"อ๊าายย! ไอ้บ้า! ออกไปเดี๋ยวนี้นะ!" รสาเปล่งเสียงร้องโวยวายและรีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาพันรอบกายอรชรไว้ สิงห์ยังคงจ้องมองเรือนร่างงดงามของภรรยาสาวอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาจึงกระตุกยิ้มมุมปากเจ้าเล่ห์ ชายหนุ่มเลื่อนบานประตูปิดลงแล้วจึงเดินกลับมานั่งที่โซฟาเช่นเดิม แต่ทว่าอารมณ์ความรู้สึกในร่างกายของเขากลับเปลี่ยนไป เรือนร่างงดงามที่ตนเอาแต่ผลักไสกลับมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกอ่อนไหวเป็นอย่างมาก ผิวขาวนวลเนียนผุดผ่องที่ถูกเกาะพราวไปด้วยหยดน้ำช่างน่าเสน่หา
"บ้าจริง!" ชายหนุ่มนึกเริ่มหงุดหงิดเมื่อเขาไม่สามารถสลัดภาพเปลือยกายของภรรยาสาวออกจากโสตประสาทได้ แก้มก้นงอนขาวเนียนราวกับจรดอยู่ตรงปลายจมูกโด่งไม่หายไป
ครู่หนึ่งรสาเดินออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าสวยละมุนกลายเป็นสีแดงระเรื่อ สิงห์หันมองไปยังภรรยาสาวและสังเกตเห็นดวงตาของเธอแดงก่ำเหมือนผ่านการร้องไห้ เขาจึงหยัดกายลุกขึ้นเดินตรงเข้าไปหา
"ฉันเห็นเธอโป๊แค่นี้ถึงกับร้องไห้เลยหรอ?" สิงห์เลิกคิ้วถามเสียงประชด
"ฉันไม่ได้ร้องไห้เรื่องนั้นหรอกค่ะ"
"แล้วเธอร้องไห้เรื่องอะไร?"
"มันไม่ใช่ธุระอะไรของคุณหรอกค่ะ อย่ามายุ่งกับฉันแล้วก็...กรุณาอย่าเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปแบบนั้นอีก" รสาพูดพลางเบือนหน้าไปทางอื่นด้วยความรู้สึกอาย
"หึ! ทำเป็นเล่นตัว เธอคิดจริงๆหรือว่าเรื่องของเรามันจะไม่ลงเอยบนเตียง?" พ่อเลี้ยงหนุ่มขยับมือขึ้นมากอดอกและยังคงยืนขวางทางเธอไว้
"ฉันจริงจังนะคะ เรื่องนั้นมันจะไม่เกิดขึ้นเด็ดขาด ฉันไม่ต้องการที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคุณเพื่อให้เรื่องทุกอย่างมันยากไปมากกว่านี้ ฉันจะพยายามหาเงินมาคืนให้ได้นะคะ และหลังจากนั้นเราจะหย่ากัน" คำพูดของรสาสร้างความรู้สึกขุ่นเคืองใจให้กับสิงห์อีกครั้ง
"หน้าอย่างเธอจะมีปัญญาหาเงินยี่สิบล้านมาคืนฉันหรอ?" คำดูถูกดูแคลนวนกลับเข้ามาอยู่ในบทสนทนาอีกครั้ง
"ฉันยอมรับนะคะว่าตอนนี้ฉันอาจจะไม่มี แต่ว่าหลังจากนี้ฉันจะไปสมัครงาน แล้วก็คาดหวังว่าจะสามารถหาเงินมาคืนคุณให้ได้เร็วที่สุด"
"เธอจะไปทำงานอะไร?"
"คุณไม่จำเป็นต้องรู้หรอกค่ะ มันเป็นเรื่องของฉัน"
"มันไม่ใช่เรื่องของเธอคนเดียว ถ้าเธอไปทำงานแล้วใครจะช่วยงานที่ไร่ของฉัน ไหนจะเรื่องอาหารเช้ากลางวันเย็นที่ต้องทำให้ฉันกินอีก" รสาหันขวับมาจ้องมองใบหน้าของสามีหนุ่ม
"คุณแม่บอกว่าฉันไม่จำเป็นต้องทำอาหาร และอีกอย่างเรื่องงานที่ไร่ฉันก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรช่วยคุณ"
"แต่ฉันจำเป็นที่จะต้องให้เธอช่วยทำงาน"
"คุณสิงห์คะ" รสาตวัดสายตามองสิงห์ด้วยความขุ่นข้องหมองใจ
"ทำตัวให้มันสมกับเป็นเมียพ่อเลี้ยงสิงห์หน่อยสิ อย่าให้คนอื่นเขากล่าวหาว่าพ่อเลี้ยงสิงห์เลี้ยงเมียไม่ได้ เมียก็เลยต้องไปทำงานที่อื่นทั้งๆที่งานที่ไร่มีให้ทำตั้งเยอะแยะ" เธอเหนื่อยที่จะเถียงกับคนเช่นเขาจึงเลือกสงบปากสงบคำลง มือเล็กผลักไสแผงอกกำยำให้หลบออก
"ไว้ฉันจะคิดดูอีกที ฉันจะนอนแล้ว" ร่างบางก้าวขาขึ้นมาบนเตียงนอน แต่ทว่าถูกสิงห์ก้าวขึ้นมาขวางทางไว้เสียก่อน
"มีอะไรอีกคะ?"
"พรุ่งนี้เช้าฉันจะกินข้าวต้มกุ้งใส่หมูยอที่หั่นเป็นเส้นๆ แล้วก็ใส่ขึ้นฉ่ายเยอะๆ" สิงห์พูดในขณะที่ดวงตากลมโตค่อยๆแง้มมองสามีหนุ่มด้วยความรู้สึกงวยงง
"ฉันทำไม่เป็นค่ะ"
"ทำเป็นสิ ฉันรู้ว่าเธอทำเป็น และฉันก็ต้องได้กินพรุ่งนี้เช้าด้วย"
"คุณ..." คิ้วเรียวขมวดแทบชนกัน เขาพูดจบแล้วจึงทิ้งตัวนอนลงบนเตียงนุ่มท่าทางสบายใจ
"คุณสิงห์ทำอะไรคะ ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยนะ"
"ฉันก็จะนอนไง จะให้ฉันลุกไปไหน?"
"ที่นอนของคุณอยู่บนโซฟาไม่ใช่หรือคะ เมื่อคืนคุณก็นอนที่นั่น" มือเรียวชี้ไปยังโซฟา
"เมื่อคืนฉันนอนที่โซฟาเพราะว่าฉันเมา ฉันไม่เคยคิดที่จะนอนที่อื่นที่ไม่ใช่เตียงนอนของตัวเองเลย ส่วนเธอนอนตรงนี้ก็ถูกแล้ว" รสาจ้องมองคนตัวโตครู่หนึ่งจึงกระโดดลงจากเตียงและหยิบเอาหมอนของตนเดินตรงไปยังโซฟา
"เธอกล้าขัดคำสั่งของฉันหรอ?" สิงห์หยัดกายลุกขึ้นนั่งและจ้องมองภรรยาสาวด้วยแววตาคาดโทษ เขาขยับลงมาที่ปลายเตียงและหย่อนปลายเท้าลงแนบพื้น จากนั้นจึงลุกขึ้นยืนและเดินตรงเข้ามาหาภรรยาสาวพร้อมกับดึงหมอนของเธอมากอดไว้
"เราจะนอนด้วยกันได้ยังไงคะ ฉันบอกคุณแล้วไงคะว่าเรื่องแบบนั้นมันจะไม่เกิดขึ้น"
"ฉันก็ไม่ได้บอกว่าฉันจะทำอะไรเธอคืนนี้ ก็แค่นอนเฉยๆมันจะเป็นอะไร ที่นอนก็ออกจะกว้าง อีกอย่างถ้าเธอนอนที่โซฟาเดี๋ยวเธอก็เอาเรื่องนี้ไปฟ้องคุณแม่ แล้วฉันก็โดนคุณแม่ว่าอีก" สิงห์พูดเสียงดุและรั้งข้อมือเล็กของภรรยาสาวให้เดินตามตนไปยังเตียงนอน
"เรื่องนี้ฉันจะไม่บอกคุณแม่ค่ะ"
"ฉันไม่เชื่อคนใจร้ายอย่างเธอหรอก" พ่อเลี้ยงหนุ่มขยับมือหนาขึ้นมารั้งเอวบางให้ล้มตัวนอนลงบนเตียง จากนั้นเขาจึงดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมกายภรรยาสาวไว้ ท่อนขากำยำก้าวข้ามร่างบางขึ้นไปนอนฝั่งของตนเอง
"นี่คุณ!"
"ทำไม อย่าบอกนะว่าเธอถือ?"
"เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร" ร่างบางพลิกกายหันหลังให้สามีหนุ่มและพยายามข่มตาให้หลับลง สิงห์เอื้อมมือไปปิดไฟจนเหลือเพียงแสงไฟสลัวจากโคมไฟหัวเตียงเท่านั้น
"อื้อ!" รสาสะดุ้งตกใจเล็กน้อยเมื่อเธอสัมผัสได้ถึงแรงเคลื่อนของที่นอนเพราะสิงห์ขยับกายกำยำเข้ามาแนบชิดร่างบอบบาง ผิวกายนุ่มละมุนส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งอบอวล สิงห์นึกอยากลิ้มสัมผัสผิวกายหอมหวานตามใจตน
"ก็แอร์มันลงที่นอนฝั่งนั้น ฉันรู้สึกหนาว" เขานอนตะแคงหันหน้าเข้าหาภรรยาสาว มือหนาขยับขึ้นมาโอบกอดรอบเอวบางไว้ อยู่ๆรสาก็นึกถึงใบหน้าของนาราขึ้นมาเธอจึงรู้สึกขยะแขยงพฤติกรรมของพ่อเลี้ยงสิงห์
"คุณสิงห์เอามือออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะคะ" ชายหนุ่มไม่สนใจคำพูดประท้วง เขากดปลายจมูกโด่งลงบนเส้นผมสลวยเพื่อสูดดมกลิ่นหอมละมุนปราศจากการหักห้ามใจ
"คุณสิงห์ได้ยินที่ฉันพูดไหมคะ กรุณาเอามือออกไปด้วยค่ะ" รสาเอ่ยเตือนสติพ่อเลี้ยงหนุ่มอีกครั้ง แต่ทว่าสิงห์ยิ่งซุกปลายจมูกโด่งของเขาหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆจนริมฝีปากหยักนุ่มสามารถจูบสัมผัสได้ถึงผิวนุ่มบริเวณท้ายทอยของภรรยาสาว
"ถ้าเธอพูดมากแล้วฉันเกิดมีอารมณ์ขึ้นมา อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ" เสียงแผ่วเบาคล้ายคนกำลังจะผล็อยหลับทำให้รสาเลือกที่จะสงบปากสงบคำและปล่อยให้เขาโอบกอดเธออยู่เช่นนั้น
ห้วงราตรีมาเยือนย่ำ อารมณ์กระสันไม่ได้จางหาย มันคุกรุ่นในหัวใจ อารมณ์หมายเฝ้าคอยวันประสานเป็นหนึ่ง...