“กินอะไรก็ได้ใช่ไหม ได้ค่ะเดี๋ยวลินจัดให้” ปาลินยิ้มอย่างมีแผนการ เธอรีบทำอาหารอย่างแข็งขัน ไม่นานอาหารรสเด็ดก็เสร็จสิ้นลงในเวลาอันรวดเร็ว
“อาหารเสร็จแล้วค่ะคุณวริศ” ปาลินยิ้มกว้างออกมา ขณะเอ่ยบอกวริศ
“เธอทำอะไรให้ฉันกิน” วริศเดินมาที่โต๊ะอาหาร เห็นแกงขี้เหล็ก ต้มมะระหมูสับ สะเดาน้ำปลาหวาน เพกาย่างไฟ มะระขี้นกต้มจิ้มกับน้ำพริก เขาก็ถึงกับหน้าเบ้ในทันที
“อาหารน่ากินไหมคะคุณวริศ”
“นี่เธอทำอะไร”
“ก็อาหารพื้นบ้านไงคะ นี่น่ะอาหารโปรดของคุณป้าเลยนะคะ”
“แต่ฉันไม่กินของขมเธอก็รู้”
“หวานเป็นลมขมเป็นยา ไม่เคยได้ยินหรือไง”
“นี่เธอจะแกล้งฉันอย่างนั้นเหรอ” เขาทำท่าจะตรงเข้าไปจัดการเธอ แต่ปาลินถอยหนีเสียก่อน และประโยคทักทายของมารดาก็ทำให้วริศถึงกับชะงัก
“อ้าวตาริศ กลับมาเมื่อไหร่แล้วจ๊ะ” ประโยคคำถามและรอยยิ้มของมารดาทำให้วริศต้องยิ้มกลับไปให้มารดา ก่อนจะคาดโทษยายตัวแสบที่เดินไปหลบหลังมารดาของเขาเอาไว้
“กลับมาเมื่อวานครับคุณแม่”
“จะมาไม่เห็นบอกแม่ก่อน” เพราะคุยโทรศัพท์กัน ก่อนจะไปงานศพ ก็ไม่เห็นลูกชายบอกว่าจะกลับมาบ้าน
“แล้วคุณแม่ล่ะครับ ไปงานศพญาติไม่บอกผมเลย ผมจะได้ขับรถไปส่ง”
“แม่ไม่อยากรบกวนเรา เห็นว่าเรากำลังงานยุ่ง แล้วนี่แม่ลินเขาทำอาหารแล้วเหรอ หือ... ของโปรดแม่ทั้งนั้นนี่นา” ท่านมองโต๊ะอาหารที่จัดเสร็จเรียบร้อยแล้วก่อนจะยิ้มกว้าง แล้วจะมองหน้าลูกชายอย่างกังขา
“เราไม่กินของขมนี่นา แล้วนี่คิดยังไงให้แม่ลินเขาทำอาหารที่ตัวเองไม่ชอบล่ะ”
“ผมไม่ได้บอกครับ หลานรักของคุณแม่ทำเอง”
“อ้อ... ดีนะจ๊ะ หวานเป็นลมขมเป็นยา แม่หิวแล้วละ กลับมาเหนื่อย ๆ ขออาบน้ำสักครู่ เดี๋ยวมากินข้าวด้วยกัน”
“เดี๋ยวลินเตรียมเสื้อผ้าให้คุณป้านะคะ” ปาลินรีบหาทางออกให้ตัวเอง เธอคอยช่วยทำโน่นทำนี่ให้เข็มสรณ์อยู่บ่อยครั้งจึงรู้ใจกันดี อีกทั้งยังไม่อยากอยู่กับวริศสองต่อสอง กลัวเขาจะทำโทษที่เธอแกล้งทำอาหารที่เขาไม่ชอบให้รับประทาน
“ได้จ้ะ เรานี่น่ารักจริง ๆ เลย” เข็มสรณ์หยิกแก้มนวลของเด็กสาวในอุปการะเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าห้องพักส่วนตัว ในขณะที่ปาลินรีบวิ่งตามไป แต่โดนมือหนาของวริศรั้งเอาไว้เสียก่อน
“อุ๊ย! คุณวริศ ปล่อยเลยนะคะ ไม่กลัวคุณป้าเห็นหรือไงคะ” เธอพยายามแกะมือของเขาออกจากการเกาะกุม แต่ไม่สำเร็จ
“คิดว่าจะรอดหรือไง” เขาขู่ชิดใบหน้านวล มองสบตาเธออย่างเป็นต่อ ปาลินหน้าแดง แต่อย่างน้อยเธอก็เอาตัวรอดได้ก็แล้วกัน
“หนูลิน อยู่ไหนจ๊ะ”
“อยู่นี่ค่ะคุณป้า” ปาลินสะบัดมือหลุดจากการเกาะกุมได้สำเร็จ ก่อนจะรีบวิ่งจู๊ดเข้าไปในห้องพักส่วนตัวของเข็มสรณ์ โดยมีสายตาของวริศมองตามไปไม่วาง
ฝากไว้ก่อนยายตัวแสบ!!!
ปาลินมีความสุขที่สามารถรอดพ้นเงื้อมือของวริศมาได้ อีกหน่อยเธอไปทำงานข้างนอกหรือไม่ก็เขากลับไปทำงานของตัวเอง ก็จะได้ไม่ต้องเจอกันอีก เรื่องราวที่เกิดขึ้นมันเป็นความผิดพลาด เธอเองก็ไม่กล้าบอกใคร จะให้เที่ยวโพทนาว่าเสียตัวให้ผู้ชายแบบไม่มีสติ เพราะป่วยกินยาแก้แพ้เข้าไปเลยง่วง รู้ไปถึงไหนก็อายไปถึงนั่น
“เราก็ควรกินอาหารที่มีประโยชน์บ้างนะ หวานเป็นลมขมเป็นยา ลองกินดูสิ รับรองว่ากินแล้วจะติดใจ” ประโยคของมารดาทำให้วริศทำหน้าปูเลี่ยน เขาแทบเผ่นกลับกรุงเทพฯ ไปเลยในตอนนี้
“คุณวริศเขาไม่กินหรอกค่ะ เขาไม่กล้า” ปาลินแกล้งว่า นั่นทำให้วริศหน้าตึงเล็กน้อยที่โดนสบประมาทเช่นนี้
“งั้นแม่จะให้ป้าแสนเจียวไข่ให้เรานะ แต่จะให้ทำอาหารก็คงจะอีกนาน แม่หิวแล้วละ รอไม่ไหว” ประโยคของมารดาคล้ายกับจะรวมหัวกับยายตัวแสบแกล้งเขา นั่นทำให้คนที่ไม่ชอบให้ใครสบประมาทต้องกัดฟันพูดในสิ่งที่ตรงข้ามกับหัวใจ
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมกินได้ เดี๋ยวจะมีคนหาว่าผมไม่กล้าอีก มันก็อาหารพื้น ๆ ทั่วไปที่ใครเขาก็กินกัน” เขาไม่ยอมแพ้หล่อน นั่นทำให้ปาลินยิ้มกว้างออกมาในทันที
“งั้นลองชิมแกงขี้เหล็กปลาย่างของลินสิคะคุณวริศ รับรองว่าอร่อยจนลืมไม่ลงเลยละค่ะ” ในเมื่อเขากล้ากินเธอก็กล้าตักให้แบบเต็ม ๆ คำ
วริศกลืนน้ำลายลงคอด้วยความรู้สึกขมคอ ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้กินแกงขี้เหล็กของเธอ แค่คิดถึงกลิ่นและความขมเขาก็แทบจะอ้วกพุ่ง แต่เขาพูดมันออกไปแล้ว จะเปลี่ยนใจไม่อยากกินมันก็เสียหน้า
“ลองชิมดูสิลูก” คุณเข็มสรณ์เอ่ยกับลูกชายด้วยรอยยิ้ม แต่สีหน้าก็ไม่เชื่อถือว่าเขาจะกินแกงขี้เหล็กขม ๆ ได้ ทำให้วริศหลับตากินเข้าไปในทันที
สีหน้าพะอืดพะอมและทำท่าจะคายทิ้งของเขา ทำให้ปาลินเลิกคิ้วยียวน ในขณะที่คุณเข็มสรณ์ทำหน้าเหยเก วริศจึงกัดฟันกลืนมันลงท้องไป
“ไม่อยากกินก็ไม่ต้องฝืนหรอกนะลูก”
“แค่นี้จิ๊บ ๆ ครับคุณแม่” ประโยคของเขาทำให้ปาลินยิ้มกริ่ม ส่วนคุณเข็มสรณ์นั้นกะพริบตาปริบ ๆ ไม่คิดว่าลูกชายจะเปลี่ยนมาลองกินอาหารที่ไม่ชอบแบบนี้