บทที่ 4
ไม่นาน หล่อนก็เดินมาหยุดที่หน้าห้องของพาเวล จากที่เคยสั่นแค่ใจ ตอนนี้กลับสั่นไปหมดทั้งตัว หล่อนอยากเห็นหน้าพาเวล แต่กระนั้นก็อดเกรงกลัวต่อความอำมหิตของผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เพราะในสายตาของเขา หล่อนต่ำยิ่งกว่าไส้เดือนเสียอีก หล่อนไร้ค่าเสมอในสายตาของผู้ชายคนนี้ ผู้ชายที่หล่อร้ายกาจอันดับต้นๆ ของรัสเซีย
หญิงสาวกล้ำกลืนฝืนทนต่อความหวาดหวั่นขณะยกมือขึ้นเคาะประตูไม้ตรงหน้าสองครั้งติดต่อกัน วินาทีต่อมา เสียงทรงอำนาจก็เอ่ยอนุญาตให้หล่อนก้าวเข้าไปภายใน พาเวลคงยังไม่รู้สินะว่าคนที่อยู่ด้านหลังประตูห้องนอนของเขาคือหล่อน เพราะหากรู้คงไล่ตะเพิดหล่อนแล้วละ
“เข้ามาสิ”
ลูกบิดประตูทองเหลืองในอุ้งมือของหล่อนเย็นยะเยือก ความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้ไม่ต่างจากการถูกจับแช่ในถังน้ำแข็งเลยสักนิด แต่สุดท้ายก็จำต้องเปิดมันออกและแทรกตัวเข้าไปอยู่ภายในห้องกว้างของพาเวลจนได้
“เอ่อ เสื้อค่ะ”
คนตัวโตที่อยู่นั่งไขว่ห้างรออยู่บนเตียงจ้องมองมายังหล่อนที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้วยสายตาเย็นชา กลีบปากของเขาเม้มสนิทจนเป็นเส้นตรง
มะปรางตัวสั่นเทา เท้าก้าวไม่ออกเอาซะดื้อๆ หล่อนไม่เคยอยู่ในที่รโหฐานแบบสองต่อสองกับพาเวลมาก่อน และนี่ก็คือครั้งแรก
“ทำไมจะต้องตัวสั่น หน้าซีดเวลาอยู่ต่อหน้าฉันด้วย”
คนที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืนและเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน หญิงสาวรีบลนลานถอยหลังหนี เสื้อในมือหลุดร่วงลงกับพื้นห้อง
“เอ่อ คือ...”
“กับพี่ดีน ฉันไม่เห็นเธอแสดงท่าทางรังเกียจแบบนี้เลย”
เขาเดินมาหยุดตรงหน้าของหล่อน ในระยะใกล้ชิดจนได้กลิ่นกายสะอาดสะอ้านของเขาชัดเจน หญิงสาวยืนนิ่งเพราะหมดทางหนี เมื่อแผ่นหลังของหล่อนชนเข้ากับบานประตูไม้ที่ปิดสนิทอยู่ ตอนนี้ทำได้แค่เพียงยืนมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเท่านั้น
“คือฉัน... ฉัน...”
มือหนาสีแทนคว้าหมับลงกับต้นแขนอวบอิ่ม หญิงสาวสะดุ้งโหยงและรีบดิ้นรนพัลวัน
“อย่าค่ะ อย่า... อย่าทำอะไรฉันเลย...”
“อยากจะถามว่ากลัวอะไรฉันนักหนา หน้าฉันมีเขี้ยวหรือไง”
คำถามเต็มไปด้วยความใคร่รู้ระคนหงุดหงิด ก็แม่เจ้าประคุณทำเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับมัจจุราชเสียทุกครั้งยามอยู่ต่อหน้าเขา แต่กับคนอื่น หรือผู้ชายคนอื่น เขาเห็นหล่อนยิ้มหวานตลอดเวลา คิดแล้วมันน่าเจ็บใจนัก
“ปละ เปล่าค่ะ ดิฉันไม่ได้กลัว...”
“ไม่ได้กลัว? ไปโกหกยมบาลเถอะ”
พาเวลจับร่างอรชรกระแทกเข้ากับประตูอย่างโมโห ก่อนจะถอยหลังออกห่างด้วยความเดือดดาลสุดขีด ให้ตายเถอะ เขาเหมือนซาตานหรือไงถึงได้ทำท่าทางแบบนี้ทุกครั้งที่เจอหน้ากันน่ะ ยายผู้หญิงบ้า คิดว่าเขาสนใจนักหรือไง
“ไปให้พ้นหน้าฉันเลยไป ไปสิ!”
คนถูกไล่น้ำตาไหลพราก เจ็บปวดกับท่าทางร้ายกาจของผู้ชายที่ตัวเองรักเหลือเกิน
“ค่ะ ดิฉัน... จะไปเดี๋ยวนี้...”
“แล้วถ้าเป็นไปได้ อย่าสะเออะมาวุ่นวายกับฉันอีก จำเอาไว้!”
แล้วพาเวลก็เดินไปกระชากประตูห้องของตัวเองให้เปิดออก จากนั้นก็จ้องหน้ามะปรางเขม็ง
“ออกไปซะ ก่อนที่ฉันจะจับเธอโยนออกไป”
หญิงสาวไม่คิดจะรอฟังคำขับไล่ไสส่งของพาเวลอีกแม้แต่คำเดียว หล่อนยกมือขึ้นป้ายน้ำตาทิ้งก่อนจะตัดสินใจวิ่งผ่านร่างกำยำของคนตัวโตออกไป แต่ยังก้าวไม่ทันจะพ้นร่างของหล่อนก็ถูกพาเวลกระชากเอาไว้ซะก่อน
“คุณแพท!!”
หล่อนอุทานด้วยความตกใจ แต่ทุกอย่างก็หยุดแค่เพียงเท่านั้น เมื่อวินาทีต่อมาโลกของหล่อนก็ระเบิดตูมตามกับรสสัมผัสกระด้างที่คนตัวโตบรรจงมอบให้
เขาจูบปากของหล่อน จูบเคล้าคลึงอย่างดูดดื่ม จูบราวกับจะสูบวิญญาณของหล่อนให้ออกไปจากร่าง
หญิงสาวตกใจ ตื่นตระหนกกับจูบแรกในชีวิต สมองร้องบอกให้ต่อต้าน แต่หัวใจกับเพิกเฉยไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้ปากของเขาบดบี้ขยี้กลีบปากของหล่อนไปตามอำเภอใจ
“คุณแพท...”
หล่อนร้องครางกับความวาบหวามที่เกิดขึ้น และเต็มใจอย่างที่สุดที่จะอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายหล่อลากดินคนนี้ แต่เขาน่ะสิ เขาเป็นคนยุติทุกอย่างลงด้วยการผลักไสหล่อนออกจากอ้อมแขน จากนั้นก็ปิดประตูใส่หน้าหล่อน โดยไม่พูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
ฝันหวานของหล่อนล่มลงแล้วสินะ มะปรางยืนนิ่งยกมือขึ้นแตะกลีบปากของตัวเองอย่างเหม่อลอย ไม่ปฏิเสธเลยว่าหล่อนรู้สึกดีแค่ไหนกับสัมผัสของพาเวล แม้พ่อเจ้าประคุณจะป่าเถื่อนไปสักหน่อย จะรุนแรงมากเกินไปนิดจนปากของหล่อนบวมช้ำ แต่ความวาบหวามที่ได้รับจากสัมผัสของเขามันมหาศาลยิ่งนัก มันทำให้กายสาวของหล่อนร้อนผ่าวอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
หล่อนรักพาเวล รักมาเฟียรูปงามคนนี้ยิ่งนัก แต่เขาสิ เขาไม่ได้รักหล่อน ไอ้ที่ทำลงไปเมื่อครู่นี้ก็คงเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบเพียงเท่านั้น
เมื่อความหมองเศร้าเข้ามาแทนที่ มะปรางก็จำต้องเดินคอตกจากไปจากหน้าห้องนอนของพาเวล แม้จะรักเขามากแค่ไหน แต่หล่อนก็จำต้องเจียมตัวเจียมใจ หล่อนต่ำต้อยในขณะที่เขาสูงเทียมแผ่นฟ้า ไม่ว่าจะพยายามปีนป่ายแค่ไหน ไม่ว่าเสาะแสวงหาบันไดสูงใหญ่เพียงใด แต่หล่อนก็ไม่มีทางขึ้นไปยืนเทียบเคียงกับผู้ชายคนนี้ได้ เมื่อหัวใจของเขามีเจ้าของจับจองเสียแล้ว
ขณะที่มะปรางกำลังดำดิ่งลงสู่ความเจ็บปวดอยู่เพียงลำพังนั้น คนที่อยู่ภายในห้องอย่างพาเวลก็กำลังจมลึกลงไปในบ่อเหวแห่งความเดือดดาลไม่ต่างกัน ชายหนุ่มหงุดหงิดงุ่นง่าน และเกลียดตัวเองนักที่ทำเรื่องบ้าแบบนั้นลงไป
ใช่... เขาไม่ชอบใจเลยที่แม่มะปราง สาวใช้คนไทยเพียงคนเดียวในอาณาจักรเซอร์คอฟแสดงท่าทางหวาดกลัวเขาราวกับเขาคือมัจจุราชที่จ้องจะเอาชีวิตของหล่อนตลอดเวลาแบบนั้น
แต่เขาก็ไม่ควรทำแบบเมื่อครู่นี้ จูบหล่อน... เขาทำบ้าอะไรลงไป ผู้หญิงมากมายที่ต่อแถวรอให้เขาเลือกมาขึ้นเตียง แต่เขากลับไปจูบแม่สาวใช้ต่ำต้อยคนนั้น จูบ... จูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา จูบที่เต็มไปด้วยความหิวกระหาย และเขาก็ไม่สามารถปฏิเสธได้อีกแล้วว่าไม่ได้อยากลากแม่สาวใช้คนสวยขึ้นเตียง
“บ้าชะมัด ทำไมจะต้องรู้สึกอึดอัดแบบนี้ด้วยวะ”
มาเฟียหนุ่มที่มีรูปโฉมหล่อปานเทพบุตรสบถออกมาอย่างหงุดหงิด ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อของตัวเองที่แม่สาวใช้คนสวยปล่อยตกลงเอาไว้กับพื้นขึ้นมาถือเอาไว้ ดวงตาคมกริบสีมรกตเนื้อดีเป็นประกายวาววับน่าหวาดกลัว
“อีกครั้งเดียว... ถ้าเธอบังอาจยั่วฉันอีกครั้งเดียว เธอจะได้ขึ้นไปนอนบนเตียงของฉันแน่” ชายหนุ่มเค้นเสียงแหบพร่าออกมาจากลำคอ ก่อนจะตัดสินใจเดินกลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง ด้วยโทสะที่ยังคุกรุ่นไม่จางหาย