TWO TWIN :: CHAPTER 1 [100%]

1245 Words
“สวัสดีค่ะ มริศรา แสงโชค” ฉันมองเก้าอี้ของหุ้นส่วนโมเดลลิ่งที่หันหลังให้ฉันอยู่ จะเห็นก็แต่ทรงผมสีดำที่ตั้งขึ้นเนื่องจากเขาเสยมันขึ้นไป และต้องเป็นคนที่ตัวสูงมากๆ แน่เลย “นั่งลงสิ” น้ำเสียงเข้มแหบและดูโหดจนฉันขนลุกไปหมด เดินตรงไปนั่งที่เก้าอี้มองเขาที่ยังคนหันหลังอยู่ แต่ได้ยินเสียงเปิดเอกสารหมายความว่าเขากำลังดูประวัติของฉันอยู่ “ชื่อเล่นว่าอะไร?” “แม็กค่ะ” “เรียนจบมหาลัยได้เกรดเฉลี่ย 3.55 ถือว่าเก่งมากเลยนะ การถ่ายภาพก็ใช้ได้ แต่ทำไมถึงได้ไปทำงานที่บริษัทเจ๊งๆ ทั้งนั้น” ฉันกลืนน้ำลายลงคอ อันที่จริงฉันไม่ได้เห็นหน้าเขาหรอกนะ แต่ทำไมน้ำเสียงโหดเถื่อนมันช่างบาดมาบีบหัวใจของฉัน และที่สำคัญมันฟังแล้วราวกับฉันกำลังคุยกับซาตานยังไงก็ไม่รู้ “คือตอนนั้นฉันจบมาแล้วก็รีบหางานทำ เลยไม่ได้ดูให้ดีว่าบริษัทเหล่านั้นจะปิดตัวและเจ๊งไป” “งั้นเหรอ รู้ไหมว่ามีคนมาสมัครตำแหน่งช่างภาพประจำบริษัทที่รับแค่ตำแหน่งเดียว มีความสามารถเยอะกว่าเธอมากเลยนะ แต่ละคนผ่านงานที่เป็น Professional มาเยอะแยะมากกมาย” “ค่ะ ฉันรู้ดีว่าพวกเขาเก่งกว่าฉัน... แต่ว่าถึงแม้ว่าฉันจะไม่เก่งเท่าพวกเขา แต่ฉันมั่นใจว่าจะทำงานที่ฉันรักออกมาได้ดีแน่ๆ ฉันรักงานถ่ายภาพมาก ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร ต่อให้ไม่ได้งานที่บริษัทของคุณ ฉันก็ไม่ล้มเลิกที่จะทำตามความฝันของฉันแน่นอนค่ะ” ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบและฉันก็ยังคงไม่เห็นใบหน้าของหุ้นส่วนเจ้าของบริษัทเลย แต่ได้ยินแค่เสียงโยนเอกสารของฉันลงบนโต๊ะและมันแม่นมากที่มาหล่นตุ้บตรงหน้าฉัน “มีแฟนหรือยัง?” “หือ นี่เป็นคำถามหรือเปล่าคะ?” “ใช่ ผมต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับคนที่มาสมัครงานทุกคน หรือคุณจะไม่ตอบ” “ยังไม่มีค่ะ” ฉันรีบตอบไปทันที ไม่รู้หรอกนะว่าเขาต้องการรู้ไปทำไม แต่ฉันได้ยินเสียงเขาเค้นหัวเราะออกมา ราวกับมันน่าขำมาก ใช่สิ ก็ฉันมันไม่มีใครเอานี่นา! “แน่ใจนะว่ายังไม่มีแฟน” “แน่สิคะ นี่คุณจะมา...!” ใบหน้าของฉันชะงักไปทันทีที่เก้าอี้ตัวนั่นหมุนมา แน่นอนว่าหุ้นส่วนที่ฉันสัมภาษณ์งาน เป็นคนเดียวกับที่ฉันพูดถึงเขาวันนี้ ใบหน้าหล่อเถื่อนโหด กำลังยกยิ้มมุมปาก มือขวาที่มีรอยสัก กับต้นคอซ้ายที่มีรอยสักเช่นกัน ฉันแทบจะไม่เชื่อสายตาที่ได้เจอกับเขาในระยะประชิดแบบนี้อีกครั้ง “พะ พี่ขุนทัพ” “ครับ น้องแม็ก” ฉันสบตากับเขาที่หยิบเอกสารของฉันไปดูคร่าวๆ จนฉันไปไม่เป็นเลยสักนิด นี่เขาเป็นหุ้นส่วนของบริษัทนี่เหรอ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะอยู่ใกล้กับฉันมากขนาดนี้ “พี่ไม่คิดว่าแม็กจะจำพี่ได้? ตอนเห็นแม็กที่ผับ พี่ตกใจมากนะ แต่ก็ดีใจที่เจอแม็กอีกครั้ง” “แม็กเองก็ตกใจเหมือนกันที่เจอพี่...” ใบหน้าหล่อโหดเงยหน้าสบตากับฉันแปบหนึ่งและมองเอกสารในมือ “เย็นนี้ไปกินข้าวกัน” “ห้ะ! เออ” “ไม่ว่างเหรอ?” ไอ้ไม่ว่างก็ไม่ว่างหรอก แต่เล่นชวนแบบนี้ฉันก็ตกใจน่ะสิ ถึงอยากจะไปกับพี่ขุนทัพแต่นัดกับเพทายไว้คงจะไม่ได้แน่เลย “คือแม็กนัดกับเพื่อนไว้ พี่ขุนทัพไม่ว่าแม็กนะ” “พี่จะไปว่าแม็กได้ไงล่ะ ชวนไปงั้นแหละเพื่อฟลุก” ฉันเม้มปากตัวเองมองใบหน้าหล่อที่ยิ้มอยู่ตลอดเวลา ที่ทุกคนขนานนามเขาว่าเป็นบุคคลที่อันตรายที่สุด และที่ลือกันว่าภายนอกเขาดูเป็นซาตานแต่ภายในของเป็นคนดีมาก ซึ่งฉันว่าฉันพิสูจน์มาแล้วนะ ถึงจะแค่เป็นครั้งเดียวที่เราเจอกันก็เถอะ “เบอร์โทรนี้ เบอร์จริงหรือเปล่า?” “ใช่ เบอร์แม็กเอง” พี่ขุนทัพยกยิ้มขึ้นมาและหยิบมือถือของตัวเองมากดเบอร์ และยกขึ้นแนบหู เขาสบตากับฉัน มันเป็นจังหวะที่มือถือของฉันสั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกงแต่ฉันก็เลือกที่จะไม่รับเพราะคิดว่าการมาสัมภาษณ์งานควรมีมารยาทมากพอ “รับสิ รออะไร?” “หรือว่า...” ฉันหยิบมือถือขึ้นมาและมองเบอร์ที่อยู่หน้าจอ ก่อนจะเลื่อนรับสาย พี่ขุนทัพยกยิ้มขึ้นจนฉันมึนงง “เบอร์พี่ อย่าลืมเซฟไว้ด้วยนะ” ใบหน้าหล่อของเขาส่ายหน้าไปมาและตัวฉันก็วางสายลงมองเบอร์ที่โชว์อยู่ เงยหน้าสบตากับเขาที่ยังคงยิ้มให้อยู่แบบนั้น “อีกสามวันเริ่มงานได้เลยนะ พี่รับแม็กเข้าทำงาน” “จริงเหรอคะพี่ขุนทัพ!” “อือ พี่อยากเห็นคนรุ่นใหม่มาทำงานบ้าง เห็นแต่คนแก่ๆ เบื่อล่ะ” ฉันยิ้มออกมาก่อนจะยกมือไหว้พี่ขุนทัพ ซึ่งเขาก็รับไหว้ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข ซึ่งฉันไม่รู้หรอกนะว่าเพราะอะไร แต่ดีใจมากเลยล่ะที่ได้งานทำ และก่อนที่ฉันจะออกจากห้องไม่วายน้ำเสียงเข้มของเขาก็ดังขึ้นตามหลัง “มีเวลาว่างให้พี่บ้างนะ พี่อยากกินข้าวกับแม็ก” พี่ขุนทัพยิ้มออกมา และมันเป็นยิ้มที่สดใสขัดกับบุคลิกของเขามากๆ ฉันไม่รับปากแต่ส่งยิ้มให้เขากลับ เพราะถึงยังไงฉันก็ได้งานที่นี่และได้เจอกับเขาอยู่ดี ฉันกดมือถือโทรหาเพทายอย่างดีใจกระทั่งหมอนั่นรับสาย “นี่ฉันได้งานแล้วนะเพท วันนี้จะกินอะไรกันดี” “อืม... ดะ เดี๋ยวก่อนเร แกว่าไงนะแม็ก” น้ำเสียงของเพทายขาดห้วง และตามด้วยเสียงที่ฉันรู้ดีว่ามันคืออะไร? ฉันถอนหายใจออกมา รู้สึกถึงความเจ็บยังไงก็ไม่รู้สิ ฉันควรดีใจที่ได้งาน แต่ทำไมต้องมาฟังเสียงอะไรแบบนี้ด้วย “ไหนแกบอกว่าจะไปกินข้าวกับฉันตอนเย็น และฉันก็ได้งานแล้ว” “ฉันกลับไม่ทัน ลืมไปเลย ฉะ ฉัน... อยู่ทะเลกับเร โอ๊ย!” “ทีหลังถ้าเห็นผู้หญิงพวกนั้นดีกว่า ก็ไม่ต้องสัญญาถ้าทำไม่ได้นะเพท” “แม็ก ดะ...!” ฉันกดวางสายทันที รู้สึกเจ็บใจจังแหะ ไอ้บ้านี้! เมื่อไหร่จะเห็นฉันสำคัญบ้างนะ ฉันทนมานานแล้วนะ ให้ตายเหอะ เพราะรักแกมากนะถึงได้ทนอยู่แบบนี้ ฉันหยิบมือถือมากดโทรเข้ากลุ่มไลน์ที่ตั้งเป็นกลุ่มเฉพาะของเราไว้ แน่นอนว่าเพทายมันต้องเห็นแน่ๆ รอสักพักหน้าจอก็ขึ้นใบหน้าของเสือ แข็งและพิมที่ยิ้มให้กับฉัน และถามว่าฉันโทรกลุ่มมาทำไมถ้าไม่มีเรื่องสำคัญ “วันนี้ไปกินเหล้ากัน ฉันได้งานแล้ว เจอกันที่ผับ K”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD