อีกด้านนึง_
ณ สวนสาธารณะแห่งนึงในเมืองนาเธอร์ลาส ชายหนุ่มสองคนกำลังนั่งพูดคุยบนเก้าอี้ยาวสีน้ำตาลเข้ม โดยมีบอดี้การ์ดคอยซุ่มตามต้นไม้ใหญ่ไม่ไกล ระดับองค์ชายคนสำคัญมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ เวลานี้คงไม่หาใครช่วยไม่ได้นอกจากผู้มีอำนาจด้านมืดล้นมือ
"นายคงไม่คิดว่าโมอาจะกล้าทำจริงๆใช่ไหม" มาร์แชลล์พูด สวมเสื้อฮู้ดสีดำใช้หมวกคลุมปกปิดใบหน้ากันผู้คนรู้จัก แค่เวลาผ่านไปไม่ถึงสองวันดี คนเป็นพี่ชายย่อมห่วงใยน้องสาว ถึงเธอจะศึกษาอยู่ข้ามทวีปกัน
"ต่อให้มันเป็นใคร รับรองได้เลยว่าอองตวนคนนี้จะปิดปากมันเอง" น้ำเสียงบ่งบอกแววโหดร้าย ใบหน้าชายหนุ่มหล่อเหลาไม่ต่างจากรูปปั้นชาวโรมัน ทว่าจิตใจอำมหิตเกินที่บุคคลรอบข้างจะเข้าหา ยกเว้นโมอาคือเพื่อนสนิท แม้คิดไม่ซื่อก็ตาม
เขาแอบชอบเธอตลอดมา จนครอบครัวพยามวางตำแหน่งคู่ครองในไม่ช้า แต่ใครจะคิดว่าหญิงสาวหาวิธีปฏิเสธได้แบบนี้
"เราไว้ใจเจ้านะอองตวน" เวลานี้คนบอกคิดแค่ว่า หากปิดกลั้นเรื่องถูกผิดไว้ชั่วคราว เขาจะเลือกลงโทษชายแปลกหน้าคนนั้นด้วยความตายเป็นพอ ปล่อยเรื่องคือความลับตลอดกาล
"ขอบใจที่เลือกผม"
@ ประเทศไทย
ก็อก! ก็อก!
"ฉันรู้ว่าคุณกลับมาแล้ว ขอคุยด้วยหน่อยได้ไหม" เสียงจากหน้าประตูห้องส่วนตัว กำลังรบกวนสมาธิของแพทย์หนุ่ม พึ่งนำชิ้นเนื้อเยื่อบริเวณสมองของคนไข้รายนึง กลับมาทดลองปฏิกิริยาเคมีเพื่อตอบสนองแก่การรักษา
คนตัวสูงถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย สถานที่ต้องห้ามถูกรบกวนครั้งแล้วครั้งเล่า เคยออกกฏสั่งเฉพาะลูกน้อง แต่ใยหญิงสาวไม่เกรงใจบ้าง เขาเลือกใช้สมาธิจดจ่อการทดลองตรงหน้าบนโต๊ะทำงานต่อ สิ่งสำคัญคือชีวิตผู้ป่วยในมือ
ก๊อก! ก๊อก!
"เอ๊ะ!หรือว่าคุณหลับแล้ว งั้นฉันลงไปข้างล่างสั่งพี่เตโชได้ไหม" สมาธิถูกทำลายอีกครั้ง ซิลค์โยนตัวคีบใส่กล่องสแตนเลสอย่างไม่สบอารมณ์ ถอดถุงมือยางทิ้งลงถังขยะ มุ่งสาวขายาวดุจนายแบบเปิดประตู
"มารยาท?" น้ำเสียงเข้มเอ่ยถามผ่านใบหน้านิ่ง ยามพูดมีกลิ่นสารโคตินลอยฟุ้ง จนคนเบื้องหน้าทำจมูกฟุดฟิดสื่อนัยนะ
"เอ่อ..ขอโทษคุณก่อนแล้วกัน ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ คือว่าฉันยังเรียนอยู่ปีสุดท้ายแล้ว ช่วยรบกวนปิดเรื่องจดทะเบียนสมรสได้ไหม เพราะมันจะมีปัญหาตอนบรรจุครู" ร่างอรชรในชุดนอนแขนขายาว แหงนใบหน้าพูดร่ายความในใจราวครุ่นคิดมาแล้วเนิ่นนาน
เหมือนกับเด็กยืนคุยกับผู้ใหญ่ เพ่งจ้องหน้ารอฟังคำอธิบายแม้ไม่เอ่ยถาม
"ครู?" ช่างน่าตลกซ้ำซาก ระดับองค์หญิงเลือกสละชีวิตสุขสบาย อยากมางานเป็นแค่อาจารย์เงินเดือนยิบย่อย เขาย่อมไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ท่อนแขนแกร่งยกค้ำประตู เมื่อเปิดครบกำหนดเวลาอัตโนมัติมักจะปิดทันที ยิ่งเผยกล้ามมัดเนื้อแข็งแรงผ่านเสื้อเชิ้ตสีขาว ลอบทำคนมองไหวเอน เพราะเธอไม่เคยเข้าใกล้ชายบุรุษนอกจากพี่ชายคนเดียว
"มันเป็นความฝันหน่ะ ชีวิตสุขสบายมากพอแล้ว อยากมีที่สงบๆอยู่" จะดีแค่ไหนกันได้ไปเป็นอาจารย์ตามสถานที่ชนบท กินอยู่ง่ายดายไม่เรื่องมากสำหรับตัวเอง
"พูดจบยัง" ใบหน้าคมคายนิ่งเรียบ แสดงอาการหลังฟังไม่ได้ตื่นเต้นอะไรเลย แถมถอนหายใจเสียงดังเป็นระยะ บ่งบอกอาการรำคาญเสียด้วยซ้ำ
"จบแล้วก็ได้ ไปนอนล่ะนะ" หญิงสาวช่างพูดยกมือเหมือนจะอำลา แต่นิสัยชอบอยากรู้แอบเผลอชะโงกหน้าสำรวจภายในลึกลับแทน จนสะดุดนัยน์ตาคมดุดันจึงยอมเดินกลับห้องไปเงียบๆ
_ เช้าวันต่อมา
"พี่เด!!!หายไปไหนกันเนี้ย" เธออุตส่าห์ตื่นเช้ากว่าตอนอยู่ที่วังแล้วแท้ๆ เหตุใดพอลืมตาพบนาฬิกาปลุกระบุว่าเก้าโมง ร่างอรชรเลือกสวมเสื้อผ้าชุดธรรมดา หลังให้เดโม่นำเสื้อผ้าจากคอนโดเก่า ครั้งนั้นบิดาออกเงินซื้อเพื่อสนับสนุนเรื่องเรียน
"ที่นี่งดใช้เสียงนะครับ" เตโชดันเดินพรวดพราดเข้าภายในห้องโถ่ง ตอนจังหวะเธอลงบรรไดพอดี บุคลิกลึกลับพาลอีกฝ่ายรู้สึกกดดัน
"แล้วพี่เตรู้ไหมว่าพี่เลี้ยงโมไปไหน" น้ำเสียงใสเอ่ยถาม หลังพยามนอนคิดตั้งแต่เมื่อคืนว่าจะใช้ สรรพนามเรียกพวกเขาอย่างไรให้เหมาะสม
"ไปวิ่งสำรวจกับกลุ่มบอดี้การ์ด อีกไม่เกินสิบนาทีคงกลับมา" คนบอกผ่านน้ำเสียงเรียบ หันสนใจยามเจ้านายเบื้องบนก้าวออกจากห้อง สะดุดสายตากับคนตัวเล็ก ยิ่งเปลี่ยนการแต่งกายอายุแลดูสมวัย
............................
อย่ากดถูกใจเพื่อช่วยกันดันเรื่องนี้ด้วยคนับ เป็นกำลังใจให้ไรท์เอง