เช้าวันต่อมา
“วันนี้คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ??” ใบหน้าหล่อเหลาจมูกโด่งเป็นสันได้รูปที่กำลังตรวจดูอาการ สายตาคมมองผ่านเลนส์แว่นที่ดูแล้วเข้ากับใบหน้าเรียวที่สุด
“หายดีแล้วค่ะหมอ….เมื่อไหร่จะได้กลับสักที??” คนร่างบางเธอเบื่อกับการนอนในห้องสี่เหลี่ยมและอยากออกไปทำงานแล้ว สายตาดุจึงมองไปที่ใบหน้าหวาน และหันไปมองที่สายน้ำเกลือที่มันไหลย้อนจนเห็นเลือดไหลขึ้นมา
“นี่คนไข้ในฐานะหมอ….คนไข้ต้องรับยาให้ครบและต้องรักษาตัวอีก 1 วัน” ขายาวๆก้าวไปใกล้ถุงน้ำเกลือและมือหนายกมือบางขึ้นมา พร้อมกับแกะพสาสเตอร์ที่ปิดท่อต่อสายน้ำเกลือแล้วจัดการใช้เข็มเจาะเข้าไปใหม่อย่างชำนาญ
“หมอเบาๆ…ตะวันเจ็บ” คนร่างบางที่ปากกล้าแต่เธอกลัวเข็มที่สุด ใบหน้าหวานหลับตาปี๋และร้อง “ฮืออออ…อย่าหมอ” คนร่างบางที่กลัวจึงดึงมือกลับ
“คุณพยาบาลจับคนไข้ไว้”
“ค่ะ!!!..” อาจารย์หมอหงุดหงิดและไม่คิดว่าคนร่างบางจะกลัวเข็มขนาดนี้
“คนไข้หมอสัญญาว่าจะทำเบาๆที่สุดนะครับ……กรุณาอยู่นิ่งๆและเชื่อใจหมอ” ใบหน้าหล่อที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ เอาจริงๆเวลาที่อาจารย์หมอพูดจาอ่อนโยนสุภาพยิ่งทำให้หมอนั้นดูดีและอบอุ่นมาก
“เสร็จแล้วครับ….คนไข้อย่าดิ้นเยอะนะเดี๋ยวสายน้ำเกลือจะหลุดอีก” คนร่างบางลืมตาขึ้นมามองดูหลังมือที่ตอนนี้มีพลาสเตอร์แปะอยู่และเสร็จเรียบร้อย ไม่น่าเชื่อว่าเธอแทบจะไม่รู้สึกเจ็บแค่เพียงเย็นๆแอลกอฮอล์เช็ดแผลเท่านั้น
“ขอบคุณค่ะ!!!…” ใบหน้าสวยกัดปากเม้มและเธอทึ่งในความสามารถของหมอเขื่อน
“เป็นเด็กดีนะครับ…คนไข้อย่าดิ้นอย่าซน….ถ้าสายน้ำเกลือหลุดอีกจะให้พยาบาลเป็นคนเจาะแทน” ปากหยักได้รูปยิ้มสายตาที่มองคนร่างบางผ่านแว่นนั้นสดใสและเปี่ยมไปด้วยความอบอุ่น คนร่างบางถึงกับหน้าแดง
“วันนี้หมอมาแปลกพูดจาอะไรก็แปลกๆ เมื่อวานดุอย่างกับเสือสงสัยวันนี้ออกเวรเร็ว” คนร่างบางคิดในใจและเธอรู้สึกดีไม่น้อยกับการดูแลเอาใจใส่คนไข้ของอาจารย์หมอสุดหล่อหลังจากอาจารย์หมอเดินจากไปพร้อมกับพยาบาลสาว
“เอ๊ะ!!…พี่หมอเค้ากำลังอ่อยยย!!!…แกรึป่าวอีตะวัน??” พลอยเธอยืนยิ้มและดูทุกการกระทำของอาจารย์หมอ
“บ้า….มึงก็คิดอะไรได้เรื่อยเปื่อยเน๊าะพี่เขื่อนเนี้ยนะจะอ่อยกู….เค้าคงทำแบบนี้กับคนไข้ทุกคนแหล่ะ” คนร่างบางที่ปากบอกว่าอาจารย์หมอไม่หยอดเธอแต่ในใจนั้นแอบเขิน จนแทบอยากจะกรี๊ดลั่นโรงพยาบาล
“กระแดะอีตะวัน….กูรู้นะว่ามึงคิดอะไรอยู่” พลอยที่รู้ใจรู้ไส้รู้พุงตะวันทุกอย่างหมั่นไส้เพื่อนสาวที่ปากไม่ตรงกับใจ
@ร้านอาหารในโรงพยาบาล
“พี่หมอ….มีข่าวดีอะไรรึป่าวทำไมวันนี้ดูอารมณ์ดียิ้มคนเดียว….นี่พี่บอกผมหน่อยสิ” หมอภูสงสัยหมอเขื่อนที่วันนี้เขาดูอารมณ์ดีแปลกๆ และที่สำคัญหมอภูยังไม่โดนหมอเขื่อนด่าสักคำ
“เปล่า…ก็แค่คิดถึงเรื่องอะไรเก่าๆน่ะ” หมอเขื่อนกินข้าวไปยิ้มไปจนหมอภูสยอง
“นี่พี่หมอ….รึว่าพี่โรคเก่ากำเริบ” หมอภูกระซิบที่หูหมอเขื่อนเบาๆ
“เฮ้ยยย!!!….ไอ้หมอภูกูรักษาหายมาเป็น 10 ปีแล้ว” หมอเขื่อนถึงกับตาขวางและอมยิ้ม
“ขอโทษคร๊าบบบ…ผมแค่ล้อเล่น…เออว่าแต่คนไข้คนสวยๆที่พี่ดูอยู่ผมจำได้แล้วว่าเธอคือใคร” หมอภูเขาจำตะวันได้จากที่ได้เห็นเธอชัดๆในวันนั้น เพราะทั้ง 3 คนเรียนที่เดียวกัน
“สมองช้าเนาะมึงน่ะ” หมอเขื่อนกระตุกยิ้มเบาๆ
“ฮั่นแน่…ผมว่าแล้วเชียวน้องตะวันคนสวยที่ไปสารภาพรักกับพี่ตอนมัธยม” หมอภูถึงกับคิดไม่ถึงว่าหมอเขื่อนจะจำเธอได้ก่อนเขา
“เรื่องสมัยเด็กๆมึงนี่ก็คิดเป็นตุเป็นตะอย่างยัยผมหน้าม้านั่น ทั้งเปรี้ยวทั้งใจกล้าแถมตอนนี้ก็ดูโตขึ้นคงจะแต่งงานมีลูกมีเต้าไปแล้ว” หมอเขื่อนเขาคิดว่าตะวันมีแฟนและมีครอบครัวไปแล้ว เพราะวัยของเธอนั้นก็ควรจะเป็นเช่นนั้น อีกอย่างตะวันเธอก็ดูสวยสะพรั่งมีความพร้อมทุกด้าน
“เฮ้ยยย…อย่าพึ่งตัดสินไม่แน่น้องตะวันอาจจะยังไม่มีใคร…ถ้าจริงก็เข้าทางผมพอดีพี่หมอภูน้องตะวัน” หมอภูยิ้มสายตาเป็นประกายเมื่อพูดถึงตะวันเขาก็โสดและแอบเล็งเธอไว้เหมือนกัน
“ชิ!!…ไอ้หมอกะล่อน” หมอเขื่อนชักสีหน้าใส่หมอภูอย่างไม่รู้ตัว
“นี่พี่เราสลับคนไข้กันพรุ่งนี้ผมจะเป็นเจ้าของไข้น้องตะวันเองนะพี่นะ” หมอภูอ้อนหมอเขื่อนเขาอยากจะใกล้ชิดกับตะวันบ้าง
“เฮ้ยยย!!!…จะบ้ารึไงกูเป็นแพทย์เจ้าของไข้แต่แรกต้องรับผิดชอบให้เสร็จสิ” หมอเขื่อนเริ่มจะอารมณ์เสียและไม่พอใจกับข้อเสนอของหมอภู
“เชอะ!!…ไม่รู้แหล่ะถ้าพี่ชอบน้องเค้าทำไมตอนนั้นถึงปฏิเสธเธอไป….แล้วตอนนี้น้องเค้ากลับมาและสวยขึ้นพี่มาเสียดายอะไรตอนนี้” หมอภูเค้าดูอาการหมอเขื่อนออกที่คอยสกัดเขาไม่ให้ใกล้ตะวัน
“มึงจะรู้มากไปแล้วนะไอ้หมอภู….” หมอเขื่อนหงุดหงิดที่หมอภูอ่านใจเขาออก ไม่แปลกที่หมอภูจะรู้ใจเขาขนาดนี้เพราะทั้งคู่สนิทสนมกันมาก
“เชอะ…หวงก้างไม่รู้แหล่ะผมจะจีบน้องตะวันพี่อย่ามายุ่งใครดีใครได้ก็แล้วกัน” หมอภูเขาก็ไม่ยอมแพ้หมอเขื่อนเช่นกัน 2 หมอกำลังเปิดศึกหัวใจด้วยกันทั้งคู่
“หึ!!!…ไอ้ภู” หมอเขื่อนกระตุกยิ้มร้ายและกอดอกมองไปที่หมอภูอย่างท้าทาย
“ได้…พี่หมอถ้าผมแพ้พี่นะผมสัญญาเลยว่าจะเลิกเจ้าชู้” หมอภูเขามั่นใจเพราะเขาก็มีดีพอและหล่อเหลาไม่แพ้หมอเขื่อนเช่นกัน ถ้าเค้าจีบสาวไม่ว่าจะคนไหนนางแบบดาราเค้าก็เคยควงมาแล้วทั้งนั้น แค่ตะวันเขาคงไม่พลาด
วันนี้เป็นวันสุดท้ายตะวันหลังจากตรวจร่างกายแล้วรับยาเสร็จ เธอจึงรีบเคลียค่ารักษาพยาบาลแล้วเตรียมตัวกลับคอนโด โดยมีพลอยใสช่วยเป็นธุระ
“คนไข้มีนัดตรวจร่างกายกับอาจารย์หมออัครินทร์ อีกทีสัปหาด์หน้านะคะนี่ใบนัดค่ะ” คนร่างบางหยิบใบนัดขึ้นมาดูพร้อมกับเดินออกจากโรงพยาบาล
“ช่วยหลีกทางหน่อยครับๆ” บุรุษพยาบาลหนุ่มที่กำลังเข็นเตียงจากรถพยาบาลลงมา และมีอาจารย์หมอเขื่อนกำลังขึ้นคร่อมทำ CPR ปั๊มหัวใจนั้น ชุดกาวน์สีขาวสวมถุงมือเปรอะไปด้วยเลือดสีแดงเต็มตัว คนไข้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์มี 3 คน ซึ่งแพทย์แต่ละคนนั้นกำลังวุ่นวายและรักษาอาการอย่างชุลมุน ร่างบางและเพื่อนสาวมองดูหมอเขื่อนที่ตั้งใจรักษาชีวิตคนป่วยอย่างสุดกำลัง สายตาของหมอเขื่อนนั้นเปี่ยมไปด้วยความหวังและความเมตตา มันดูเท่ห์และอบอุ่นหัวใจอย่างบอกไม่ถูกที่หมอคนหนึ่งจะช่วยชีวิตคนเจ็บไว้อย่างไม่รีรอ เมื่อเตียงคนเจ็บถูกเข็นมาใกล้และหมอเขื่อนก็ขึ้นคร่อมอยู่บนนั้นสายตาก็เหลือบมองมาที่ร่างบางพอดี ทั้งคู่สบตากันใบหน้าหล่อเหลาที่เปื้อนเลือดและมีเหงื่อซึม มองดูคนร่างบางและพยักหน้าให้เธอผ่านเข้าห้องฉุกเฉินไป
“ตะวันพี่หมอเค้า….เท่ห์ชะมัด…” พลอยใสเธอก็ตกใจกับภาพที่เห็นและยืนดูกับตะวัน
“อาชีพหมอนั้นทำงานหนักจริงๆ…พี่เขื่อนเขาเหมาะกับชุดกาวน์มากๆ” ตะวันถึงกับเอ่ยชมหมอเขื่อนและปลื้มใจกับภาพที่เห็น
“นั่นนะสิ….ทำงานรักษาชีวิตคนอื่นอยู่กับความเจ็บป่วยความตายทุกวันต้องเสียสละมากมายขนาดไหน???” พลอยเธอหดหู่กับภาพที่เห็นและเหตุการณ์นาทีชีวิตที่เกิดขึ้นตรงหน้า
@คอนโดหรู
หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนคนร่างบางก็ได้แวะซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเข้าตู้เย็น และทำความสะอาดห้องชั้นที่เธออยู่นั้นเป็นชั้นบนสุดและราคาแพงที่สุด จะมีเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้นจึงเงียบสงบและเป็นส่วนตัวที่สุด พรุ่งนี้เธอก็จะไปทำงานเพราะลาป่วยมาหลายวัน อีกทั้งต้องไปเคลียเอกสารต่างๆอีกมากมาย ตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกือบจะเที่ยงคืน จึงได้รีบอาบน้ำและเข้านอน เธอแปลกใจที่มองไประเบียงข้างๆห้องมีแสงไฟเปิดอยู่ เพราะปกติข้างห้องเธอจะว่างไม่มีคนเช่า จึงได้รู้ว่าเธอมีเพื่อนบ้านใหม่แล้ว