ตอนที่5. หนักใจ

1079 Words
ศลิษาพูดกับตัวเอง แอบตามเขามาแต่ไม่รู้จะสั่งอะไรกินเลยสั่งไอศกรีมมากิน เลือกนั่งในมุมที่คิดว่าเขามองไม่เห็น เธอรู้เพียงว่าทั้งหมดมา3คน วิภพนั่งข้างผู้หญิงสาวสวยดูโฉบเฉี่ยวจนเธอไม่กล้ามองสารรูปตัวเอง ส่วนผู้ชายอีกคนเธอเห็นเพียงด้านหลัง เมื่อเขาลุกไปแล้ว เธอจึงได้เห็นภาพคนทั้งสองชัดเจนยิ่งขึ้น คิดว่าน้ำตาจะไหล แต่มันก็ไม่มีน้ำตา นี่เธอเป็นบ้าอะไรไปนะ ศลิษา.. หญิงสาวถอนหายใจหนัก ตัดสินใจเรียกพนักงานเก็บเงินค่าไอศกรีมแสนอร่อยแต่เธอกินได้ไม่กี่คำ ร้านอาหารดีๆ แบบนี้วิภพไม่เคยพาเธอมาเลย ส่วนใหญ่ร้านอาหารตามสั่งทั่วไป นานๆ ทีไปกินจิ้มจุ่มสักหม้อ  หญิงสาวรับเงินทอนแล้วหยิบกระเป๋าขึ้นคล้องไหล่ อยู่นานไปยิ่งสมเพชตัวเอง ไม่ว่าว่าอย่างไรก็อดเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นไม่ได้ หลังจากออกจากที่ทำงานก็แวะไปร้านทำผม จัดการให้ช่างผมช่วยตัดปลายผมที่แตก ช่างแนะนำให้ทำสีและหมักทรีนเม้นต์ทำให้ผมดูเป็นทรงสวยขึ้น ได้นวดหน้าทำเล็บหลังจากที่ไม่ได้ทำมาหลายปี เหลือแต่แว่นตาที่สั่งตัดใหม่แต่ยังไม่ได้ไปเอา เธอไม่ได้สายตาสั้นมากอะไร แต่เพราะทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานจึงติดใส่แว่นตากรองแสง   ขณะที่เดินออกมา สายตามองไปเห็นมุมหนึ่งของร้าน ต้นแคคตัสหลายสายพันธุ์ในกระถางน่ารักๆ อวดโฉมอยู่เหมือนกวักมือเรียกให้ไปดู เธอชอบแคคตัสเป็นชีวิตจิตใจ ชอบอะไรที่มันสีเขียวๆ เวลามองแล้วมีความสุข เธอมีกระถางแคดตัสในห้องอยู่หกกระถาง อยากเลี้ยงมากกว่านี้ แต่วิภพบ่นเสมอ ทั้งที่เธอไม่เคยบ่นเขาเรื่องที่เขาใช้เงินสิ้นเปลืองไปกับการกินดื่มหลังเลิกงาน  “เจ้าหัวปีศาจ (devilshead) มีดอกด้วย จะสวยไปไหนหึ? เดี๋ยวก็ลักพาตัวกลับบ้านหรอก” ศลิษาโน้มตัวลงจ้องมองกระถางต้นกระบองเพชรหรือแคคตัสด้วยความสนใจ “จะดีหรือครับ ผมว่าขอซื้อกับเจ้าของร้านน่าจะง่ายกว่านะ”  ศลิษาตกใจผงะถอยห่างทันที “เปล่านะคะ ฉันไม่ได้จะขโมยของ” “ผมล้อเล่น”   “คุณ!” ศลิษาชี้นิ้วไปที่หน้าเขาอย่างตกใจ “ศิวนาถครับ เผื่อคุณลืม” ชายหนุ่มยิ้มอารมณ์ดีอย่างประหลาด อะไรจะบังเอิญเจอกันได้ขนาดนี้ “ค่ะ ฉันจำได้” เธอพยักหน้าหงึกหงัก  “บังเอิญจังนะครับ”  “ค่ะ” เธออึกอักพูดอะไรไม่ออก   ชายหนุ่มเอียงคอมองหญิงสาวตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแล้วก็ยิ้มให้ สายตาของเขาทำให้เธอก้มมองตัวเองบ้าง ก็ใส่ชุดกระโปรงธรรมดา ไม่ได้ขาดหรือลืมรูดซิปนี่นะ “แสดงว่าลาออกแน่ๆเลย ดูสวยขึ้นผิดหูผิดตา”   ปกติเขาไม่ค่อยพูดจาหยอกล้อกับใครแบบนี้เท่าไหร่ แต่จะว่าไป เขาพูดความจริงนะ เพราะครั้งนี้เธอดูสวยขึ้นจริงๆ คราวก่อนเธอดูเหมือนคนป่วยยังไงไม่รู้  “เปล่าค่ะ” เธอส่ายหน้าไปมา “หัวหน้าไม่ให้ลาออก แต่ให้ลาหยุดสิบห้าวัน ถ้าหยุดงานแล้วไม่ดีขึ้นค่อยมาลาออก”  “หัวหน้าคุณใจดีจัง” “ใช่ค่ะ หัวหน้าใจดีมาก ฉันทำงานที่นี่มาสี่ปีแล้ว” การลาออกเป็นสิ่งที่เธอเลือก แม้เธอไม่สนิทกับเพื่อนร่วมงานคนไหนเป็นพิเศษ แต่เธอเคารพและรักหัวหน้าของเธอมาก  “ผมเห็นคนรุ่นใหม่ๆ ทำงานไม่ค่อยทนเท่าไหร่ บางทีแค่ครึ่งปีหรือปีหนึ่งก็ลาออกหรือย้ายกันกันเป็นว่าเล่น” เขาคุยได้เรื่อยๆ ทำไมอยู่กับผู้หญิงคนนี้ถึงรู้สึกผ่อนคลายอย่างประหลาด เหมือนอยู่กับต้นแคดตัสที่เขาเลี้ยงนั้นแหละ   “แต่ละคนคงมีเหตุผลของตัวเองนั้นแหละค่ะ” เธอยิ้ม “ว่าแต่ คุณคิดว่าเจ้าของร้านจะขายแคคตัสไหม” “คุณเลี้ยงด้วยเหรอ” “ฉันมีอยู่หกกระถางแล้วล่ะ เมื่อก่อนแฟนฉันชอบบ่นก็เลยไม่ได้ซื้อเพิ่ม แต่ตอนนี้...ฉันอยากได้” เธอพูดเหมือนเด็กเอาแต่ใจขึ้นมา “แล้วถ้าเจ้าของเค้าขาย แต่แฟนคุณเห็นเข้าเค้าจะไม่โยนทิ้งเอาเหรอ สงสารแคคตัสแย่” “ไม่มีทาง!” ศลิษาพูดน้ำเสียงมั่นใจ “เพราะตอนนี้เค้าเป็นแค่อดีตแฟน ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับของรักของฉันได้อีกแล้ว”  ศิวนาถไม่รู้ที่มาที่ไป แต่พอเห็นท่าทางมุ่งมั่นของเธอก็ชื่นชมด้วยสายตา เขาเข้าใจสภาวะแบบนี้ดี เห็นแบบนี้เขาก็เคยอกหักมาก่อนแล้ว อยากให้กำลังใจคนตัวเล็กตรงหน้า แม้ว่าจะไม่ได้สนิทสนมอะไรกันก็ตาม “เอาซิ ถ้าเค้าขาย ผมจะซื้อให้เป็นของขวัญคุณเอง” “ของขวัญ?” หญิงสาวเอียงคอมองอย่าประหลาดใจ ชีวิตเธอนี่ได้ของขวัญกี่ครั้งกันล่ะ  “ฮืม ของขวัญที่คุณเปลี่ยนแปลงตัวเอง” เขายักไหล่ “ผมไม่รู้เรื่องอะไรหรอก แต่เชื่อว่ามันจะทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น” “ขอบคุณค่ะ” เธอพยักหน้าให้ เอาเถอะ มันทำให้เธอรู้สึกดีนี่นะ  “ชอบกระถางไหนล่ะ แต่ทำใจเผื่อไว้ก่อนก็ดีนะ” เขาพูดพลางหัวเราะอารมณ์ดีตามเธอไปด้วย “เรื่องทำใจมันไม่ยากอย่างที่คิดหรอก” เธอพูดเหมือนมากประสบการณ์ แล้วชี้นิ้วไปที่กระถางกระบองเพชรต้นหนึ่งออกดอกสีชมพูแสนหวาน  “เลือกได้ดี” เขาชม  “คุณล่ะ ชอบแคคตัสเหมือนกันเหรอ” เธอเริ่มรู้สึกสนิทกับเขาจึงเอ่ยถาม “ฮืม ผมว่ามันเหมาะกับคนอย่างผม รักนะแต่ไม่มีเวลาเอาใจ” “ไม่เกี่ยวหรอก ฉันก็ทั้งรักทั้งใส่ยังถูกนอกใจเลย” เธอแย้งเขาและยื่นมือไปตบต้นแขนเขาให้กำลังใจ ศิวนาถมองมือผอมบางที่แตะไหล่เขา อะไรบางอย่างทำให้เขาหัวเราะออกมา อาจเพราะเคร่งเครียดมาหลายวันทำให้เสียงหัวเราะที่เหือดหายไปนานระเบิดออกมา ศลิษามองเขาแล้วก็ทำหน้าไม่เข้าใจ “ฉันพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า” “ไม่ๆ ผมชอบมาก อ้อ! หมายถึงชอบที่คุณพูดนะ” ศิวนาถยิ้มให้ ดวงตาเขาเป็นประกายวิบวับ 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD