(9)เอาตัวรอดอีกครั้ง..

1670 Words
“ เล่าเรื่องที่คุณรู้มาก่อนสิ” ลาราจทำตามข้อตกลง เล่าทุกอย่างที่รู้ให้เค้าฟัง ทุกคนในนั้นพอใจเป็นอย่างมาก และรู้สึกดีใจที่พวกเค้ามาที่นี้ อาหารสด,อาหารแห้ง,น้ำดื่ม,น้ำหวาน,ขนม,ยา,และอุปกรณ์ไว้จัดการสัตว์ประหลาดถูกนำขึ้นรถเข็นเป็น 10 คัน ของทุกชิ้นถูกคิดเงินอย่างถูกต้องทุกชิ้น รถเข็น 10 คันถูกเข็นออกมานอกห้างด้วยความรีบร้อน ~ปังๆๆ เสียงปืนดังมาไม่ไกลนัก ทุกสายตาหันไปมอง ผู้ชายกับผู้หญิงที่เพิ่งจัดการสัตว์ประหลาดด้วยกระสุนไปเมื่อสักครู่ ~ตึกๆๆ “เควิน ลอเรน” ลาราจตกใจอุทานเรียกหญิงชายที่วิ่งเข้ามาหาเค้า แต่ก็ยังคงรีบขนของขึ้นรถอยู่ “นายกับจอร์จยังไม่ตาย” เควินรีบเข้ามาขนของขึ้นรถช่วยลาราจ “พวกนายออกมาจากที่นั้นได้ยังไง” ลอเรนสงสัยเป็นอย่างมาก “เรื่องมันยาวหนะ พวกนายช่วยฉันขนของขึ้นรถก่อนนะ เดี่ยวฉันจะเล่าให้ฟังทั้งหมด” ผ่านไป 10 นาที ข้าวของถูกนำขึ้นรถไปหมดจนเเน่นเอี๊ยด เควินกับลอเรนขึ้นรถไปกับลาราจ เค้าได้เล่าทุกอย่างให้ทั้ง 2 คนฟัง 2 คนทั้งอึ้งทั้งตกใจ และโมโหพ่อของลาราจเป็นอย่างมาก “พวกนายจะไปอยู่บ้านฉันก่อนก็ได้นะ นาตาชาเธอก็อยู่ที่นั้น” “งั้นพวกฉันก็ขอรบกวนนายหน่อยก็แล้วกัน” เควินเอ๋ยขึ้น “ไม่หรอกน่า บ้านฉันใหญ่โตพวกนายอยู่กับฉันได้ตลอด” ~เอี๊ยดดดดด ลาราจเบรครถกระทันหันเพราะมีรถเก๋งจอดขว้างอยู่ ทำให้จอร์จเบรครถตามมาติดๆ “เราคงมีงานเข้าแล้วหละ” ~ปึ้งๆๆ 2 หนุ่มลงจากรถด้วยความใจกล้า ส่วนจอร์จก็วิ่งเข้ามาติดๆ ชาย 3 คนเดินย่องเกราะกลุ่มกัน ~ตรื้ดดดดดดดดด เสียงสัตว์ประหลาดดังมาจากข้างๆรถเก๋ง จอร์จพ่นสีดำไปรอบ จนโดนเจ้าสัตว์ประหลาดตัวใหญ่ยักต์เข้าให้ที่มันดูท่าทางอิดโรยเชื่องช้า เพราะท้องฟ้าค่อยๆมืดลงแล้ว พวกมันจึงเคลื่อนไหวช้าไม่ต่างอะไรจากเต่า.. ~ปังๆๆๆ จอร์จจ่อปืนยิงสัตว์ประหลาดลงไปนอนกองที่พื้น รถเก๋งถูกชายกำยำ 3 คนดันลงไปข้างทาง รถตู้ 2 คัน ถูกจอดเทียบที่หน้าบ้านลาราจอย่างปลอดภัย “โห้! นายนี่มันลูกมหาเศรษฐีชัดๆ” เควินตื่นตาจากบ้านลาราจมากๆ ข้าวของถูกขนมาวางไว้หน้าบ้านจนหมด ลาราจจึงเคาะประตูบ้านของเค้า ~ก๊อกๆๆๆ “นี่ฉันเองนะ ลาราจ” ~แอ๊ดดดดดด หญิงสาวท้อง 4 เดือนปรากฏตรงหน้าของชายหนุ่มพร้อมแววตาเป็นประกายพุ่งมากอดลาราจ สักพักข้าวของก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อย ก่อนนาตาชาจะเห็นสิ่งที่น่าตกใจจนเอามือมาปิดปากไว้ “อ้าว! เควิน ลอเรนหรอ” ..3 วันก่อนหน้านี้ในเมืองทดลอง.. “เควินจ๋า หิวน้ำมะ” ลอเรนพูดอ้อนแฟนหนุ่ม มือหนาเอื้อมไปหยิกแก้มมแฟนสาวด้วยความหมั้นใส้ ก่อนจะลุกไปหยิบน้ำในห้องครัวให้ “น้ำขวดสุดท้ายหนิ” เควินอุทานขึ้นมาในห้องโถง ลุงเจ็ตแล็กค์กับเจสซิก้าได้ยินตกใจลุงยืนขึ้นเดินมาตรวจเช็คเสบียงที่เหลืออย่างละเอียด “บะหมี่ 10 ห่อ โจ๊ก 8 ถ้วย ปลากระป๋อง 3 ถ้วย อ่ะนี้น้ำแพ็คสุดท้าย น้ำหวาน 20 ขวด ธัญพืชกระป๋อง 4 ป๋อง” เจสซิก้าไล่ดูจนละเอียด “พรุ่งนี้สินะ ต้องมีคนไปหาเสบียงมาเพิ่ม ห้างที่ผมไปรอบที่แล้วยังมีอาหารกับน้ำเหลืออีกเพี้ยบ” เควินเอ๋ยขึ้น “ให้ลุงไปด้วยสิ” ลุงเจ็ตยังคงเสนอตัวอีกเหมือนทุกๆครั้ง “เดี่ยวผมไปกับลอเรนเหมือนครั้งที่แล้วจะดีกว่านะครับ” เควินตบไหล่ลุงเจ็ตแล็กค์ แล้วถือน้ำเดินกลับห้องไปให้ลอเรนดื่ม ..เช้าวันต่อมา.. “เควินเอาสีไปรึยัง” ลอเรนที่ดูกระฉับกระเฉงเกินผู้หญิง เตรียมข้าวของจนครบถ้วน จนเควินแอบบภูมิใจในตัวเธอ “เอามาแล้ว ลอเรนจะเอามาเพิ่มอีกก็ได้” ทั้งสองเดินทางไปยังห้างรกร้างที่เดิมที่มาครั้งก่อนๆ แต่ทว่ารอบนี้ได้อาหารมาครบถ้วน แต่น้ำมันที่ปั๊มเดิมกลับหมดเกลี้ยงเลย ทั้งสองจึงตระเวนขับรถตามทางไปเรื่อยๆเพื่อตามหาน้ำมัน “ทางนี้ทำไม ทางตันนะ” เควินเลี้ยวรถกลับไปแล้วออกไปซอยใหม่ และหลังจากตระเวนไปหลายๆซอยเป็นเวลานาน เควินกับลอเรนก็ค้นพบว่า เมืองนี้ถูกล้อมไปด้วยกำแพงสูงลิปทั้งหมดเลย แต่โชคยังดีที่ยังมีน้ำมันให้พวกเค้าขนกลับไป “เมืองนี้มันถูกล้อมไปด้วยกำแพงสูงและน่าจะมีความหนาเอามากๆเลย” เควินกลับมาก็บอกทุกอย่างที่เห็นให้เจสซิก้ากับลุงเจ็ตฟัง “แล้วเจ้าพวกนั้นนายไม่เห็นบ้างเหรอ” เจสซิก้านึกสงสัยขึ้นมา “จริงสิ! ผมขับไปรอบเมืองแล้ว แต่ไม่เห็นวี่แววของเจ้าพวกนั้นเลย” “ดูนี้สิ เราไม่อยากออกไปข้างนอกเหรอ” ลอเรน อุ้มระเบิดมาเต็มแขนของเธอ “เธอจะให้ระเบิดกำแพงนั้นหรอ” เจสซิก้าถามด้วยความตื้นเต้น “ยังไม่ชัดอีกเหรอ ยัยสมองทึม” ลอเรนพูดจากวนประสาทอีกตามเคย จนเจสซิก้าต้องยอมเพราะขี้เกียจมาทะเลาะด้วย อีกอย่างเธอก็เป็นคนหาอาหารและน้ำมาให้เจสซิก้ากิน “พรุ่งนี้ผมจะระเบิดมันให้เป็นจุน ใครพร้อมจะไปผจญภัยกับผมบ้าง” “ฉันๆ” ลอเรนยกมือขึ้น ด้วยความตื้นเต้นเพียงคนเดียวแต่ลุงเจ็ตกับเจสซิก้ากับส่ายหัวไม่เอาด้วย.. “พวกเธอไปเถอะ ฉันจะอยู่กับคุณลุงที่นี้แหละ” เจสซิก้าจับมือลุงเพื่อเป็นการปลอบใจ “งั้นผมกับลอเรนจะไปกันพรุ่งนี้เช้า ลาก่อนนะ” เควินทำสายตาเว้าวอนทั้งสองแล้วจูงมือลอเรนเข้าไปในห้องนอนเพื่อเก็บแรงไว้สู้ต่อพรุ่งนี้ ..เช้าอีกวันเควินกับลอเรนก็ออกเดินทางไปพร้อมระเบิด 20 ลูก ซึ่งเป็นระเบิดทั้งหมดที่มี ~ตรูมมมม ~ตรูมมมม ~ตรูมมมม ~ตรูมมมม ~ตรูมมมม ~ตรูมมมม เสียงเควินระเบิดกำแพงดังลั่นจนนกแตกตื่น บินกระจัดกระจายไปทั่วสารทิศ ระเบิดถูกโยนใส่กำแพงลูกแล้วลูกเล่า จนเป็นรูขนาดใหญ่ แต่ไม่ใหญ่พอให้เควินกับลอเรนขับรถออกไปได้ ~ตรู๊ดดดดด ~ตรู๊ดดดดด ~ตรู๊ดดดดด ~ตรู๊ดดดดด เสียงสัปหราดค่อยเริ่มดังมารอบทิศทาง ~ปังๆๆๆ ~ปังๆๆๆ ~ปังๆๆๆ ~ปังๆๆๆ เควินและลอเรนกวาดยิงไปรอบๆ ทั่วทุกสารทิศ จนเลือดสีเขียวของสัปหราดไหลนองไปทั่ว เต็มบริเวณนั้นไปหมด “เรารีบไปกันเถอะ พวกมันน่าจะเห่กันมา เพราะเสียงระเบิดแน่นอน” เควินพูดจบก็จูงมือลอเรนวิ่งออกไป ..ปัจจุบัน.. เควินเล่าทุกอย่างให้ทุกคนฟัง ทุกคนจึงได้รู้สาเหตุที่สัตว์หลุดออกมาฆ่าคน “หึ! นายได้ทำให้โลกนี้พังพินาศไปแล้วหละ ยินดีด้วยนะ” นิโคลัสแสยะยิ้ม รู้สึกไร้หนทางที่โลกนี้จะกลับมาเหมือนเดิม แต่เควินกลับยิ่งโมโหเค้าหนักขึ้น และกระโดดไปกระชากคอเสื้อนิโคลัส จนนิโคลัสเสไปด้านหน้า “คุณต่างหากที่สร้างพวกมันมา ทำลายโลกนี้!” “พวกฉันไม่ได้หวังให้มันเป็นแบบนี้ พวกนั้นมันโดนทดลองอยู่ เพื่อเป็นแรงงานในอนาคตให้พวกนายไง” นิโคลัสถึงจะไม่ค่อยเห็นใจใคร แต่เรื่องนี้เค้ารู้สึกผิดเป็นอย่างมาก เท่าที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน “แล้วที่นายจับพวกฉันมาขัง อยู่กับพวกสัตว์ประหลาดนั่นหละ! แกจะว่ายังไง” เควินโมโหมากขึ้น เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ “ขังเหรอ นายเป็นคนเข้าไปเองต่างหาก ฉันบอกนายทุกอย่างว่าข้างในมันเป็นยังไง แต่นายก็ยังยืนยันที่จะเข้าไป” เควินคิ้วขมวดใบหน้ามึนงงและสับสน “ฉันจะอยากเข้าไปในเมืองเวรนั้นทำไมวะ!” “ก็เพราะเงินไงหละ ที่ครอบครัวนายใช้กันอย่างสุขสบายอยู่ในตอนนี้ แลกกับการเข้าไปอยู่ในเมืองนั้น ให้พวกคนรวยๆ แต่สุดแสนจะขี้เบื่อเนี่ย เค้าดูกัน ผ่านการถ่ายทอดสด ฉันขอโทษด้วยนะ เผื่อนายจะอยากได้ยินคำนี่ และก็ปล่อยฉันได้แล้ว” เควินนิ่งอึ้ง ค่อยๆคลายมือออกจากคอเสื้อนิโคลัสออกแต่โดยดี “ขอโทษนะเควิน ฉันลืมบอกว่าพวกเราอะ เลือกจะเข้าไปอยู่ที่นั้นเอง” นาตาชาลูบหลังเควินเพื่อปลอบใจ “คุณท่านรู้ไหมครับ สัตว์ประหลาดในนั้นมีกันกี่ตัว” จอร์จที่เงียบกันอยู่นานเอ๋ยถามคุณนิโคลัส “พวกมันสามารถผสมพันธุ์กันได้ ถึง 1 รอบจะออกไข่ได้ครั้งละ 1 ใบ แต่พวกมันจากไม่กี่ตัว ระยะเวลาทดลองพวกมันก็มากกว่า 8 ปี พวกมันอาจจะมีมากกว่า 100 ตัวแล้วก็ได้” ทุกคนเงียบกรึ้บด้วยความอึ้ง “งั้นถ้าเราปล่อยมันไว้แบบนี้ พวกมันจะแพร่่พันธุ์ไปเรื่อยๆ” ลาราจพูดแล้วเงียบนิ่งไป ก่อนจะหันไปมองหน้านาตาชาและลูกในท้องของเธอ แล้วถอนหายใจออกมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD