5.รอยยิ้ม

1364 Words
พระเอกของเรื่องนี้คือนักบุญเบรเดน เขาหล่อเหลาและดูราวกับเทวดามากกว่าจะเป็นมนุษย์เรื่องนั้นเธอเห็นด้วยเลย ท่านเบรเดนหล่อมากจนหากเขาปรากฏตัวที่นี่ ผู้คนจะแห่มาที่โบสถ์แห่งนี้จนไม่มีที่ยืนก็แล้วกัน โชคดีที่เขาอยู่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และเขาจะมาที่นี่เพียงแค่ปีละหนึ่งครั้งเท่านั้น.. นางเอกเป็นเดมเซดี้ อัศวินหญิงที่สง่างาม.. ก็เหมาะสมกันดีอยู่ โชคดีที่เธอไม่ได้มีบทบาทอะไรในเรื่องนี้ และ..เธอจะลองพิสูจน์ว่าเรื่องราวมันจะเป็นไปตามนิยายจริงหรือไม่ด้วยการ ซื้อฉลากรางวัล! แน่นอนว่านอกจากเธอจะได้รู้ความจริงว่าเรื่องทั้งหมดรอบตัวของเธอนั้นมันคือนิยายจริงๆรึเปล่า นั่นถือเป็นการตรวจสอบที่ดีและสมเหตุสมผลมากที่สุด มิลลากำฉลากรางวัลในมือเอาไว้แน่นก่อนที่เธอจะล้มตัวนอนลงบนเตียงนอนที่แสนกว้างใหญ่ของตัวเอง ท่านพ่อและท่านแม่ใช้เวลาว่างไปกับการใช้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายในไร่ แต่นั่นอาจจะดีแล้วก็ได้เพราะหากว่าพวกท่านชอบเข้าสังคมก็อาจจะต้องไปพบเจอกับข่าวลือเกี่ยวกับเธอที่มันไม่ดีมากๆ มือของมิลลาหยิบหนังสือนิยายขึ้นมาอ่าน เธอนำมันติดตัวมาด้วยเพราะเริ่มอ่านสามตอนแรกแล้วรู้สึกว่ามันสนุกมาก นิยายที่องค์จักรพรรดิสั่งให้นักเขียนประพันธ์มันขึ้นมา ความรักคือสิ่งที่ทุกคนต่างปรารถนาว่าจะพบเจอมันสักครั้งในชีวิต และท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองหลวงมันทำให้อีดิธตัดสินใจเดินทางไปรักษาทหารที่บาดเจ็บจากสงคราม นางมีใบหน้าที่มิได้งดงามแต่ดวงตาสีฟ้าของอีดิธนั้นมักจะส่องประกายอย่างเจิดจ้าอยู่เสมอ นั่นทำให้นางสามารถเป็นที่ดึงดูดใจของเหล่าทหารกล้าได้ไม่ยาก ทว่าเนื่องจากสงครามระหว่างดินแดนอยู่ใกล้กับเขตแดนปีศาจมากจนเกินไป ในวันที่ฟ้าขุ่นมัวอีดิธที่กำลังเดินหาสร้อยที่หายไปของมารดาพลัดหลงไปในป่าของปีศาจ แน่นอนว่ามันเลวร้ายมากในความคิดของหญิงสาวแต่ทว่าเธอกลับได้พบเจอกับ..ความหล่อเหลาในแบบที่เทพเจ้าคงจะเหน็ดเหนื่อยกับการปั้นให้มนุษย์มีใบหน้าที่ทรงเสน่ห์เช่นนั้น เราพบเจอกันโดยบังเอิญโดยที่สายตาของเธอตรึงเอาไว้บนใบหน้าของเขาอย่างลืมตัว เธอเอ่ยถามทางพร้อมกับส่งยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตรเพราะว่าเขาดูเหมือนมนุษย์มากกว่าที่จะเป็นปีศาจ เขาไม่ตอบแต่กลับพาเธอเดินออกมาจากป่าที่กว้างใหญ่นั้น เธอมิรู้จะตอบแทนเขาอย่างไรจึงส่งมอบผ้าเช็ดหน้าให้เขาเพื่อเป็นการตอบแทนและนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการพบเจอกันอย่างลับๆของคนทั้งสอง ความรักสุกงอมของหมอหญิงและชายลึกลับได้เริ่มต้นขึ้นมาจนทางการมีประกาศเรียกสตรีชนชั้นสูงกลับมาที่พระราชวังเพื่อจะส่งสตรีไปที่ดินแดนปีศาจในระหว่างที่เธอและเขาอยู่ด้วยกันเขาไม่ยอมพูดคำใดออกมาเลยแม้แต่ครึ่งคำแต่เรื่องนั้นมิใช่เรื่องที่อีดิธเก็บมาใส่ใจ เธอมิได้มองว่าการพูดไม่ได้ของเขามันคือปมด้อยอะไรเลยด้วยซ้ำ การจากลาที่เธอบอกกล่าวกับเขาอยู่ฝ่ายเดียวมันสร้างความเจ็บปวดในหัวใจให้เธอไม่น้อยและการเดินทางกลับไปที่เมืองหลวงก็ทำให้เกิดเรื่องบางอย่างขึ้นกับครอบครัวของเธอ ท่านพ่อติดหนี้พนันมหาศาลและท่านแม่ที่ล้มป่วยอย่างหนัก สถานการณ์ที่พระราชวังเองก็ตึงเครียดไม่แพ้กันเพราะไม่มีใครหรือว่าสตรีใดอาสาเดินทางไปที่เมืองปีศาจเลย ทางองค์จักรพรรดิคิดจึงมอบรางวัลให้กับสตรีที่เดินทางไปที่นั่น ยศขุนนางเพิ่มขึ้นสองขั้น คฤหาสน์และทองหลายร้อยหีบ ไม่มีอะไรจะต้องมามัวลังเลอีกแล้วเพราะว่าเธอมิได้หลงเหลือเวลาอะไรมากมายขนาดนั้น อีดิธอาสาเดินทางไปที่นั่นที่เมืองปีศาจเพื่อแต่งงานกับท่านจอมมารที่เธอก็ไม่รู้ว่าเขาคือมนุษย์หรือว่าปีศาจที่พร้อมจะเข่นฆ่าเธอในทันทีที่เธอไปถึง เธอจำต้องหักห้ามใจกับความรักที่มีต่อชายใบ้ผู้งดงามแล้วเดินทางเข้าไปในเมืองปีศาจ มิลลายกมือขึ้นมาเพื่อเช็ดน้ำตาที่คลออยู่บนดวงตาให้ตายเถอะอีดิธน่าสงสารเกินไปแล้ว! แต่ด้วยความที่เป็นนักอ่านนิยายตัวยงทำให้เธอพอจะเดาออกว่าท่านจอมมารกับชายใบ้ผู้นั้นจะต้องเป็นคนเดียวกันแน่ เธอจึงเลือกที่จะไม่อ่านต่อแล้วนอนหลับแทน.. เช้าที่แสนสดใสของมิลลาเดินทางมาถึงอย่างรวดเร็วเพราะว่าวันนี้คือวันคือวันประกาศผลฉลากรางวัลยังไงล่ะ! "สาบานได้เลยว่าข้าไม่เคยเห็นเจ้าในมุมนี้มาก่อนมิล เจ้าไม่เคยแม้แต่จะวางเดิมพันกับอะไรแต่เจ้ากลับซื้อฉลากรางวัลที่มีโอกาสถูกแค่หนึ่งในแสน..." "เชื่อเถอะว่าหลังจากที่ผลประกาศออกมา พี่จะพูดกับข้าอีกอย่าง วางใจเถอะพี่ลิเลียนเพราะว่าข้าจะแบ่งเงินรางวัลให้พี่ครึ่งหนึ่งก็แล้วกัน" ลิเลียนยกยิ้ม "ไม่ต้องถึงครึ่งหรอก แค่เจ้า..เลี้ยงเหล้าพี่สักครั้งก็พอ" "หากเป็นเรื่องนั้นข้าก็จ่ายค่าเหล้าให้พี่อยู่ทุกวัน.." เสียงหัวเราะของมิลลาและลิเลียนดังไปตามสายลมและมันหยุดลงเมื่อผลประกาศรางวัลถูกประกาศออกมา "ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าข้าจะไปหลงเชื่อความมั่นใจของเจ้า" ลิเลียนกล่าวพร้อมกับถอนหายใจและสภาพของมิลลามันยิ่งชวนให้สงสารมากในขนาดที่ลิเลียนไม่กล้าจะกล่าวอะไรมากไปกว่านี้ "อย่าเสียใจไปเลย อีกสิบวันเจ้าค่อยมาซื้อใหม่ คิดซะว่าฝากเงินเอาไว้แล้วมาถอนคืนงวดหน้า" มิลลาลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็ว "ฉลากนี่ มีเดือนละสามงวดเลยงั้นเรอะ!" "ใช่ นี่เจ้าซื้อโดยไม่อ่านรายละเอียดเลยรึไง ยัยเด็กโง่!" หนักกว่าการถูกหย่า ก็คือเธอซื้อฉลากผิดงวดนี่แหละ..ให้ตายเถอะ!! ...... "มิมีผู้ใดอาสาส่งบุตรีในตระกูลตัวเองไปเลยอย่างนั้นหรือ? ทั้งที่พวกเจ้าจะได้รับการสรรเสริญและการเลื่อนขั้นตำแหน่งขุนนาง" ที่ประชุมต่างก็ตึงเครียดเพราะไม่มีใครยินยอมที่จะส่งลูกสาวที่แสนล้ำค่าของตัวเองไปตายในเมืองปีศาจหรอก สตรีที่เดินทางไปที่นั่นไม่มีใครได้หลับมาเลยสักคน จดหมายมากมายที่ส่งไปไม่เคยได้รับการตอบกลับ แล้วจะให้พวกเขาทำใจส่งลูกสาวไปได้อย่างไรกัน? "หรือว่าพวกเจ้าอยากจะทำสงครามกับท่านจอมมารอีกครั้ง? เราจะตายกันหมดถ้าหากว่าไม่ส่งสตรีที่ถือครองพรหมจรรย์ไป!!" ใบหน้าขององค์จักรพรรดินั้นแสดงอาการโมโหอย่างชัดเจนและนั่นยิ่งทำให้บรรยากาศให้ห้องนี้เยือกเย็นขึ้นมาจนชวนให้หายใจไม่ออก หญิงสาวที่ถือครองพรหมจรรย์อย่างนั้นหรือ? รอยยิ้มพลันปรากฏที่ใบหน้าของอินคา "ทูลฝ่าบาท การกดดันเช่นนี้มิได้มิผลดีหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมคิดว่าการที่พระองค์เลือกสตรีมาสักคนเลยน่าจะดีมากกว่า" ทุกสายตาจ้องมองมาที่เขาอย่างอาฆาต "เรื่องนั้นนับว่าดียิ่งเคาน์มอแอธ เช่นนั้นข้าขอเลือก.." "กระหม่อมคิดว่ากระหม่อมมีสตรีที่เหมาะสมสำหรับการส่งนางไปให้ท่านจอมมาร" องค์จักรพรรดิหรี่ตามองอินคาที่กำลังยิ้มอยู่ "เลดี้มิลลา นิม พ่ะย่ะค่ะอดีตภรรยาของกระหม่อมเอง"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD