นิสาโทรพาพระพายเพราะเธอเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเธอคบกับพายุ
“พาย เราไม่ไหวแล้ว พายมาอยู่เป็นเพื่อนเราได้มั้ย” นิสาพูดไปสะอื้นไป
พระพายรีบมาหาเธอทันทีด้วยความเป็นห่วง ทั้งๆ ที่ตอนนี้ก็ค่ำแล้ว แต่มิตรภาพสำคัญเสมอสำหรับพระพาย โดยเฉพาะตอนที่เพื่อนรักมีปัญหาเหมือนอย่างตอนนี้
พระพายมาถึงห้องของนิสาในเวลาไม่นาน นิสาเปิดประตูให้เธอในสภาพที่ตาบวมเป่งเพราะผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก ตอนนี้นิสาหยุดร้องไห้แล้ว แต่เธอตกอยู่ในภาวะเศร้าและเหม่อลอยแทน
“สา เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“พาย ฉันเลิกกับพี่พายุแล้วนะ” นิสาบอก น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกรอบ
‘ว่าแล้ว ข่าวลือเรื่องพี่พายุไม่ผิดหรอก’ พระพายได้แต่คิดในใจ ไม่ได้พูดออกมา กลัวจะเป็นการตอกย้ำเพื่อนสนิทให้เจ็บปวดกว่าเดิม
“ฉันผิดเอง เพราะเราผิดเอง” นิสาพูดซ้ำๆ น้ำตาเริ่มไหลอีกรอบ
“สา สาร้องไห้มาพอแล้ว ตาบวมหมดแล้ว พักก่อนนะ ฉันจะไม่ถามอะไร ตอนนี้ฉันอยากให้แกนอนพักก่อน” พระพายบอกเพื่อนรักด้วยความห่วงใย
นิสาพยักหน้ารับ แล้วเดินไปนอนลงที่เตียง ไม่นานนักนิสาก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
พระพายเดินดูความเรียบร้อยของห้องแล้วสังเกตเห็นถุงยาจากโรงพยาบาล พระพายหยิบขึ้นมาดู พระพายเห็นว่าเป็นยาบำรุงครรภ์ และยาแก้อาการแพ้ครรภ์ พระพายก็ตกใจ นึกเจ็บแทนนิสา
‘ที่พี่พายุบอกเลิกสา ก็เพราะไม่อยากรับผิดชอบเด็กในท้อง เลวจริงๆ ’ พระพายนึกในใจด้วยความโกรธและโมโหแทนนิสา และคิดไม่ตกว่าทำจะยังไงดี เพราะท้องของนิสาต้องโตขึ้นเรื่อยๆ
กลับกลายเป็นว่าตอนนี้คนที่คิดมากจนนอนไม่หลับคือพระพายเอง
***************************
ในตอนเช้าพระพายออกไปซื้อโจ๊กมาให้นิสาได้ทาน เธอจะได้ทานยา พระพายโทรบอกที่บ้านว่าขอนอนเป็นเพื่อนนิสาสักพัก เพราะนิสาไม่สบาย สายพิณผู้เป็นมารดาก็อนุญาต เพราะรู้จักพระพายดีว่าเธอไม่เคยออกนอกลู่นอกทาง
“สากินโจ๊กเร็ว เดี๋ยวจะเย็นซะเปล่าๆ” พระพายบอก
“ฉันไม่หิว”
“แกต้องกินนะสา จะได้กินยาไง อย่างน้อยก็เพื่อลูก” พระพายบอก
นิสานั่งลง มองหน้าพระพายนิ่ง
“พายรู้?” นิสาถาม
“ฉันเห็นยาเมื่อคืนนี้” พระพายบอกตามตรง
“นี่ใช่มั้ยสาเหตุที่พี่พายุเลิกกับแก” พระพายถาม นิสาพยักหน้า พายุเลิกกับเธอ เพราะเธอท้องกับคนอื่น เธอนอกใจเขา
พระพายนั้นเข้าใจว่าพายุเลิกเพราะไม่อยากรับผิดชอบนิสาและเด็กในท้อง
“แล้วแกจะเอายังไงต่อไป” พระพายถาม
“ไม่รู้สิ คงลาออกแล้วกลับไปอยู่บ้าน...ฉันเสียดายเวลาสองปีที่เรียนมาว่ะแก” นิสาบอกเสียงสั่น มือก็เขี่ยโจ๊กในถ้วยไปมาไม่ยอมกิน
“กินก่อน เดี๋ยวค่อยคุย” พระพายบอก
เมื่อนิสาทานเสร็จ พระพายก็จัดยาให้นิสากิน แล้วนั่งพูดถึงทางออกร่วมกัน
“ฉันนั่งคิดแทนแกทั้งคืนเลยนะสา ทางแรกคือแกเรียนอีกเทอมนี้ สอบไฟนอลเสร็จ ท้องก็ไม่น่าจะโตมากนัก แล้วดรอปเรียนของเทอมสองไว้ คลอดเสร็จก็กลับมาเรียนต่อให้จบ” พระพายบอก นิสาพยักหน้ารับฟังอย่างเห็นด้วย
“ทางเลือกที่สอง โอนหน่วยกิจ เทียบหลักสูตรกับมหาวิทยาลัยเปิด แล้วไปเรียนต่อวันเสาร์อาทิตย์ที่บ้านแก ทางเลือกนี้แกจะได้ไม่ต้องทนกับสายตาของคนในมอเรา แต่มหาวิทยาลัยเปิดใครๆ ก็เรียนได้ ถ้าแกท้องโตก็ไม่มีใครว่าให้ได้” พระพายพูดตรงๆ เพราะเธอเข้าใจว่านิสาจะต้องทนกับสายตาคนอื่นไม่ได้
“ฉันว่าทางเลือกที่สองก็ดี” นิสาพูดขึ้นมาอย่างเห็นด้วย
“ส่วนพี่พายุ ต้องได้รับผลกรรมที่เขาทำไว้กับแก” พระพายพูดขึ้นมา นิสาวางช้อนลง มองหน้าพระพายที่ตอนนี้เข้าใจว่าพายุคือฝ่ายผิด
“ฉันบอกแล้วไง พี่พายุไม่ผิด คนที่ผิดคือฉันเอง” นิสาพยายามจะอธิบาย
“เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้วสา เลิกออกรับแทนไอ้พี่พายุสักที” พระพายบอกนิสา ที่เจ็บปวดขนาดนี้ยังออกรับความผิดแทนพายุ ไม่รู้ว่าเขามีอะไรดีนักหนา
นิสาปวดหัวเลยไม่อยากอธิบายอะไรมากเลยปล่อยให้พระพายเข้าใจผิดอยู่แบบนั้น
นิสากำลังพยายามตัดใจจากพายุ เพราะรู้แล้วว่าไม่สามารถกลับไปหาเขาได้อีกแล้ว ส่วนเรื่องเด็กในท้องแน่นอนว่าเป็นลูกของเสี่ยถัง แต่เขาจะรับผิดชอบหรือเปล่านั้นนิสาไม่รู้
***************************
พระพายพานิสามาทำเรื่องขอโอนย้ายหน่วยกิจเพื่อไปเรียนอีกมหาวิทยาลัยจนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะมีการเปิดทำการเรียนการสอนในเทอมแรก
พอกลับถึงห้องนิสาโทรบอกพ่อแม่ให้เดินทางมารับเพราะต้องขนของย้ายออกจากหอ
“พาย แกไม่ต้องนอนเป็นเพื่อนฉันแล้วนะ ฉันสบายดีแล้ว”
“แล้วแกจะเอาไงเรื่องพ่อของเด็ก” พระพายถาม เลี่ยงที่จะเอ่ยชื่อของพายุ
“ฉันยังไม่รู้เลยพาย พรุ่งนี้พ่อแม่ก็จะมารับฉันกลับแล้ว เราคงไม่ได้เจอกันอีก ฉันฝากขอโทษมาลีด้วยนะ ที่ไม่ได้อยู่ลาด้วยตัวเอง” นิสาบอกแล้วฝากข้อความถึงมาลี
“ค่อยบอกในแชทกลุ่มก็ได้ มาลีมันคงเข้าใจแหละ อีกสองวันมันถึงจะกลับจากใต้ เดี๋ยววันเปิดเทอมฉันจะคุยกับมันเอง” พระพายบอกแล้วกอดเพื่อนรักแน่น
“ดูแลตัวเองกับลูกดีๆ นะแก ส่งข่าวมาบ้างนะ”
“อืม ขอบใจสำหรับทุกอย่างนะ” นิสายิ้มเศร้าๆ
เธอกังวลอยู่หลายเรื่องทั้งท้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งต้องเลิกกับพายุ แล้วยังต้องย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยเปิดอีก
แล้วไม่รู้ว่าเสี่ยถังจะว่ายังไงกับลูกในท้อง พ่อแม่ของเธออีกที่ยังไม่รู้ว่าเธอท้อง แต่ดีที่เธอมีเงินและของที่เสี่ยถังซื้อให้ พออยู่ได้สบายไปอีกสักพัก
พระพายนั้นเข้าใจว่านิสาท้องกับพายุ แล้วพายุไม่รับผิดชอบ ทำให้เพื่อนรักเธอต้องเผชิญปัญหาอยู่คนเดียว ตอนนี้พระพายเกลียดขี้หน้าเขาสุดๆ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
***************************
วันแรกของการเปิดเทอม เมื่อมาลีรู้ข่าวนิสาจากแชทกลุ่ม ก็มาคาดคั้นเอาความจริงและสาเหตุแท้จริงที่ทำให้นิสาต้องย้ายไปเรียนที่อื่น พระพายจึงเล่าให้มาลีฟังทั้งหมด มาลีทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
“แล้วแกรู้ได้ยังไงว่าพี่พายุเป็นพ่อของเด็กจริงๆ แกถามสาแล้วเหรอ” มาลีถาม
“ไม่ต้องถามก็น่าจะรู้มั้ย ก็สาคบอยู่กับพี่พายุ หรือแกคิดว่าสามันเป็นคนหลายใจ” พระพายถามมาลีคืน
“เออ มันก็จริง” มาลีเริ่มคล้อยตามแต่ก็ไม่อยากปักใจเชื่อ
“อีกอย่างจะยังไงก็ตาม ฉันก็ไม่ชอบพี่พายุ ข่าวลือพี่แกก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นคนเจ้าชู้ สายังจะเข้าข้างพี่เขาอีก” พระพายบ่นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“ถ้าสามันเข้าข้าง มันก็อาจไม่ใช่เป็นอย่างที่แกคิดก็ได้ แกอย่าเพิ่งอคติสิ” มาลีบอก
“เอ๊ะ มาลี แกขัดฉันจัง มีอะไรที่ปิดบังฉันอยู่รึเปล่า” พระพายถาม มาลีทำหน้าเลิ่กลั่ก
“เปล๊า” มาลีตอบเสียงสูง
“เสียงสูงแบบนี้น่าสงสัยนะ บอกมา ถ้าแกไม่บอก ฉันจะโกรธแกจริงๆ ด้วย” พระพายขู่
มาลีถอนหายใจเสียงดัง แล้วตัดสินใจเล่าให้พระพายฟัง
“ฉันแอบปลื้มเพื่อนในกลุ่มของพี่พายุอยู่ แล้วฉันตัดสินใจจะสารภาพรักในเทอมนี้ ก่อนที่พี่เขาจะไปฝึกงานเทอมหน้าแล้วจบออกไป” มาลีบอก
“แล้ว..” พระพายถามอย่างสงสัย
“แล้วฉันก็ไม่อยากให้แกอคติกับพี่พายุ เพราะถ้าฉันจะต้องลากแกพาฉันไปสารภาพรักกับเพื่อนในกลุ่มเขา ถ้าแกทำหน้าไม่ดีใส่พี่พายุ เดี๋ยวฉันจะคะแนนตก” มาลีบอกตามความจริง
พระพายนิ่งไป มาลีผู้ไม่เคยชอบใคร ไปแอบชอบคนในกลุ่มของพายุ มันเป็นอะไรที่พระพายหนักใจ เพราะถ้าคนนั้นไม่ใช่จริงๆ มาลีคงไม่ตัดสินใจจะไปสารภาพรักแน่นอน พระพายรู้นิสัยของมาลีดี
“แล้วแกมั่นใจนะว่าเขาไม่ได้เป็นเหมือนเพื่อนของเขา”
“อืม มั่นใจ พี่เขาโสด ไม่มีแฟน” มาลีบอก
พระพายนึกในใจ ผู้ชายแบบไหนนะที่ทำให้สาวห้าวตัวเล็กอย่างมาลีหลงรักได้
***************************
นิสากลับไปอยู่บ้านได้หลายวันแล้ว เสี่ยถังรู้ก็รีบขับรถไปหาเธอที่บ้าน นิสานั่งคุยกับเสี่ยด้วยท่าทีที่มีความกังวล เธอไม่ได้รักเขา แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อของลูกเธอ
“สา กลับมาบ้านทำไมไม่ไปหาเสี่ยที่บ้าน ไม่ส่งข่าวบอกเสี่ยเลย” เสี่ยถังตัดพ้อเสียงน้อยใจ
“พอดีสาวุ่นๆ อยู่กับการทำเรื่องโอนหน่วยกิจมาสมัครเรียนเสาร์-อาทิตย์ที่นี่ค่ะ เลยไม่ได้บอกเสี่ยว่ามาแล้ว”
“กลับบ้านกับเสี่ยนะ เสี่ยคิดถึงสาจะแย่”
“เสี่ยค่ะ สามีเรื่องจะบอกเสี่ย” นิสาตัดสินใจจะบอกเสี่ยถังไปตรงๆ ทำใจแล้วว่าถ้าเขาไม่ยอมรับก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงเธอก็ไม่ได้รักเขาอยู่แล้ว
“ที่สาย้ายกลับมาเรียนที่นี่ เพราะสาท้องได้เดือนนึงแล้วค่ะ” นิสาบอก แล้วนั่งนิ่ง รอดูปฏิกิริยาของเสี่ยถัง
เสี่ยถังนั่งอึ้งไปพักนึง แล้วคิดทบทวนว่าตลอดสามเดือนที่ผ่านมานิสาอยู่กับเขาตลอด ดังนั้นถ้าเธอท้องหนึ่งเดือน ความเป็นไปได้ที่ว่าจะเป็นลูกของเขานั้นคือร้อยเปอร์เซ็นต์
เสี่ยถังนึกทบทวนซ้ำไปซ้ำมาจนนิสาเข้าใจว่าเขาคงไม่ยอมรับ จนในที่สุดเขาก็ตะโกนออกมาอย่างดีใจ
“อั๊วจะมีลูกแล้ว อั๊วจะมีลูกแล้ว” เสี่ยถังเดินไปกอดนิสา หอมหัวเธอแล้วจุ๊บหน้าผากซ้ำๆ อย่างดีใจ
“เก็บข้าวของกลับไปอยู่กับเสี่ยนะสา เสี่ยจะดูแลสากับลูกเอง เสี่ยจะยกย่องสาเป็นเมียอีกคน เสี่ยจะดูแลสากับลูกอย่างดีเลย” เสี่ยถังพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ดีใจ เขาพยายามมีลูกกับภรรยามาเป็นสิบปีแต่ก็ไม่สำเร็จ
“เราไปตรวจกับหมอให้ละเอียดอีกที แล้วไปฝากท้องตอนนี้เลย” เสี่ยถังพูดไม่หยุดด้วยความตื่นเต้น
นิสาโล่งใจที่อย่างน้อยตอนนี้เธอก็ไม่ได้โดนทอดทิ้งให้เลี้ยงลูกคนเดียว ถึงจะเป็นเมียอีกคนของเสี่ยถัง แต่ถ้าทำให้ลูกของเธอมีอนาคตที่ดี ครอบครัวไม่ต้องลำบาก และเธอยังได้เรียนต่อจนจบ แค่นี้เธอก็พอใจแล้ว
***************************