ปุ๊ป!! เสียงวางกระเป๋าของฉันบนโต๊ะอ่านหนังสือ ฟุ๊บ!! เสียงทิ้งตัวลงนอนบนเตียงของฉัน
“เฮ้อ อะไรกันนะความรู้สึกแบบนี้” ฉันคิดว่าไม่ได้เจอพี่ชินสักพักแล้วคงตัดใจได้ นี่ฉันกำลังตัดใจได้หรือเปล่านะ ช่วงนี้ฉันไม่ค่อยมีเวลาไปคิดถึงพี่เขาเท่าไหร่ เพราะพวกยัยแพรหรือเปล่านะ เจ้าพวกนั้นสรรหากิจกรรมมาให้ฉันทำตลอด คิก^_^ ฉันเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ฉันนอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยสักพักเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
“เซลลี่ เซลลี่ ลงมาช่วยสั่งอะไหล่หน่อยสิ” เสียงพี่ชายคนที่ 3 เรียกฉันอย่างอ่อนโยน
“ได้สิ มัวร์ เดี๋ยวฉันลงไปนะ ขอเปลี่ยนชุดแป๊บ”
ในบรรดาพี่ชายมัวร์จะเป็นพี่ชายที่อ่อนโยนกับฉันที่สุด ไม่ว่าฉันอยากได้อะไร เขาจะเสียสละให้ตลอด เขาให้อารมณ์เหมือนแดตดี๊ที่อ่อนโยน มัวร์มักยิ้มเสมอเวลาอยู่กับฉัน ฉันอยากให้มัวร์มีแฟนและมีชีวิตที่ดีจากใจจริง มัวร์เรียนอยู่มหาวิทยาลัยการดนตรี ปี2 พี่ชายฉันคนนี้เล่นไวโอลินเก่งมากและลุคของเขาก็เข้ากับสิ่งนี้มากที่สุด เขาเองก็มีความฝันของเขาสินะ ฉันยิ้มมุมปากเล็กน้อย แล้วเปิดประตูห้องออกไป ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก ใบหน้าแสนยิ้มแย้มที่เป็นเอกลักษณ์ เส้นผมสีบอร์นอ่อนตัดกับดวงตาสีเขียวมรกตเหมือนถูกอัญมณีฝังลงไป มองมาที่ฉันแล้วพูดขึ้น
“เซลลี่ เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมสีหน้าไม่ค่อยดีเลย ถ้าน้องไม่ค่อยสบายค่อยมาทำให้พวกพี่วันหลังก็ได้นะ หรือจะให้เจ้าเลออน มันสั่งมาให้ก็ได้นะรอบนี้” สีหน้าเป็นกังวลเกินเบอร์มากเลยคนคนนี้
“ฉันไม่เป็นไรมัวร์ พี่กังวลเกินไปแล้ว แล้วอีกอย่างถ้าให้เลออนเป็นคนทำ พี่เตรียมตัวหมดเงินโดยใช่เหตุได้เลย ครั้งก่อนที่สั่งของเกิน และสั่งมาผิด ยังระบายของออกไม่หมดไม่ใช่หรอ พี่ไม่ต้องกังวลเรื่องของฉันหรอก หน้าที่นี้ฉันรับผิดชอบเอง พี่ดูแค่ส่วนของพี่ แล้วก็เรื่องเรียน แล้วก็เรื่องไวโอลินของพี่ ก็พอแล้ว” ใจจริงก็อยากบอกให้รีบหาแฟนเร็วๆ แต่ยังก่อนดีกว่า ของแบบนี้บังคับกันได้ที่ไหน
“นี่ยัย เซเลน่า ฮาร์ฟ เมื่อกี้เธอนินทาอะไรฉัน ฉันได้ยินนะ”
เสียงสุดป่วนประสาทดังขึ้น เลออน นั่นเอง เลออนเรียนอยู่ มหาลัยปี 4 พี่ชายคนรองของพวกฉันเอง เขาเก่งเรื่องกีฬามากกว่าเรื่องเรียน ด้วยรูปร่างสูงใหญ่สไตร์ชาวตะวันตก ทำให้เขาได้เป็นนักบาสของมหาลัยและกำลังเป็นดาวรุ่งสุดฮอต ที่กำลังถูกทาบทามให้ไปเล่นสโมสรใหญ่ มีนิสัยการพูดจาที่กระโชกโฮกฮากจนดูเหมือนพวกนักเลง ในตาสีเขียวมรกตเหมือนพวกฉัน ต่างกันแค่สีผมดำขลับนั่นเหมือนจะได้มาจากแม่เต็มๆ ถึงพี่ชายคนนี้จะเกินเยียวยาเรื่องนิสัยหยาบๆ นั่น แต่เขาเป็นคนรักครอบครัวมาก โดยเฉพาะฉันที่เขาจะดูแลเป็นพิเศษ จำได้ว่าตอนปฐม ฉันกับยัยแพรเดินกลับบ้านแล้วถูกนักเรียน ม.ต้น แกล้ง อีตานี่แหละที่เข้าไปเอาคืน จนเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต “เฮ้อ พี่ชายสุดโต่งสินะ” ฉันพึมพำเบาๆ แล้วยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“ฉันไม่ได้นินทานาย แค่พูดเรื่องจริง” ฉันตอบไปแบบนิ่งๆ หลังจากนั้นสีหน้าของเลออนก็รู้สึกผิดทันที
“เก๊าขอโทษ” สีหน้ารู้สึกผิดจริงๆ แฮะ หน้าแบบนี้คงมีแต่คนที่บ้านนั่นแหละที่ได้เห็น ก็ตอนอยู่มหาลัยห้าวซะขนาดนั้น
“เอาน่าเซลลี่ อย่าว่าหมอนั่นเยอะเลย พวกพี่เองก็ยังทำงานนี้กันเองไม่ได้เลยต้องรบกวน เซเลน่าน้องเล็กสุดที่รักของเรามาทำให้ตลอดนี่ไงล่ะ” เสียงที่แสนอบอุ่นและสุภาพ เอ่ยขึ้นมาเรียบๆ
“โอ๊ะ แจ๊คสัน พี่คะ”
ฉันโผเข้ากอดพี่ชายคนโตของบ้าน แจ็คสันอายุ 26 แล้ว แต่ยังไม่ได้แต่งงาน เห็นว่ามีคนที่กำลังดูๆ กันอยู่ เหมือนตอนนี้เขากำลังเร่งสร้างเนื้อสร้างตัว แต่ภาระอันใหญ่หลวงของบ้านเราหนักเกินไป พี่ชายที่เรียนจบแค่ชั้น ม.ต้น ต้องออกมาช่วยงานแดตดี้ และแม่ในอู่เพื่อส่งน้องๆ เรียน แต่แจ็คก็ไม่เคยปริปากบ่น ฉันรักพี่ชายคนนี้มากที่สุดและหวังให้เขามีความสุขจากใจจริง
“แหม มากอดแบบนี้พี่ก็รักมากขึ้นไปอีกสิ เด็กคนนี้ ฮ่าๆ” ฉันไม่เคยเห็นสีหน้าทุกใจของแจ็คสันเลย ไม่ว่าจะวันไหนพี่คนนี้ก็ยิ้มให้ฉันเสมอ ดวงตาสีดำสนิทที่เหมือนจ้องนานๆ อาจจะถูกมนต์สะกด เส้นผมสละสลวยสีดำ จมูกโด่งเป็นสัน จะว่าไปพี่แจ็คนี่ น่าจะได้แม่มาเยอะกว่าใครเลยแฮะ
“แหม ทำไมกอดแต่พี่แจ็คคนเดียวเลยล่ะ มาให้พี่ชายสุดที่รักคนนี้กอดด้วยสิ ฉันน้อยใจแล้วนะ เซลลี่” เสียงแสบแก้วหูนี่มัน อีตาไมเคิล ไมเคิลพูดพลางวางกระเป๋านักเรียนลงบนโต๊ะที่อู่ ท่าทางเหนื่อยหอบแฮะ สงสัยเพิ่งเลิกชมรมมา
“ขอปฏิเสธ เหม็นเหงื่อ แล้วก็ไม่พิศวาสด้วย” ฉันตอบนิ่งๆ แล้วเบือนหน้าหนีไปซุกพี่แจ็ค
“อะไรกันยัยนี่ แกรู้มั้ยว่าสาวๆ ทั้งโรงเรียน อยากจะกอดเดือนของโรงเรียนคนนี้ขนาดไหน แล้วอย่ามาเสียดายทีหลังล่ะ เชอะ” ไมเคิล ไม่สบอารมณ์ พลางยืนเปลี่ยนชุดจากชุดนักเรียนเป็นชุดช่าง สำหรับทำงาน
“ถ้าสาวๆ รู้นิสัยนาย ฉันว่าเขาอยากวิ่งหนีไปไกลๆ มากกว่าจะมาอยากกอดนายนะ ไมกี้”
ฉันแหย่ไมเคิลที่กำลังหน้าบึ้ง จริงๆ แล้วพี่ชายคนที่ 3 ของฉันคนนี้ อายุแก่กว่าฉัน 2 ปี เรียนอยู่ ม.6 แต่อยู่คนละที่กับฉัน เขามีดีกรี เป็นนายแบบและเป็นคนดังของโรงเรียน หน้าตาเขาจัดว่าดีที่สุดในบรรดาพี่ชายของฉัน ถ้าไม่นับฉันนะ คิกๆ เอาเป็นว่า เขาหน้าตาถอดแบบมาจากฉันเลย ไม่ใช่สิ ฉันถอดแบบมาจากเขามากกว่าเพราะเขาเกิดก่อน ต่างกันแค่ดวงตาสีน้ำเงินสุกสว่างนั่น ถึงฉันจะไม่ค่อยชอบนิสัยเจ้าชู้ไก่แจ้ของหมอนี่ แต่ก็ยอมรับจริงๆ แหละ ว่าหมอนี่ก็เก่งจริงๆ ทำงานของตัวเองได้สมบูรณ์แบบ แบ่งเวลาทำงาน ถ่ายแบบ และเรียน โดยไม่กระทบกัน แถมยังหาค่าขนมเองโดยไม่ต้องเดือดร้อนที่บ้านมากนัก ฉันชื่นชมเขามาก แต่ไม่ได้แสดงออกไปหรอก เพราะหมอนี่ชอบเหลิง เวลาได้รับคำชม อ้อ ลืมบอก หมอนี่เป็นเพื่อนกับพี่ชินพี่ชายของยัยแพร เขาเรียนด้วยกันมาตั้งแต่ ม.ต้น แหละ
“เชอะ ยัยเซเลน่า ยัยคนปากไม่รักษาน้ำใจ ปากแกนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ” ไมเคิลบ่นแต่ใบหน้ากลับอมยิ้ม
“เอาน่าพวกเรามาทำงานกันเถอะ” มัวร์พูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ใช่ๆ อุตส่าตามเซลลี่ ลงมาจัดอะไหล่แล้ว ตั้งใจทำงานเถอะ” เลออนเสริม
“งั้นเริ่มกันเลยมั้ย เสร็จแล้วจะได้ไปกินข้าวกัน ได้ข่าวว่าวันนี้แม่ทำแกงเขียวหวานไก่ ของโปรดพี่ด้วยแหละ” แจ็คสันพูดเสริมอีกที
ฉันยิ้มพลางหยิบกระดาษขึ้นมาเตรียมทำงาน ฉันรักพวกพี่ทุกคนนะ ฉันรักครอบครัวนี้ และรักสิ่งที่เป็นอยู่ ถึงไม่ได้มีมากมายอะไร แต่ฉันไม่หยุดแค่นี้หรอก ฉันจะทำให้ครอบครัวเรา มีความสุขที่สุดให้ได้
วันเสาร์
ผ่านมา 3 เดือนแล้วสินะ นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมแล้ว เทอมหน้าต้องเปลี่ยนเป็นชุดฤดูหนาวแล้วนี่หน่า ว่าแต่ประเทศฉันเหมือนจะไม่มีฤดูที่ว่านั่นเลยนะ มีแต่หน้าร้อน กับร้อนมาก ไม่น่าเอากฎมาจากประเทศต้นสังกัดของโรงเรียนเลย เฮ้อ นี่ฉันต้องใส่สูทแล้วผูกเน็กไทสินะ ฉันนอนแผ่หลา บิ้วอารมณ์แต่งเพลงอยู่บนเตียงของตัวเอง ก่อนที่จะสิ้นเสียงอันสงบสุข เสียเอะอะโวยวายก็ดังขึ้น
“นี่ ฉันบอกให้แกเดินไปทางซ้ายไง ซ้ายน่ะ ซ้ายบ้านแกเดินไปทางนั้นหรอ” เสียงเจ้าแทนคุณตวาด
“แล้วเมื่อกี้ทีฉันบอกให้พวกนายตามมาช่วยฉันน่ะทำไมไม่มา” เสียงสเตฟานหงุดหงิด
“ก็เอาคืนตอนก่อนหน้านั้นที่นายปล่อยฉันตายไง -.-” เสียงหวานของชมพูแพรบ่น
“ว่าแต่ว่า นี่พวกนายจะมาหมกตัวอยู่บ้านฉันไปถึงไหนเนี่ย บ้านช่องไม่มีอยู่กันหรอ นี่ก็จะสอบแล้วเอาแต่เล่นเกม พวกนายไม่อ่านหนังสือกันรึไง แล้วฮารุ นายน่ะถ้าจะมานอนขนาดนี้กลับบ้านไปนอนที่บ้านนายเลยดีมั้ย เห้อ เจ้าพวกเกินเยียวยา” ฉันพูดพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวฮารุกะ
“ไม่เอาฉันจะนอนที่นี่ เมื่อคืนก็เล่นเกมกับเจ้าพวกนี้จนไม่ได้นอน” ฮารุกะพูดเสร็จดึงผ้าห่มคืนมาแล้วนอนต่อ
“พวกนายเนี่ยนะ” ฉันพูดพลางมองดูภาพพวกเขา เจ้าพวกนี้พอ เสาร์-อาทิตย์ ทีไรก็มาหมกอยู่แต่บ้านฉัน
“เด็กๆ แม่อบเค้กเสร็จแล้วนะ จะทานกันเลยมั้ย” แม่ฉันเคาะห้องตะโกนเรียก
“โถ่ แม่ก็เอาใจเจ้าพวกนี้จนพวกนี้ไม่ยอมกลับบ้านกันเลยเห็นมั้ย มาหมกอยู่แต่บ้านเราเนี่ย” ฉันบ่น
“ไม่เห็นเป็นไรเลยเซลลี่ แม่ดีใจนะที่ลูกมีเพื่อนเยอะกว่าแต่ก่อน เมื่อก่อนแม่เห็นลูกคบแต่กับหนูแพร แม่นึกว่าลูกเป็นพวกต่อต้านสังคมแล้วไม่ยอมเป็นเพื่อนกับคนอื่นเสียอีก แม่ดีใจที่ลูกมีเพื่อนเยอะแบบนี้” แม่พูดไปยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไป
แต่ก็จริงแหละ เมื่อก่อนฉันคบแต่กับยัยแพร แล้วรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจริงๆ ด้วยความที่หน้าตาไม่เหมือนใครด้วยแหละมั้ง เลยจินตนาการไปว่าทุกคนมองเราเป็นตัวประหลาด แต่ฉันก็ผ่านมันมาได้เพราะยัยแพรแหละ รักแกนะยัยแพร ฮือ
ฉันถอนหายใจแล้วเดินมาที่ระเบียง แทนคุณกำลังนั่งเล่นมือถืออยู่ พอเห็นฉันเขาก็วางมือถือแล้วหันมาคุยทันที
(Talk แทนคุณ)
“เซลลี่ ว่าไง ช่วงนี้แต่งเพลงได้บ้างมั้ย”
“แทนคุณ นายไม่ต้องเกรงใจฉันขนาดนั้นหรอก แค่เล่นมือถือเอง เห็นฉันทีไรนายก็รีบเก็บมือถือตลอดเลย ระ หรือว่า นายกำลังดูอะไรลามกอยู่ ว้าย ตายอีตาคนลามก” ฉันหัวเราะร่า
“ลามก อะไรกันเล่า ฉันแค่อยากคุยกับเธอเท่านั้นแหละ” แทนคุณพูดพลางยิ้ม
“เหอะ ฉันบอกแล้วหน้าตาแบบนั้นตกฉันไม่ได้หรอก ฉันไม่ได้ตาถั่วเหมือนสาวๆ ในสต๊อกนาย”
“อะไรกัน ไม่ไหวหรอเนี่ย ฮ่าๆๆๆ”
“อ้อ พูดถึงพวกสาวๆ ของนายดูเหมือนช่วงนี้จะไม่ค่อยเห็นนะ ไม่ค่อยมีใครมาตบตีแย่งนาย เหมือนช่วงเปิดเทอมใหม่ๆ เลย เมื่อก่อนฉันเหนื่อยจะแยกพวกนางเต็มที คิกๆ”
“จะว่าไงดีล่ะ ฉันแค่กำลังทบทวนอะไรบางอย่างอยู่น่ะ ก็เลยอยากจะพักเรื่องพวกนี้ไว้บ้าง”
“ก็ดีนะเหมือนกันนะ สาวๆ จะได้ร้องไห้เพราะนายน้อยลง ฮ่าๆๆๆ”
“ป่าวหรอกฉันแค่กำลังคิดจะจริงจังกับบางคนอยู่น่ะ”
“ว้ายตาย คนนั้นเป็นใครกันนะ เหมือนจะโชคดีในความโชคร้ายเลย ฮ่าๆ”
“แหมเธอก็พูดไป ปากเธอนี่ไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ เลย ฮ่าๆ”
จะบอกได้ไงล่ะ ว่าฉันกำลังมองเธอมากเกินกว่าเพื่อน แทนคุณบ่นพึมพำ
หนึ่งเดือนก่อนหน้านั้น
"ซี๊ด อ้าาาส์ พี่แทนคะ อืมมม อ๊ะ อ๊ะ " แทนคุณกำลังเล้าโลมกายอยู่บนร่างบางของเด็กสาวไซส์มินิที่มีหน้าตาเหมือนตุ๊กตา ร่างบางหอบด้วยความเหนื่อยจากการที่เขาซุกไซ้ไปทั่วร่าง เขาค่อยๆแยกขาของเธอออกแล้วยัดแกนกายอันใหญ่ของเขาเข้าไปหลังจากสวมถุงยางอนามัยไว้แล้ว เขาขยับไปมาพร้อมกับร้องครางในลำคอเบาๆ อืมมม
พรึบ พรึบ
"อ๊ะ พี่แทนคะ ขยับเร็วอีกนิดคะ หนูใกล้แล้วค่ะ อืมมม/อ๊าส์"เขาสองคนปลดปล่อยน้ำรักออกมาจนหมด
“พี่แทนคุณคะ” วันนี้จะอยู่ถึงกี่โมงคะ เด็กหญิงสาวเสียงใสเอ่ยถามแทนคุณ อย่างสดใส ในขณะที่มือกำลังติดกระดุมเสื้อให้แทนคุณ ที่กำลังยืนเช็คมือถืออยู่
“วันนี้อยู่ค้างมั้ยคะ เดี๋ยวหนูไปเตรียมเสื้อผ้าให้ แล้วพี่หิวมั้ยคะ เดี๋ยวหนูกดสั่งอาหารมาให้ พี่อยากทานอะไรคะ”
“ไม่ล่ะ วันนี้พี่มีนัดกับพวกเพื่อนๆ ว่าจะไปบ้านเซเลน่ากันน่ะ มีนัดเล่นเกมกับพวกนั้นด้วย”
“หืมม เดี๋ยวนี้พี่ไปกับพวกเพื่อนบ่อยจังนะคะ เมื่อก่อนไม่เห็นติดเพื่อนขนาดนี้เลย”
“อืมก็นะ อยู่กับพวกนั้นแล้วสนุกดี”
“อะไรกันคะเนี่ย หนูนึกว่าพี่จะอยู่กับหนูแล้วสบายใจที่สุดซะอีก สงสัยหนูคงคิดไปเอง เพราะมีหนูคนเดียวที่พี่คบนานกว่าคนอื่น ฮ่าๆ” เด็กสาวยิ้มร่า
“นี่มายด์ ที่พี่คบเธอนานกว่าคนอื่น ก็เพราะว่าเธอไม่งี่เง่า และไม่มาเยอะใส่พี่ พี่ถึงคบกับเธอนานขนาดนี้ แต่ถ้าวันไหนเธอมาเยอะใส่พี่เมื่อไหร่ เธอก็คงไม่ต่างกับพวกคนอื่นๆ ที่ผ่านมาหรอก”
หญิงสาวยิ้มหน้าเจื่อนแต่ก็ทำใจดีสู้เสือพูดออกไป
“แต่ช่วงนี้พี่ก็ติดเพื่อนจริงๆ นี่คะ ถึงแม่ว่าหนูจะดีใจที่พี่ไม่ค่อยมีเวลาไป หาผู้หญิงอื่นแต่ก็ยังน้อยใจที่พี่ ไม่ค่อยมาหาหนูอยู่ดี แถมเพื่อนพี่ยังสวยระดับที่ถูกเรียกว่าลูกรักพระเจ้าขนาดนั้น หนูไม่แน่ใจจริงๆ ว่าพี่คิดอะไรอยู่ สายตาที่พี่มองพี่เซเลน่าทุกครั้ง คือสายตาของคนเป็นเพื่อนจริงหรือคะ ทุกครั้งที่พี่เซเลน่าไลน์มาตาม ไม่ว่าพี่จะอยู่ไหน อยู่กับใคร หรือทำอะไร พี่ก็จะทิ้งทุกอย่างเพื่อไปหาเธอ พี่รู้ตัวรึเปล่าคะ ว่าพี่น่ะ พี่น่ะ ชอบพี่เขาไปแล้วจริงๆ ใช่มั้ยคะ" เด็กสาวฟูมฟายไม่หยุด
“ใว้เธอหยุดร้องไห้แล้วค่อยมาคุยกันนะ ฉันไปก่อนล่ะ” แทนคุณเดินออกจากคอนโดอย่างไม่ไยดี
“นี่เรามองยัยนั่นเปลี่ยนไปงั้นหรอวะ? ไม่อยากจะเชื่อ”
จู่ๆ ภาพในหัวของแทนคุณคูณก็ถูกแทนที่ด้วยภาพความทรงจำต่างๆ ของเซเลน่า ไม่ว่าจะเป็นภาพตอนไหน ก็ถูกถ่ายทอดออกมาโดยผ่านสายตาอันแสนอ่อนโยนของเขา เขาใช้มือปิดปากตัวเองที่กำลังหน้าแดงกำ
“นี่เราเผลอไปชอบยัยนั่นจริงๆ หรอเนี่ย”
จากนั้นมาแทนคุณก็คิดมาตลอดว่าจะทำยังไงกับสถานการณ์แบบนี้ดีนะ ทุกครั้งที่เจอเซเลน่า เขาจะประหม่าเสมอและเผลอซ่อนมือถือ ที่ก็ไม่ได้คุยอะไรกับใครหรอก แต่มือมันเผลอซ่อนไปเอง ต่างหาก แล้วสายตาที่เขาคอยมองเธอมันก็ชัดเจนขึ้นทุกวัน มันชัดเจนขึ้นขนาดนี้ ฉันควรทำไงดีนะ โอ๊ยไม่ไหวแล้วปวดหัว เกิดมาไม่เคยชอบใครเลย มีแต่คบแค่หาความสุข แย่แน่แบบนี้ แย่แน่แล้วเรา
ที่ระเบียงบ้านเซเลน่า
“เซลลี่ เธอว่าคนอย่างฉันจะชอบใครจริงๆ ได้มั้ย”
“หืม อย่างนายนะหรอ” อะไรกันหมอนี่ อยู่ๆ ก็มาปรึกษาปัญหาหัวใจ
“ใช่ อย่างฉันน่ะ ถ้าจะชอบใครด้วยใจจริงสักครั้ง จะทำได้มั้ยนะ”
“นี่แทนคุณ ในฐานะที่ฉันเป็นเพื่อนนายนะ ถึงแม้อดีตนายจะเลวมากขนาดไหน แต่ถ้านายพร้อมที่จะเครียร์ตัวเอง เพื่อคนที่นายชอบ แล้วเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ฉันว่า คนแบบนี้ก็ไม่ได้แย่อ่ะนะ แต่คนแบบนายจะทำได้เร้อออ ฮ่าๆๆๆ”
“หน็อย ยัยนี่ดูถูกฉันหรอ ฮ่าๆ”
“ไม่ได้ดูถูก แต่กำลังจะติดตามชม แทนคุณ เวอร์ชันใหม่ไงล่ะ คิกๆ”
อย่างหมอนี่ ไม่น่าเกิน 2 อาทิตย์ก็น่าจะตะบะแตกแล้วแน่ๆ ฉันคิดในใจ แล้วเสียงเปิดประตูก็ดังขึ้น
“ไอ้แทนมาแก้มือตาเมื่อกี้กัน” สเตฟานนี่เอง
“ได้สิ อย่าเป็นตัวถ่วงอีกล่ะ”
“หน็อยแกนี่ เล่นเก่งกว่าหน่อยทำเบ่งนะ”
“นี่พวกนายไม่คิดจะกลับบ้านกันจริงๆ หรอ ฮ่าๆ” ฉันพูดแล้วเดินตามหลังเขา 2 คนไป