หลังจากที่ฉันฝันน่ากลัวแบบนั้นพี่สายลมก็เหมือนจะใส่ใจฉันมากขึ้นแต่ฉันยังคงเป็นกังวลอยู่ไม่น้อยเพราะว่าพี่สายลมในเวลานี้กลับทำงานหนักมากขึ้นจนน่ากลัวว่าความฝันของฉันมันจะเป็นจริงหรือเปล่า ใช่แล้ว ฉันกำลังระแวงเขา มันดูไร้สาระสิ้นดีเลย ฉันเข้าใจแต่ว่ามันเป็นจังหวะที่บังเอิญเกินไปหรือเปล่า เขาไม่มีเวลาให้ฉันเหมือนเดิม และทุกครั้งที่กลับบ้านดึกเขามักจะหน้าซีดเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง และไม่ ‘หลับนอน’ กับฉันเหมือนอย่างเคย
ฉันพยายามเก็บงำความสงสัยนี้เอาไว้ในใจ และพยายามคิดว่าเขาทำงานจริง ๆ เขาไม่ได้มีคนอื่นเหมือนฉันที่ฉันฝันน่ากลัวออกไปแบบนั้น ความแปลกอื่นอีกนอกจากที่เขาจะกลับบ้านมาดึกอย่างไร้เรี่ยวแรง และไม่หลับนอนกับฉันแล้ว อีกสิ่งที่แปลกก็คือ ทุกวันหยุดเขามักจะพาฉันไปที่บ้านใหญ่เสมอเพื่อพบปะครอบครัวของเขา และพยายามบอกฉันว่าให้สนิทกับทุกคนเข้าไว้ เมื่อยามที่เขาไม่อยู่ทุกคนที่นี่จะสามารถดูแลฉันได้
อันที่จริงบ้านเขาค่อนข้างรวยมาก รวยจนฉันคิดว่าบ้านเขาน่าจะรังเกียจรังงอนฉันที่เป็นคนมีแต่ตัว และครอบครัวก็เป็นหนี้ แต่เมื่อฉันได้มาพบกับครอบครัวของเขาบ่อยเข้า ความรู้สึกเหล่านั้นกลับไม่เกิดขึ้นอีกเลย เพราะทุกคนน่ารักกับฉันมาก จนฉันไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณย่า” พี่สายลมเป็นลูกชายคนเล็ก ส่วนคนโตเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่กำลังดูแลกิจการที่ต่างประเทศ นาน ๆ จะมาสักครั้งหนึ่ง ส่วนคนกลางเป็นผู้หญิงก็กำลังช่วยพี่สายลมดูแลกิจการที่นี่อยู่หลังจากที่เที่ยวเล่นมานาน
“มากันแล้ว เดี๋ยวสายฟ้าจะคอลมา ส่วนสายน้ำกำลังมา”
สายฟ้าเป็นพี่ชายคนโตของพี่สายลม ส่วนคนรองที่ว่าเป็นพี่สายน้ำ และคนเล็กก็คือพี่สายลม ฉันรู้จักทุกคนจากการที่พี่สายลมเคยพาฉันมาทานข้าวที่บ้านของเขา และสนิทมากขึ้นหลังจากที่เขาพาฉันมาในทุกวันหยุด
“คุณย่ามีอะไรให้ฝันช่วยมั้ยคะ”
“ไม่มีหรอกลูก เจ้าลมพาน้องฝันไปเดินเล่นที่สวนสิ ระหว่างรอยัยน้ำน่ะ”
“ครับ” พี่สายลมรับคำ ก่อนจะพาฉันมาเดินเล่นที่สวน ฉันรู้สึกดีมากที่ฉันยังเป็นหนึ่งในปัจจุบัน และอนาคตของพี่สายลม
“น้องฝันครับ”
“คะ?” เราเดินกุมมือกันเลียบไปทางริมแม่น้ำซึ่งอยู่ติดกับหลังบ้านของพี่สายลมเลย ลมพัดมากระทบผิวอย่างเย็นสบายส่งผลให้ฉันลดความระแวงลง และรู้สึกสบายใจขึ้นมาก ในตอนที่พี่สายลมเรียกฉัน ฉันก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร แต่มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่มีอะไรบางอย่างสวมเข้ามาที่นิ้วนางข้างซ้ายของฉัน
“นะ นี่มัน”
เขายิ้ม ยิ้มจนตาปิด ยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มลงไป “ในอนาคตไปจนถึงวันตาย พี่ขอฝากตัวด้วยนะครับ”
ฉันไม่เคยคิดมากกับคำที่เขาพูดเลย แถมยังกระโดดกอดเขาด้วยความดีใจ ความระแวงที่เคยมีกับเขาสูญสิ้นไปหมดเพียงแค่คำพูดคำเดียว แหวนวงเดียว และรอยยิ้มกับอ้อมกอดที่แสนจะคุ้นเคย
“แน่ใจแล้วใช่มั้ยคะ”
“แน่เสียยิ่งกว่าแน่อีกครับ” พี่สายลมกอดฉันตอบกลับมา ส่วนฉันก็ดีใจจนพูดไม่ออก ในตอนนั้นเองที่หูของฉันได้ยินเสียงแปลก ๆ ดังมาจากที่ไม่ใกล้ไม่ไกล
อย่าบอกนะ ว่าฉัน ฝันอีกแล้ว?
“เย้~ ดีใจด้วยนะ น้องคนเล็กของบ้านเราขายออกสักที” ฉันหันไปมองตามต้นทางของเสียง “ไม่ได้ฝันแฮะ”
“พี่สายฟ้า เจ้าลมของพวกเราจะมีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วนะ แล้วเมื่อไหร่พี่คนโตอย่างพี่จะหาเมียได้สักที” พี่สายน้ำเป็นคนถือไอแพดเดินเข้ามาหาเราสองคน ตามมาด้วยคุณพ่อ กับคุณย่าของเขา ราวกับว่านี่เป็นสิ่งที่ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว
“เขยกับสะใภ้บ้านนี้ ไม่จำเป็นต้องรวย ขอแค่เป็นคนดี ขยันทำงานก็พอแล้ว” มือของคุณพ่อวางลงที่ศีรษะของฉัน แววตาของท่านเอ็นดูฉันอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันพี่สายน้ำก็ใช้มือข้างหนึ่งมาดึงแก้มฉันอย่างมันเขี้ยว เพราะมืออีกข้างเธอถือไอแพดอยู่ฉันเดาว่าหากไม่ได้ถือไอแพดเอาไว้พี่สายน้ำก็คงจะดึงแก้มฉันทั้งสองข้างนั่นแหละ
“หาแฟนได้น่ารักถูกใจพี่มากเลย” น้ำเสียงของพี่สายน้ำที่พูดออกมาเห็นได้ชัดว่ากำลังมันเขี้ยวฉันอยู่ชัด ๆ
“ยินดีด้วยนะครับน้องฝัน เจ้าลมด้วยนะ”
“ผมต้องรีบแต่งแล้วล่ะ จะได้เจอหน้าพี่ชายคนโตตัวเป็น ๆ สักที”
“อย่าบอกนะว่าที่รีบแต่งนี่เพราะอยากเจอหน้าพี่ฮ่า ๆ ๆ”
“ครับ แน่นอนอยู่แล้วสิครับ”
“ไปกินข้าวดีกว่า ฝีมือคุณย่าอร่อยอย่าบอกใครเลย” พี่สายลมพูดใส่พี่สายฟ้าเป็นการยั่วยุ ก่อนจะจูงมือฉันนำเดินเข้าไปในบ้าน เมื่อเดินไปถึงก็เลื่อนเก้าอี้ให้ฉันนั่งแล้วตัวเองก็นั่งลงข้างฉัน ไม่นานทุกคนก็เดินมาถึงโต๊ะกินข้าวพากันนั่งลงในที่ประจำของตัวเอง บรรยากาศการรับประทานอาหารมีความสุขเหมือนเดิม ฉันไม่รู้สึกว่าตัวเองกลายเป็นคนนอกเลยแม้แต่น้อย
“ว้า... ไม่อยากให้กลับเลย” พี่สายน้ำพูดขึ้นหลังจากที่พวกเรากินข้าวกันเรียบร้อยแล้ว อาจเพราะตลอดเวลาที่กินข้าวบรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานล่ะมั้ง เลยทำให้ฉันพลอยไม่อยากกลับไปด้วย
“ไว้เดี๋ยวพามากินใหม่ก็ได้”
“กว่าจะพามาอีก คงต้องรอให้แกตายก่อนล่ะมั้งเจ้าลมถึงจะได้เจอหน้าน้องฝันอีก”
“ฮ่า ๆ ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ถ้าผมตายก่อนจริง ๆ ขึ้นมาแล้วพี่ไม่ดูแลฝันให้ดี ผมจะมาหลอกพี่เป็นคนแรกเลย”
“ไอ้เด็กพวกนี้นี่! ใครใช้ให้พูดเรื่องตายอะไรกันที่โต๊ะกินข้าว!” คุณย่าที่พูดดุขึ้นมาทำเอาพี่สายน้ำกับพี่สายลมหยุดพูดเล่นกันเลยทีเดียว
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณแม่ เด็ก ๆ ก็คุยเล่นกันสนุก ๆ น่ะ” คุณพ่อพูดอธิบายให้คุณย่าเข้าใจ ก่อนที่คุณย่าจะถอนหายใจออกมาแล้วยกมือขึ้นเป็นการบอกให้คุณพ่อพาท่านไปพักผ่อน
“เพราะแกแหละโดนดุเลย”
“โทษผมคนเดียวได้ไง พี่เป็นคนเริ่มชัด ๆ” พี่สายลมตอบกลับพี่สายน้ำ ก่อนที่พวกเราจะลุกขึ้นหลังจากที่คุณพ่อพาคุณย่าไปพักผ่อนแล้ว
“กลับดี ๆ นะ”
“ครับ”
“ไว้มาอีกนะคะน้องฝัน”
“ค่ะพี่น้ำ” พี่สายน้ำเป็นคนที่สวยมาก ๆ เรียกได้ว่าเป็นสาวมั่นสมัยใหม่ที่ยิ่งดูก็ยิ่งดึงดูดพี่สายน้ำยืนโบกมือให้เราสองคนแต่ก็ไม่ได้รอให้เราสองคนกลับไปก่อนเพราะตัวเองรีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำทันทีหลังจากที่พูดลากันแล้ว
พี่สายลมโอบไหล่ของฉันแล้วหมุนตัวกลับ สายตาของฉันก็เพิ่งจะเห็นรูปภาพของผู้หญิงคนหนึ่งติดอยู่ที่ผนังบ้านเป็นกรอบรูปเล็ก ๆ สีขาว ซึ่งรูปนั้นก็ติดอยู่รวมกันกับรูปภาพของคนที่บ้านซึ่งฉันค่อนข้างคุ้นมากเลยทีเดียวกับผู้หญิงคนนี้เพราะนอกจากเธอจะอยู่ในความทรงจำของฉันแล้ว เธอยังอยู่ในความฝันที่ทำให้ฉันระแวงพี่สายลมมาจนถึงตอนนี้ด้วย
“นั่นใครเหรอคะ สวยจัง” แฟนเก่าเหรอ?
พี่สายลมยิ้มพลางทอดสายตาอ่อนโยนไปที่รูปภาพนั้น “คุณแม่ของพี่น่ะครับ” อ้อ คุณแม่นี่เอง
“อ้อ แล้วท่านไปไหนเหรอคะ ทำไมไม่เห็นเคยเจอเลย” นอกจากจะไม่เคยเจอพี่สายลมกับทุกคนในบ้านยังไม่มีใครพูดถึงอีกด้วย
“ท่านไม่อยู่แล้วน่ะครับ”
“ท่านมีครอบครัวใหม่เหรอคะ” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัยแต่พี่สายลมกลับมีสีหน้าเศร้าลงแล้วส่ายหน้าให้เป็นคำตอบ นั่นถึงทำให้ฉันได้เข้าใจว่าฉันเสียมารยาทไปแล้ว
“ท่านไม่ได้อยู่ในชีวิตของพวกเราแล้วล่ะครับ แต่ว่าท่านย้ายมาอยู่ที่นี่ของพวกเราแทน” พี่สายลมชี้ไปที่ตำแหน่งของหัวใจ และชี้ไปที่ศีรษะของตัวเอง
“ในหัวใจ กับความทรงจำน่ะครับ” ฉันทำตัวไม่ถูกเพราะความหึงหวง และความอยากรู้โดยใช่เหตุจริง ๆ
“ฝันขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรเลยครับ สักวันน้องฝันก็ต้องรู้อยู่ดี”