“อ๊ะ! ว้าย” เอวา รังศิเตวัฒ หงายหลังล้ม ก้นจ้ำเบ้า (บั้นท้ายกระแทกพื้น) อย่างจัง
“คุณเป็นอะไรไหมครับ” โจเซฟหันไปมองอย่างตกใจ แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าเจื่อนๆ
“ขะ...ขอบคุณค่ะ” เอวารีบจับมือหนาที่ส่งมาฉุดให้เธอลุกขึ้นยืนอย่างเขินๆ
“ขอโทษด้วยนะครับ” โจเซฟบอกอย่างรู้สึกผิด ขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดผู้หญิงถึงได้ชอบเดินตามหลังตนมาติดๆ แบบนี้นัก
“ไม่เป็นไร ฉันเองก็เดินไม่ดูเหมือนกัน” เอวาบอกด้วยหัวใจสั่นๆ หลังได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรกลับชาติมาเกิดชัดๆ เต็มสองตา
“กำลังจะไปไหนเหรอครับ” โจเซฟถามก่อนจะเหลือบไปเห็นใครบางคนที่ยืนห่างออกไปราวสิบห้าสิบห้าเมตร กำลังส่งสายตาพิฆาตมายังตน ‘ฉิบหายแล้วสิ! ยัยแม่มดมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงวะ’
“เอ่อ...คือวากำลังหาร้านอาหารเปิดใหม่อยู่ค่ะ” เอวาพยายามเก็บอาการเนื้อเต้นเอาไว้ภายใต้สีหน้านิ่งๆ
“ร้านอะไรครับ?” โจเซฟรีบถามด้วยหัวใจสั่นๆ กลัวว่าดารินจะเดินเข้ามาหา
“ร้านมะลิฉัตรค่ะ”
“ผมก็กำลังจะไปทานที่ร้านนั้นพอดี ไปด้วยกันไหมครับ” โจเซฟแสร้งเอ่ยชวน คิดว่าหากมีผู้หญิงเดินไปด้วย ดารินจะไม่กล้าตามไปด่าเรื่องที่ตนเทนัดเมื่อคืน
“ค่ะ” เอวาขานรับก่อนจะออกเดินไปกับเจ้าชายในฝันของเธออย่างรู้สึกประหม่า ไม่คิดว่าเขาจะชวนเธอทานมื้อเที่ยงด้วย ช่างเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายเป็นอย่างมาก
ห้องอาหาร...มะลิฉัตร
พนักงานต้อนรับยกมือไหว้ลูกค้าหนุ่มสุดหล่อที่เดินเคียงคู่มากับหญิงสาว “สวัสดีค่ะ มากี่ที่คะ?”
“สอง...” โจเซฟเอ่ยยังไม่ทันจบประโยค ก็ถูกใครอีกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยแทรกขึ้น
“สามที่ค่ะ”
โจเซฟหันไปมองตามเสียงอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเอง
“ว่าไงคะที่รัก” ดารินเอ่ยเสียงหวานราวกับกำลังออดอ้อนคนรัก
“แฟนคุณเหรอคะ” เอวาที่คิดว่าตัวเองทำการบ้านมาดีแล้ว เอ่ยถามตกใจ
“ต้องถามอีกเหรอคะ หน้าตาก็ดูฉลาดดีนะ” ดารินตอกกลับหญิงสาวที่บังเอิญใช้มุกเดียวกันเข้าหาโจเซฟ
“เอ่อ...พอดีว่าฉันจะมาทานข้าวที่ร้านนี้ค่ะ แต่ไม่รู้ทาง คุณผู้ชายท่านนี้ก็เลยพามาส่ง” เอวารีบออกตัวปากคอสั่น กลัวว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะกลายเป็นข่าวฉาวบนโลกโซเชียล ฐานแย่งแฟนคนอืื่น
“เอ่อ...ขอโทษด้วยนะครับ ผมขอตัวก่อน” โจเซฟที่เห็นท่าว่าสถานการณ์จะเลวร้าย จึงรีบแยกเเม่เสือสาวดารินซึ่งกำลังเดือดจัด ออกห่างจากสาวที่กำลังจะกลายมาเป็นแพะรับเคราะห์ด่วน
“ค่ะ” เอวามองตามร่างสูงที่ดึงมือของสาวหน้าบูดให้ออกเดินตามตนเองไปอย่างใจคอไม่ดี ขณะเดียวกันก็มึนงง เพราะแหล่งข่าววงในต่างก็คอนเฟิร์มว่าโจเซฟ อีนอฟ โสด 100%
ด้านโจเซฟที่พาแม่เสือสาวเดินออกมาห่างจากห้องอาหารมะลิฉัตรได้พอสมควร จึงหยุดเดินแล้วหันไปต่อว่าเบาๆ “คุณทำเกินไปนะ”
“คุณโกรธเหรอ?” ดารินถามกลับด้วยสีหน้าตึงๆ
“คุณต้องการอะไร” โจเซฟถอนหายใจอย่างรู้สึกเพลียๆ
“ต้องการให้คุณมีจิตสำนึกและรับผิดชอบในคำพูดของตัวเอง”
“เมื่อวานผมก็บอกอยู่ว่ายุ่ง คุณไม่ได้ยินเหรอ?” คนที่ตั้งใจจะไม่โทร. หา ตอบอย่างตีเนียน
“แล้วได้ยินไหมว่าฉันบอกว่าจะรอ” คนที่เตรียมตัวรอเก้อตอกกลับทันควัน
“ถ้าผมไปทานข้าวกับคุณแค่มื้อเดียว คุณจะเลิกกวนผมใช่ไหม” โจเซฟหาข้อยุติ
“ตามนั้น” ดารินบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง ขณะเดียวกันก็ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงยังอยากจะไปทานข้าวกับอีกฝ่าย ทั้งที่ถูกเขาเทมาแล้วถึงสองครั้ง เฮ้อ...นี่ใช่ไหมที่เขาว่าเจ็บแล้วไม่จำ
“โอเค งั้นทุ่มหนึ่งคืนนี้หนึ่งเจอกันที่ห้องอาหารของโรงแรมร็อฟเวลล์” โจเซฟให้คำมั่นครั้งใหม่
“ขอเบอร์มือถือของคุณด้วย” ดารินรีบดักทาง
“ส่งมือถือของคุณมา” โจเซฟบอกพร้อมกับส่งมือไปรอรับ
“นี่ค่ะ” ดารินล้วงมือถือส่งให้อีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว
โจเซฟมองรูปบนหน้าจอของสาวเจ้า ซึ่งเป็นรูปปกหนังสือซึ่งมีชื่อว่า จะแรดร้ายให้ได้ครอง ทำเอาเขาเกือบจะหลุดหัวเราะออกมา เพราะคำว่า...แรดร้าย มันดูจะเข้ากับเจ้าของเครื่องเป็นอย่างมาก
“รีบๆ กดเบอร์โทรสิคะ” ดารินถลึงตาใส่หลังเห็นอีกฝ่ายเอาแต่มองหน้าจอมือถือของเธอแล้วทำท่าจะหัวเราะ ‘ชิ! นั่นมันโลกอีกใบของเธอนะ ถ้าเอามาล้อล่ะก็ เจอดีแน่’
ติ๊ดๆ ติ๊ดๆ