EP.11

1114 Words
ตอนที่ 11 ภาคินอยู่พูดคุยถึงอาการของพ่อและพี่ชายอีกพักใหญ่จึงได้ขอตัวกลับ เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถเขาหวนคิดถึงเรื่องราวของตนเองอย่างอดไม่ได้ หลายปีหลังจากที่ผู้เป็นแม่จากไป ชายหนุ่มนั้นดูแลตัวเองและกิจการรีสอร์ตเพียงลำพัง ตั้งแต่เขาอายุสิบเก้าที่พ่อและแม่แยกทางกัน ภาคินไม่เคยขาดการติดต่อจากทั้งพ่อและพี่ชาย ความจำเป็นของท่านทั้งสองที่ไม่อาจอยู่ด้วยกันได้นั้นไม่ได้เป็นปัญหาในความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง พ่อยกรีสอร์ตซึ่งเป็นสินสมรสให้กับแม่ ส่วนตัวเองมีบริษัทฯ ใหญ่ไว้คอยดูแล และพัฒนาจนก้าวหน้ามาจนถึงทุกวันนี้ “รายงานครับเจ้านาย” ปิลันต์ ลูกน้องคนสนิทเอ่ยแทรกขึ้นมาพร้อมทั้งยื่นรายงานฉบับหนึ่งมาให้จากทางด้านหน้ารถ โดยมีเอกสิทธิ์หนึ่งในคนสนิททำหน้าที่ขับรถยนต์ บนรายงานมีรูปภาพเล็กๆ หนีบติดมาด้วย “อืม ทำงานเร็วดีนี่นาย แล้วรีสอร์ตเป็นไงบ้าง” ผู้เป็นนายถามเสียงเรียบ ขณะที่ตากวาดไปบนตัวหนังสือบนกระดาษเหล่านั้น “ไอ้นันแจ้งมาว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ ช่วงนี้ไม่ใช่หน้าเทศกาลคนเลยน้อยหน่อย แต่องุ่นจากไร่ปีนี้พร้อมที่จะทำไวน์แล้วครับ” “ดี สั่งให้อนันต์จัดการไปได้เลยนะ” ภาคินสั่ง จากรายงานในมือกำลังทำให้เขาต้องขมวดคิ้วมุ่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองลูกน้องคนสนิท “นี่มัน...” “ครับ คุณไนยเอาเงินของตัวเองเข้าไปอุดรอยรั่วนั้น แต่ปัญหาที่สำคัญนั่นคือข้อมูลที่อีกฝ่ายได้ไป ซึ่งอาจจะก่อผลเสียหายกับบริษัทฯ โชคร้ายอาจถึงขั้นล้มละลายได้เลยครับเจ้านาย” “มิน่า พ่อถึงได้ช็อกแบบนี้ ผู้หญิงคนนี้” “ใช่ครับ แฟนของคุณไนย ได้ข่าวว่าตอนนี้บินไปอยู่ต่างประเทศ ก็ไปวันที่คุณไนยประสบอุบัติเหตุนั่นแหละครับ” “แม่มดชัดๆ” “แถมสวยซะจนทำเอาลืมหายใจไปเลยด้วย” เอกสิทธิ์แทรกขึ้นมา หากเจ้านายไม่ได้ขำไปด้วย ภาคินแทบไม่อยากเชื่อว่า พี่ชายของเขาจะรักผู้หญิงแพศยาคนนั้นได้ขนาดนี้ ถึงขั้นที่ว่าเอาเงินของตัวเองแทนที่เข้าไปในบัญชีในส่วนที่ผู้หญิงคนนั้นยักยอกไป รูปภาพของสาวสวยที่อยู่ในมือนั้นเขาจำได้ขึ้นใจ เพราะพี่ชายได้ส่งรูปไปให้ดูตอนที่บอกกับเขาว่าได้หมั้นกับผู้หญิงคนหนึ่ง “ไปบริษัทฯ” เจ้านายหนุ่มบอกเรียบๆ ไม่ว่าปัญหาจะหนักหนาสาหัสขนาดไหน เขาตัดสินใจแล้วที่จะพยุงมันเอาไว้ให้ผ่านวิกฤตครั้งสำคัญนี่ไปให้จงได้ ภาคินพอจะมีความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่บริษัทฯ ได้ดำเนินการ เพราะเคยเข้ามาฝึกงานกับบิดาเมื่อครั้งยังเป็นนักศึกษา “ครับผม เราสองคนแจ้งไปทางบริษัทฯ แล้วว่าเจ้านายจะเข้าไปนั่งบริหารแทนคุณไนยในช่วงเวลานี้ ผมเลยสั่งให้พวกเขาเตรียมเอกสารไว้รอแล้วครับ” “ทำงานดีมาก อ้อ...ตามเรื่องผู้หญิงคนนี้ให้ด้วย ใครที่มันทำร้ายครอบครัวของฉัน ฉันไม่ปล่อยมันไปเสวยสุขง่ายๆ หรอก” เสียงห้ามเหี้ยมเกรียมและเย็นชานัก เมื่อปรายตามองรูปของอดีตคู่หมั้นของพี่ชายอีกครั้ง “ครับ” สองหนุ่มรับคำ จากการที่ทำงานด้วยกันมาหลายปี ทำให้ปิลันต์และเอกสิทธิ์รู้ถึงความแตกต่างของสองคนพี่น้อง ภาคิไนยนั้นสุขุมรอบคอบ ใจเย็นยิ่งกว่าน้ำแข็ง ขณะที่นายภาคินนั้นร้อนระอุ ทุกอย่างต้องได้ทันความต้องการ แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีความระมัดระวังและสมาธิสูงจากการขับรถแข่ง แต่อารมณ์ใจร้อนและกัดไม่ปล่อยนั้นแก้ยังไงก็ไม่หาย นั่นอาจเป็นเพราะว่าภาคินจำต้องมีเรื่องให้ฟาดฟันกับเจ้าของรีสอร์ตข้างๆ เป็นประจำ ด้วยพวกนั้นขยันหางานมาให้เจ้านายหนุ่มของเขาเหลือเกิน รอยยิ้มหยันแต่งแต้มมุมปากเข้ม ผู้หญิงคนนั้นคิดว่าหนีไปอยู่ต่างประเทศแล้วจะพ้นมือเขางั้นรึ ไม่มีทาง ใครที่ทำอะไรกับคนของเขาเอาไว้ ภาคินจะต้องเอาคืนจนถึงที่สุด เมื่อพี่ชายเขาเป็นเทพบุตร เขานี่แหละจะเป็นปิศาจคอยทำลายล้างพวกมันเอง โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังบัดนี้มีร่างระหงของสาวงามปรากฏขึ้นหน้าห้องผู้ป่วยหนัก หลังจากที่ต้องร้อนรนกระสับกระส่ายมาหลายวันจนทนไม่ไหว ปรางอินท์จึงได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลแห่งนี้ที่ภาคิไนยรักษาตัวอยู่ รายงานข่าวทางทีวีเกาะติดเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากภาคิไนยแล้วยังมีพ่อของเขาอีกคนที่ต้องเข้ารับการรักษา หลังจากทราบถึงการประสบเหตุของลูกชาย ก่อนมาที่นี่ หญิงสาวได้คุยกับดาราวดีที่ได้รับทราบข่าวเช่นกัน หากคนเป็นพี่นั้นใจแข็งยิ่งนัก เธอปฏิเสธที่จะกลับมาเยี่ยมเยียนดูใจคนรักด้วยจิตใจที่แน่วแน่ จนปรางอินท์ไม่รู้จะโน้มน้าวพี่สาวว่าอย่างไรดี เธอจึงตัดสินใจเดินทางมาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเองเพียงลำพัง ก่อนจะพบว่าทางโรงพยาบาลได้ทำการเข้มงวดกับทุกคนที่จะเข้าเยี่ยม เพราะไม่อยากให้นักข่าวหรือว่าบุคคลที่ไม่พึงประสงค์นั้นได้เข้ามารบกวนผู้ป่วย แต่ปรางอินท์ก็ไม่ถอย เมื่อได้รับการปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ เธอจึงขอพบคุณหมอที่เป็นเจ้าของไข้แทน นพคุณออกจะแปลกใจเป็นอย่างมาก จู่ๆ ก็มีหญิงสาวแสนสวยมาขอพบเพื่อขอเยี่ยมภาคิไนย เขาไม่เคยรู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน และลังเลที่จะอนุญาต เพราะเจ้าเพื่อนของเขามันดันสั่งห้ามคนนอกเข้าเยี่ยมเด็ดขาด “นะคะคุณหมอ ขอฉันเยี่ยมพี่ไนยสักนิด แค่แป๊บเดียวก็ได้” ปรางอินท์ขอร้อง ดวงตาคู่งามหม่นหมองและอ้อนวอนเสียจนเขาปฏิเสธไม่ลง “คือว่าทางญาติของคุณภาคิไนยสั่งห้ามคนนอกเยี่ยมนะครับ” หมอหนุ่มพยายามอธิบายเสียงนุ่ม “ถ้าหมอไม่มั่นใจจะเข้าไปพร้อมกับฉันก็ได้นะคะ แล้วก็นี่ที่ทำงานของฉันค่ะ ถ้าเกิดปัญหาอะไรติดต่อฉันได้” หญิงสาวรีบยื่นนามบัตรส่งให้ด้วยท่าทางร้อนรน ปรางอินท์พอจะทราบว่า ภาคิไนยนั้นมีน้องชายอีกคน และเธอไม่ปรารถนาที่จะพบญาติของเขา จึงอยากจะรีบเข้าไปเยี่ยมดูอาการแล้วกลับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD