ตอนที่ 8

1476 Words
ในการเจรจาธุรกิจเขาคือผู้บริหารหนุ่มไฟแรงที่ใช้หลักสากลในการบริหารงาน เพราะเติบโตและเรียนอยู่ที่อังกฤษจนจบปริญญาโท เขาจึงคุ้นชินกับคำธรรมดาสามัญมากกว่า ‘คุณ-ผม’ จึงถูกใช้เป็นคำติดปากมากกว่าจะแสดงความมีอำนาจออกมาทางคำพูด และก็เรียนรู้อีกว่าการทำงานใหญ่คงไม่สามารถทำได้เพียงคนคนเดียว ดังนั้นเขาจึงจัดจ้างทีมงานบริหารมือหนึ่งระดับโลกเข้ามาเป็นผู้ช่วย อีกทั้งเชื้อพระวงศ์ของนามีรุนที่มีความสามารถในด้านการประสานงานหรือในด้านอื่นๆ ก็จะถูกเชิญตัวให้มาช่วยงานด้วยเช่นกัน “ครับ ขอบพระคุณท่านชีคมากครับ” โทนี่โค้งคำนับด้วยท่าทีสุภาพที่สุด เพราะความน่าเกรงขามแผ่กระจายออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่นี้และก็มากมายเสียจนเขาบอกตัวเองว่าต้องแสดงความเคารพ “คืนนี้คุณโทนี่อย่าลืมพาทีมงานทั้งหมดไปงานเลี้ยงนะ ถือว่าเป็นของขวัญจากผม” “ขอบพระคุณท่านชีคมากครับ ขอบพระคุณมากที่สุด” โทนี่โค้งคำนับอีกครั้ง ดวงตาสีฟ้าสั่นระริกด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คืออีกสิ่งหนึ่งที่อยากมาเยือนนามีรุนนักหนา คำเล่าลือเกี่ยวกับงานเลี้ยงหลังสิ้นสุดการเจรจาธุรกิจ โด่งดังในแวดวงนักธุรกิจข้ามชาติมากพอกับชั้นเชิงทางธุรกิจของชีคมาลิกทีเดียว ว่ากันว่าในงานเลี้ยงนั้น นอกจากผู้ลงทุนจะได้รับการดูแลเอาใจใส่จากทีมงานของนามีรุนเป็นอย่างดีแล้วนั้น เขาเหล่านั้นยังจะได้ดื่มด่ำกับความสุขจากเหล่า ‘นางฟ้าในฮาเร็ม’ นับ 1,000 คนของชีคมาลิกด้วย นางฟ้าหลากสัญชาติแต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันนั่นก็คือ ความงดงามที่ผู้ชายอย่างเขาต้องมองเหลียวหลัง แค่คิดโทนี่ก็อยากจะให้ถึงเวลางานเลี้ยงเริ่มต้นโดยเร็ว เพราะสัญชาตญาณที่เรียกร้องอยู่ด้านในมันกำลังเร่งเร้าให้เขารีบ เสียดายที่ข้อห้ามสำหรับงานเลี้ยงก็คือ ห้ามนำเครื่องมือสื่อสารหรือกล้องถ่ายภาพใดๆ เข้าไปในงานเลี้ยงทั้งสิ้น เพราะชีคมาลิกถือว่าควรให้ความเป็นส่วนตัวกับเหล่านางฟ้าที่มีอายุงานในฮาเร็มเพียงแค่ 1 เดือนด้วย และกฎนี้ก็เคร่งครัดจนไม่มีใครกล้าที่จะฝ่าฝืน เพราะโทษที่ได้ก็คือ ยกเลิกข้อสัญญาทุกอย่างที่ได้ร่วมกันไว้ แล้วใครล่ะจะกล้า                              “แหม... ดูท่าธุรกิจบนเตียงนอนของท่านชีคจะไปได้สวย”           เสียงทักจากด้านหลังทำให้ฝ่าเท้าที่ก้าวตรงไปข้างหน้าต้องชะงัก ดวงตาคมเข้มวาวโรจน์เพราะอารมณ์ครุกรุ่นเริ่มจะก่อวนอยู่ในตัวเพิ่มมากขึ้น มาลิกพยายามระงับอารมณ์ตัวเองเพราะที่แห่งนี้คืออาคารรับรองนักธุรกิจข้ามชาติที่เข้ามาร่วมประชุมสัมปทานวางแท่นขุดเจาะน้ำมัน หรือเจรจาร่วมลงทุนธุรกิจอื่นๆ ในนามีรุน หากเขามีเรื่องวิวาทที่นี่คงไม่ใช่เรื่องดีนัก           “ว่ายังไงล่ะครับท่านชีค งานนี้ได้รีดน้ำ เอ้ย! ได้ขายน้ำมันอีกเท่าไรล่ะ มูลค่าคงจะมหาศาลสินะ ถึงว่าห้องรับรองในฮาเร็มของท่านดูวุ่นวาย” ชายชาวนามีรุนผิวคล้ำร่างสันทัดหนวดเคราเฟิ้มยังคงเอ่ยคำพูดยั่วเย้า           “มันไม่ใช่เรื่องของเจ้าคอลิด เจ้ามีหน้าที่อะไรก็ไปทำ อย่ามาก้าวก่าย” ดวงตาคมดุจเสือจ้องตะครุบเหยื่อจ้องมอง ‘คอลิด’ ญาติผู้พี่ที่ไม่เคยคิดอยากจะนับญาติด้วยสักนิด อาจเรียกได้ว่าคนที่นี่ไม่ค่อยอยากจะนับญาติกับเขาเสียมากกว่า สาเหตุนั้นเพราะเขาไม่ใช่เลือดบริสุทธิ์แห่งนามีรุน ซึ่งถูกหาว่าเป็น ‘แกะดำ’ ที่หลงเข้ามาอยู่ในฝูงเสือ แม้ในขณะนั้น ‘องค์ชีคราชาชารีฟ’ จะมีเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียว แต่เพราะความกดดันหลายๆ อย่างจากที่นี่ทำให้แม่ตัดสินใจพาเขากลับไปอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่เล็กจนถึงเรียนจบปริญญาโท แต่ถึงอย่างนั้นความทรงจำเกี่ยวกับนามีรุนก็ไม่ได้รางเลือนลงเลย คงเพราะมีตาเฒ่าอามีนคอยขนาบข้างตลอด อามีนทั้งสอนและสั่งให้เขามีความกล้าหาญ และกล้าที่จะช่วงชิงในสิ่งที่ควรเป็นของเขากลับคืนมา และเขาก็พิสูจน์แล้วว่า ‘แกะดำ’ ที่หมู่เครือญาติดูถูกนั้นไม่มีอีกต่อไป แต่เขาคือ ‘เสือดำ’ ที่พร้อมจะขย้ำได้ทุกเมื่อ หากใครคนนั้นจะกล้าพอ ตำแหน่งรัชทายาทจึงเป็นของเขาอย่างชอบธรรม แต่ก็มีบ้างที่ต้องหงุดหงิดใจกับไอ้พวก ‘เก่งแต่ปาก’ “จะไม่ใช่เรื่องของข้าได้ยังไง ข้าก็มีหน้าที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของนามีรุนไม่ต่างจากเจ้า มาลิกเจ้ากำลังทำให้นามีรุนเสื่อมเสีย” เพราะไม่เคยนับว่ามาลิกเป็นรัชทายาทหรือแม้แต่เป็นเชื้อพระวงศ์คนหนึ่ง ดังนั้นการให้ความเคารพก็เป็นเพียงมารยาทางสังคมหรือไม่ก็ทำเพื่อต้องการจะเยาะเย้ยไอ้รัชทายาทแกะดำเท่านั้น “เสื่อมเสีย เสื่อมเสียยังไง ไหนเจ้าขยายความมาสิ” “เจ้ากำลังทำให้นามีรุนเสื่อมเสีย เพราะเจ้าเอาบรรดานางในฮาเร็มของเจ้าเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการเจรจาการค้า เจ้าทำให้ผู้ชายพวกนั้นกระเหี้ยนกระหือที่จะกระโจนเข้าสู่กับดักฮาเร็มที่เจ้าสร้างไว้ เจ้ากำลังทำให้นามีรุนเป็นราชอาณาจักรที่บ้าเซ็กซ์ มักมากตามที่เจ้าเป็น เจ้าเอาทองคำดำของเราไปเซ่นสังเวยน้ำกามของพวกนักลงทุน” คอลิดยังคงพูดตำหนิการบริหารงานของมาลิกที่เขาไม่เห็นด้วย เพราะมันเป็นการบริหารงานที่มาเหนือเมฆอย่างที่บรรดาลุงป้าน้าอาหลายๆ ท่านต่างชื่นชมว่ามาลิกเก่งกล้าสามารถและมีความคิดที่เฉียบแหลม สมแล้วที่เป็นรัชทายาทแห่งนามีรุน ‘แกะดำ’ ในวันวานก็ได้เติบโตขึ้นเป็น ‘เสือดำ’ ที่ผงาดนำพานามีรุนไปสู่ประชาคมโลกให้คนทั่วโลกได้รู้จัก แต่สำหรับเขา ‘แกะดำ’ มันก็ยังคงเป็น ‘แกะ’ อยู่วันยันค่ำ ไม่มีทางที่มันจะเปลี่ยนตัวเองให้มาเป็น ‘เสือ’ ได้ และสำหรับ ‘เสือ’ อย่างเขาก็ยังคงเป็นเสือ จะไม่ยอมถูกลบเขี้ยวโดยไอ้คนสายเลือดไม่บริสุทธิ์แน่ “หึหึหึ... เจ้าพูดเรื่องตลกอะไรคอลิด ใครเขาทำอย่างนั้นกัน” เสียงทุ้มกล่าวติดตลก ดวงตาคมเข้มมีแววขำขันญาติผู้พี่จนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ก็เจ้านั่นแหละมาลิก อย่ามาเฉไฉ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าไอ้เรื่องนี้มันจะมาจากมันสมองของตาเฒ่าอามีน คนมักมากอย่างเจ้าเท่านั้นที่คิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาได้” “ใช่ เจ้าพูดถูก ความคิดนี้ของข้าเอง ทำไมล่ะ ข้าก็แค่ให้ความสุขเล็กๆ น้อยๆ กับนักธุรกิจที่มาลงทุนเท่านั้น และทุกคนก็พอใจ ทั้งคนได้ทั้งคนรับไม่เห็นมีใครออกมาบ่นว่าไม่ถูกใจสักคน หรือเจ้าไม่ชอบล่ะ เวลามีเงินปันผลโอนเข้าบัญชี ถ้าเจ้าไม่เอาก็บอกข้าได้นะ ข้าจะได้เอาไปสร้างฮาเร็มเพิ่ม เพราะดูท่าที่มีอยู่มันจะคับแคบไปแล้วล่ะ นี่ข้าว่าจะสร้างสวนน้ำข้างในเพิ่มด้วย เวลานางฟ้าของข้าใส่บิกินีเดินไปเดินมา คงจะน่าดูเชียวล่ะ เจ้าว่ามั้ย...” มาลิกหัวเราะเสียงต่ำในลำคอเพราะคำพูดของเขาทำให้คอลิดกำมือแน่นด้วยความโกรธ ร่างสูงใหญ่หันกลับเพราะขี้เกียจทำให้คอลิดอกแตกตาย แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่ามีอีกอย่างยังไม่ได้ตอบ ชีคสุดหล่อจึงหันกลับไปพูดอีกอย่างที่ยังค้างคา “เอ่ออีกอย่าง ขอบคุณนะที่ชมว่าข้ามักมาก บ้าเซ็กซ์ ก็คงจะจริงอย่างที่เจ้าว่านั่นแหละ ข้าถือว่านี่คือคุณสมบัติเด่นที่ทำให้นางฟ้าทั้งหลายต่อคิวมาให้ข้าเชยชมนะ อีกอย่างข้าไม่ได้เอาทองคำดำของนามีรุนไปเซ่นสังเวยน้ำกามนักลงทุนอย่างที่เจ้าเข้าใจ แต่ข้าเอาเม็ดเงินของนักลงทุนเหล่านั้นมาเซ่นสังเวยทองคำดำต่างหากเล่า แค่มีน้ำกามเล็กๆ น้อยๆ เป็นตัวล่อ เจ้าก็เช่นกันคอลิด น้ำกามของเจ้ากระเด็นเปื้อนพื้นพรมในฮาเร็มของข้าไปกี่ลิตรแล้วล่ะ ถ้าไม่มีเหล่านางฟ้าไว้ให้เจ้าเชยชม เจ้าคิดว่าน้ำกามของเจ้าจะออกกับใคร หึหึหึ...”  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD