หลังจากที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี นับดาวก็เริ่มสนิทสนมกับครอบครัวของสารวัตรมาวินมากขึ้น เธอในตอนนี้กำลังเตรียมตัวเดินทางไปทำงานที่กรุงเทพ สารวัตรมาวินพานับดาวมาซื้อของใช้จำเป็นและอีกหลายอย่างเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของเธอ
“ไม่ต้องซื้ออะไรเยอะก็ได้นะคะ จริงๆมันใส่ชุดเรียบร้อยก็พอ”
“ไม่ได้สิหนูเป็นทนายความนะต้องมีภาพลักษณ์ที่มากๆ ซื้อให้หมดเลยทั้งของใช้เสื้อผ้ากระเป๋าแบรนด์เนม เปลี่ยนโทรศัพท์ด้วยเครื่องที่หนูใช้มันนานแล้ว”
“แต่ว่า…”
นับดาวเกรงใจชายหนุ่มมากไม่อยากจะให้เขาซื้อของอะไรให้เยอะแยะเพราะว่ามันเปลืองเงิน อีกอย่างเธออยากจะตั้งใจทำงานให้ได้เงินก่อนค่อยซื้อของที่จำเป็นจริงๆ
“ไม่ต้องคิดมากนะ พี่เป็นแฟนหนูนะเราจะแต่งงานกันเงินของพี่ก็คือเงินของหนู หนูจะใช้ตอนไหนก็บอกอย่าเกรงใจกันอีกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแล้วนะ”
หญิงสาวมองชายหนุ่มอย่างซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ตั้งแต่คบกันมาเขาคอยซัพพอร์ตเธอเสมอไม่ว่าเธอจะมีปัญหาอะไรเขาก็จะช่วยเหลือตลอด เธอโชคดีมากที่มีคู่ชีวิตที่คอยซัพพอร์ตกันแบบนี้และเธอจะรักษาเขาเอาไว้ในชีวิตตลอดไป
“ขอบคุณนะคะคุณดีกับหนูที่สุดเลย”
“ก็หนูน่ารักนี่คะ งั้นเราไปเลือกของกันดีกว่า พี่อยากให้หนูซื้อให้ครบเลยอย่าให้ขาด แล้วพรุ่งนี้พี่เดินทางไปกับหนูด้วยไปดูคอนโดก่อนว่าปลอดภัยมั้ย แล้วพี่จะซื้อรถให้หนูด้วย”
“อะ…อะไรนะคะซื้อรถเลยเหรอ”
เธอมองชายหนุ่มอย่างตกใจ ไม่คิดว่าต้องถึงขั้นซื้อรถยนต์เพราะคอนโดก็ไม่ได้ไกลจากที่ทำงานมาก อีกอย่างถ้าต้องพบลูกความก็ใช้รถของบริษัทได้
“หนูต้องมีรถเป็นของตัวเองค่ะ ถือว่าของขวัญเรียนจบแบบนี้ดีมั้ย”
สารวัตรมาวินลูบผมหญิงสาวอย่างอ่อนโยน เธอยิ้มกว้างออกมาก่อนจะสวมกอดชายหนุ่มอย่างมีความสุขที่สุด
“คุณดีขนาดนี้หนูจะไปไหนรอดเนี่ย”
“ก็ไม่ได้ให้ไปไหนอยู่แล้วนี่”
“คุณต้องไปหาหนูบ่อยๆนะคะ ถ้าสมมติว่าหนูได้เงินเดือนเยอะอย่างที่คนอื่นเค้าบอก หนูจะซื้อตั๋วเครื่องบินให้คุณไปหาทุกอาทิตย์เลย”
เขาหัวเราะออกมาขำๆเอ็นดูในความน่ารักของหญิงสาว ถึงเธอไม่บอกเขาก็จะทำอยู่แล้วไปหาเธอบ่อยเท่าที่อยากเจอและที่สำคัญมันอยู่ที่นับดาวมากกว่าว่าจะว่างเจอเขารึเปล่า
“จ้า.. ให้เรามีเวลาว่างก่อนนะพี่ไปหาได้เสมอ”
“หนูจะพยายามหาเวลาว่างมาเจอคุณค่ะ”
“ป่ะ ไปซื้อโทรศัพท์กับไอแพดกันดีกว่า วันนี้พี่เปย์ไม่อั้นเลย”
เขาโอบเอวหญิงสาวเดินตรงไปยังร้านขายโทรศัพท์และซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่จำเป็นให้หญิงสาว เธอจะต้องมีติดตัวไว้และว่าที่ภรรยาของเขาจะต้องไม่น้อยหน้าใคร
“แต่หนูสงสัยว่าคุณเงินเดือนเยอะมากเลยเหรอคะ ทำไมถึงมีเงินเยอะจัง”
“ก็มีเงินจากมรดกของคุณพ่อที่เสียชีวิตไป ท่านแบ่งให้ลูกและภรรยาเท่ากันทั้งสามคน พี่ได้เงินสดที่ดินมาหลายอย่างเลยนะแต่ว่าเก็บไว้ไม่ได้ใช้เอาไว้ให้เป็นสมบัติของลูกเราในอนาคตไง”
นับดาวได้ยินแบบนั้นก็อมยิ้มแก้มปริ เธอวางแผนในชีวิตว่าตอนนี้จะตั้งใจทำงานหาเงินให้มากที่สุดและเมื่อถึงเวลาเธอจะลาออกและกลับมาเปิดสำนักทนายความของตัวเองและสร้างบ้านอยู่กับสารวัตรมาวินหลังจากแต่งงานก็จะมีลูกทันที
“ส่วนเงินเดือนไม่ได้เยอะขนาดนั้นหรอกค่ะ ทำงานราชการสวัสดิการดีที่สุดพี่อยากให้หนูจดทะเบียนสมรสกับพี่ก่อนไปอยู่กรุงเทพนะหนูจะได้ใช้สิทธิ์ในความเป็นภรรยาได้ไง”
“หนูไม่มีปัญหาหรอกค่ะยังไงคุณก็เป็นคนเดียวที่หนูจะแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ด้วย”
“พูดแล้วนะงั้นพรุ่งนี้เช้าไปจดทะเบียนสมรสกันก่อน แล้วค่อยเดินทางไปกรุงเทพกัน”
เธอพยักหน้าตกลงทำตามที่เขาบอกทุกอย่างไม่ขัดข้องอะไร เราสองคนอยู่ด้วยกันมาแทบไม่ทะเลาะกันไม่ต้องปรับตัวอะไรเพราะในความเป็นตัวเองมันเข้ากันได้ทุกอย่างอยู่แล้ว
“ตกลงค่ะ”
“อ่อ พี่ที่บอกว่าเงินเดือนไม่ได้มากขนาดนั้นเพราะว่าพี่มีหุ้นที่ร้านอาหารในตัวเมือง ร้านเหล้าที่กับกับเพื่อนด้วย ก็เลยมีเงินมาเปย์เมียค่ะ”
เขายีผมเธอเล่นอย่างเอ็นดูก่อนจะปล่อยให้เธอคุยกับพนักงานเรื่องโทรศัพท์และให้เลือกตามใจชอบเลย ทุกวันนี้หาเงินมาได้แทบไม่ได้ใช้อะไรเพราะเขาก็ไม่ใช่คนติดแบรนด์เนมหรือของหรูหราอะไร ให้นับดาวช่วยใช้ดีกว่าอย่างน้อยเธอเป็นผู้หญิงน่าจะใช้ของมากกว่าเขา
วันต่อมา…
ทั้งสองคนจดทะเบียนสมรสกันเป็นที่เรียบร้อยสารวัตรมาวินก็เดินทางมาส่งคนรักที่กรุงเทพมหานครตามที่บอกไว้ เขาพาเธอไปดูคอนโดมิเนียมไม่ไกลจากที่ทำงานมากสะดวกต่อการเดินทางและเป็นคอนโดของพี่ชายเขาเอง
“อยู่ได้มั้ยคะพี่ว่ามันกว้างอยู่นะ”
“ใหญ่มากเลยค่ะหนูอยู่ได้สบายมาก ท่าทางจะแพงน่าดูเลยถ้าพี่ธาวินปล่อยเช่าน่าจะได้เงินเยอะกว่าให้หนูอยู่ฟรีอีก”
“เขาซื้อไว้เกรงกำไรค่ะไม่ได้ปล่อยเช่า มีอีกหลายที่เลยนะไม่ต้องคิดมากหรอก พี่ชายเค้าบอกว่าให้น้องสะใภ้อยู่ที่นี่ปลอดภัยสุด มีปัญหาอะไรพี่เขาจัดการให้”
เธอมองไปโดยรอบก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ เธอรู้สึกปลอดภัยตั้งแต่เข้ามาเป็นครอบครัวของเขาแล้ว ทุกคนรักและเอ็นดูเธอมากปกป้องถึงที่สุดมันทำให้เธอไม่คิดที่จะเดินออกไปจากที่ตรงนี้
“ฝากขอบคุณพี่ธาวินด้วยนะคะ”
“โทรไปขอบคุณเองสิคะเบอร์ก็มีนี่นา”
เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะควงแขนชายหนุ่มเดินออกไปจากคอนโด ภารกิจหลังจากที่ตรวจคอนโดเรียบร้อยก็คือไปซื้อรถที่โชว์รูมต่อ เขาบอกว่าเธอจะต้องมีไว้และไปทำงานห้ามนั่งวินมอเตอร์ไซค์หรือรถสาธารณะเพราะเขาเป็นห่วงมาก เธอต้องทำให้คนรักสบายใจไม่ทำให้เขาคิดมาก อีกอย่างเราสองคนมี GPS ในโทรศัพท์ถึงแม้ว่าเธอจะยุ่งจนไม่มีเวลาคุยกับเขาแต่สารวัตรมาวินสามารถรู้ได้ว่าเธออยู่ที่ไหนตลอดเวลา
“พี่ดูคันนี้ไว้ให้ ไม่แพงมากด้วยหนูลองดูสิ”
เธอดูรถสีขาวตรงหน้าอย่างพิจารณา มันน่ารักมากเหมาะกับผู้หญิงขับแต่ดูอย่างนี่ห้อแล้วน่าจะแพงอยู่พอสมควร เธอเดินไปกอดแขนเขาไว้ก่อนจะเขย่าทันที
“แพงมั้ยคะทำไมไม่เอายี่ห้ออื่น มือสองก็ได้ไม่เห็นต้องมาที่แพงๆแบบนี้เลย”
“ก็บอกว่าของขวัญเรียนจบไงคะ คันนี้ไม่เกินสองล้านไม่แพงหรอก สมบัติพี่เยอะช่วยใช้หน่อย”
นับดาวตีแขนชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ในความขี้โม้ของเขา ก็รู้ว่ารวยแหละแต่เราควรเก็บเงินไว้ให้มากที่สุดถ้าอยากจะมีลูกก็ต้องมีเงินเก็บมากพอที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นอนาคตของชาติ ถึงเธอจะมีเงินมากมายก็ยังคงประหยัดเหมือนเดิม ความขี้งกมันคงอยู่ในสายเลือดละมั่ง
“น่าหมั่นไส้คนรวยนี่นะ”
“หนูไม่ต้องทำงานพี่ก็เลี้ยงได้ทั้งชีวิต แต่พี่ทำไม่ได้หรอกเมียจ๋าของพี่มันบ้างานบ้าเงินจริงมั้ยคะ”
“รู้แล้วก็อย่ามาห้ามกันนะคะ ถึงคุณจะมีเงินมากมายแต่หนูไม่อยากเอาเปรียบค่ะ เราสร้างครอบครัวด้วยกันเพราะฉะนั้นเราต้องช่วยกันหาค่ะไม่ใช่โยนภาระให้อีกคน”
เธอถูกสอนมาให้ทำงานตั้งแต่เด็ก จะต้องหาเงินด้วยตัวเองไม่ใช่รออีกคนมาเลี้ยงดู แม่สอนมาดีแหละเธอถึงมีความคิดแบบนี้
“คิดดีมากเด็กคนนี้ ถ้างั้นรถเอาคันนี้นะคะจะได้ไปลองขับกัน”
“ก็ได้ค่ะยังไงหนูก็จดทะเบียนสมรสกับคุณแล้วต่อไปของหนูของคุณก็เหมือนกันแหละ เนาะ”