพร้อมจ้องหน้าคุณหนูรองของจวนฟ่างอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะถูกลงโทษ เช้านี้อาถังเข้ามาเตรียมปลุกฟ่างเซียนเซียนไปอาบน้ำเพราะเลยเวลาไปถึงหนึ่งถ้วยชาแล้วแต่คุณหนูที่แสนตรงเวลาของนางมิเรียกหาจึงเร่งมาดู จนเห็นสภาพฟ่างเซียนเซียนเข้า ผิดกับเจินเม่ยที่เพิ่งเข้ามาที่ห้องนี้สายตายังมิทันผินมองคนบนเตียงให้ทั่วถึงกลับคาดเดาสภาพของคนบนเตียงราวกับรู้เห็นว่าฟ่างเซียนเซียนอยู่ในสภาพนี้ตั้งแต่เวลาใด "เม่ยเอ๋อร์ก็แค่คาดเดา พวกเจ้าแหกตาดูปากนางสิ เริ่มจะคล้ำแล้วแปลว่านางไม่หายใจนานแล้วก็เท่านั้น!" เจินซู่รีบแก้ต่างให้บุตรสาวพร้อมหยิกเข้าที่ด้านหลังเจินเม่ยเล็กน้อยเป็นการลงโทษที่พูดจาไม่ระวัง "เกิดอะไรขึ้น!" เสียงกังวาลอันทรงพลังของฟ่างเสวียนสวี่ผู้นำตระกูลฟ่างที่เพิ่งกลับมาจากค่ายทหารส่งเสียงถาม "ทะ ท่านพี่ ท่านมาได้เยี่ยงไร" เจินซู่ปากซีดตัวสั่นเทาทว่าเก็บอาการได้ในเวลาต่อมา นางรีบปรี่เข้าไปควงแขนล่ำสันภายใต้ชุดนักรบทว่าไร้เกราะอีกทอดอย่างแนบแน่น "เซียนเอ๋อร์ นั่นเซียนเอ๋อร์เป็นอะไร" ฟ่างเสวียนสวี่ แม่ทัพใหญ่แห่งเมืองหลวงถังเหลียนตวาดถาม พลางรีบเดินไปยังเตียงที่มีร่างของบุตรสาวนอนแน่นิ่งอยู่ "คือว่า... นายท่าน คุณหนูสาม..." อาถังหลบให้เสวียนสวี่เข้าไปดูอาการบุตรสาวพลางรายงานเสียงตะกุกตะกักพร้อมเสียงสะอื้นไห้ "มีใครตามหมอหรือยัง!" ฟ่านเสวียนสวี่ตะเบ็งเสียงถามอีกครั้ง สองมือกุมมือแน่งน้อยของบุตรสาวเอาไว้อย่างเป็นห่วง เหตุใดครั้งนี้ตัวนางถึงได้เย็นยะเยือกเช่นนี้ มิเห็นจะเหมือนทุกครั้งที่นางมีสภาพเช่นนี้แต่ร่างกายยังอบอุ่นอยู่ หัวใจผู้เป็นบิดาเกิดสั่นกลัวขึ้นมาทันที "ครั้งนี้เซียนเอ๋อร์ของเรานางคง..." เจินซู่เอ่ยเสียงอึกอักพร้อมมีก้อนสะอื้นออกมาเล็กน้อย ช่างต่างจากบทบาทก่อนหน้าอย่างสิ้นเชิงที่ทั้งเย็นชาและไร้น้ำตาเช่นตอนนี้ "เจ้าจะพูดอะไร เซียนเอ๋อร์ต้องกลับมา นางเคยกลับมาแล้วตั้งหลายครั้ง" แม้ลึก ๆ เสวียนสวี่จะสิ้นหวังไปแล้ว ทว่าอีกใจกลับยังอยากลองมีความหวัง เพราะอาการเช่นนี้ฟ่างเซียนเซียนใช่ว่าจะเพิ่งเคยเป็น ร่างกายนางอ่อนแอตั้งแต่กำเนิด โรคประหลาดอย่างหัวใจอ่อนแรงจึงติดตัวนางมา ฟ่างเซียนเซียนเคยเหมือนคนตายแล้วฟื้นกลับมาหลายต่อหลายครั้งตั้งแต่เด็กจนโต
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD