ทางด้านก้องเมื่อเห็นแม่ของเขากับนลินญากลับมาแล้วก็ตักข้าวคำสุดท้ายยัดเข้าปาก จากนั้นก็เดินเอาจานเข้าไปเก็บในครัว จัดการเทต้มปลาที่เหลือไว้ให้อีกคนลงหม้อเหมือนเดิม แล้วเอาไปแช่ตู้เย็นไว้กินต่อในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะเดินออกไปข้างนอก...
ทางด้านน้ำพริกเมื่อเห็นแม่ของเธอกับกัญญาเดินถือของกินเต็มไม้เต็มมือ ก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยทันทีเพราะตอนนี้เธอหิวมากแล้ว จากนั้นร่างเล็กก็เตรียมเดินเข้าไปในครัวเพื่อเอากับข้าวไปจัดใส่จาน ทว่าเห็นก้องเดินสวนออกมาพอดี จึงสบตาเขาครู่หนึ่ง ก่อนที่อีกคนจะเบี่ยงสายตาไปทางอื่น แล้วเดินผ่านเธอด้วยท่าทีเมินเฉย...
การกระทำของก้องที่แสดงออกมา ทำเอาน้ำพริกถึงกับหัวใจวูบหวั่นไม่น้อย แต่เธอก็เลือกไม่สนใจเพราะตอนนี้หิวมาก...
เวลาต่อมาหลังจากน้ำพริกนั่งกินข้าวหน้าห้องครัวใต้ถุนบ้านอิ่ม เธอก็เตรียมเก็บจานไปล้างทว่าแม่ห้ามเสียก่อน เพราะรู้ดีลูกสาวนั้นไม่เก่งงานบ้านงานเรือน จึงกลัวว่าจะทำจานที่บ้านกัญญาแตก นลินญาก็เลยล้างเองทำให้ตอนนี้น้ำพริกนั่งคุยกับกัญญาอยู่ที่หน้าห้องครัวเพื่อรอแม่ของเธอล้างจานเสร็จ...
ซึ่งใช้เวลาไม่นานหลังจากนลินญาล้างจานเสร็จเรียบร้อย ทั้งสามก็เดินขึ้นไปบนบ้านเพื่อแยกย้ายกันไปพักผ่อน เนื่องจากพรุ่งนี้นลินญากับน้ำพริกมีธุระต้องไปทำแต่เช้า...
พอเท้าสองข้างเหยียบยังพื้นชั้นสองของตัวบ้าน ตาคู่สวยก็มองหาอีกคนแต่ก็ไม่พบเจอเขา ทำเอารู้สึกเซ็งไม่น้อย แต่ก็พยายามให้กำลังใจตัวเอง เพราะยังต้องเจอเขาอีกหลายวัน คิดเช่นนั้นน้ำพริกก็เดินตามแม่ของเธอไปยังห้องนอนที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของตัวบ้าน
ส่วนกัญญาก็เดินแยกไปยังห้องนอนฝั่งขวามือ ซึ่งเป็นห้องนอนของลูกชายเธอ...
ที่ต้องนอนห้องเดียวกับก้อง เนื่องจากบ้านหลังนี้มีเพียงสองห้องเท่านั้น ซึ่งให้น้ำพริกกับนลินญาอาศัยหลับนอนแล้ว เดิมทีห้องนั้นเป็นของเธอกับสามี แต่ทว่าตอนนี้กัญญาและสามีไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แล้ว เนื่องจากไม่มีใครดูแลยายของก้อง กัญญากับสามีจึงย้ายไปอยู่บ้านยายของก้องเพื่อดูแลท่าน
ซึ่งก็ไม่ได้ไกลจากที่นี่มากนัก ห่างออกไปประมาณห้ากิโลเห็นจะได้...
ส่วนบ้านหลังนี้ก็ยกให้ลูกชายของเธอ จะได้เป็นเรือนหอของก้องกับน้ำพริกในวันข้างหน้าด้วย...
เมื่อเดินเข้ามาในห้องนอนน้ำพริกก็หยิบแปรงกับยาสีฟันเตรียมเดินออกไปข้างนอกอีกครั้ง ทว่าได้ยินแม่เธอเอ่ยถามก่อน...
“จะไปไหนพริก?” เท้าสองข้างหยุดชะงัก ใบหน้าสวยหันไปมองพร้อมกับเอ่ยตอบ
“หนูจะไปแปรงฟัน แม่มีอะไร?”
“ให้แม่ลงไปรอไหม?”
“ไม่เป็นไรหนูไปเองได้ แม่นอนพักผ่อนเถอะ” เพราะรู้สึกปวดท้องด้วย เนื่องจากกินข้าวเข้าไปเยอะ จึงไม่อยากให้คนเป็นแม่ยืนรอนาน ๆ อีกทั้งตรงนั้นยุงยังชุกชุมอีกต่างหาก กลัวว่าจะโดนหามไปก่อนเธอทำธุระเสร็จ...
ส่วนเรื่องผีสางเธอนั้นไม่ได้กลัวอยู่แล้ว เพราะไม่เคยเห็นเลยสักครั้ง จึงสบายมากหากลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่างในเวลานี้คนเดียว...
สิ้นเสียงเล็กน้ำพริกก็เดินออกไปข้างนอก ดวงตามองไปยังห้องน้ำด้านล่างที่เปิดไฟสว่างจ้าอยู่ จึงเดินลงบันไดแล้วมุ่งตรงไปยังห้องน้ำทันที เมื่อถึงจุดหมายมือเล็กก็ยกขึ้นเตรียมผลักประตูเข้าไปด้านใน
ทว่า...เป็นจังหวะที่คนข้างในกระชากประตูเปิดออกพอดี
ทำให้มือนุ่มนิ่มของเธอวางลงยังแผงอกกำยำเปลือยเปล่าของอีกคนพอดี รับรู้เช่นนั้นก็ตกใจไม่น้อยแต่ก็ไม่คิดจะเอามือออก ยืนหัวใจเต้นสั่นระรัวเมื่อได้สัมผัสเรือนร่างชายหนุ่มที่เธอชอบ
ขณะคนตัวเล็กกำลังยืนเคลิบเคลิ้มกับแผงอกกำยำ ที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อน่าหลงใหลของอีกคนอยู่ จู่ ๆ ก็โดนเจ้าของเรือนร่างนั้นดับฝันโดยการจับมือเธอ แล้วเอ่ยถามด้วยสีหน้าและน้ำเสียงคล้ายไม่พอใจ...
“ทำอะไร?”
“หนูกำลังจะเปิดประตู แต่ไม่รู้ว่าพี่เข้าห้องน้ำอยู่”
“ประตูมันก็ปิดอยู่ คิดไม่ได้ขนาดนั้นเลย?”
“ถ้ารู้หนูก็คงยืนรอไหม? คงไม่ผลักเข้าไปแบบนี้หรอก ไม่ได้พิศวาสอยากจับหรืออยากเห็นของพี่ขนาดนั้น” ถึงจะไม่ได้ตั้งใจแต่พอได้สัมผัสก็ยอมรับว่ามีเผลอไผลไปบ้าง
“แต่เมื่อกี้จับไปแล้ว”
“ก็ไม่ได้ตั้งใจไง” น้ำพริกยืนกอดอกเถียงออกไปข้าง ๆ คู ๆ อย่างไม่ยอมแพ้ แถมยังทำหน้าท้าทายว่าที่สามีของเธออีกต่างหาก เมื่ออดไม่ได้จริง ๆ กับความปากคอเราะรายของเขา
พอก้องได้ยินคำพูดและเห็นท่าทีของน้ำพริกที่แสดงออกมาก็ได้แต่มองนิ่ง ๆ ก่อนจะเลือกเดินเบี่ยงตัวออกมา
เพราะไม่อยากเถียงกับคนที่ยังไม่รู้จักโต...
“คิดว่าจะแน่” เมื่อก้องเดินออกไปแล้วน้ำพริกก็หันไปมองแผ่นหลังกำยำของเขา แล้วเลื่อนสายตาลงยังท่อนล่างที่มีเพียงผ้าขาวพันรอบเอวหมิ่น ๆ กำลังเดินไปยังบันไดบ้าน เห็นเช่นนั้นใบหน้าก็ร้อนผ่าวเขินอายกับหุ่นของเขาไม่น้อย
ในขณะใบหน้าสวยระบายยิ้มไม่หุบราวกับผู้ชนะ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำด้วยท่าทีอารมณ์ดี...
ทางด้านก้องพอขึ้นมาบนบ้านเขาก็รีบไปแต่งตัวให้เรียบร้อย เสร็จก็คว้าหมอนหนึ่งใบกับเสื่อหนึ่งผืนเดินออกมาจากห้อง เพื่อไปนอนที่เรือนรับรอง ขณะขายาว ๆ กำลังจะเดินไปยังบันได ทว่าสายตาเหลือบเห็นไฟห้องน้ำยังเปิดอยู่ จึงเปลี่ยนเส้นทางไปยังเสาที่ตั้งอยู่กลางบ้าน แล้วจัดการดึงปลั๊กไฟห้องน้ำที่เสียบอยู่ออกทันที ทำให้ไฟห้องน้ำดับสนิท
“กรี๊ด!” ก่อนจะได้ยินเสียงกรี๊ดดังลั่นมาจากห้องน้ำ...
แต่ร่างสูงก็ไม่คิดจะสนใจเดินถือหมอนกับเสื่อก้าวลงบันได มุ่งตรงไปยังเรือนรับรองทันที...
ทางด้านกัญญาที่กำลังนั่งคุยกับนลินญาอยู่ภายในห้องนอน ขณะกำลังถามไถ่เพื่อนว่าผ้าห่มหมอนมุ้งพอไหม ต้องการอะไรเพิ่มหรือเปล่า พอได้ยินเสียงกรี๊ดดังมาจากข้างนอก หญิงวัยกลางคนทั้งสองจึงรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกไปดูทันทีแต่ก็ไม่พบเจอใคร
กัญญาจึงกวาดมองไปรอบบ้าน ก่อนที่สายตาเธอจะสะดุดกับแผ่นหลังกำยำของลูกชาย ที่กำลังเดินลงบันไดบ้านมุ่งตรงไปยังเรือนรับรอง จึงมองด้วยความงุนงง...
แต่พอได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก จึงเปลี่ยนความสนใจจากก้องไปยังน้ำพริกที่ยืนอยู่หน้าห้องน้ำด้วยสีหน้าตื่นตระหนก พร้อมกับเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงคล้ายไม่พอใจ
“ใครปิดไฟห้องน้ำหนู?” พอได้ยินคำพูดของน้ำพริก กัญญาก็มองไปยังเสากลางบ้านที่ปกติเสียบปลั๊กไฟห้องน้ำไว้ตลอด ทว่าตอนนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอจึงรีบเดินไปเสียบไว้เช่นเดิม เมื่อไฟห้องน้ำกลับมาสว่างจ้ากัญญาก็ส่ายหน้าเบา ๆ เมื่อรับรู้ว่าเรื่องทั้งหมดเป็นฝีมือของใคร
ถ้าไม่ใช่ลูกชายตัวเอง...
ทางด้านน้ำพริกพอไฟห้องน้ำกลับมาติดอีกครั้ง เธอก็เดินกลับเข้าไปข้างในห้องน้ำเพื่อแปรงฟันต่อด้วยท่าทีหงุดหงิด เพราะรู้ดีว่าใครเป็นคนปิดไฟห้องน้ำ
ร่างเล็กใช้เวลาทำธุระในห้องน้ำสักพัก พอเสร็จก็รีบเดินขึ้นไปบนบ้านไปพักผ่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นเช้า...