EP.10

1076 Words
ตอนที่ 10 โทรศัพท์ข้ามทวีปเรียกตัวด่วนให้บินกลับเมืองไทย ทำให้ภาคินรีบสั่งคนสนิทให้จัดเตรียมเรื่องเดินทางอย่างเร่งรีบ เวลาสิบชั่วโมงเศษของการร้อนรนทุรนทุราย บัดนี้ ภาคิน อัศวเรืองยศ ได้มายืนอยู่หน้าห้องผู้ป่วยหนักด้วยใบหน้าคร่ำเคร่ง ก่อนมาที่ห้องนี้เขาได้แวะไปอีกห้องซึ่งอาการหนักไม่แพ้กัน นายภาวิช อัศวเรืองยศ พ่อของเขาหัวใจล้มเหลวกะทันหัน แพทย์สามารถช่วยเหลือไว้ได้ทันการณ์ หากนั่นก็ไม่อาจทำให้ชายสูงวัยกลับมามีชีวิตที่เป็นปกติได้ หมอแจ้งว่า พ่อของเขาอาจจะต้องเป็นอัมพาตจากการกระทบกระเทือนด้านจิตใจอย่างรุนแรงที่ได้รับ ความคิดของชายหนุ่มหยุดลง เมื่อประตูห้องผู้ป่วยหนักหรือที่เรียกกันง่ายๆ ว่าไอซียู เปิดออกมาพร้อมกับร่างในชุดกาวน์สีขาวของนายแพทย์นพคุณ เพื่อนสนิทของเขานั่นเอง “ฉันนึกว่านายจะมาไม่ทันเสียอีก” หมอนพคุณพูดเสียงขรึม “แกหมายความว่าไงวะไอ้หมอ” ภาคินถามเสียงกร้าว ตาคมกริบดุดันเสียจนคนเป็นเพื่อนต้องถอนหายใจหนักๆ “พี่นายอาจจะไม่พ้นคืนนี้ อันที่จริงแล้ว พี่ไนยอยู่ได้ตอนนี้เพราะเครื่องช่วยหายใจเท่านั้น ร่างกายของคนไข้ไม่มีปฏิกิริยาสนองตอบต่อการช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น หากว่านายตัดสินใจที่จะถอด...” “ไม่!!!” เสียงกร้าวกระด้างดังขัดขึ้นก่อนที่หมอนพคุณจะพูดจบ ใบหน้าคมเข้มดุดันบึ้งตึงของภาคินหันขวับมามอง มือคร้ามสีแทนรวบคอเสื้อผู้เป็นเพื่อนหนักๆ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แกจะต้องช่วยพี่ไนยให้ได้ไอ้หมอ จะไม่มีการพูดถึงเรื่องอื่นนอกจากนี้” “แต่...” “ไม่งั้นฉันจะสั่งเผาโรงพยาบาลของแกซะ” เสียงห้วนกระด้างบอกเป็นประโยคสุดท้าย ก่อนที่ภาคินจะสะบัดมือออกจากคอเสื้อของเพื่อน ซึ่งนพคุณเข้าใจดีว่าเพื่อนรักของเขากำลังเศร้าเสียใจจนไม่อยากถือสาอารมณ์พาลของอีกฝ่าย ความรักของสองคนพี่น้องไม่เคยจางหายมีแต่จะยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้น แม้ว่าจะถูกแยกกันไปเลี้ยงก็ตาม ภายในห้อง คนที่อารมณ์ปานพายุเพลิงทิ้งกายลงนั่งบนเก้าอี้ข้างเตียงผู้ป่วยอย่างหมดแรง สภาพของภาคิไนยที่ได้เห็นทำให้จิตใจของภาคินห่อเหี่ยวยิ่งนัก เขาไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับผู้เป็นพี่ ภาคิไนยเป็นคนที่ระมัดระวังสูงและรอบคอบเสมอไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจหรือการใช้ชีวิตส่วนตัว พี่ชายจะเตือนเขาเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องการแข่งรถที่เขาชื่นชอบและทุกวันนี้การแข่งรถเฟอร์รารี่แทบจะกลายเป็นงานประจำของเขาไปเสียแล้ว เพราะแต่ละรายการแต่ละสนามต้องใช้เวลาเตรียมตัวหลายเดือน คนที่เสี่ยงและล้อเล่นกับชีวิตมากกว่าคือเขาต่างหาก แต่...พี่ชายของเขากลับเป็นฝ่ายที่ต้องมานอนหมดสภาพในห้องเล็กๆ นี่มันช่างน่าหดหู่ใจที่สุด “พี่ครับผมมาเยี่ยม” ภาคินพึมพำเบาๆ แม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางได้ยิน ทั่วทั้งร่างกายของภาคิไนยถูกพันด้วยผ้าสีขาว ศีรษะถูกพันด้วยผ้าเช่นเดียวกัน เขาถูกชนด้านคนขับอย่างรุนแรง จากทางด้านข้าง เจ้าหน้าที่กู้ภัยคิดว่าเขาเสียชีวิตคาที่ตั้งแต่ตอนนั้นหากดูจากสภาพของรถที่ยับยู่และถูกลากออกไปจากจุดเกิดเหตุหลายเมตร หมอนพคุณตามเข้ามาเมื่อไหร่ภาคินแทบไม่ได้ยินเสียง รู้อีกทีเมื่อมือของเพื่อนวางลงบนบ่าแกร่งบีบเบาๆ “ทางเราจะพยายามจนสุดความสามารถ ฉันเองก็รักและเคารพพี่ไนยไม่น้อย แกอย่างห่วงเลยนะคิน” “ขอบใจว่ะเพื่อน ขอบใจแกจริงๆ” แม้โอกาสจะริบหรี่ หากภาคินยอมเสี่ยงที่จะยื้อชีวิตพี่ชายคนเดียวของเขาเอาไว้ แม้มีโอกาสเพียงศูนย์จุดหนึ่งเปอร์เซ็นต์เขาก็พร้อมที่จะทำโดยไม่ลังเล “ถ้าเราโชคดีมีปาฏิหาริย์เราอาจจะได้พี่ไนยกลับมา แต่แกต้องทำใจนะว่าอาจจะได้ไม่เต็มร้อย” “ไม่เป็นไร แกทำให้ดีที่สุดก็พอ” เสียงห้าวแหบสั่น เขามองหน้าพี่ชายอีกครั้งก่อนจะผละออกไปจากห้องโดยมีนพคุณตามมาติดๆ ด้วยความเป็นห่วง ปัญหาที่รุมเร้าเพื่อนเขาช่างหนักหนายิ่งนัก ไหนจะพ่อแล้วยังพี่ชาย ขาดภาคิไนยไปสักคนบริษัทที่กำลังเติบโตตอนนี้คงจะลำบาก “แกจะทำไงต่อไป” นพคุณถาม “มีหลายเรื่องที่ฉันต้องจัดการ ตอนนี้ได้ข่าวแว่วๆ มาว่าบริษัทพี่ไนยกำลังมีปัญหา” ภาคินบอก ร่างสูงผึ่งผายเอนหลังพิงผนังห้อง ความคิดของเขากำลังวิ่งวนไปมา ธุรกิจส่วนตัวของเขาไม่มีปัญหา แต่บริษัทของพี่ชายซึ่งเป็นมรดกที่พ่อสร้างมากำลังจะประสบสภาวะวิกฤต แม้ว่าเขาจะอยู่ต่างประเทศเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่การติดต่อระหว่างสองพี่น้องไม่เคยขาดหาย ที่สำคัญก่อนมาที่โรงพยาบาลเขาได้เห็นข่าวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพตัวใหม่ของบริษัทคู่แข่ง ภาคินจำได้ว่าพี่ชายเคยเล่าเรื่องสูตรสินค้าตัวใหม่ให้เขาฟัง การที่อีกฝ่ายออกวางจำหน่ายสินค้าที่มีคุณลักษณะใกล้เคียงหรือเรียกได้ว่าแทบจะเหมือนกันทุกอย่างแล้วอีกฝ่ายไปเพิ่มบางส่วนเข้าไป มันทำให้เขาได้กลิ่นทะแม่งๆ “ฉันคงจะเข้าไปเคลียร์งานของพี่ไนยไปก่อนพักนี้” “อืม ไม่เป็นไร เรื่องพี่ไนยนายไม่ต้องห่วงฉันจะจัดการให้อย่างดีที่สุด” ระหว่างที่หมอทำงานอย่างเต็มความสามารถ ภาคินก็คิดว่าเขาเองก็ควรที่จะสะสางปัญหาและหาคำตอบเรื่องที่เขาสงสัยไปด้วย อัศวเรืองยศมีเพียงเขาแล้วตอนนี้ และชายหนุ่มตั้งใจว่าจะดูแลทุกอย่างแทนจนกว่าภาคิไนยจะกลับมาดูแลด้วยตัวเอง ภาคินอยู่พูดคุยถึงอาการของพ่อและพี่ชายอีกพักใหญ่จึงได้ขอตัวกลับ เมื่อขึ้นมาอยู่บนรถเขาหวนคิดถึงเรื่องราวของตนเองอย่างอดไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD