เธออยากมีครอบครัวที่อบอุ่น
เรื่องดีอีกเรื่องที่ศลิษานึกได้ เธอมีบัญชีเงินเก็บที่ไม่ได้บอกใคร เพราะการไม่ชอบซื้อของหรือใช้จ่ายสุรุยสุรายทำให้เธอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง อาจไม่มาก เอ๊ะ! หรือจะมากดี มันน่าจะทำให้เธออยู่สบายๆไปหลายเดือน หลังจากร้องไห้อย่างหนัก และกินอะไรไม่ลงมานานเกือบเดือน ศลิษาเพิ่งรู้สึกตัวว่าตัวเองผอมมาก โทรมมาก มากเสียจนไม่อยากส่องกระจกดูตัวเอง หญิงสาวลากสังขารไปที่ทำงาน ลังเลอยู่ว่าจะเขียนใบลาหยุดหรือลาออกดี
ลาออก! สมองเธอมีคำนี้ผุดขึ้นมาได้ไง
คงเพราะไม่นอน คงเพราะไม่ได้กินข้าว คงเพราะเครียดมาก การประมวลผลต้องบกพร่องแน่ๆ เธอจะลาออกจากงานมั่นคงเพราะผู้ชายที่ไม่เห็นค่าเธอเหรอ? คุ้มแล้วเหรอ? ศลิษา?
ศลิษาในชุดพนักงานออฟฟิศเรียบๆ เดินเลี้ยวไปซื้อกาแฟร้อนที่หน้าบริษัทฯ เธอควรตั้งสติก่อนเข้าไปที่ทำงาน คิดก่อนนะ เธอมีวันหยุดที่ไม่ได้ใช้กี่วัน ขอลาหยุดก่อนดีกว่า คนไม่เคยหยุดงานอย่างเธอจะอ้างอะไรดี พ่อแม่ป่วยเหรอ กลับไปเยี่ยมบ้านอะไรแบบนั้นดีไหม? เธอกลับบ้านครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กัน กี่ปีแล้ว มือเรียวประคองแก้วกาแฟกระดาษ นั่งอยู่ที่เก้าอี้ยาวใต้ต้นไม้ มันเป็นที่มีไว้ให้คนสูบบุหรี่ แต่เธอชอบหลบมาตรงนี้ถ้าไม่มีใคร เพราะมันมีต้นไม้ มีสีเขียวให้ได้ทอดสายตามอง
“ขอโทษครับ มีไฟแช็กไหม?”
เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ เรียกเหมือนเกรงใจ ศลิษาดันแว่นตาขึ้นชิดใบหน้าแล้วปล่อยมือข้างหนึ่งจากแก้วกาแฟ ล้วงมือไปในกระเป๋าเสื้อสูทตัวนอก หยิบไฟแช็กสีเงินวาวส่งให้โดยไม่ได้มองหน้า
“ว้าว! สวยจัง คุณสะสมZippo เหรอ”
เสียงของคนแปลกหน้าทำให้ศลิษาเงยหน้าขึ้นมอง อาจเพราะเธอนั่งอยู่ เขาจึงดูสูง เสื้อเชิ้ตแขนยาวสีครีมพับขึ้นข้อศอก มือข้างหนึ่งยังมีละอองน้ำอยู่ เนกไทเลื่อนลงต่ำจากคอปกเล็กน้อย แต่เขายืนอยู่ใต้ร่มไม้ทำให้เธอมองเห็นหน้าเขาไม่ชัด
“ไม่ได้สะสมหรอกค่ะ แค่มันสวยดี”
“ของแฟนคุณเหรอ” เขายังถามอารมณ์ดี คาบบุหรี่ในปากแล้วจุดมันขึ้น
“เปล่าคะ แฟนฉันไม่สูบบุหรี่” เอ่อ...อดีตแฟนแล้วต่างหาก
“หือ? งั้นคุณเหรอ?”
“เปล่า ฉันก็ไม่ได้สูบ” ศลิษาปฏิเสธเสียงเรียบ
“แต่คุณนั่งตรงที่คนสูบบุหรี่ แล้วมีไฟแช็ก” เขาส่งคืนให้ “จะว่าอะไรถ้าขอนั่งด้วย”
“เชิญค่ะ ไม่ใช้เก้าอี้ฉันนี่”
อาจเพราะหงุดหงิดเรื่องอื่นอยู่แล้ว เธอเลยทำน้ำเสียงไม่ดีกับคนแปลกหน้า ซึ่งปกติเธอไม่เป็นแบบนี้บ่อยนักหรอก พอคนแปลกหน้านั่งลง เธอได้กลิ่นโคโลญจ์ผู้ชายอ่อนๆ จากตัวเขา มือผอมบางยื่นไปรับไฟแช็กแต่เขายังไม่ยอมปล่อย ทำให้เธอเงยหน้ามองใบหน้าของคนที่นั่งใกล้
“ตกลงยังไงครับ ขอโทษที่ถามแต่ผมสงสัย”
“ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรนี่คะ” เธอยักไหล่ “ฉันแค่ชอบนั่งตรงนี้ แต่มันเป็นที่คนสูบบุหรี่ ถ้าไม่มีใครมาสูบบุหรี่ฉันก็นั่งตรงนี้ทุกที แต่ฉันอยู่ในที่คนสูบบุหรี่ บ่อยครั้งก็มีคนถามยืมไฟแช็ก ฉันก็เลยมีติดตัวไว้ก็เท่านั้นเอง”
“ดูเป็นคนใจดีจัง” เขาพูดยิ้มๆ
“ไม่หรอก ฉันแค่อยู่ในที่คนอื่น”
“คุณทำงานที่นี่เหรอ” เขาถามแล้วพ่นควันไปทางอื่น แต่ดูเหมือนลมจะพัดควันมาทางเธอ มือใหญ่ยังอุตส่าห์โบกไล่ควันไปมา ท่าทางของเขาทำให้เธอหัวเราะ
ศลิษาไม่ได้หัวเราะมานานแค่ไหนแล้ว เธอถามตัวเอง พยายามไม่หัวเราะเขาเพราะรู้ว่ามันเสียมารยาท เธอลุกขึ้นยืนแล้วชี้นิ้วให้เขามานั่งฝั่งเธอแล้วเธอก็ย้ายไปนั่งเหนือลมแทนที่เขา
“ปกติผมไม่ค่อยสูบบุหรี่นะ” เขาออกตัวแต่ยิ้มนิดๆ
“งานเครียดละซิ” เธอยิ้ม
“มาก”
คำตอบเดียวสั้น ทำเอาเธอหัวเราะ เธอล้วงมือในกระเป๋าหยิบลูกอมสีหวานส่งให้
“มันคงพอช่วยได้ ปกติเวลาเครียดฉันชอบอมลูกอม”
“กระเป๋าคุณนี่มีทุกอย่างเลยไหม” เขายื่นมือไปรับ “ขอบคุณครับ”
“ฉันไม่ใช่โดเรมอนนะ” เธอหัวเราะ พอได้หัวเราะแล้วรู้สึกดีขึ้น เธอหันไปยิ้มให้เขา
“ขอบคุณนะคะ”
“ผมเหรอ” เขาชี้นิ้วที่หน้าตัวเอง
“ฮืม” เธอพยักหน้าแรงๆ เพิ่งสังเกตว่าหน้าตาเขาก็...ดูดีทีเดียว
“ทำไมล่ะ” เขาเอียงคอมองอย่างสงสัย
“ทำให้ฉันตัดสินใจได้”
“อย่าพูดให้ผมค้างซิ” เขาขมวดคิ้วเพราะความอยากรู้
“ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะลาหยุดหรือลาออกดี” ศลิษาจิบกาแฟหมดแก้วแล้วลุกขึ้นยืน ทิ้งแก้วกระดาษในถังขยะ แล้วทำท่าบิดขี้เกียจไปมา
“ห๋า”
“ขอโทษนะคะ ไม่เกี่ยวกับคุณหรอก” หญิงสาวหัวเราะ “ฉันแค่อยากทำอะไรให้ตัวเองบ้าง”
คนแปลกหน้าพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาลุกขึ้นยืนแล้วดับบุหรี่ที่สูบไปเพียงครึ่งมวน ยืนมองหญิงสาวผอมบาง หน้าตาไร้เครื่องสำอาง แถมยังสวมแว่นตาหนาเตอะอีกต่างหาก
“ผมไม่รู้ว่าคุณเจออะไรมา แต่เอาเป็นว่า ผมเคารพการติดสินใจของคุณ ขอให้สนุกกับสิ่งที่คุณเลือกก็แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะ ฉันต้องไปแล้ว”
“ผมก็เหมือนกัน” เขาทำหน้าห่อเหี่ยว
ท่าทางของเขาทำให้เธอหัวเราะ ขยับเท้าเดินเข้ามาใกล้ เธอชี้นิ้วไปที่เนกไทของเขา เขาเพียงแค่ยืนนิ่งๆ ยังไม่ได้ถามอะไร เธอเป็นฝ่ายยื่นมือมาขยับให้มันเข้าที่ แล้วเลื่อนมือมาช่วยขยับแขนเสื้อของเขาให้เข้าที่
“ถ้ายังไม่เลิกงานอย่าพับแขนแบบนี้นะคะ เสื้อมันจะยับ คุณล้างมือแค่ปลดกระดุมข้อมือขึ้นมาก็พอ เสื้อผ้ายับมันดูไม่ดีนะ เดี๋ยวคนอื่นล้อว่าคุณไปทำอะไรมา”
“ขอบคุณครับ”
“โอเค. คุณไปลุยงานได้แล้ว” เธอตบไหล่ให้กำลังใจเขา “สู้ๆนะ”
“คุณก็เหมือนกัน”
หญิงสาวพยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกไป ชายหนุ่มลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วเดินเร็วๆ ตามเข้าไปสะกิดไหล่เธอเบาๆ