10

1001 Words
“เขาบอกว่าคนแก่ชอบกินของขม เพราะว่ามันอร่อยถูกใจ งั้นลองต้มจืดมะระนะคะ รับรองว่าอร่อยจนต้องขอเพิ่มข้าวอีกหนึ่งจาน” เขาแอบเข่นเขี้ยวเธออยู่ในใจที่เธอหาว่าเขาแก่!!! เธอรีบตักมะระให้เขา วริศทำหน้าปูเลี่ยน กลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ เขาตักมะระมากิน ก่อนจะอ้วกพุ่ง คราวนี้อาเจียนจนหมดไส้หมดพุง “ตายแล้วตาริศ แม่บอกแล้วว่าไม่ชอบก็อย่าฝืน เรานี่หนา อยากเอาชนะให้ได้” “ผมเปล่าอยากเอาชนะนะครับ” “เดี๋ยวแม่ให้ป้าแสนเจียวไข่ให้นะ” “ให้หลานสาวของคุณแม่เจียวดีกว่าครับ อย่าไปใช้ป้าแสนเลยครับ สงสารแก เพิ่งเดินทางกลับมาเหนื่อยๆ” เขารู้ดีว่าป้าแสนของมารดานั้นทำกับข้าวไม่ค่อยเอาไหน ท่านเก่งงานบ้านงานเรือน เรื่องความเป็นระเบียบเรียบร้อย ซักผ้ารีดผ้า ทำความสะอาดบ้านเนี๊ยบมากไม่เป็นสองรองใคร แต่เรื่องอาหารนั้นพอทำได้ พอกินได้ แต่ไม่ถึงกับอร่อย แต่ถ้าไม่มีอะไรกินจริง ๆ ก็ฝากท้องกับท่านให้รอดไปในแต่ละมื้อได้ “ลินจ๊ะ ไปเจียวไข่ให้พี่เขาหน่อยสิ” คุณเข็มสรณ์เอ่ยปาก มองเด็กสาวด้วยความเอ็นดู “ค่ะคุณป้า” ปาลินทำตามอย่างว่าง่าย รีบเดินเข้าไปในครัวเพื่อเจียวไข่ให้วริศ เธอจำได้ว่าเขาชอบกินไข่เจียวทรงเครื่อง ไข่เจียวธรรมดาวริศไม่ชอบกิน แต่ถ้าทรงเครื่องใส่ผักลงไปหลายชนิด เขาชอบกินตั้งแต่เด็ก สูตรไข่เจียวทรงเครื่อง เธอได้สูตรมาจากเข็มสรณ์ จึงไม่ยากเย็นนักที่จะทำไข่เจียวแสนอร่อยออกมาในเวลาอันรวดเร็ว “มองตามไม่วางตา เป็นยังไงบ้างหลานสาวของแม่ พอจะถูกใจเราบ้างไหม” คุณเข็มสรณ์เอ่ยถามลูกชาย ที่ชะเง้อคอมองเด็กสาวที่ตนอุปการะเอาไว้ไม่วางตา “ขี้เหร่จะตายไปครับ” “หือ...” เข็มสรณ์ถึงกับครางออกมาเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่นานไข่เจียวทรงเครื่องหอมกรุ่นพร้อมด้วยซอสพริกก็ถูกวางลงตรงหน้า “กินข้าวกันเถอะจ้ะ ไข่เจียวหอมขนาดนี้ หิวมากกว่าเดิมเสียอีก” เข็มสรณ์ที่ยังรับประทานอาหารอย่างต่อเนื่องเอ่ยขึ้น เพราะถ้าพักช่วงการรับประทานจะทำให้ความหิวลดน้อยลงไป เหมือนกินข้าวยังไม่ทันอิ่มแล้วมีคนมาเรียก พอกลับมากินใหม่ก็รู้สึกไม่ค่อยหิวเท่าที่ควร เข็มสรณ์ลอบสังเกตลูกชายกับเด็กสาวของตน ก่อนจะอมยิ้ม อีกคนปากแข็ง อีกคนไม่แสดงออก แล้วก็เผลอยิ้มกว้างออกมา “เราว่าเด็กของแม่ขี้เหร่ ขนาดนั้นเชียวรึ” เข็มสรณ์เอ่ยถามหลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ และมานั่งคุยกับลูกชายอยู่ตรงระเบียงบ้านสองคน “ทำไมเหรอครับ หรือคุณแม่จะบอกว่าเด็กของคุณแม่สวยเกินใคร” “ปากเหรอนั่น น่าตบปากเสียสักทีสองที” พูดแล้วเข็มสรณ์ก็หัวเราะร่วน “คุณแม่ขำอะไรครับ” “ขำคนแถวนี้แหละ แต่ไม่บอกว่าขำอะไร” “คุณแม่เห็นผมเป็นตัวตลกเหรอครับ” “แม่ไม่เคยคิดอะไรแบบนั้นเลย เราก็ช่างมโนเสียจริง แล้วว่ายังไงล่ะ หนูลินเรียนจบแล้ว สัญญาที่เคยให้ไว้กับแม่เรายังจำมันได้ไหม” เข็มสรณ์ทวงสัญญาจากลูกชาย “แล้วหลานสาวสุดที่รักของคุณแม่ยอมเหรอครับ” เขาแกล้งถาม ไม่ได้ปฏิเสธออกไปเหมือนทุกครั้ง แต่บ่ายเบี่ยงไปพูดเรื่องอื่น “แม่ยังไม่ได้ถามอย่างจริงจังเลยนะ” เข็มสรณ์ยอมรับว่าเคยพูดเรื่องนี้กับปาลิน ปาลินเองก็รับปากว่าหากมีผู้ชายดี ๆ ที่รักและอยากพามาให้ท่านดูตัว ก็จะแต่งงานกับวริศ ก็เหมือนกับลูกชายนั่นแหละที่รับปากว่าหากไม่มีใครที่รักจนอยากจะแต่งงานด้วย ก็จะแต่งงานกับปาลินเช่นกัน “อ้าว...” ชายหนุ่มร้องออกมา “อ้าวทำไม” เข็มสรณ์มองหน้าลูกชาย กลั้นขำเอาไว้ “ผมคิดว่าคุณแม่คุยกับเด็กของคุณแม่แล้วเสียอีกครับ” “เรื่องแบบนี้ต้องพูดกันแบบใจเย็น ๆ จะบุ่มบ่ามไม่ได้ เราต้องใช้ชีวิตด้วยกันไปอีกหลายปี ตัดสินใจแล้วจะเปลี่ยนใจปุบปับไม่ได้ เราว่าจริงไหมล่ะ” ประโยคของมารดาทำให้เขานิ่งฟัง และคิดตาม เขาก็รอยายตัวแสบจนอายุสี่สิบแล้วไง ถ้ารอไปนานกว่านี้เขาน่าจะกลายเป็นปู่ของหล่อนแล้วกระมัง “ครับ” วริศรับคำ นั่งครุ่นคิดอะไรมากมายอยู่ในหัว “พักร้อนกี่วันล่ะเรา” “ครึ่งเดือนครับ ผมทำงานยาวนานมากครับ แทบไม่เคยพักร้อนเลย” “ดีแล้ว แม่บอกให้เราพักบ้างก็ไม่เชื่อ ทำแต่งานมีเงินเยอะก็จริง แต่ไม่มีเวลา ตายไปก็เอาไปไม่ได้ ทำน่ะทำได้ แต่พอประมาณ” “ครับ” เขารับคำ เพราะเจอมารดาบ่นแบบนี้มาหลายครั้งจนชินเสียแล้ว “ได้พักผ่อนเสียบ้างจะได้ผ่อนคลาย” นางรู้ดีว่าลูกชายของนางทำงานเหนื่อยแค่ไหน “แม่ถามเราหน่อยสิ เรายังไม่มีคนรักแน่ ๆ ใช่ไหม ไม่ใช่จู่ ๆ ก็มีผู้หญิงอุ้มท้องลูกเรามาเรียกร้องให้รับผิดชอบ แบบนั้นแม่ไม่เอานะ” “โธ่... คุณแม่ครับ ไม่มีหรอกครับ” “ก็ดีแล้ว” พอได้ยินแบบนั้น เข็มสรณ์ก็ยิ้มออก ท่านเลี้ยงลูกชายแบบปล่อยให้เป็นอิสระ ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง ปล่อยให้เข้าใจความผิดหวัง ความสมหวัง และความสำเร็จเอง จะได้เข้มแข็งและรู้ว่าจะแก้ปัญหาเช่นไรเมื่อเจอปัญหา ไม่ว่าปัญหานั้นจะใหญ่หรือเล็กเพียงใด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD