“ตรงนั้นมีกวางด้วย!”
เจสซิก้าที่นั่งมองออกไปด้านนอกอยู่ตลอดเวลา ชี้ไปที่กวางอย่างตื่นเต้น ทุกคนหันไปดูก็ต้องตกใจ ที่กวางถูกสัปหราดล่องหนกัดขาดครึ่ง เลือดกระเด็นมาติดที่หน้าต่าง ด้านหน้าเจสซิก้าพอดี
“โอ้! พระเจ้า”
เจสซิก้าอุทาน
“เจ้ากวาง ทำไมถึงหน้าสงสารแบบนี้”
นาตาชาน้ำตาซึม
“ฉันก็สงสารกวางตัวนั้นอยู่หรอกนะ แต่ทุกคนไม่คิดเหมือนผมหรอ กวางอีกครึ่งตัวที่อยู่ด้านนอกนั้น ถ้าเอามาหั่นย่างบนเตามันก็คงจะดีนะ ประหยัดอาหารพวกเราได้อีกว่าไหม”
เสกิร์ตเสนอทีเล่นทีจริง
“นายก็ออกไปสิ ถ้าไม่กลัวสัปหราดนั้นมันจับกินอีกคน”
เจสซิก้าพูดเตือนสติ
“ใครว่าฉันจะออกไปหละ”
เสกิร์ตยิ้มอย่างมีความหวัง แล้วลุกไปหยิบเชือกในห้องเก็บอาวุธมา ทุกคนก็รอดูอย่างตั้งใจว่าเค้าคิดจะทำอะไร ม้วนทำเป็นบ่วง ก่อนจะลุกไปเปิดหน้าต่างกระจกหนาเลื่อนออก
~ครื้นนน
“นั้นนายจะทำอะไรหนะ”
เจสซิก้าทักด้วยความตกใจ
“เชื่อฉันเถอะ แล้วนั่งรอกินสเต็กส์เนื้อกวางนุ่มๆ หนึบหนับ”
บ่วงเชือกถูกเสกิร์ตโยนไปครอบหัวกวางผ่านตระเเกรงเหล็กด้านนอก เชือกถูกเสกิร์ตดึงกระตุกอย่างแรง จนรัดหัวกวางไว้จนแน่น แล้วดึงมาติดตระแกรงเหล็กด้านนอก ผูกติดห้อยโตงเตงอยูข้างตระแกรงเหล็กหน้าต่าง
“ว้าวว! เสกิร์ตนายนี่มันสุดยอดเลย”
นาตาชาเอ๋ยชม
“สุดยอดแล้วไม่ชอบเราหน่อยหรอ”
เสกิร์ตยังไม่ลดหละจีบนาตาชา
“เอ่อ..”
ลาราจจดจ่อฟังคำพูดจากปากนาตาชา แต่เจ้าตัวพูดอะไรไม่ออก
“เอาหละ..วันนี้ใครอยากกินเนื้อสเต็กส์บ้าง”
เจสซิก้าพูดด้วยอารมณ์คึกคัก ก่อนจะไปหยิบมีดยาวมาแหล่เนื้อกวางเป็นชิ้นๆ แล้วโยนซากกวางไปไกลๆ เพราะเห็นแล้วมันดูสยองบอกไม่ถูก
“ดูนี้สิ เรามีเกลือด้วย”
เสกิร์ตรื้อตู้นู้นตู้นี้ จนเจอขวดเกลืออยู่ 3 ขวด สเต็กถูกเจสซิก้ารังสรรค์จัดวางเต็มโต๊ะอาหาร เควินกับลอเรนที่เพิ่งเดินออกมาจากห้อง หลังจากจัดหนักกันจนอิ่มหน่ำ ก็ตื่นเต้นดีใจ เมื่อเห็นเนื้อสเต็กส์
“ว้าวว! นี้มันสวรรค์ชัดๆ”
ลอเรนดี๋ด๋า
“พวกคุณคงอยากดื่มนี้”
ทริคชี่ชูไวท์องุ่นขึ้นมา 2 ขวด
“โอ้แม่เจ้า!! นั่นนายเอามันมาจากไหน”
เจสซิก้าตกใจ อ้าปากว๋อ
“ชั้นใต้ดินด้านล่างห้องผม มีให้พวกคุณกินจนเมาเเอ๋ไปหลายวัน”
เควินพูดจาสุภาพมากขึ้นหลังจากโดนเควินว่ากล่าวไป
ทุกคนต่างดื่มไวท์กับทานเนื้อสเต็กส์กันอย่างมีความสุขยกเว้นลุงเจ็ต
“ลุงดื่มไม่ได้นะคะ”
นาตาชายกไวท์ออกจากมือลุงเจ็ตเเล็กค์เพราะลุงทานยาอยู่ และมีบาดแผลที่ยังไม่หายง่ายๆ
ค่ำคืนนี้ยาวนานไวท์ขวดที่ 5 6 ถูกทริคชี่ยกมาวางที่โต๊ะ ทุกคนดื่มจนหมดขวดที่ 8 จนเมาหลับที่พื้นในห้องโถง ส่วนลุงเจ็ตก็กินยานอนหลับ หลับไปตั้งนานแล้ว นาตาชาที่ลุกไปเข้าห้องน้ำในห้องของตน เปิดประตูออกจากห้องก็ต้องตกใจ เมื่อเห็นลาราจยืนดักอยู่ที่หน้าประตู สายตาลึกซึ้งมองมาที่เธอ ก่อนจะดันร่างกายหญิงสาวเข้าไปในห้องแล้วลงกอน
~กึกก ~กึกก
จูบร้อนผ่าวประทับลงบนริมฝีปากของนาตาชา ก่อนจะพูดบางคำออกมา
“ผมรักคุณนะ”
ลาราจพูดความในใจเสร็จ ก็ดันนาตาชาเข้าหากำแพง แล้วมอบจูบดูดดื่มที่เต็มไปด้วยรสชาติไวท์ต่อ และทั้ง 2 ก็เลยเถิดมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งทางกายด้วยกัน และหลับนอนด้วยกันทั้งคืนยันเช้า
..เช้าวันที่ 6..
ดวงตาโตค่อยๆรี่ตามองหาหญิงสาว เมื่อเพิ่งตื่นจากหลับไหล เวลายามค่ำคืนก่อนหน้าผ่านไปด้วยความเร่าร้อนและโรแมนติก แขนบึกบึนเอื้อมไปกอดนาตาชาที่กำลังโป๊เปลื่อยอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ก่อนจะขึ้นทับร่างกายหญิงสาวแล้วล็อกแขนเธอให้กางออก 2 ข้าง แล้วจัดหนักเช้าตรู่อันแสนหวานให้กับเธอ
..3 ชั่วโมงผ่านไป..
“สะ..สองคนนั้น ทะ..ทำไมถึงออกมาจากห้องพร้อมกันหละ”
เสกิร์ตที่เพิ่งออกมาจากห้องชี้นิ้วมาทางนาตาชากับลาราจที่เดินออกมาจากห้อง ของนาตาชา ด้วยความตกใจ ป่นความเศร้าและเสียใจเพราะเค้าชอบนาตาชาอยู่จริงๆ และเล็งเธอไว้ตั้งนานแล้ว นาตาชารีบจั้มอ้าวเดินไปที่ห้องโถงเขินอายเค้าทั้งคู่แต่ด้วยความรู้สึกที่ต่างกัน หญิงสาวอับอายเสกิร์ต แต่เขินอายลาราจที่เธอเพิ่งหลับนอนด้วย ส่วนลาราจก็ยืนมองหน้าเสกิร์ตอยู่หน้าห้องด้วยสีหน้าเยาะเย้ยและรู้สึกมีชัยชนะ เค้าแสยะยิ้มมุมปากเบาๆ ก่อนจะเดินตามนาตาชาไป
~เปี๊ยะๆ
เควินที่พึ่งเดินออกมาจากห้องพร้อมกับลอเรนตบไหล่เสกิร์ตแรงๆไป 2 ที
“อย่าเสียใจไปเลยนะเพื่อน แต่นายคงได้แห้งตายอยู่ในเมืองร้างนี้แน่นอน”
เสกิร์ตได้ยินดังนั้นก็หันหน้า มาทำหน้าเซ็งใส่เควิน ที่กำลังก้มลงไปจูบลอเรน เพื่อกวนประสาทเค้า
ทั้งคู่เดินผ่านหน้าเค้าไปแล้ว แต่ลอเรนก็หันหน้ามาขยิบตา กัดปากเซ็กซี่ส่งมาให้เสกิร์ต เพื่อสื่อสารอะไรบางอย่าง ที่ทั้งคู่ต่างรู้กัน แต่เสกิร์ตไม่เล่นด้วยทำหน้าตึงใส่เธอ จนเธอเบะปากใส่เค้าไปหนึ่งที
ทุกวันผ่านไปอย่างราบรื่น ทุกคนมีความสุขกับไวท์ที่ห้องใต้ดินกันทุกวัน จนวันเวลาเดินทางมาถึง วันที่ 30
“นี้! นั้นมันขวดสุดท้ายแล้วนะ”
เจสซิก้ายืนตระคอกใส่ทริคชี่ ที่เพิ่งดื่มน้ำขวดสุดท้ายไป ทุกคนจึงมานั่งหารือกันเรื่องน้ำดื่มที่เพิ่งหมดไป
“พวกเราต้องกรองน้ำดื่มแล้วนำมาต้มเพื่อฆ่าเชื้อ ทานน้ำปะปาไปเราอาจจะป่วยได้นะครับ”
ลาราจแนะนำ
“ข้างนอกนั้นมีห้างสรรพสินค้า”
เควินจำได้ตอนออกไปครั้งก่อน
“แล้วใครจะออกไปเอาหละ”
เจสซิก้ากังวลอย่างมากทุกคนก็ด้วย
“ผมว่าเราออกไปเอาอาหารจากด้านนอกก็ดีนะครับ อีกอาทิตย์กว่าๆ อาหารก็น่าจะหมดแล้ว”
ลาราจเสริม
“น้ำเราจะทำยังไงหละ ให้กรองแล้วไหนหละจะเอาอะไรมากรอง”
ลอเรนที่นั่งไขว้ห้างอยู่ข้างเควินพูดขึ้นมา
“นั้นสินะคะ แต่เราอาจจะเอามาต้มก่อนทานได้นะคะ”
นาตาชาที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้นบ้าง
“อีก 5 วัน ผมจะออกไปเอาอาหารมาจากด้านนอก ใครจะไปกับผมไหมครับ”
ลาราจถามด้วยสายตามุ่งมั่น
“ฉันไปด้วย”
ลุงเจ็ตที่แผลเริ่มจะหายแล้วเสนอตัวอีกคน ทำให้ทุกคนมองหน้ากันด้วยความกังวลนิดหน่อย
“คุณลุง..อยู่นี้เถอะนะครับ”
ลาราจห้ามลุง ด้วยความเป็นห่วง
“ทำไมหละ..ลุงแข็งแรงแล้ว”
“ลุงรออยู่นี้แหละ ผมไปกับลาราจเอง”
เควินเสนอตัวไปด้วย เพราะตัวเค้าก็กล้าบ้าบิ่นอยู่พอตัว
“ฉันไปด้วยก็ได้ รู้สึกแย่แหะ ถ้าไม่ได้ไปด้วย”
เสกิร์ตเสนอตัวอย่างจนใจ
“สัปหราดพวกนั้น จะมาพร้อมเสียงเป็นเหมือนคลื่นความถี่ต่ำ ที่ได้ยินแล้วจะค่อนข้างรู้สึกเศร้า หดหู่”
ลาราจบอกเรื่องที่เสกิร์ตควรรู้ ที่เค้ายังไม่เคยรู้มาก่อน
“ขอบใจนะ แต่ก็ยังไม่ช่วยให้ฉันอุ่นใจ แหะ”
เสกิร์ตหวาดกลัวอยู่ในใจอย่างมากที่ต้องออกไปเผชิญกับสัปหราดที่มองไม่เห็นแบบนั้น
..ช่วงเย็น..
นาตาชาที่เปลื่อยกายนอนกอดลาราจอยู่ ร้องไห้ น้ำตาไหลลงบนแผลงอกล่ำของลาราจ ชายหนุ่มตกใจ รีบเอามือหนาช้อนใบหน้าสวยขึ้นมา เช็ดน้ำตาให้เธออย่างทะนุทะนอมด้วยความเป็นห่วง
“ร้องไห้เหรอ”
“อย่าเป็นอะไรนะ สัญญากับนาตาสิค่ะ”
“ครับ สัญญา ดูกล้ามแน่นๆผมสิ ผมแข็งแรงมากนะ”
~ปึก ~ปึก
ลาราจทุบลงบนแผลงอกหนาแข็งแรงของตนเอง แต่แฟนสาวกับจ้องเค้ากลับด้วยแววตาเศร้าและกังวล