@คอนโดหรู
หลังจากเลิกงานเสร็จคนร่างบางก็ได้ทำเมนูของหวานเพื่อสุขภาพเป็นฟักทองนมสด และไม่ลืมที่จะทำเผื่อเพื่อนบ้านที่ย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ เพราะคนร่างบางอยากจะผูกมิตร เมื่อเสร็จก็จัดการแช่ตู้เย็นครึ่ง ชม.แล้วทาน จึงนำของหวานอีกชามในตู้เย็นหน้าตาหน้ารับประทานถูกจัดตกแต่งสวยงาม และที่สำคัญดีต่อสุขภาพ เมื่อดูที่ข้างๆระเบียงพบว่าห้องที่ติดกันมีไฟเปิดอยู่และมีคนอยู่ คนร่างบางจึงตัดสินใจยกชามของหวานและเดินไปทำความรู้จักเพื่อนบ้านคนใหม่
“ก็อกๆๆๆ!!!…” คนร่างบางถือชามของหวานและเคาะประตูเรียกเพื่อนบ้าน สักครู่ก็มีคนเดินมาเปิดประตู
“แคร่ก!!!….” ………………………….
ใบหน้าหล่อเหลาผิวเนียนละเอียด ริมฝีปากหยักสีชมพูจมูกโด่งเป็นสัน ในชุดนอนสีน้ำเงินที่ไม่ได้สวมแว่นสายตา กลิ่นหอมอ่อนๆของสบู่และยาสระผม กับผมที่ไม่ได้เซทจัดทรงเขาช่างดูดีหล่อสะอาดสะอ้าน สายตาคมก็ได้เลิกขึ้นสบตากับคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เพล้ง!!!!…..” เสียงชามของหวานหล่นลงที่พื้นชามที่เป็นแก้วแตกกระจาย
“พี่….เขื่อน….” คนร่างบางตกใจที่พบว่าเพื่อนบ้านใหม่ของเธอคือ หมอเขื่อนอาจารย์หมอปากร้าย และเป็นคนหักอกเธอเมื่อตอนม.ต้น จึงเผลอเรียกชื่อเค้า
“อืมมม!!!….ยัยผมหน้าม้าเธอทำห้องฉันเลอะ” จากที่อึ้งอยู่คนร่างบางรีบตั้งสติแล้วมองดูตรงพื้นหน้าประตู
“เอ่ออ…คือตะวันขอโทษค่ะ…ตะวันไม่รู้ว่าเป็นพี่จริงๆตะวันแค่จะมาทักทายแล้วเอาของหวานมาให้” มือบางยกขึ้นมาไหว้หมอเขื่อนด้วยสายตารู้สึกผิดเธอแทบจะร้องไห้
“ช่วยทำความสะอาดให้เรียบร้อยด้วย” หมอเขื่อนสุดแสนสะอาดและเจ้าระเบียบสั่งให้คนร่างบางรีบเก็บกวาด
“ค่ะ!!…ฉันจะรีบทำให้เดี๋ยวนี้” คนร่างบางนั่งลงเก็บเศษแก้วแล้วรีบไปหาถังขยะมาใส่
“โอ้ยยย!!!…” เลือดจากนิ้วมือบางไหลเธอถูกเศษแก้วที่แตกและคมบาดนิ้ว คนตัวโตที่ยืนกอดอกอยู่นั้นเห็นและรีบคว้ามือคนร่างบางขึ้นมาดูแผล ซึ่งมันลึกพอสมควรและมือบางนั้นสั่นเพราะตกใจและเลือกออกมาเยอะ
“รีบเข้ามาทำแผลในห้องฉันก่อน” คนตัวโตดึงแขนเรียวให้มาทำแผลแต่คนร่างบางไม่ยอมเดินเข้าไป
“ชั้นทำเองได้ค่ะคุณหมอไม่รบกวนดีกว่า” คนร่างบางกำลังจะหันหลังกลับเพื่อที่จะไปจัดการแผลที่ห้องตัวเอง
“นี่ยัยผมม้า…ถ้าเธอยังดื้อและเก่งกว่าหมอละก็เชิญ” คนร่างบางอึ้งกับวาจาที่สุดแสนจะร้ายกาจและเย็นชาของเค้า คนร่างบางไม่ตอบแล้วกำลังหันหลังกลับ
“หมับ!!!…”มือหนาขว้าที่ข้อแขนเล็กดึงเข้ามาและพามานั่งที่โซฟาหรู บรรยากาศภายในห้องนั้นสะอาดเอี่ยมเหมือนกับโรงพยาบาล เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่ทุกตัวมีมูลค่ากลิ่นไอในห้องนั้นหอมสะอาดสดชื่น
“นี่ฉันแค่พูดประชด…เธอนี่มัน” สายตาดุแต่อบอุ่นมองไปที่ใบหน้าหวานที่ตอนนี้เธอใจเต้นแปลกๆ
“อยู่เฉยๆนะเดี๋ยวฉันจะทำแผลให้” สักพักหมอเขื่อนก็เดินเข้ามาพร้อมกล่องยาและอุปกรณ์ทำแผล
“คุณหมอเพิ่งย้ายมาใหม่หรือคะปกติห้องนี้ว่างมาเกือบ2ปีแล้ว” คนร่างบางที่นั่งดูคนตัวโตล้างแผลและกำลังจะปิดแผลให้
“อื้ม!!…เพิ่งกลับมาได้อาทิตย์เดียวที่นี่ใกล้โรงพยาบาลที่สุด” หมอเขื่อนทำแผลให้คนร่างบางเสร็จอย่างชำนาญ
“ขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะฉันจะไปทำความสะอาดต่อ และต่อไปจะไม่มารบกวนแล้วค่ะ” คนร่างบางกล่าวขอบคุณและรีบลุกขึ้นไปเพื่อจะทำความสะอาดต่อ
“เดี๋ยว!!!…นั่งลงก่อนฉันจะเป็นคนเก็บกวาดเองเดี๋ยวแผลก็ปริหรอก…ห้ามโดนน้ำด้วย” คนตัวโตที่มองคนร่างบางและสั่งเธอให้นั่งพัก เมื่อเขาจัดการทำความสะอาดเรียบร้อยก็ปิดประตูและเดินมานั่งข้างๆคนร่างบาง
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่คอนโดนี้คนเดียวล่ะ??” หมอเขื่อนสงสัยเพราะตะวันน่าจะอยู่กับครอบครัว อีกอย่างเธอก็เป็นผู้หญิง
“คือชั้นทำงานที่กรมแล้วอีกอย่างคอนโดก็ใกล้ที่ทำงานมากๆ” หมอเขื่อนพอจะเดาออกว่าตะวันเธอยังไม่ได้แต่งงาน และที่เค้าเห็นเธอที่ไปทานข้าวกับชายหนุ่มที่ภัตตาคารอาจจะแค่คนคุยหรือแฟน
“นี่ยัยผมหน้าม้าเธอเลิกแทนตัวเองว่า ฉัน..ดิฉันได้แล้ว” คนร่างบางทำหน้าเจื่อนๆและมองคนตัวโตที่นั่งข้างๆ กลิ่นกายหอมสะอาดมาจากตัวเขานั้นทำให้เธอแอบยิ้มกริ่ม
“แล้วจะให้ชั้น…เรียกตัวเองว่ายังไง…คนไข้…ยัยผมหน้าม้า???” คนร่างบางเริ่มหายตื่นเต้นและกวนประสาทหมอเขื่อน
“เอ๊ะ!!!…ยัยนี่ก็แทนตัวเองเหมือนตอนนั้นสิ….แล้วก็เรียกฉันว่าพี่….หรือพี่หมอ” สายตาคมจ้องมองใบหน้าสวยหวานด้วยสายตาเจ้าชู้เป็นประกาย คนร่างบางเขินอายไม่กล้าสบตา
“หึ!!!!…อีพี่หมอบ้าหยอดเก่งชะมัดสงสัยจะมีสาวๆตกเป็นเหยื่อเพียบ” คนร่างบางคิดในใจเป็นอีกครั้งที่เธอถูกหมอเขื่อนตก
“ค่ะ…ตกลงค่ะพี่หมอ…ตะวันขอถามอะไรหน่อยสิ” คนร่างบางค้างคาใจกับเหตุการณ์วันนั้น
“พี่หมอจำตะวันได้ด้วยหรือคะ” มือหนายกขึ้นมาดีดที่หน้าผากมนดัง
“เป๊าะ!!!!!” คนร่างบางถึงกับทำกับหน้ายู่และลูบที่หน้าผากเบาๆ
“หึ!!!….พี่ไม่ได้ความจำสั้นขนาดนั้นถึงเธอจะโตขึ้น ไม่ถักเปียแล้วไว้ผมหน้าม้าพี่ก็จำเธอได้” หมอเขื่อนแทนตัวเองว่าพี่ ปากหยักได้รูปเผลอยิ้มออกมา คนร่างบางถึงกับลืมตัวมองรอยยิ้มที่ละลายสายตาเธอ
“ปีนั้นที่พี่ต้องย้ายโรงเรียนไปเรียนต่างประเทศ เพราะพ่อกับแม่เสียโดยอุบัติเหตุทางรถยนต์ คุณปู่จึงส่งพี่ไปเรียนต่อ นี่ก็เพิ่งจะกลับมาช่วยงานที่โรงพยาบาล” สายตาของคนตัวโตสั่นไหวเมื่อเขาพูดถึงการจากไปของพ่อและแม่
“ตะวันเสียใจด้วยค่ะตะวันไม่ทราบจริงๆ…คิดว่าพี่เกลียดตะวันจนย้ายโรงเรียนหนีซะอีก” ใบหน้าหวานยิ้มให้กับคนตัวโตอย่างจริงใจ เธอรู้สึกโล่งและดีใจที่เค้าไม่ได้รังเกียจเธอจนย้ายโรงเรียน และที่เธอฝันซ้ำๆถึงเหตุการณ์ในวันนั้น เธอก็รู้สึกเสียใจมาตลอด มาวันนี้เธอเหมือนได้รับการปลดปล่อยจากพรรถนาการ
“จะบ้าหรอ…เธอสำคัญตัวเองมากไปรึป่าวต่อให้ฉันเกลียดเธอฉันคงไม่ย้ายโรงเรียนหนีหรอปัญญาอ่อนชะมัด” ทั้งสองต่างพูดคุยกันถึงเรื่องราวของตัวเองและการใช้ชีวิตที่ผ่านมา หมอเขื่อนเขาก็ไม่มีเพื่อนที่ไทยนอกจากหมอรุ่นน้องอย่างหมอภู จึงสนิทสนมกับตะวันได้เร็ว ต่อหน้าคนอื่นเขาจะพูดน้อยแต่กับตะวันเขาสามารถคุยและเป็นตัวของตัวเอง
“นี่มันก็ดึกแล้วตะวันขอตัวก่อนนะคะ” คนร่างบางดูเวลาเกือบ 3 ทุ่ม
“อื้ม!!จริงสิพี่ต้องนอน 3 ทุ่มพอดี…ส่วนฟักทองนมสดพรุ่งนี้ค่อยเอามาให้นะ แล้วแผลต้องมาล้างด้วยพี่เลิกงาน1ทุ่ม” คนตัวโตเขาอยากเจอคนร่างบางอีกจึงใช้ของหวาน และแผลมาเป็นข้ออ้างบังหน้า ซึ่งคนร่างบางเธอก็ยังงงๆและคิดว่าเขาอาจต้องการเพื่อนคุย จึงตกลงและเดินยิ้มกลับห้องไป
“ยัยผมหน้าม้า…เธอนี่มันซื่อบื้อ” คนตัวโตยิ้มกริ่มและเดินเข้าไปนอนที่ห้องนอน ก่อนนอนเขาก็คิดถึงแต่ใบหน้าและรอยยิ้มอันสดใสของคนร่างบาง ที่เขาไม่เคยลืม….