EP.6 : เดท

3587 Words
วันหยุด ฉันมาอยู่ที่บ้านของสเตฟาน “จะบอกเจ้าแทน มันยังไงดีหล่ะ สเตฟาน” ฉันพูดพลางทิ้งตัวลงบนโซฟาที่บ้านสตีฟ หลังจากดูข้อมูลของผู้ไม่หวังดี “อืม นั่นสิไม่น่าเชื่อว่าสืบไปสืบมาจะเป็นเด็กคนนั้น” สตีฟก็ล้มตัวลงนอน หัวหนุนบนตักฉันอีกที “แล้วทำไมแฟนไอ้แทน มันต้องมาทำแบบนี้กับฉันด้วยว่ะ” ฉันพูดพลางลูบหัวเขา “ฮ่าๆ นี่เธอพอเป็นเรื่องแบบนี้เธอก็ไม่ฉลาดเลยจริงๆ ไม่รู้จริงๆ หรอว่าทำไมเด็กนั่นทำแบบนั้นกับเธอ” “หืม ไม่รู้จริงๆ นะสิ นายพูดเหมือนฮารุเลย ฉันไม่ฉลาดเรื่องพวกนี้งั้นหรอ ฮ่าๆ เข้าไปส่องชีวิตในโซเชียลนางก็ดูปกติดีนะ แล้วพอเป็นแฟนเจ้าแทนแบบนี้เราจะทำอะไรรุนแรงก็ทำไม่ลงอีก เห้อ เอาไงดี” “ก่อนอื่นก็ต้องคุยกับเจ้าแทนมันก่อน เรื่องแบบนี้มีแต่ต้องคุยกัน” สตีฟพูดพลางหยิบมือถือขึ้นมากดโทร “อืม นั่นสิ” “ไอ้แทน เข้ามาที่บ้านฉันหน่อยสิ บ้านนะไม่ใช่โรงฝึก มีเรื่องด่วนว่ะ” “เรื่องด่วนอะไรของนายว่ะ ฉันติดธุระอยู่ เดี๋ยวแม่ฆ่าฉันตายพอดี” “อ๋อ งั้นหรอ ทำไงดี เซลลี่ก็อยู่ที่นี่ รอคุยกับนายอยู่นะ อยู่กันกับฉันแค่ 2 คนด้วย งั้นหรอไม่ว่างหรอ งั้นไม่เป็นไร ฉันจะบอกเซลลี่ให้นะ เซล….” “เดี๋ยวๆๆๆ ช้าก่อนเพื่อน มันก็พอจะมีเวลาปลีกตัวไปได้อยู่ รอสัก 15 นาทีนะ” “ฮ่าๆๆ นายนี่ดูออกง่ายชะมัด” “เออน่า ไม่ต้องพูดมาก รออยู่ตรงนั้นแหละ” ติ๊ด///// เสียงกดวางสาย จะว่าไป โทรตามฮารุกับยัยแพรหน่อยดีกว่า หลายๆ หัวย่อมดีกว่าหัวเดียว เด็กหนุ่มคิดในใจพลางเลื่อนหารายชื่อเพื่อน เมื่อแทนคุณมาถึงเราก็ เริ่มต้นการหารือกัน “แทนคุณ เอ่อ ช่วงนี้นายกับแฟนเป็นยังไงกันบ้างหรอ” ฉันถามไปแบบ ตะกุกตะกัก “หาาาา แฟน นี่เธอพูดเรื่องอะไรของเธอเซลลี่” แทนคุณสงสัย เขาหันไปมองเเพื่อนๆ ที่กำลังขำ ในความเข้าใจผิดของเด็กสาว เจ้าพวกนี้ก็รู้หมดแล้วสินะ “อ้าว ก็เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่มาหานายในงานโชว์วันนั้นไง ไม่ต้องปิดหรอก แค่มีแฟน เพื่อนไม่เลิกคบหรอกแทน” “บ้าหรอ ไม่ใช่แฟนสักหน่อย แค่คนเคยมีความสัมพันธ์น่ะ ฉันบอกเธอไปแล้วไงว่าจะลองหยุดเรื่องพวกนี้ดูแล้วมาชอบสักคนด้วยใจจริงไง แล้วตอนนี้ฉันก็มีคนที่ชอบแล้วด้วย วันนั้นที่คุยกันในงาน คือการบอกลาอย่างเด็ดขาดน่ะ” “หืม อย่างนั้นเองหรอ มิน่าล่ะ” เสตฟาน เก็ทแล้วสินะ “แล้วสรุปพวกนายมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน ฉันแอบหนีแม่มาเลยนะ” “แทน จริงๆแล้ว เอ่อ จะบอกไงดี แกทำใจดีๆ ไว้ก่อนนะแทน คือว่า คนที่แอบถ่ายฉัน แล้วเอาไปลงบล็อกในเว็บไซด์ ของโรงเรียน ก็คือเด็กคนนั้นน่ะ” “ห๊ะ จริงหรอ” เด็กหนุ่มหน้าถอดสี ทุกคนพยักหน้าพร้อมกันอย่างพร้อมเพรียง “เห้ย นี่มันเกินไปแล้วนะ ฉันจะไปคุยกับมายด์เอง” “เดี๋ยวก่อนแทน ฉันว่าเรื่องนี้ฉันต้องไปด้วยแหละ ฉันก็อยากคุยและอยากรู้ว่าทำไมเด็กนั่นถึงทำแบบนั้น แกนัดเธอใว้เลย เดี๋ยวเราไปกันทั้งคู่นี่แหละ” “อืม” เขาตอบกลับมานิ่งๆ เมื่อถึงวันและเวลานัด เมื่อมาถึง เด็กสาวไซด์มินิหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มราวกับตุ๊กตาก็ยืนรออยู่ “ในที่สุดพี่ก็อยากคุยกับหนูหรอคะ พี่แทนคุณ” “นี่เธอทำแบบนี้ทำไม” “ทำ ทำไมงั้นหรอคะ ถ้าหนูไม่ทำพี่ก็ไม่ยอมมาคุยกับหนูสักทีสิคะ หนูรักพี่นะคะพี่แทน ช่วยกลับมาคบกับหนูได้มั้ยคะ หนูไม่มีใครแล้วจริงๆ ครอบครัวเราก็รู้จักกันมานาน พี่จะทิ้งหนูไปแบบนี้ไม่ได้นะคะ” ฉันได้แต่ยืนหลบพิงอยู่หลังเสา ฟังพวกเขาคุยกัน “แต่แรกเดิมที ที่พวกเราคบกัน เราก็ไม่ได้คิดจะรักกันอยู่แล้วนะมายด์ แล้วพี่ก็รู้ดีว่าเธอไม่ได้รักพี่ มันไม่ใช่ความรักหรอก เธอน่ะเข้าใจผิดแล้ว ความรักน่ะมันสวยงามมากนะ มันดีขนาดที่ว่ายอมเห็นคนที่เรารัก มีความสุขได้ แม้ว่าตัวเราจะต้องเจ็บปวด" "สิ่งที่เธอกำลังทำอยู่มันไม่ใช่ความรักนะ มันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกว่าไม่อยากเสียไปมากกว่า เธอลองกลับไปตั้งหลักดีๆ แล้วลองคิดดูสิ แล้วเธออาจจะเจอความรักจริงๆ ก็ได้นะ” “ไม่นะคะพี่แทนคุณ ถ้าพี่ไม่อยากเห็นผู้หญิงคนนั้นเจ็บปวดอีก พี่ต้องกลับมาคบกับฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไม่หยุด ฉันจะรังควานผู้หญิงคนนั้นจนกว่าพี่จะกลับมา พี่ก็รู้นะคะว่าฉันเป็นใคร ครอบครัวเรารู้จักกันดี ฉันในฐานะของลูกสาวราชายาเสพติดที่ถือครองธุรกิจมืดอย่างเต็มรูปแบบ พี่คงรู้ดีนะว่าฉันไม่กลัวใคร และฉันก็จะทำจนกว่าพี่จะกลับมา” “นี่เธอ” สีหน้าของแทนคุณโกรธจัดกระชากแขนเด็กสาวเข้ามา ฉันตกใจกับคำพูดของเด็กนั่นมาก แต่ตกใจกว่าที่เจ้าแทนมันกำลังจะใช้กำลังกับสาวน้อย ไม่ได้แล้วต้องห้ามก่อน “พอแค่นั้นแหละไอ้แทน” ปั๊ก ฉันตบบ่าเจ้าแทนคุณพร้อมกับตวาด “นี่แก กระชากแขนสาวน้อยแบบนั้นได้ไงฮ่ะ ไอ่คนเฮงซวย” “เป็นอะไรหรือเปล่าหนู เจ็บแย่เลดูสิผิวขาวๆ แดงหมด ไอ่แทน ไอ้คนเฮงซวย” หน้าตาของเด็กสาวเลิ่กลั่ก/หน้าตาของแทนคุณยิ่งเลิ่กลั่กกว่า “นี่เธออยู่ด้วยหรอ อยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินตั้งแต่ตอนไหน” เด็กสาวเอ่ยถามฉัน “ก็ได้ยินหมดเลยตั้งแต่แรก” ฉันตอบเรียบๆ “นี่เธอนี่ ชื่อมายด์ใช่มั้ย ถึงเราจะไม่เคยคุยกันมาก่อนแต่ฉันขอบอกเธอตรงนี้นะ การที่เธอวิ่งไล่ตามคนเฮงซวยแบบเจ้านี่มันไม่มีประโยชน์เลย แถมยังด้อยค่าชีวิตของตัวเองลงไปอีก นี่เธอน่ะไม่ใช่ว่าเป็นคนขี้เหร่เมื่อไหร่ หาได้ดีกว่าหมอนี่ตั้งเยอะ ไม่เห็นต้องไปใส่ใจคนแบบหมอนี่เลย" "ฉันโกรธนะที่เธอทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน แต่ที่ฉันโกรธมากกว่าอีกก็คือการที่เธอด้อยค่าชีวิตตัวเอง เธอคิดว่าชาตินี้จะไม่เจอใครดีกว่าเจ้าหมอนี่หรอ เธอคิดผิดแล้ว สวยๆ แบบเธอต้องเจอสักวันแน่ๆ” “เธอก็พูดง่ายสิ เธอไม่ใช่ฉันสักหน่อย อย่ามาพูดเหมือนทุกอย่างจะง่ายไปหมดนะ นั่นมันก็แค่ทัศนคติของคนโลกสวย คนที่ไม่เคยเจอเรื่องเลวร้ายอะไรเลย" " ฉันน่ะ เพราะครอบครัวแบบนั้น ทุกคนเลยกลัวฉันหมด เพื่อนก็ไม่มีใครคบ จะหาผู้ชายมาเข้าใจยิ่งยากไปใหญ่ มีเพียงพี่แทนคนเดียวที่ยอมมาคบฉัน แต่คนอย่างเธอ คนที่มีพร้อมทุกอย่างแบบเธอ ทั้งครอบครัวที่อบอุ่น เพื่อนที่รัก เธอมีมากกว่าฉันทุกอย่าง แล้วจะยังมาแย่งพี่แทนไปอีกหรอ ฉันเกลียดคนแบบเธอที่สุด” เด็กสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น ฉันคิดในใจพลางพูดกับตัวเองว่า