แฝด

1306 Words
นักรบขับรถไปที่บ้านของเขาที่ไทย ที่ซึ่งจอมทัพ พี่ชายฝาแฝดของเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิด ส่วนเขานั้นหลังจากที่พ่อแม่แยกทางกัน เขาต้องย้ายไปอยู่กับแม่ที่ญี่ปุ่น เพราะพ่อต้องแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่ปู่เลือกให้ เมื่อเขามาถึงบ้าน ก็เห็นจอมทัพกำลังนั่งจิบกาแฟพร้อมกับดูโทรศัพท์อยู่อย่างใจเย็น แต่เสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่นั้น ดูก็รู้ว่าเขากำลังจะออกไปนอกบ้าน นักรบเดินตรงเข้าไปหาพี่ชายฝาแฝดของตัวเองทันทีและทักทายด้วยรอยยิ้ม ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆ อีกฝ่าย “ไง...แต่งตัวเนี๊ยบแต่เช้า ไม่อึดอัดหรือไง” เขาถามด้วยน้ำเสียงยียวน แต่อีกฝ่ายกลับยังนั่งเฉย ไม่มีท่าทีว่าจะโต้ตอบอะไร “ฉันไม่ได้ว่างเหมือนแกนี่ ที่จะออกเที่ยวจนเช้าแบบนี้” แต่ท้ายที่สุด เสียงทุ้มของจอมทัพก็เอ่ยตอบ เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเอาแต่จ้องหน้าเขาจนน่ารำคาญ “เที่ยวผับที่ไทยสนุกกว่าที่ญี่ปุ่นมากเลย แล้วรู้ไหมเมื่อคืนฉันเจอผู้หญิงคนหนึ่งที่ผับ ดูท่าทางมีเสน่ห์ดีนะ สวยมากด้วย” นักรบพยายามพูดให้อีกฝ่ายอยากรู้ เขาทำเสียงคล้ายกับมีบางอย่างซ่อนอยู่ในคำพูดของเขา แต่จอมทัพกลับแค่เงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ครู่หนึ่งแล้วหันมามองคนพูดอย่างเฉยชา “แล้วไงล่ะ?” จอมทัพถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ราวกับไม่มีความสนใจในสิ่งที่นักรบกำลังพูด เขาก้มหน้าลงมองโทรศัพท์ในมืออีกครั้ง นักรบหัวเราะเบาๆ พยายามทำให้เรื่องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้น “เพื่อนที่เคยมาเที่ยวที่ไทยเคยบอกนะ ว่าสาวไทยสวย ยิ่งเป็นลูกครึ่งยิ่งสวย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะสวยขนาดนี้ น่าเสียดายเมื่อคืนเธอเมาไปหน่อย” จอมทัพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงนิ่ง “เที่ยวซะให้พอก็แล้วกัน เดี๋ยวพ่อจะให้แกไปเรียนรู้งานกับฉัน ถึงตอนนั้นไม่มีเวลามาเที่ยวสนุกแบบนี้หรอกนะ” “ทำไมต้องให้ฉันทำงานด้วย แม่บอกว่า พ่อสัญญาเอาไว้แล้ว ว่าฉันจะไม่ต้องทำอะไร” นักรบพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ตลอดมาเขาไม่เคยต้องทำอะไร แค่อยู่กับแม่เงียบๆ ที่ญี่ปุ่น รอรับเงินจากพ่อ จนถึงวันที่ภรรยาตามกฎหมายของพ่อตาย พ่อก็โทรฯ ไปหาแม่ให้มาอยู่ด้วยกันที่ไทย แต่แม่ของเขาไม่มาและส่งเขามาแทน จอมทัพส่ายหัวเบาๆ ก่อนจะหันไปยิ้มเย้ยนักรบ “ไม่แปลกใจเลยที่แกไปอยู่ญี่ปุ่นตั้งนาน แต่พูดภาษาญี่ปุ่นก็ไม่ได้ ภาษาอังกฤษก็ไม่ได้อีก แกนี่มันไม่เอาอะไรเลยจริงๆ” นักรบยักไหล่ “ฉันถูกพ่อทิ้ง ไม่เหมือนแกที่ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ที่นี่ ถ้าแกจะต้องพยายามเพื่อทำตัวให้สมกับเป็นลูกชายของนักธุรกิจตระกูลดัง มันก็ถือว่าเป็นสิ่งที่แกต้องแลก” จอมทัพมองหน้าน้องชายฝาแฝดของเขาด้วยความรู้สึกสมเพช แปลกใจจริงๆ ว่าแม่เลี้ยงน้องชายของเขามาอย่างไร ทำไมถึงได้ไม่เอาไหนขนาดนี้ “คุณจอมคะ คุณท่านใหม่มาเรียกคุณจอมไปพบที่ห้องหนังสือค่ะ” สาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาบอก จอมทัพหันไปพยักหน้ารับ ก่อนจะลุกยืนขึ้นแล้วเดินออกไปทันที “คุยกับน้องบ้างหรือยัง เรื่องที่จะให้เขามาช่วยงาน” เมื่อจอมทัพเข้ามาถึง พ่อของเขาก็เอ่ยถามขึ้นทันที “ผมเพิ่งได้เจอกับมั...นักรบ ตั้งแต่มาถึงไทยจนวันนี้ เขาไปเที่ยวทุกวัน ไม่มีเวลามาเจอกับผมหรอก พ่อไปคุยกับเขาเองดีกว่า” “ฉันอยากให้แกคุยกับน้อง เพราะอยากให้แกกับน้องสนิทกัน” “เขาคงไม่ได้อยากสนิทกับผมหรอก...” “ฉันสั่งอะไรแกก็ต้องทำตามนั้น ให้เวลาน้องหน่อย แม่แกเลี้ยงน้องแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก ก็คงจะคุยกันยากหน่อย ฉันเข้าใจ” จอมทัพได้แต่ฟังเงียบๆ ในเมื่อมันเป็นคำสั่งของพ่อ เขาก็ขัดอะไรไม่ได้ ตั้งแต่เด็กจนโต เขาก็ต้องคอยทำตามที่พ่อสั่งไปหมดเสียทุกอย่าง จนแม้แต่ตอนนี้ ถ้าเลือกได้เขาก็อยากจะเป็นคนที่ถูกแม่พาไปด้วย “ส่วนเรื่องนัดคุยเรื่องงานแต่ง ทางนั้นเขานัดมาแล้ว เป็นคืนวันศุกร์หน้า แกก็จัดการตัวเองให้มันเรียบร้อยล่ะ” “ครับ” “ฉันได้ยินประวัติของแม่วิเวียนอะไรนี่ ดูแล้วจะไม่ธรรมดาสักเท่าไหร่ ไม่แปลกใจเลยที่ทางนั้นเสนอแต่งงานมา พร้อมกับจะออกค่าสินสอดและค่าจัดงานเองทั้งหมด แม่นั่นโชคดีที่เกิดในครอบครัวนั้น ถ้าเกิดเป็นพวกคนจนคงจะหาผัวไม่ได้” จอมทัพได้แต่ฟังเงียบๆ เขาเองก็รู้สรรพคุณของว่าที่คุณหมั้นตัวเองมาแล้วเหมือนกัน ประวัติไม่ธรรมดาอย่างที่พ่อเขาว่าจริงๆ ทั้งเรื่องผู้ชาย เรื่องยา เรียกได้ว่าไม่เอาไหนแบบเกินจะบรรยาย “แต่แกก็ไม่ต้องห่วงหรอก แต่งกันแล้วค่อยเอามาขัดเกลาทีหลังก็ได้ แกเองก็ไม่ได้มีใครอยู่แล้วนี่” จอมทัพมองหน้าคนพูด ก่อนจะค่อยๆ พยักหน้ารับ เขารู้ดีว่าหากเขาบอกว่าเขามีคนรักอยู่แล้ว พ่อของเขาจะจัดการกับคนรักของเขาอย่างไร “พ่อไม่มีอะไรแล้วใช่ไหมครับ” จอมทัพเอ่ยถามขึ้น “ไม่มีแล้ว ถ้ามีเดี๋ยวฉันเข้าไปหาแกที่บริษัทก็แล้วกัน เช้านี้ฉันจะไปทำธุระก่อน” จอมทัพพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินออกจากห้องมา “อย่าเพิ่งวางสิคามี่...” จังหวะที่เดินออกมาจากห้องหนังสือ และกำลังเดินผ่านห้องของนักรบ จอมทัพได้ยินเสียงอีกฝ่ายกำลังคุยโทรศัพท์อยู่ แต่ชื่อที่เขาเรียกนั้นมันคุ้นหูเสียจนเขาต้องหยุดเดิน แต่ก็ไร้ประโยชน์เมื่อบานประตูปิดลง เขาก็ไม่ได้ยินอะไรแล้ว ‘คงจะหูเพี้ยนไปเอง’ เขาคิดในใจก่อนจะเดินต่อ ตอนนี้สมองของเขามันเอาแต่คิดถึงคามิเลีย ก็คงไม่แปลกถ้าจะหูแว่วไปเองแบบนั้น ในห้องของนักรบ เขากำลังสนุกกับการปั่นหัวผู้หญิงของพี่ชายฝาแฝด เขาแอบเอาโทรศัพท์ของเธอโทรเข้าหาเขา เพื่อที่จะเอาเบอร์ของเธอ “คุณเป็นใครกันแน่ ทำไมถึงมีเบอร์ฉัน” เสียงหวานปลายสายแผดร้อง แสดงความโกรธเกรี้ยว “ก็คุณนอนกับผมเมื่อคืนนี้ไง จำไม่ได้แล้วเหรอ” “อย่ามาพูดแบบนี้นะ” “จะไม่พูดได้ไง ผมจำได้ไม่ลืมเลยนะ” “แกต้องการอะไรจากฉัน” “โอเคๆ ผมไม่แกล้งคุณแล้วก็ได้ แต่ตอบมาก่อนสิ ว่าคุณเป็นอะไรกับไอ้จอม แฝดของผมน่ะ” หญิงสาวเบิกตากว้าง เมื่อได้ยินแบบนั้น ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนแล่นเข้ามาในความทรงจำของเธอเหมือนถูกฉายซ้ำ มือบางที่สั่นเล็กๆ รีบกดวางสาย จะเป็นไปได้ยังไง ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าเขามีฝาแฝด แต่ถ้าเขามีฝาแฝดจริงๆ ก็แปลว่าเมื่อคืนเธอนอนกับฝาแฝดของเขาเหรอ แต่ต่อให้ไม่ใช่ฝาแฝดของจอมทัพ เธอก็ปฏิเสธไม่ได้อยู่ดี ว่าเมื่อคืนนี้เธอเมาจนเผลอไปนอนกับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนของตัวเองแน่ๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD