ตอนที่ 10

1288 Words
บทที่ 10 จากที่เคยคิดจะออกไปทำงานตอนนี้ความคิดนั้นบินหายเข้ากลีบเมฆไปเสียแล้ว พาเวลกระแทกตัวลงนั่งบนเก้าอี้ไม้สีขาวสะอาดริมสระน้ำ สูทสีเข้มถูกเหวี่ยงเอาไว้บนพนักเก้าอี้อย่างไม่ไยดี ชายหนุ่มขบฟันแน่น ดวงตาสีเขียวมรกตวาววับไปด้วยกองไฟ “นังแพศยา!” มือหนากำเข้าหากันแน่น ก่อนจะทุบลงแรงๆ กับโต๊ะไม้ตรงหน้าจนเกิดเสียงสะเทือนดังลั่น ป้าเกรทที่เดินถือถาดใส่เหล้า น้ำแข็งและกับแกล้มสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ “คุณแพทของป้าเป็นอะไรไปคะ” พาเวลปรายตามองเจ้าของเสียงก่อนจะเค้นเสียงกระด้างตอบออกมา “ผมไม่ได้เป็นอะไรครับ ป้าเกรทเอาเหล้าวางไว้ตรงนี้แหละ แล้วจะไปไหนก็ไปเถอะครับ” คนถูกไล่ส่งมองด้วยสายตาห่วงใย “อย่าดื่มมากนะคะคุณแพท ป้าเป็นห่วง” ชายหนุ่มแค่นยิ้มหยัน ดวงตาสีเขียวอัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวด “ผมไม่ตายง่ายๆ หรอกครับป้าไม่ต้องเป็นห่วง” ท่าทางของนายน้อยของเซอร์คอฟทำให้แม่บ้านผู้จงรักภักดีอย่างป้าเกรทอดกังวลใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าพาเวลเป็นอะไรไป เมื่อเช้าก็ยังดีๆ อยู่เลย ถัดมาอีกแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกลายเป็นคนละคนไปอีกแล้ว แปลกชะมัด “สงสัยทะเลาะกับคุณลูมินาแน่ๆ เลย” ป้าเกรทคาดเดาและเลือกที่จะช่วยนายน้อยของตัวเองด้วยการโทร.หาแฟนสาวของชายหนุ่มทันที “นาน่าพูดคะ” เสียงของลูมินาที่ดังมาตามสายทำให้ป้าเกรทที่อมยิ้มด้วยความดีใจ “สวัสดีค่ะคุณนาน่า นี่ป้าเกรทพูดนะคะ ป้าเกรทแม่บ้านของคุณพาเวลน่ะค่ะ” “อ๋อ... ป้าเกรทนั่นเอง มีอะไรกับนาน่าหรือคะ” ลูมินาที่กำลังอ่านนิตยสารอยู่ระบายยิ้ม “เอ่อ คุณแพทเธออยากพบคุณนาน่าน่ะค่ะ เลยให้ป้าโทร.มาตาม ไม่ทราบว่าคุณนาน่าสะดวกมาที่เซอร์คอฟไหมคะ” คนฟังที่อยู่ปลายสายยิ้มกว้างด้วยความดีใจก่อนจะเอ่ยออกไปอย่างเหลือเชื่อ “จริงเหรอคะป้าเกรท นาน่าไม่อยากเชื่อเลย” “จริงสิคะ นะคะ คุณนาน่ามาหาคุณแพทเธอหน่อย นะคะ” ลูมินาวางนิตยสารในมือของตัวเองลงกับโต๊ะกระจกเตี้ยตรงหน้าก่อนจะรับคำ “ก็ได้ค่ะ งั้นอีกไม่เกินครึ่งชั่วโมง นาน่าจะไปที่เซอร์คอฟนะคะ” ป้าเกรทได้ฟังคำตอบรับของคู่สนทนาก็แทบจะกระโดดดีใจ “ขอบคุณค่ะคุณนาน่า ขอบคุณที่ยอมมาหาคุณแพทค่ะ” “ค่ะ ไม่เป็นไร นาน่ายินดีที่สุดค่ะ” ป้าเกรทวางสายไปแล้วแต่ลูมินาก็ยังคงงงงวยกับสิ่งที่หูตัวเองได้ยิน “แพทนี่นะรอให้เราไปหา มันเป็นไปได้ยังไง” ลูมินาพึมพำกับตัวเองด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะรีบเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนห้องนอนเพื่อมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรเซอร์คอฟตามคำเชิญของป้าเกรทด้วยหัวใจที่แทบจะติดปีกบินได้ พาเวล เซอร์คอฟ ผู้ชายที่นัยน์ตาไม่เคยบอกความรู้สึกใดๆ เลยคนนั้นเขย่าหัวใจของหล่อนให้สั่นคลอนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่สบตา และตอนนี้หล่อนก็กำลังจะได้ไปพบเขาแล้ว ดินิย่าร์พยายามบอกให้สมองของตัวเองจดจ่ออยู่กับงานจำนวนมหาศาลบนโต๊ะ แต่สมองเจ้ากรรมกลับนึกกลับย้อนไปถึงเหตุการณ์ภายในห้องพักของบอดีการ์ดหน้าหวานอย่างเจ้าเมซซี่อีกจนได้ ภาพที่มันอยู่บนเตียงกับผู้หญิงสองต่อสอง มันช่างแตกต่างจากสิ่งที่ไอ้หมอนี่แสดงออกต่อหน้าเขาเมื่อวานนี้อย่างสิ้นเชิง “ตกลงแกเป็นผู้ชายหรือตุ๊ดกันแน่วะไอ้เมซซี่...” ชายหนุ่มถามตัวเองอย่างสับสน ก่อนจะก่นด่าตัวเองด้วยความเดือดดาล เมื่อค้นพบว่านอกจากเรื่องงานแล้วก็มีเรื่องของเจ้าเมซซี่นี่แหละที่บังอาจเล็ดลอดเข้ามาอยู่ในหัวของเขาได้ “ระยำ ฉันจะต้องรีบหาทางไล่แกออกไปจากเซอร์คอฟ ไล่แกออกไปก่อนที่แกจะปั่นหัวฉันมากไปกว่านี้ไอ้เสือไบ” แล้วดินิย่าร์ก็พยายามข่มใจก้มหน้าก้มตาทำงานตรงหน้า แต่จนแล้วจนรอดก็ทำไม่สำเร็จ ในที่สุดก็ต้องลุกขึ้นและเผ่นแน่บออกจากห้องอย่างไม่มีทางเลือก “เพราะแกคนเดียวไอ้เมซซี่ เพราะแกคนเดียวกำลังทำให้ฉันเป็นบ้า” ชายหนุ่มเดินกระแทกกระทั้นไปตามระเบียง แต่สายตาก็เหลือบไปเห็นน้องชายของตัวเองกำลังนั่งซดเหล้าอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ริมสระน้ำเสียก่อน “เจ้าแพทมันเป็นอะไรของมันน่ะ” จากที่เคยคิดจะเดินไปสูดอากาศบริสุทธิ์ในสวน ก็ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ และเพียงไม่นาน ดินิย่าร์ก็มาปรากฏกายอยู่ตรงหน้าน้องชายของตัวเองได้อย่างที่ใจต้องการ “เป็นอะไรไปแพท ทำท่าทางทางเหมือนคนอกหักยังงั้นแหละ” คนที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มชะงัก ก่อนจะหันมาตอบพี่ชายเมื่อซ่อนทุกความรู้สึกของตัวเองลงไปในก้นบึ้งของหัวใจจนหมดแล้ว “คนอย่างผมเนี่ยนะอกหัก ไม่มีทางเสียหรอกครับ” “แม่นาน่านอกใจแกหรือไง” ดินิย่าร์หยิบแก้วเปล่ามาใส่น้ำแข็งก่อนจะรินเจ้าน้ำสีอำพันใส่ลงไปเกือบเต็มแก้ว ก่อนจะพูดต่อ “แต่คงไม่ใช่หรอก ผู้ชายเซอร์คอฟไม่เคยถูกผู้หญิงทิ้ง มีแต่จะเป็นฝ่ายเขี่ยทิ้งเสียเอง จริงไหมแพท” “ครับ” ผู้เป็นน้องชายตอบเสียงกระด้าง พร้อมๆ กับยกแก้วเหล้าขึ้นเทลงคออึกใหญ่ ในขณะที่ดินิย่าร์จิบน้อยๆ และชวนน้องชายคุย “เรื่องเมื่อเช้า นายตัดสินใจยังไง” พาเวลช้อนตาที่แดงก่ำขึ้นมองพี่ชาย “เรื่องเมื่อเช้า...? เรื่องไหนกันล่ะครับ ผมมีเรื่องมากมายที่ต้องคิด เลยจำไม่ได้...” ชายหนุ่มจำได้ แต่เขาเลือกที่จะไม่จำเองต่างหาก สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าทำให้ก้อนเนื้อภายในอกที่ไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะมีมันเจ็บร้าวอย่างรุนแรง เขาเจ็บปวด และรู้สึกเหมือนถูกใครสักคนกระทืบลงบนหัวใจอย่างไม่ปรานี “นายอย่ามาเล่นลิ้นน่า ก็เรื่องไอ้... เมซซี่ไง มันกับสาวใช้ที่ชื่ออะไรนะ” ดินิย่าร์จำชื่อมะปรางไม่ได้ แต่พาเวลจำได้ขึ้นใจ “มะปรางครับ” “เออ แม่มะปรางนั่นแหละนอนค้างอ้างแรมด้วยกันทั้งคืน ความจริง พี่ก็ไม่อยากจะยุ่งด้วยหรอกนะ แต่ลุงสมศักดิ์แกมาขอร้อง...” “แล้วพี่ดีนคิดว่าเราควรจะทำยังไงล่ะครับ” ดินิย่าร์แค่นยิ้มบางๆ ออกมา ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงซ่อนความรู้สึก “ในเมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว เราก็จับให้สองคนนั้นแต่งงานกันไปเสียเลย จะได้หมดเรื่อง” แก้วใบสวยที่พาเวลกุมอยู่แตกละเอียดคามือ เลือดสดๆ ไหลทะลักออกมาแดงฉาน ดินิย่าร์ตกใจกับสิ่งที่เห็น “แพท นี่นายทำบ้าอะไรของนาย บีบแก้วแตกทำไม” ดินิย่าร์ตำหนิน้องชายก่อนจะตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดังลั่น “ผมไม่เป็นไรหรอกครับ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD