“ยาครับ กินกันไว้ก่อน เดี๋ยวเธอจะแย่กว่านี้” จอมขวัญเบ้ปากเธอเกลียดที่สุดคือการกินยา วิลเลี่ยมพอจะเข้าใจเมื่อเขามองเห็นอากับกิริยาของหญิงสาว สมัยเด็กๆ เขาเองก็เป็นเช่นนั้นเกลียดที่สุดคือการกินยาขมๆ เพื่อรักษาอาการไข้
ชายหนุ่มตัดสินใจในเสี้ยววินาที เขาโยนเม็ดยาเข้าปากแล้วจึงช้อนปลายคางของจอมขวัญขึ้น ปลายนิ้วบีบกระพุ้งแก้มให้ริมฝีปากบางอ้าขึ้นนิดๆ ก่อนจะฉกริมฝีปากตัวเองทาบทับ ใช้ปลายลิ้นดุนเม็ดยานั้นเข้าไปในปากของเธอ
จอมขวัญตกใจจนลืมไปว่าเม็ดยาถูกส่งผ่านเข้ามาในปากของเธอแล้ว ชายหนุ่มถอนเรียวปากออกไป เขากรอกน้ำสะอาดเข้าปากตัวเอง และแนบลงมาที่จุดเดิม หญิงสาวตั้งตัวไม่ทันเธอเผลอกลืนเม็ดยาพร้อมกับน้ำลงไปในลำคอ ดวงตากลมโตเบิกกว้างมองใบหน้าชายหนุ่มที่ชิดใกล้แบบคาดไม่ถึง!!
หลังจัดการเม็ดยาเจ้าปัญหาเสร็จสิ้น วิลเลี่ยมถือโอกาสสำรวจความหวานฉ่ำของปากอิ่มได้รูป เขาสอดปลายลิ้นสากระคายของตัวเองเขาไปหยอกเย้าลิ้นเล็กๆ ที่ถอยหลังหนี เกี่ยวกระหวัดรูดรัด ดูดดื่มความหวานละไมและสูบพลังในร่างกายของเจ้าหล่อนจะเธออ่อนระทวยซวนซบแผ่นอกของเขา มือเรียวบางวางไว้ตรงแผงอกหนาๆ เธอหลงก้าวเดินตามการชักจูงของชายหนุ่ม เพลิดเพลินไปกับความหวามไหวหลงลืมไปว่าเขาเป็นแค่ผู้ชายแปลกหน้า ที่ค่อนไปทางหื่น!!
มือใหญ่โอบรัดและพยายามดันลำตัวบางให้เอนลงนอน แต่...จอมขวัญรู้สึกตัวเสียก่อน เธอรวบรวมแรงที่เหลือ ออกแรงดันชายหนุ่มสุดแรง!!
“ขอบคุณค่ะ คุณออกไปเถอะ” เสียงอู้อี้ใต้ผ้าห่ม เมื่อจอมขวัญหลุดออกมาจากอ้อมกอดเธอรีบตลบผ้าห่มคลุมตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
วิลเลี่ยมยกมือเกาท้ายทอยแก้เก้อ ชายหนุ่มจำใจลุกขึ้นยืนและเดินออกไปจากห้องนอนเงียบๆ ไม่มีเสียงทักท้วงจากคนในโปงผ้าห่ม ทั้งๆ ที่ชายหนุ่มอยากได้ยินเสียงเช่นนั้น!!
มือเรียวบางยกแตะริมฝีปากตัวเอง เธอรีบสลัดไล่ความฟุ้งซ่านให้ออกไปจากความคิด รีบหลับตาและข่มใจนอนหลับ เธอหลับสนิทในเวลาต่อมาเพราะฤทธิ์ยา...ในความฝันอันแสนหวาน ร่างบอบบางลอยล่องอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น เธอรู้สึกมีความสุข จนริมฝีปากคลี่ยิ้มไม่หยุด รอยยิ้มนั้นยังค้างอยู่บนเรียวปาก แม้จะหลับสนิท
แม้จะมีไข้แต่หากเพราะกินยากันไว้ทัน เธอจึงตื่นขึ้นมาในตอนเช้าด้วยความกระปี้กระเป่าไม่มีพิษไข้หลงเหลืออยู่ ดวงตากลมโตเหลือบมองนาฬิกา แล้วจึงกระโจนพรวดลงจากเตียงนอน...เพราะใกล้เวลาเข้างานเต็มทน เธอมีเวลานอนนิดหน่อยที่จะทำธุระส่วนตัว นานๆ จะได้นอนเต็มอิ่มในวันหยุด เพราะต้องทำงานถึงสองที่ไม่อย่างนั้นคงไม่มีสตางค์พอไปจ่ายค่าดอกเบี้ยมหาโหด ที่ต้องจ่ายทุกๆ เดือน
มุมปากคาบขนมปังหนึ่งแผ่น เธอรีบแต่งตัวไปทำงานเสร็จในเวลาไม่ถึง 10 นาทีแล้วจึงรีบเผ่นแนบออกมาจากห้อง เพื่อมุ่งหน้าไปทำงานเหมือนทุกวัน
“ขวัญเอ๋ยขวัญ...” ป้าเจ้าของห้องพักตะโกนเรียก เธอเห็นหลังหญิงสาวไวไว
“ค่ะ มีอะไรป้าขวัญจะสายแล้ว”
“มีจดหมายจากบ้านขวัญส่งมาจ้ะ ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” นานๆ จะมีจดหมายติดต่อสาวน้อยมาสักที แสดงว่าทางบ้านต้องมีธุระด่วน!!
“จริงเหรอป้า ไหนคะ?” จอมขวัญขมวดคิ้ว คนที่เขียนจดหมายมาต้องเป็นจอมแก้วน้องชายเธอแน่ เพราะนอกนั้นไม่มีใครมีความรู้ภาษาอังกฤษกันสักคน
เธอมองลายมือจ่าหน้าซองแล้วจึงยิ้มกว้าง ลายมือเหมือนไก่เขี่ยแบบนี้ไม่ผิดแน่ เป็นลายมือของจอมแก้ว น้องชายเธอเอง “ขอบคุณค่ะ ขวัญไปนะป้า” หญิงสาวรับมาและยัดลงเก็บไว้ในกระเป๋า เธอรีบเดินแกมวิ่งเพราะต้องไปโดยสารรถประจำทางเพื่อไปยังร้านอาหารอีกทอดหนึ่ง
จอมขวัญมาทันเวลาแบบเฉียดฉิว เธอรีบตอกบัตรและเข้าประจำหน้าที่ งานช่วงเช้าวุ่นวายจนลืมจดหมายของน้องชายเสียสนิท มานึกออกอีกทีเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนไปทำงานอีกร้านหนึ่ง ระหว่างเดินทางเธอจึงรีบล้วง จดหมายออกมาเปิดอ่าน แม้จะเป็นรถประจำทางระยะสั้นๆ เธอคิดว่าน่าจะอ่านทันเพราะจอมแก้วไม่ใช่คนที่จะเขียนอะไรยาวๆ ได้
แต่เธอคิดผิด...เมื่อเปิดออกมาจดหมายลายมือไก่เขี่ยยาวเกือบหนึ่งหน้ากระดาษ เธอจึงจับยัดกลับเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วรีบผุดลุกขึ้นยืนเมื่อถึงจุดที่ต้องลงพอดี...
กว่าที่จะนึกขึ้นได้อีกครั้งก็ถึงเวลาเลิกงาน จอมขวัญเลยคิดว่ากลับไปอ่านที่ห้องพักสบายๆ ดีกว่า หลังอาบน้ำล้างคราบเหงื่อและความเมื่อยล้าในการทำงาน เธอค่อยคลี่จดมายของน้องชายและเริ่มอ่านช้าๆ แทบทุกตัวอักษร
สวัสดีพี่ขวัญ...
ทุกคนสบายดีจ้ะ แก้วคิดถึงพี่ขวัญ แก้วมีเรื่องสำคัญอยากให้พี่รู้ มันเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่ของแก้ว เพราะพ่อไม่อยากให้พี่รู้กลัวว่าพี่ขวัญจะไม่สบายใจ
เรื่องที่นาของเรา...
เสียสมให้เวลาเราอีก2 เดือน เขาต้องการใช้เงินด่วน เลยอยากได้เงินที่พ่อยืมไปคืน หากไม่มีไปคืนเขาภายใน2 เดือนเสี่ยจะยึดที่นาเพื่อขายทอดตลาด...แก้วสงสารพ่อ แม่ เพราะนั่นคือที่ดินผืนสุดท้ายของเราแล้ว หากไม่มีที่นา พ่อกับแม่ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปทำมาหากินอะไร แก้วรู้ว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ และอาจทำให้พี่ขวัญกลุ้มใจ เมื่อกว่าที่จดหมายจะเดินทางไปถึงมือของพี่ขวัญ เราก็น่าจะเหลือเวลาอีกไม่เยอะ หรืออาจจะหายกลางทางก็ได้ เมื่อภาษาที่แก้วใช้มันไม่สวย คนส่งเอกสารอาจจะแกะลายมือของแก้วไม่ออกก็ได้ แก้วสัญญานะพี่ขวัญต่อไปนี้แก้วจะตั้งใจเรียนและจะเขียนให้สวยกว่านี้
เราเป็นหนี้เสี่ยอยู่2 แสน แต่เมื่อทบไปทบมา หนี้เราเพิ่มขึ้นจนน่าใจหาย เสี่ยมีเอกสารมายืนยันว่าเราเป็นหนี้เขาอยู่เกือบ4 แสน แก้วหมดทางช่วยพ่อ แม่ แก้วเลยคิดว่าพี่ขวัญควรรู้เพราะพี่ขวัญอาจมีช่องทางก็ได้
แก้วได้แต่ภาวนาให้เราสามารถหาเงินมาได้ทัน ก่อนที่ ที่นาจะถูกยึด...
รักและเคารพ
จอมแก้ว
จอมขวัญน้ำตาร่วง เธออ่านทวนซ้ำหลายครั้ง มันก็เหมือนเดิม เนื้อความในจดหมายบีบคั้นจิตใจของเธอ มันมืดมน สับสน จนหนทาง เธอจะไปหาเงินจำนวนมากขนาดนั้นได้ที่ไหน? เมื่อมันเยอะแยะมากมายจนยากเกินกว่าที่จะหามาได้ภายใน1 เดือน ทำไงดี!! เธอควรทำอย่างไร? ทำอย่างไรถึงจะมีเงินส่งไปให้พ่อ-แม่ใช้หนี้ไอ้เสี่ยหน้าเลือดคนนั้น มันจ้องจะยึดที่นาของเธออยู่แล้ว เพราะมันคิดว่าครอบครัวของเธอไม่มีทางหาเงินมาใช้คืนได้ อาชีพที่น่ารังเกียจ ทำนาบนหลังคนอื่น ขูดรีดเลือดเพื่อนร่วมโลกแทบหมดเนื้อหมดตัว มีแต่คนว่าหากไม่อยากเป็นหนี้ก็อย่าไปขอยืมเขา...คนแต่ละคนมีความจำเป็นไม่เหมือนกัน บางครั้งเราก็ต้องก้มหน้าไปยืมเงินเขา เพราะรายจ่ายที่รออยู่ แม้จะรู้ว่าจะถูกสูบเลือดซิบๆ ก็เถอะ
น้ำตาไหลทะลักทลาย เธอสะอื้นไห้ ก่อนจะเอนตัวลงนอนกอดตัวเองไว้แน่นและร้องไห้อย่างหนักเมื่อหนทางที่จะช่วยพ่อแม่ได้แทบไม่มีให้เห็นเลย...
วิลเลี่ยมขมวดคิ้ว เขาตะแคงฟังเสียงหงิงๆ เหมือนใครบางคนกำลังกลั้นเสียงร้องไห้ แต่มันกลับดังขึ้นเมื่อเวลากลางดึกมันเงียบสงัด เขาตั้งใจฟัง ตัดใจวางหนังสือกฎหมายที่อ่านค้างไว้ข้างตัว ร่างสูงใหญ่ผุดลุกขึ้นยืน เขาเดินไปแนบหน้ากับกำแพงห้องเพื่อฟังเสียงห้องข้างๆ ให้ชัดขึ้นมากกว่าเก่า
ก๊อก ก๊อก...
เสียงเคาะพนังห้องเบาๆ จอมขวัญรีบยกมือขึ้นปิดปาก เธอไม่อยากให้ใครรู้ว่าตัวเองกำลังกลุ้มใจและเสียใจ
“มีอะไรให้ช่วยไหม? บางทีการระบายให้คนอื่นฟังบ้าง มันอาจจะมีทางออกก็ได้นะ เก็บไว้กับตัวแบบนั้นมันน่าอึดอัด”
หญิงสาวคิดตามคำพูดของคนข้างห้อง มันก็จริงอยู่ในขณะที่เธอฟูมฟายอยู่กับน้ำตา มุมมองของคนอื่นอาจจะมองเห็นช่องทางก็เป็นได้ เมื่อมันเป็นฟางเส้นสุดท้าย ลองเสี่ยงคว้าเอาไว้ มันก็คงไม่ได้ทำให้เธอแย่ลงหรอก