นั่นสินะ ฉันคงคิดตื้นไป มองอะไรก็ง่ายไปหมด ฉันไม่เคยต้องเจอแบบเธอ ฉันก็ตัดสินไปเองว่าเธอจะก้าวไปได้ง่ายๆ ฉันไม่เคยนึกว่ามาก่อนว่าเธอต้องทนทุกข์ขนาดไหน นั่นสินะ “อาาา ฉันขอโทษนะ ฉันคิดตื้นไปหน่อย เธอคงเจ็บปวดมามากสินะ ฉันไม่ควรตัดสินเธอไปแบบนั้นแท้ๆ ขอโทษที่พูดไปเหมือนจะเป็นการดูถูกเธอสินะ" "นี่เธอมาเป็นน้องสาวฉันมั้ย ฉันจะคอยดูแลเธอแทนเจ้าแทนคุณเอง” ฉันพูดพลางยื่นมือไปหาเด็กสาว ฉันพอจะเข้าใจแล้วที่เด็กนี่ต้องการไม่ใช่ความรักจากผู้ชาย แต่แค่ต้องการใครสักคนที่คอยอยู่กับเธอต่างหาก ภายในใจคิดว่าอาจถูกปัดมือทิ้งไป แต่ไม่เป็นไรฉันตัดสินใจแล้ว ฉันคิดว่าต้องมีส่วนรับผิดชอบกับคำพูดที่คิดน้อยของฉัน ถ้าเธอจะปฏิเสธ ก็ไม่เป็นไร เด็กสาวยื่นมือเล็กๆ ออกมาฉันแล้วโผเข้ามากอด ร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้น อะไรกันตัวเล็กนิดเดียวเองนี่หน่า ฉันคิด ฉันรู้แล้วว่าทำไม พี่แทนคุณถึงชอบเธอ เด็กสาวพึมพำออกมาเบาๆ หลังจากจบเรื่องได้ประมาณ 3 วัน เด็กนั่นก็ได้ลบรูปในบล็อก และกล่าวขอโทษในสิ่งที่ทำไป แบบไม่เปิดเผยตัว เหมือนจบเรื่องด้วยดี แต่มันจะมีปัญหาที่ติดตามมาอยู่สองอย่างคือ ปัญหาที่ตามมา อย่างแรก “อร้ายยย พี่ขา มาแล้วหรือคะ พี่ขาวันนี้ทานอะไรดีคะ เดี๋ยวหนูพี่ซื้อให้ พี่ขา/พี่ขา/พี่ขา” บลาๆๆๆ “พวกนายก็รู้สึกเหมือนฉันใช่มั้ย” เด็กหนุ่มสามคนนั่งปรึกษากันอย่างปวดหัว ทั้ง 3 ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหนื่อยจริงๆ ทำไมนะหรอ ก็เด็กสาวร่างบางหน้าตุ๊กตานี่ มาตามเกาะ เซเลน่าทั้งวัน เหมือนแมลงวันตอมอึ ช่างเปรียบเทียบนะ ฮ่าๆ แต่บนความน่ารำคาญนั้นก็มีความน่ารักอยู่ เพราะให้ความรู้สึกว่าเป็นพี่สาวน้องสาวจริงๆ เว้นอยู่แต่คนหนึ่งที่ไม่ค่อยพอใจนัก “นี่เธอ ให้มันน้อยๆ หน่อยเถอะ นั่นเพื่อนรักฉันนะ จะมาเกาะเป็นปลิงแบบนี้ได้ไง ยัยเด็กคนนี้นี่” ชมพูแพรหงุดหงิด “อะไรกัน คนนี้ก็พี่สาวหนูนะ หนูรักของหนูอ่ะ” เด็กสาวหน้าตุ๊กตาเถียง “ฮ่าๆๆ พวกเธอไม่ต้องเถียงกัน ฉันรักทั้งคู่แหละ” ปัญหาที่ตามมาอย่างที่สอง “นี่แกคนนั้นไง คิริว ค่าย SS น่ะ หล่อมากเลย” “นั่นสิแก หล่อสุดๆ ทำไมเมื่อก่อนฉันไม่เคยเห็นเค้านะ” “ถ้ารู้ว่ามีคนหล่อขนาดนี้อยู่ในโรงเรียนนะ ฉันจะตามจีบไม่ปล่อยเลยหล่ะ” เสียงของสาวๆ แฟนคลับรุ่นพี่คนนั้นกรี๊ดกร๊าดกัน ระหว่างที่เขาเดินตรงเข้ามาหาฉัน ฉันได้แต่บ่น “แหม ก็เล่นพรางตัวซะขนาดนั้น ใครจะไปจำได้ ชาติก่อนเกิดเป็นกิ้งก่าหรือเปล่า พรางตัวเก่ง” ฉันบ่นพึมพำ “เธอว่าใครเป็นกิ้งก่า ห๊า แล้วขนาดฉันพรางตัว เธอเองยังจำได้เลย” “ระ รุ่นพี่ มีธุระอะไรคะ” ฉันเอ่ยถามแบบ ตะกุกตะกัก “อะไรกัน ไม่ใช่ว่าเธอลืมไปแล้วหรอว่าเธอติดค้างฉันอยู่เรื่องหนึ่ง แล้วนี่ยังไม่นับที่ฉันต้องเปิดเผยตัวเพื่อแก้ข่าวให้เธออีก จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ความผิดฉันสักนิด ที่วันนั้นเธอดันเอานมมาทับหน้าฉันแถมไม่พอยังจะ…” “หยุดแค่นั้นเลย หยุดพูดแค่นั้น โอ๊ยทำไมไม่ลืมเรื่องพวกนั้นไปซะ ฮือ ตราบาปชีวิตฉัน” “เพราะฉะนั้นวันหยุดนี้เธอต้องไปเดตกับฉัน แล้วฉันจะไลน์ไปนัดเวลาเอง นี่เอาไอดีไลน์มาซะดีๆ” “อะ เอ่อ เดี๋ยวนะ เดตหรอ” ฉันทำหน้าเลิ่กลั่ก “อื้มเดตไง เดต เอาไอดีไลน์มา” ฉันก็ให้ไปอย่างว่าง่าย ในสมองยังเรียบเรียงไม่ถูก แต่ที่แน่ๆ คือ ฉันยังไม่เคยไปเดตเลย รุ่นพี่พูดจบแล้วเดินจากไป ทิ้งพวกเราที่กำลังตะลึงกันอยู่ “นี่ แล้วเธอจะไปหรอ เดตที่ว่านั่น” ฮารุกะถามเรียบๆ -.- “นั่นสิ หมอนั่นไม่ค่อยหน้าไว้ใจเลยเซลลี่” สเตฟานงอแง “ให้ฉันพาคนไปอุ้มเลยดีมั้ยคะ” ยัยเด็กตุ๊กตานี่โหดสวนทางกับหน้าตาชะมัด “นั่นสิเซลลี่ ตั้งแต่ฉันเป็นเพื่อนกับเธอมา 10 ปี ฉันไม่เห็นเธอเคยไปเดตกับใครเลยนะ” “ว่าแต่ เธอรู้ความหมายของการเดตมั้ยเซเลน่า แล้วกว่า 80% ของการเดต ก็จะจบลงที่เตียงเสมอ” “นั่นมันพี่คนเดียวหรอก อย่าเหมารวมคนอื่นเถอะค่ะพี่แทน” เด็กสาวหน้าตุ๊กตาเอ่ยนิ่งๆ แทนคุณหน้าเสีย “คงต้องไปแหละ ก็ฉันติดค้างเขาอยู่จริงๆ แต่ไม่น่าจะมีอะไรหรอก เพราะเขาไม่น่าจะใช่คนเลวร้าย ดูจากการที่มารับผิดชอบเรื่องคราวก่อน” วันเดท “มาแล้วหรอ” เสียงอ่อนนุ่มเอ่ยทักเด็กสาวผมทองนัยน์ตาสีเขียวมรกต ไม่แปลกใจเลยที่เขาเป็นถึงนักร้อง โทนเสียงดีมาก ไม่ว่าใครได้ยินคงต้องตกอยู่ในภวังค์แน่นอน “ค่ะ รุ่นพี่ ว่าแต่ทำไมเรามาอยู่ที่นี่คะ” ฉันเอ่ยถามแบบ งงๆ “ฉันอยากมาปิกนิกน่ะ” “หาาาาา เดตปิกนิกเนี่ยนะ” “อุ้ยอะไรกัน เซเลน่า เธอหวังให้พวกเราไปเดตที่ไหนหรอ หรือว่าเธอกำลังคิดอะไรลามกอยู่” “ปะเปล่านะคะ รุ่นพี่หยุดพูดจาน่าขนลุก แบบนั้นเถอะค่ะ” “ฮ่าๆๆ เห็นหน้าเธอแดงแบบนั้นก็หยุดขำไม่ได้ แล้วปกติเธอไปเดตที่ไหนบ้างล่ะ มีที่ไหนที่อยากไปมั้ยละ” “อะ เอ่อ จะว่าไงดี ฉันไม่เคยเดตน่ะ นี่ครั้งแรก” “ห๊ะ” เด็กหนุ่มตะโกนขึ้นมาแบบตกใจ ใจไม่เคยคิดมาก่อนว่า เด็กสาวจะไม่เคยเดต ถึงจะได้ข้อมูลมาบ้างว่าเธอไม่รับคำสารภาพรักจากใครเลย แต่อย่างน้อย 1ใน เจ้า 3 คนนั้น ก็น่าจะชวนไปเดตบ้างไม่ใช่หรอ หรือว่าไม่มีใครกล้าบอกความในใจกับยัยนี่เลยงั้นหรอ อาาา แอบดีใจเหมือนกันแฮะ “จะตะโกนทำไมคะ มันน่าอายออก” เด็กสาวพูดพลางหน้าแดง “ฮ่าๆๆๆ โอเค โอเค” เด็กหนุ่มยังไม่หยุดขำ “ฉันอยากพาเธอมาสูดอากาศ แล้วนั่งหาแรงบันดาลใจน่ะ” “หืม แรงบันดาลใจ??” “อืมแรงบันดาลใจ ในการแต่งเพลงไง ว่ากันว่านักแต่งเพลงจะต้องมีแรงบันดาลใจไม่ใช่หรอ” “หืม รุ่นพี่รู้??” “อืม แอบสืบมาน่ะ ขอนอนตักนะ จะได้ ได้อารมณ์เหมือนคนเดตกันไง” “อืม” ฉันตอบไปแบบไม่คิดอะไร เพราะปกติเจ้าพวกนั้นก็มานอนกันบ่อยๆ เจ้าพวกนั้นที่ว่าก็คือ “โอ๊ยทนดูไม่ไหวแล้ว ฉันจะไปกระชากคอหมอนั่น แล้วควักลูกตาออกมาทำลูกชิ้น” ชมพูแพรที่แอบดูอยู่ไกลๆ โมโห “ให้ฉันโทรเรียกหน่วยอุ้มฆ่าเลยมั้ยคะ รับรองว่างานเรียบร้อยไม่เหลือหลักฐานแน่ๆ” เด็กสาวหน้าตุ๊กตาเอ่ยเสริม “นี่พวกเธอใจเย็นก่อน เราแค่มาแอบตามดูนะ ถ้าขืนเปิดเผยตัวเซลลี่จะโกรธพวกเราได้นะ” สเตฟานพูด “นั่นสิ ดูอยู่ห่างๆ ก็พอ แค่เซลลี่ไม่เป็นอันตรายก็พอ” ฮารุกะพูดเสริม “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก ฉันวางกำลังไว้ทั่วบริเวณนี้แล้ว ที่นี่มันโซน อณาเขตฉัน” แทนคุณเอ่ยนิ่งๆ กลับมาที่เสื่อปิกนิก “จะดีหรอคะ ใช้เวลาในการเดตหาแรงบันดาลใจแต่งเพลง มันจะเสียมารยาทมั้ยคะ” “ใครบอกว่าเสียมารยาทล่ะ ฉันอยากให้เธอแต่งเพลงให้ฉันน่ะ ฉันอยากร้องเพลงที่เธอแต่ง” “เอ๋?????” เด็กสาวร้องเสียงหลง “แน่นอนว่าให้ค่าจ้าง” เด็กหนุ่มยิ้มแป้น พูดถึงค่าจ้าง เลือดความงกในตัวของฉันมันก็เดือดพล่าน ฉันเงี่ยหูฟังแบบตั้งใจ “แน่นอนว่าเหลดจ้างเท่ากับนักแต่งมืออาชีพเลยนะ ถ้าเพลงดีมากๆ ค่ายฉันจ้างได้ถึง 7 หลักเลย” “จะ เจ็ดหลัก ขอวูบแป๊บ” “รับค่ะ ฉันรับงานนี้ รับแน่นอนค่ะ รุ่นพี่อยากได้เพลงแบบไหนคะ เซเลน่า ลูกรักพระเจ้า คนนี้จะยอมถวายชีวิตแต่งให้เลยค่ะ” “ฮ่าๆๆ เธอเนี่ยนะ ฉันอยากได้เพลงรักน่ะ เพลงรักแบบวัยใส รักแรก ประมาณนี้เลย” “รับทราบค่ะ ฉันจะจัดการให้เลย ขอมัดจำก่อนครึ่งหนึ่งได้มั้ยคะ ฉันกลัวรุ่นพี่เทฉัน” “ได้สิ เขาหยิบเช็คมูลค่าหลักแสนขึ้นมาให้เด็กสาว อ่ะ นี่ถือว่าเป็นการการันตีว่าฉันจะจ้างเธอ แล้วก็ห้ามเบี้ยวนะ เช็คเป็นชื่อ บริษัท ถ้าเธอเอาไปขึ้นเงินแล้วเบี้ยว ฉันจะตามไปหาเธอถึงบ้าน” “จ้าๆๆ ไม่เบี้ยวแน่นอน สัญญาด้วยเกียรติ และชื่อของเซเลน่าผู้นี้ อิอิ” “ว่าแต่รุ่นพี่จะนอนไปถึงไหนคะ” “นอนจนกว่าจะพอใจ ฮ่าๆๆๆ” กลับมาที่กลุ่มเจ้าพวกนั้น “ทำไมดูมีความสุขจังเลยเซลลี่ ฮือ ไหนบอกว่าจะแต่งงานกับฉันไง” ชมพูแพรทำหน้าเศร้า “ได้ข่าวว่ายัยนั่นไม่เคยพูดแบบนั้นนะ” แทนคุณเอ่ยหน้านิ่ง/"หุบปากไปเลยเจ้าแทน" ชมพูแพรตวาด “แล้วทำไมในกลุ่มพวกเราถึงไม่เคยชวนยัยนั่นเดตเลยนะ” ฮารุกะพูดแบบนิ่งๆ สไตร์ฮารุกะขึ้นมา ทุกคนก็หยุดกึกทุกกิจกรรมหันมานั่งเงียบ “อืม จะว่าไปในหมู่พวกเราก็รู้กันหมดแล้วสินะ ความรู้สึกของแต่ละคน ดูเหมือนว่าคนที่ยังไม่รู้ก็มีแต่ยัยนั่นนะสิ” สเตฟานพูดขึ้น “เซนส์เรื่องแบบนี้ของยัยนั่นต่ำเตี้ยเรี่ยดินมาก ถ้าพวกเราไม่มีใครพูดยัยนั่นคงไม่มีทางรู้ได้เอง” แทนคุณพูดขึ้นมาอีก “ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูด แต่กลัวที่จะต้องพูดหรือเปล่าคะ” เด็กสาวหน้าตุ๊กตาพูดขึ้นมาแทงใจดำ เหล่าเด็กหนุ่ม “กลัวที่จะต้องพูด หรือกลัวว่าถ้าพี่เขาเลือกใครคนใดคนหนึ่ง แล้วจะหายไปจากชีวิตคนอื่นหรือเปล่าคะ มิตรภาพของพวกพี่ยิ่งใหญ่พอดู ถ้าต้องเสียใครไปเพราะเรื่องแบบนี้ มันอาจจะเจ็บปวดเกินไป เพราะงั้นถึงไม่กล้าพูดหรือเปล่าคะ” ////เดดแอร์//// ที่เด็กคนนี้พูดมาก็คงจริงแหละ เด็กหนุ่มทั้ง 3 ได้แต่เงียบ ขณะที่ฉันกำลังดื่มด่ำกับรรยากาศแสนเย็นสบายใต้ต้นไม้บนเสื่อปิกนิก ฉันก้มลงมอง รุ่นพี่ที่กำลังหลับตา จะว่าไปก็หล่อจริงๆ แหละ มิน่า สาวๆ ถึงได้กรี๊ดกันขนาดนั้น ฉันคิดในใจ “หืม แอบมองฉันหรอ” “ป่าวค่ะ แค่คิดว่าหล่อดี มิน่าสาวๆ ถึงได้กรี๊ด” “นะ นี่เธอพูด คำพูดพวกนั้นออกมาได้หน้าตาเฉยแบบนี้ได้ยังไง 0//0” “อะไร ฉันพูดอะไรผิดล่ะคะ คนอื่นๆ เขาก็พูดกันแบบนี้” “เธอพูดกับคนอื่นพูดมันไม่เหมือนกันสักหน่อย >//<” ปฏิกิริยาเวอร์จังแฮะ “ว่าแต่เซเลน่า ฉันขอถามอะไรเธอหน่อยสิ ที่เธอบอกจะแต่งเพลงรักให้ฉันอันนั้นเธอทำได้จริงๆ หรอ เห็นเธอบอกว่าไม่เคยเดทก็เลยคิดว่ายังไม่เคยมีแฟนน่ะ เธอจะแต่งไหวมั้ย” “หืม นี่กำลังดูถูกกันอยู่หรือคะ ถึงฉันจะไม่เคยมีแฟน แต่ฉันก็เคยแอบรักคนอื่นอยู่นะคะ” “เอ๊ะ จริงหรอ ใครกันหมอนั่น” “ความลับจ๊ะ อิอิ เย็นป่านนี้แล้ว เรากลับกันได้แล้วมั้งคะ” ฉันรีบเปลี่ยนเรื่องทันที “อืม เย็นแล้วสินะ วันนี้สนุกมากเลย ขอบคุณที่มานะ” “อะไรกัน ฉันแค่นั่งเฉยๆ เอง ฮ่าๆๆ” “นั่นแหละ แค่นั่งเฉยๆ แค่นั้นก็พอแล้ว” จะว่าไปรุ่นพี่เป็นคนตรงๆ ดีนะ คิดอะไรก็พูดแบบนั้นออกมา อยู่ด้วยแล้วไม่อึดอัด ได้แต่งเพลงให้คนแบบนี้ร้องก็คงไม่เลว ต้องสู้ๆ หน่อยแล้ว งั้นเราแยกกันตรงนี้เลยนะคะรุ่นพี่/อื้ม บาย ถึงบ้านแล้วไลน์มาบอกทีนะ อื้มมม ความรักงั้นหรอ ใสๆ งั้นหรอ จะแต่งแบบไหนดี เด็กสาวครุ่นคิดอยู่บนเตียงของตัวเอง โอ๊ยฉันนี่มันอัจฉริยะจริงๆ ส่งให้รุ่นพี่เรียบเรียงหน่อยดีกว่า ฝากให้เขาคิดชื่อเพลงด้วย เพราะฉันคิดไม่ออก ว่าแล้วเด็กสาวก็ส่งไลน์หารุ่นพี่ทันที ตริ้ง เสียงไลน์ดังขึ้น เด็กหนุ่มสงสัย นี่มันตีหนึ่งกว่าแล้ว ใครไลน์มากัน อะ เอ๊ะ เร็วเกินไปแล้ว ยัยนี่มัน อัจฉริยะจริงๆ แฮะไม่เสียใจที่แอบคาดหวัง ไหนลองดูซิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD