สิงห์เดินกลับขึ้นมาบนห้องนอนพร้อมกับภรรยาสาวหลังจากรับประทานมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว รสาเกิดความรู้สึกประหม่าเมื่อค่ำคืนอันน่าหวาดระแวงเดินทางมาเยือนอีกครั้ง เธอตระหนักดีว่าชีวิตแต่งงานของตนไม่ได้หวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าเหมือนคู่แต่งงานธรรมดาทั่วไป
"ฉันจะอาบน้ำก่อนเธอทุกวัน" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยขณะเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวของตนเองและเหวี่ยงขึ้นมาพาดบนบ่าแกร่ง เขาชำเลืองมองภรรยาสาวสลับกับชุดนอนที่เธอจัดเตรียมไว้ให้ จากนั้นจึงขยับมือขึ้นมาแกะกระดุมเสื้อผ้าออก รสาเบือนหน้าหนีสิงห์จึงแกล้งเดินเอื่อยเฉื่อยเข้าไปในห้องน้ำท่าทางสบายอารมณ์
"เฮ้อ!" หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่พลันหย่อนก้นลงบนโซฟา
"ไม่อาบด้วยกันหรอ?"
"อ๊ะ!" ร่างบางสะดุ้งโหยงตกใจ มือเล็กขยับขึ้นมาทาบอกเมื่อสิงห์เปิดประตูห้องน้ำและพูดโพล่งออกมา
"ตกใจหมดเลย! พูดบ้าอะไรของคุณคะ?"
"ฉันก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ เผื่อว่าคืนนี้เธอจะอยาก..." เขาเหยียดยิ้มมุมปากและปิดประตูห้องน้ำอีกครั้ง รสาถึงขั้นถอนหายใจออกมาอีกหลายเฮือกเมื่อนึกถึงค่ำคืนอันยาวไกลต่อจากนี้ไป
สิงห์ใช้เวลาอาบน้ำราวสิบนาทีเขาจึงเปิดประตูเดินออกมา รสาหันขวับไปมองสามีหนุ่มแต่ทว่าเธอกลับต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ หัวใจดวงน้อยไม่เต้นไม่เป็นส่ำเมื่อเห็นร่างสูงกำยำเปลือยเปล่าตรงหน้า กว่าจะเคลื่อนไหวมือเล็กขึ้นมาปิดตาไว้ได้มันช่างยากเย็นแสนเข็ญ
"อ๊ายยย! ไอ้คุณสิงห์บ้า!" รสาปิดตาทั้งสองข้างเมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มอยู่ในสภาพเปลือยกายกำยำเดินออกมาจากห้องน้ำ
"จะร้องโวยวายเสียงดังทำไม?" เขาถามเสียงรำคาญ
"คุณสิงห์! คุณทำบ้าอะไรของคุณคะ ใส่เสื้อผ้าเดี๋ยวนี้เลยนะ" หญิงสาวตะโกนขึ้นเสียงดัง แต่ทว่าสิงห์กลับไม่ยี่หระต่ออาการร้อนรนของภรรยาสาว และยังใช้ผ้าเช็ดตัวขยี้กับเส้นผมที่เปียกชุ่มน้ำ แม้จะปิดตาเบือนหน้าหนี แต่ทว่าภาพเปลือยกายกำยำกล้ามเนื้อแน่นชัดเจนทุกสัดส่วนกลับยังคงติดตาไม่ยอมจางหาย
"ปกติฉันก็อาบน้ำเสร็จแล้วก็เดินเปลือยในห้องของฉันแบบนี้เป็นประจำ เพราะฉะนั้นฉันจะไม่มีทางที่ทำในสิ่งที่ฉันไม่เคยทำ" สิงห์คลี่ยิ้มและแกล้งเดินเฉี่ยวคนตัวเล็กที่นั่งขดตัวอยู่บนโซฟาตรงไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง กลิ่นหอมครีมอาบน้ำละมุนละไมโชยมาชนเข้ากับจมูกเล็กอย่างจัง รสาทำท่าฟุดฟิดเมื่อเธอจำได้ดีว่ามันเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำของตนเอง
"นี่คุณสิงห์ใช้ครีมอาบน้ำของรสาหรือคะ?" หญิงสาวถามทั้งที่มือยังคงปิดตาอยู่
"ฉันหยิบผิดขวด" รสานึกอยากจะถอนหายใจครั้งที่ร้อย
"แต่ถึงยังไงคุณจะมาเดินโป๊เปลือยในห้องทั้งๆที่ฉันอยู่ในนี้ไม่ได้นะคะ"
"ทำไมฉันถึงจะทำแบบนั้นไม่ได้?" สิงห์หันขวับกลับมามองคนตัวเล็กพร้อมกับเลิกคิ้วถามถึงแม้ว่ารสาจะไม่เห็นสีหน้าของเขาก็ตาม
"แต่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันนะคะ คุณจะมาทำแบบนี้ต่อหน้าฉันไม่ได้"
"ทำไมจะไม่ได้เป็นอะไรกัน เธออย่าลืมสิว่าเธอเป็นเมียฉัน และเราก็จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมายด้วย"
"แต่นั่นมันเป็นเพียงแค่เอกสารทางกฎหมาย ความจริงคนที่เป็นเมียคุณก็คือนารา ไม่ใช่ฉัน"
"นาราไม่ได้เป็นเมียฉัน คนที่เป็นเมียฉันก็คือเธอ เมียที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ฉันจะทำอะไรก็ได้" สิงห์เดินตรงเข้ามาหยุดตรงหน้าร่างบางที่ยังคงนั่งขดตัวปิดตาอยู่บนโซฟา จากนั้นเขาจึงพันผ้าเช็ดรอบเอวไว้อย่างหมิ่นเหม่
"ช่วยกรุณาไปแต่งตัวให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยมาคุยกันค่ะ"
"ฉันจะพูดอีกครั้งว่านาราไม่ใช่เมียฉัน คนที่เป็นเมียฉันก็คือเธอ" พ่อเลี้ยงหนุ่มพูดย้ำเตือนอีกครั้ง
"แต่เมื่อคืนคุณไปนอนกับนารามาไม่ใช่หรือคะ?" รสาเถียงพร้อมขยับมือที่ปิดตาออก
"ฉันไม่ได้ไปนอนกับนารา" เธอแหงนหน้ามองใบหน้าคมคายของสามีหนุ่ม
"คุณจะไปนอนกับคุณนาราหรือไม่นอนมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉัน" จากนั้นจึงแสร้งเมินหน้าหนีไปทางอื่น
"แน่ใจนะว่าไม่เกี่ยว?"
"คุณก็ประกาศไว้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือคะ ว่าคุณจะไม่มีทางเลิกกับเธอ" รสาเปล่งวาจาแสนประชดประชัน ใบหน้าสวยละมุนยามเมินหน้าหนีช่างน่าเอ็นดู สิงห์ยกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายแสดงท่าทีกระเง้ากระงอดแสนงอน
"แล้วถ้าฉันนอนกับเธอคืนนี้ แล้วคืนพรุ่งนี้ฉันไปนอนกับนารา เธอจะว่ายังไง?" พ่อเลี้ยงหนุ่มโน้มใบหน้าลงมาใกล้ทำท่าเลิกคิ้วถาม
"ฉันไม่มีทางนอนกับคุณเด็ดขาด อย่ามาพูดจาอะไรแบบนี้นะคะ" ภรรยาสาวหันมาสบตาเขา แต่ทว่าสายตาประกายร้อนแรงคู่นั้นกลับทำให้รสารีบเบือนหน้าหลบไปอีกครั้งหนึ่ง
"ฉันไม่เคยบอกเธอนะว่าฉันจะไม่นอนกับเธอ อย่าลืมสิว่าฉันเสียเงินไปยี่สิบล้าน"
"ยี่สิบล้านมันเพียงเพราะว่าฉันยอมแต่งงานกับคุณไม่ใช่หรือคะ"
"แล้วเธอคิดว่าการแต่งงานผัวเมียเขาทำอะไรกันบ้างล่ะ เธอคิดจะเอาเปรียบฉันหรอ?" สิงห์โน้มเข้ามาใกล้เสียจนปลายจมูกโด่งเป็นสันเกือบสัมผัสกับพวงแก้มแดงใส
"คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ?"
"ก็หมายความว่าเธอเป็นเมียฉันไง แล้วฉันก็จะทำให้เธอเป็นเมียโดยสมบูรณ์" สายตาแหลมคมประกายเจ้าเล่ห์ของพ่อเลี้ยงหนุ่มกวาดมองเรือนร่างอรชรงดงามของภรรยาสาว
"คุณจะไม่ทำแบบนั้นกับฉันค่ะ"
"ทำไมฉันถึงจะไม่ทำ?"
"ก็เพราะว่าฉันแต่งงานกับคุณเพื่อใช้หนี้ให้กับครอบครัวเท่านั้น แต่...แต่ชีวิตจริงฉันมีแฟนแล้ว" แม้จะพูดปลด แต่ทว่ามันกลับสร้างอารมณ์ความโกรธให้อีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี
"อย่าบอกนะว่าไอ้ผู้ชายที่ชื่อขันเงินมันเป็นแฟนของเธอจริงๆ?" สิงห์หยัดกายขึ้นตรง เขาดันลิ้นกระพุ้งแก้มสีหน้าหงุดหงิด มือหนาขยับขึ้นมาเท้าเอวพร้อมกับจ้องมองภรรยาสาวด้วยแววตาสุดยากจะคาดเดา
"ถูกต้องค่ะ คุณขันเงินเขาเป็นแฟนของฉันเอง" รสาพูดออกมาเต็มปากเต็มคำ
"ดี! งั้นเธอก็ไปเลิกกับมันซะ เพราะตอนนี้เธอเป็นเมียของฉันโดยถูกต้องตามกฎหมาย เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกผู้ชายคนอื่นว่าแฟน เข้าใจหรือเปล่า?" สิงห์ออกคำสั่งเสียงเกรี้ยวกราด
"ถ้าพ่อเลี้ยงจะพูดแบบนี้ก็แปลว่าคุณไม่มีสิทธิ์ที่จะไปหาคุณนาราอีกน่ะสิคะ" ใบหน้าสวยแหงนขึ้นมาจ้องมองอีกฝ่ายกลับไปบ้าน
"ทำไมฉันถึงจะไม่มีสิทธิ์"
"ก็ในเมื่อคุณห้ามไม่ให้ฉันมีแฟน เพราะฉะนั้นฉันก็ห้ามไม่ให้คุณมีผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน เพราะว่าคุณเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉัน" รสาพูดในวิธีเดียวกันกับที่สามีหนุ่มพูดกับตนบ้าง
"หึ! เธอนี่ก็พูดจาเพ้อเจ้อดีนะ ฉันมีสิทธิ์ที่จะไปหานาราหรือว่าทำอะไรกับผู้หญิงคนนั้นก็ได้ และฉันก็มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรกับเธอก็ได้เหมือนกันเพราะว่าฉันเป็นคนเห็นแก่ตัว"
"ใช่ค่ะ คุณเป็นคนที่เห็นแก่ตัวมาก"
"และฉันก็ไม่ยอมให้เธอมีผู้ชายคนอื่นหรือเรียกผู้ชายคนอื่นว่าแฟน ถ้าอยากนอนหลับดีๆก็อย่าทำให้ฉันหงุดหงิด" สิงห์ขยับมือมาแตะคางมนและเชยขึ้นมาสบดวงตากลมโตแดงก่ำ ครู่หนึ่งเขาจึงตัดใจขยับมือออกและเดินไปดูดบุหรี่บริเวณริมระเบียงห้องนอน
"บ้าจริง" รสาหันไปมองคนตัวโต แผ่นหลังกำยำเปลือยท่อนบนจนเห็นกล้ามเนื้อชัดเจนทุกสัดส่วนทำให้เธอจ้องมองอย่างลืมตัว
"บ้าจริง!" ครู่ใหญ่หญิงสาวจึงละสายตาจากสามีหนุ่มแล้วจึงรีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและตรงเข้าไปในห้องน้ำ รสารีบถอดเสื้อผ้าของตนเองออกจนกายบอบบางเปลือยเปล่า มือเรียวเอื้อมไปเปิดฝักบัวและปล่อยให้น้ำไหลชโลมกายบอบบาง
"ฉันจะทำยังไงดีถึงจะหลุดพ้นจากตรงนี้ไปได้" หญิงสาวพึมพำออกมาแข่งกับสายน้ำจากฝักบัว เธอใช้เวลาในการระบายอารมณ์ความอัดอั้นตันใจอยู่ภายใต้ฝักบัวนานราวสามสิบนาที
สิงห์ซึ่งนั่งดูโทรทัศน์อยู่บนโซฟารู้สึกแปลกใจที่ภรรยาสาวใช้เวลาในการอาบน้ำนานเกินไป ร่างสูงจึงหยัดกายขึ้นยืนและเดินตรงไปยังประตูห้องน้ำ เขาถือวิสาสะเลื่อนบานประตูห้องน้ำออกโดยที่ฝักบัวยังคงโปรยสายน้ำชโลมเรือนร่างบอบบางที่ยืนหันหลังอยู่ สิงห์จ้องมองกายเปลือยงดงามแน่นิ่ง เรือนร่างอรชรเปลือยเปล่าที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวราวกับมีมนต์ขลัง สิงห์จ้องมองเช่นนั้นจนกระทั่งรสาหันกลับมา ภรรยาสาวเบิกตากว้างเมื่อเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มจ้องมองตนด้วยแววตาเปี่ยมประกายวาววับ