บทที่ 5 คนสำคัญ...ของฉัน

4209 Words
บทที่ 5 คนสำคัญ...ของฉัน ยี่หวายืนนิ่งอยู่สักพักแต่ไม่มีเสียงตอบมาจากคนในห้องแม้แต่คนเดียว เธอไม่รู้ว่าจะวางตัวเองไว้ตรงไหน มองหน้าไมเคิลอย่างขอความเห็น แต่มือขวาของอเล็กซ์ก็ไม่สามารถให้คำตอบเธอได้ “ สวัสดีเธอชื่อหวันยี่หวาเหรอ ฉันแฮรี่นะ” เป็นชายหนุ่มหน้าทะเล้นที่ทำลายความเงียบภายในห้องทำงาน หวันยี่หวาเปลี่ยนสายตาไปมองชายหนุ่มอีกคนที่อยู่ในห้อง เขาท่าทางใจดี มีรอยยิ้มอยู่ในหน้าขาวนวลเนียนกว่าผู้หญิงหลายๆคน เธอคิดว่าเขาคงเป็นหุ้นส่วนใหญ่อีกคนของผับที่เธอไม่เคยเจอเลยตั้งแต่มาทำงาน “ สวัสดีค่ะ ดิฉันหวันยี่หวาค่ะ” เธอยกมือไหว้พร้อมทั้งรายงานตัวไปด้วยเสียงสั่นเครือ ทั้งที่ชายหนุ่มที่เธอยกมือไหว้มีท่าทางใจดี แต่ที่สั่นเพราะเงยหน้าไปสบสายตาคมที่จ้องมาอย่างแน่นิ่งจนไม่สามารถอ่านออกว่าเขากำลังรู้สึกอย่างไร “ รู้จักแล้ว ก็ไปทำงานได้ ทั้งสามคน ฉันจะทำงานบ้าง” เสียงเข้มส่งออกมาเพื่อสลายการชุมชุม เขาไม่อยากให้เพื่อนตัวดีพูดอะไรออกไปให้กวางน้อยของเขาตื่นกลัว ณ มหาวิทยาลัย “ ยี่หวาวันนี้สอบวันสุดท้ายแล้ว พวกเราไปเลี้ยงฉลองกันดีกว่า” อริสคุณหนูประจำกลุ่มเอ่ยชวนหญิงสาวอย่างร่าเริง วันนี้สอบวันสุดท้ายและจากที่ยี่หวาติวหนังสือก่อนสอบให้เพื่อนๆจนแน่ใจว่าทุกคนต้องสอบผ่านและเรียนจบแน่นอน จึงถึงเวลาที่จะต้องตอบแทนเพื่อนสาวแสนดี ซะหน่อย “ ยี่หวาต้องทำงาน” เธอปฏิเสธออกไปอย่างนุ่มนวล ถึงแม้อยากจะไปฉลองกับเพื่อนๆมากแค่ไหน แต่งานก็ต้องทำ เธออยากทำงานให้ได้เงินเยอะๆเพราะยายดวงใจเริ่มทำงานไม่ไหว อีกทั้งยังมีโรครุมเร้าตามประสาคนแก่ เธอต้องการทุนสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน “ หยุดงานซักวันก็ได้นะ ไปเที่ยวกับพวกเราเดียวเราเลี้ยงเอง ดีไหม ฟ้า นนท์” อริสรีบหาคะแนนเสียงกับเพื่อนทันที “ใช่/ใช่..” สองเสียงประสานกันอย่างเร็ว เพราะทุกคนสอบเสร็จสำเร็จการศึกษาแล้ว อาจจะต้องแยกย้ายไปทำงาน มีความรับผิดชอบมากขึ้น คงหาเวลาที่จะมารวมตัวกันเพื่อดื่มฉลอง หรือไปดูหนังด้วยกันได้ยาก “ นะ นะ ยี่หวา ไปเถอะ คุณหนูอริสจะเลี้ยงทั้งที เราต้องไปล้มทับ” พราวนภาหรือฟ้า สาวสวยหุ่นนางแบบเอ่ยขึ้นอย่างล้อเลียนเพื่อนสาว “ ใช่ๆเราจะกินให้พุงกางไปเลย ให้คุณหนูจ่ายกระเป๋าฉีก ไปนะ ยี่หวา” อานนท์รีบช่วยเชียร์ตามคำเรียกร้องของสองสาว โอกาสที่จะไปกินเที่ยวเหลือน้อยเต็มที เขาต้องกลับเชียงใหม่เพื่อไปดูแลกิจการรีสอร์ทของครอบครัว คงไม่ได้ลงมาที่กรุงเทพบ่อยๆ “ ไปก็ได้ เห็นแก่พวกเธอสองคนที่อยากกินของฟรีนะเนี่ย อิอิอิ” ยี่หวาหัวเราะกับอาหารอยากกินของฟรีของพราวนภากับอานนท์ ทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนสองคนก็ไม่ได้ลำบากในเรื่องเงินทองแต่อย่างใด สองคนเพียงต้องการแกล้งคุณหนูประจำกลุ่มเท่านั้น ยี่หวาโทรศัพท์ไปหาโชติรสเพื่อลงงานหนึ่งวัน โดยแจ้งว่าไปฉลองการจบการศึกษากับเพื่อนๆ “ ยี่หวาขอโทษพี่น้ำหวานนะคะที่ไม่ได้บอกล่วงหน้า” “ ไม่เป็นไร ยี่หวาไปกับเพื่อนเถอะ วันนี้ไม่ใช่วันหยุดคนคงไม่เยอะเท่าไร ฉลองให้สนุกนะจ๊ะ” โชติรสบอกกับหญิงสาวเพื่อไม่ให้เธอไม่สบายใจ อีกอย่างวันนี้ก็เป็นกลางสัปดาห์นักท่องราตรีก็ไม่มากเท่าวันหยุดศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ สามสาวสวยกับอีกหนุ่มหล่อ ที่เดินเล่นภายในห้างเรียกสายตาทุกคู่ให้หันมามองได้อย่างง่ายดาย ทั้งหมดตกลงกันว่าจะไปกินข้าวในห้าง ตามด้วยการไปดูหนัง “ยี่หวา อาทิตย์หน้าวันเกิดฉัน พี่ชายจะจัดวันเกิดให้ฉันที่บ้านพักตากอากาศที่พัทยา เธอต้องไปด้วยนะ ฟ้ากับนนท์ ตกลงแล้ว และเธอห้ามปฏิเสธเด็ดขาด” คุณหนูอริสบอกออกมาอย่างเอาแต่ใจ “ ฉันไม่รับปากนะ ต้องดูว่าลางานได้ไหมและต้องขออนุญาตยายด้วย ฉันไม่อยากไปไหนไกล ช่วงนี้ยายไม่ค่อยสบาย” ยี่หวาบอกเพื่อนไปอย่างแบ่งรับแบ่งส่ง “ฟ้าว่ายี่หวาไปด้วยกันนะ เรื่องงานคงไม่เป็นไร เราไม่ได้ไปวันหยุด” “นนท์ก็เห็นด้วยกับฟ้าและคุณหนูอริสนะยี่หวา ไปพักผ่อนบ้างเถอะ พัทยาไม่ไกลมาก ถ้าฉุกเฉินจริงๆเราจะขับรถพาเธอกลับมาทันที สัญญา ” อานนท์บอกให้เพื่อนสาวได้สบายใจ “ ไม่รู้ล่ะถ้ายี่หวาไม่ไป ฉันจะยกเลิกงานทั้งหมด” อริสร้องบอกอย่างเอาแต่ใจ เธอเป็นคุณหนูที่รักของทุกคนไม่เคยมีใครขัดใจเธอได้สักคน หากขอร้องไม่ได้ เธอก็ต้องที่จะออกอาการเอาแต่ใจและใช้เงื่อนไขในการที่จะบังคับทุกคน “ อ้าวเกี่ยวอะไรกับยี่หวาล่ะ ไม่มียี่หวาทุกคนก็สนุกได้” ยี่หวาร้องออกไปอย่างตกใจ “ ไม่/ ไม่ /ไม่” สามเสียงประสานส่งออกมาพร้อมกันจนน่าตกใจ “ เรียนจบฟ้าก็ต้องไปเดินแบบบนเรือสำราญตั้งสองเดือน ขอไปเที่ยวส่งท้ายหน่อยเถอะยี่หวา”พรานภาบอกเพื่อนสาวเวียงอ่อย “ ใช่ นนท์ก็ต้องกลับเชียงใหม่ พ่อเรียกให้กลับไปดูรีสอร์ท เพราะจะพาแม่ไปเยี่ยมน้องสาวที่อังกฤษ นนท์คงไม่ได้เจอเพื่อนๆอีกนาน” ชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มบอกออกไป พ่อของเขาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดที่เกษียณราชการและได้ไปซื้อกิจการของเพื่อนที่เปิดรีสอร์ทใหญ่โตแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อเรียนจบ อานนท์ก็ต้องกลับไปรับช่วงกิจการจากบิดา “ อริส ก็ต้องไปช่วยงานคุณพ่อที่บริษัทนำเข้ารถยนต์จริงๆจังๆซักที ยี่หวาไปทำงานกับเรานะ เราไม่อยากให้ยี่หวาทำงานกลางคืนอีกแล้ว” คุณหนูอริสพูดอย่างเป็นห่วงเพื่อน เคยห้ามแล้วแต่ยี่หวาก็ไม่ฟัง เธอไม่รับเงินจากเพื่อนๆที่จะช่วยเหลือ แม้เพื่อนทั้งสามคนจะพยายามหว่านล้อมอย่างไร ยี่หวาก็ยืนยันที่จะทำงานหาเงินเอง เธอไม่อยากเอาเปรียบใคร “ ใช่ /ใช่” พราวนภาประสานเสียงกับอานนท์อย่างพร้อมเพรียง “ เราชวนไปเป็นผู้ช่วยเราบนเรือ เธอก็ไม่ไป อ้างเป็นห่วงยาย” พราวนภาเอ่ยขึ้น “เราช่วยไปงานที่เชียงใหม่ ก็บอกห่วงยาย เธอเคยห่วงตัวเองบ้างไหมยี่หวา” อานนท์ถามต่อ ทั้งพราวนภาและอานนท์ เคยชวนหญิงสาวไปทำงานกับตนหลังจากเรียนจบ แต่คำตอบที่ทั้งสองได้รับเหมือนกันคือไปไม่ได้ ยี่หวาห่วงยายและยายคงไม่ไปไหน ยายห่วงบ้าน “ ตกลงยี่หวาจะไปงานวันเกิดคุณหนูอริสก็แล้วกัน พอใจหรือยังคะทุกคน” ยี่หวายิ้มอย่างสดใสให้เพื่อนๆ เธอไม่อยากทำลายความสุขของเพื่อนที่ให้ความรัก ความสนิทสนมกับเธอมาสี่ปี ทั้งสามคนเป็นเพื่อนที่ดี แม้จะรู้ว่าเธอเป็นลูกกำพร้าอีกทั้งฐานะทางบ้านไม่ดี ต้องทำงานกลางคืนเพื่อเลี้ยงตนเองกับยาย แต่เพื่อนก็ไม่รังเกียจ ทุกคนช่วยกันออร์เดอร์ขนมใส่ไส้ของยายดวงใจอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะอริส ที่จะสั่งบ่อยครั้งที่สุด เธออ้างว่าทั้งครอบครัวเธอ ไม่ว่าคุณป๋า คุณแม่ โดยเฉพาะพี่ชายของเธอชอบขนมใส่ไส้ของยายดวงใจที่สุด “ เย้ๆๆ ไปดูหนังกันดีกว่า ถ้ามีเวลาเราไปร้องคาราโอเกะกันต่อนะพวกเรา” เสียงร้องอย่างสมดั่งใจของอริส ทำให้บรรยากาศรอบข้างดูสดใสขึ้นมาทันตา ผับหรู อเล็ก นั่งหน้าตึงอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงาน เขามองไปวันนี้ไม่เจอกวางน้อยของเขา เธอไปไหน? วันนี้ยังไม่มีใครรายงานเขาเกี่ยวกับหญิงสาวแม้แต่คนเดียว ผู้จัดการผับอย่างปกรณ์ก็ไม่แจ้งเขาถึงการไม่มาทำงานของเธอ (ก็คงไม่ต้องรายงานเพราะงานพนักงานเสิร์ฟต้องรายงานแฮรี่) บอดี้การ์ดที่ติดตามอริสน้องสาวของชายหนุ่ม ก็ยังไม่รายงานกิจวัตรของหญิงสาวทั้งสองที่เขาให้ติดตามอยู่ทุกวัน “ ไมเคิล..” เสียงเข้มร้องเรียกมือขวาที่นั่งทำงานอยู่บนโต๊ะอีกตัวหนึ่งในห้อง “ ครับ...คุณอเล็กซ์” มือขวาลุกขึ้นเตรียมพร้อมหาเจ้านายจะเดินทาง แต่เมื่อยืนรอรับคำสั่งอยู่สักพักก็ไม่มีเสียงสั่งการออกมาจากปากหนา ไมเคิลพยายามนึกว่าชายหนุ่มต้องการอะไร แต่นึกเท่าไรก็ไม่สามารถที่จะเดาใจชายหนุ่มได้ “ ยี่หวา ไปไหน” ในที่สุดไมเคิลก็รู้ถึงสาเหตุที่เจ้านายหน้านิ่ง นั่งหน้าตึงอยู่ตอนนี้ มือขวาอย่างเขาก็ต้องรีบสนองความอยากรู้ของเจ้านายโดยเร็ว หากไม่อยากให้ระเบิดลงห้องทำงานหรืออาจจะระเบิดทั้งผับก็เป็นได้ ไมเคิลยกโทรศัพท์เครื่องบางไปยังโชติรส ทำให้ทราบว่าหญิงสาวลางานหนึ่งวันเพื่อไปฉลองเรียนจบกับเพื่อนๆซึ่งรวมถึงคุณหนูอริสด้วย หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ไปยังบอดี้การ์ดที่ติดตามหญิงสาว สอบถามถึงสถานการณ์ว่าตอนนี้หญิงสาวอยู่ที่ไหนทำอะไรและอยู่กับใครบ้าง “ อ่อ... วันนี้คุณยี่หวาลางานไปฉลองการสอบเสร็จและเรียนจบกับเพื่อนๆที่ห้างครับ ตอนนี้กำลังพากันร้องคาราโอเกะกันอยู่ หลังจากที่ไปกินข้าวและดูหนังแล้วครับ คุณหนูอริสก็อยู่ด้วยกันครับ” ไมเคิลรีบรายงานเจ้านายหนุ่มทันทีที่ได้คำตอบจากบอดี้การ์ดที่ติดตามหญิงสาว “ อ่อ..ผมส่งภาพที่แม็คส่งมาให้เจ้านายที่โทรศัพท์เจ้านายแล้วนะครับ” ไมเคิลรีบรายงานเพิ่ม เผื่อเจ้านายจะอารมณ์ดีขึ้น “ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ เสียเวลาจริงๆ ฉันจะหลับบ้านแล้ว” เสียงฉุนเฉียวบ่งบอกอารมณ์ของชายหนุ่มเป็นอย่างดี “ งานวันเกิดอริสอาทิตย์หน้าที่พัทยา นายจัดการให้เรียบร้อยด้วยนะ เห็นว่าชวนเพื่อนๆไปด้วยสามสี่คน “ สั่งเสียงเข้มก่อนเดินออกไปจากห้องอย่างไม่พอใจในการทำงานของมือขวาของตน ‘ ไม่เห็นหน้าคุณยี่หวาวันเดียวเหมือนระเบิดจะลงกลางผับ เกินไปจริงๆแล้วนะครับเจ้านาย’ ไมเคิลส่ายหัวไปมาให้กับอาการของชายหนุ่ม ที่แม้จะทำงานที่บริษัทนำเข้ารถหรูในตอนกลางวันเหนื่อยแค่ไหน แต่ทุกวันนี้ก็จะต้องมานั่งตรวจงานที่ผับทุกคืนกว่าจะเลิกงานกลับบ้านได้ก็ดึกดื่นเที่ยงคืนทุกวัน ถ้าหญิงสาวยังไม่เลิกงาน ชายหนุ่มก็นั่งตรวจงานเหมือนมีงานมากมายทุกวัน หากยังไม่ได้รับรายงานจากบอดี้การ์ดที่ให้ติดตามหญิงสาวว่าเธอถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ชายหนุ่มก็ยังคงไม่หลับตานอนได้สักคืน อเล็กซ์กลับมาถึงบ้านก็รีบเปิดโทรศัพท์ดูรูปภาพที่ไมเคิลส่งมาให้ทันที ภาพที่เห็นรอยยิ้มสดใสของเธอเวลาอยู่กับเพื่อน ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นระทึกอย่างบอกไม่ถูก และเมื่อเปิดคลิปวีดีโอที่ได้มา ก็พลอยให้เขาอดที่จะยิ้มและหัวเราะตามพวกเธอไม่ได้ ยี่หวาเวลาอยู่กับเพื่อนๆ เธอช่างสดใสนัก เสียงหัวเราะของเธอ รอยยิ้มของเธอ ตอนที่อยู่กับเพื่อนมันทำให้ผู้ชายตัวโตที่ไม่เคยอิจจาใครมาก่อนในชีวิต แต่ตอนนี้เขาเกิดความอิจจา อยากให้เธอยิ้มหัวเราะแบบนั้นบ้างเวลาอยู่กับเขา ‘สักวันเธอต้องยิ้มและหัวเราะอย่างมีความสุขกับอกฉันบ้าง หวันยี่หวา’ อเล็กซ์คิดตามอย่างมีความสุข บ้านพักตากอากาศที่พัทยา เสียงหัวเราะผสานเสียงที่ชายหาด ทำให้อเล็กซ์ที่เพิ่งเดินทางมาถึงพร้อมแฮรี่ต้องหันไปทางที่เกิดเสียง ภาพตรงหน้าทำให้หัวใจของสิงห์หนุ่มเต้นระรัว หญิงสาวสามคนที่วิ่งไล่กันในน้ำ แต่ละคนใส่กางเกงขาสั้นโชว์ขาเรียวสวยอวดสายตาคนที่นั่งอยู่บริเวณนั้น ทำให้ชายหนุ่มหงุดหงิดอย่างไม่มีสาเหตุ “ เอาน่าเพื่อน แค่กางเกงขาสั้นเอง อย่าคิดมาก” เสียงแฮรี่เพื่อนร่วมทางของชายหนุ่มส่งมาอย่างเย้าแหย่ ก่อนจะรีบวิ่งออกไปให้ห่างจากรัศมีเท้าของคนร่างสูงที่ง้างขึ้นเพื่อถีบเป็นรางวัลในความปากดีของเพื่อน “ฝากไว้ก่อนนะแฮรี่ อย่าให้ถึงทีฉันบ้างก็แล้วกัน” อเล็กซ์บอกอย่างอาฆาตก่อนเดินเข้าบ้านพักไปหาพ่อแม่และญาติผู้ใหญ่ภายในบ้านพักหลังใหญ่ “ สวัสดีครับป๋า คุณแม่ ลุงปีเตอร์ ป้าน้ำผึ้ง “ อเล็กซ์ยกมือไหว้บุคคลทั้งสี่ที่นั่งคุยกันอยู่ภายในห้องรับแขกหรู นานๆครั้งถึงจะมีการรวมกันครบอย่างนี้ มารดาชายหนุ่มทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันเมื่อต่างฝ่ายต่างมีครอบครัวก็ชักนำให้สองครอบครัวมาสนิทกันจนแทบจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว “ มาแล้วเหรอไอ้เสือ เอ้อ ไม่ใช่สิ ไอ้สิงห์ของป๋า” คุณป๋าราฟาแอลเอ่ยทักลูกชายอย่างอารมณ์ดี “ ผมก็มาแล้วครับบบบ....ทุกคน” เสียงทะเล้นส่งมาก่อนตัว ก่อนจะยกมือไหว้ผู้สูงวัยในห้อง แถมด้วยการโอบกอดหอมแก้มคุณน้ำผึ้งมารดาของตน แล้วย้ายไปกอดรอบเอวของป้าเกศหอมแก้มซ้ายขาวอย่างออดอ้อน “ เอ้อ...เมียฉัน” สองเสียงจากสองมาเฟียดังมาอย่างหยอกล้อ พร้อมกับดึงเมียรักเข้ามาไว้ในอ้อมกอดของตนอย่างหวงแหน สลับหอมแก้มทับรอยชายหนุ่มหน้าตี๋อย่างไม่น้อยหน้า “ เฮ้อ..อิจจาคนมีเมีย เราไม่มีบ้างก็แล้วกัน นายเห็นด้วยไหม อเล็กซ์” ไม่วายที่จะวกกลับมาที่ชายหนุ่มหน้านิ่ง และวิ่งไปหลบหลังป้าเกศอย่างรู้งาน “ ก็รีบมีเมียสิไอ้เสือ เห็นเพื่อนของอริสที่พามาด้วยสองคน น่ารักน่าเอ็นดูทั้งคู่เลยนะ ถ้าชอบคนไหนเดียวป๋าไปสู่ขอให้” ราฟาแอลเอ่ยมาอย่างอารมณ์ดี ส่วนณัฐริกากับเกศสุรางค์ ส่งสายตาให้กันอย่างมีเล่ห์นัย เพราะได้รับรายงานจากหนุ่มหน้าทะเล้นถึงคนที่ได้รับอนุญาตให้เรียกชายหนุ่มหน้านิ่งว่า คุณสิงห์ แล้ว ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากหนึ่งในหญิงสาวสองคนเพื่อนของคุณหนูอริสนั้นเอง “ ผมคงไม่กล้าหรอกครับคุณป๋า เดียวโดนใครบางคนเชือดคออย่างไม่ทันรู้ตัว อาทิตย์ที่แล้วยังมีคนขู่ว่าจะทำให้ปากผมพูดไม่ได้หลายวัน และทำให้ตาผมมองไม่เห็นอีกด้วย เพียงแค่ผมพูดถึงสาวสวยเท่านั้น” คนฟ้องรีบฟ้องก่อนที่ไม่มีโอกาสจะฟ้อง ดูได้จากสายตาพิฆาตที่ส่งมาให้จากร่างสูง แต่เขาหาได้เกรงกลัวหรือก็ไม่ วันนี้ตัวช่วยเยอะ ‘ฉันไม่กลัวนาย’ สายตาตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว บริเวณหน้าบ้านพักหลังใหญ่ ถูกประดับประดาอย่างสวยงามด้วยดอกไม้และโคมไฟที่ระยิบระยับ แลดูอบอุ่น น่ารัก ตามรสนิยมของเจ้าของวันเกิด หญิงสาวทั้งสามคนอยู่ในชุดแซก กระโปรงสั้นแค่เข่า สดใสสมวัย พราวนภาสวมชุดแซกเกาะอก สีแดงเซ็กซี่ตามแบบฉบับนางแบบที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง คุณหนูอริสสวมชุดแซกสีเหลืองอ่อนแลน่ารักแต่หรูหราด้วยสร้อยเพชรเม็ดเล็กไล่ระดับกันอย่างลงตัว ส่วนหวันยี่หวาสวมชุดแซกสีชมพู แต่ที่ทำให้หญิงสาวแลดูเซ็กซี่ ด้านบนเป็นเกาะอกที่เป็นระบายลูกไม้เบาบางเหมือนเธอเป็นเทพธิดานางไม้ สำหรับชายหนุ่มคนเดียวในกลุ่มแต่งตัวตามสไตล์หนุ่มเจ้าสำราญ เสื้อเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมบนสองเม็ดเข้าชุดกับกางเกงสแล็คสีครีม สายตามองไปยังเพื่อนสาวทั้งสามคน แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่าสายตานั้นหยุดมองเจ้าของงานวันเกิดอยู่บ่อยครั้ง “ สวัสดีสาวๆๆ ...” เสียงมาก่อนตัวเหมือนทุกครั้งจากหนุ่มหน้าตี๋ อริสวิ่งเข้าสู่อ้อมแขนที่อ้างรอรับของหนุ่มตี๋ จากนั้นก็ได้รับการหอมแก้มสลับซ้ายขวาเป็นรางวัล ผละจากหนุ่มตี๋ คุณหนูอริสโผเข้าหาอ้อมกอดของชายหนุ่มหน้านิ่งที่เดินตามมา คราวนี้เป็นหญิงสาวที่หอมแก้มชายหนุ่มสลับซ้ายขวา อานนท์ยืนมองภาพนั้นนิ่งอย่างยากจะทำใจ หัวใจชายหนุ่มกระตุกแรงเหมือนโดนกระชากไปจากอก มองอาการดีใจของหญิงสาวที่เขาแอบมองมาสี่ปีอย่างหม่นในหัวใจ ยี่หวา หันตามเสียงของคนที่ร้องทัก และภาพตรงหน้าทำให้เธอแทบช็อค อ้างปากค้าง ไม่อยากเชื่อสายตาตนเอง ‘ เขามาทำอะไรที่นี่ เขาเป็นอะไรกับอริส’ เธอยังไม่ได้คำตอบให้ตัวเอง อริสก็จูงมือสองหนุ่มมาถึงที่พวกเธอนั่งอยู่ ทำให้เธอต้องยกมือใหว้ทั้งคู่ออกไป “ นี่ เพื่อนๆของน้องค่ะ พี่อเล็กซ์ พี่แฮรี่ สาวสวยชุดแดงชื่อพราวนภาหรือฟ้า คนน่ารักคนนี้ชื่อหวันยี่หวาและสุดหล่ออานนท์ค่ะ” อริสแนะนำเพื่อนๆให้พี่ชายทั้งสองรู้จักอยากร่าเริง “ ส่วนนี่พี่ชายเรา พี่อเล็ก สิงห์ราช กัสโตโน่ อีกคนพี่แฮรี่ อนัตชัย โชคไพศาล ลูกพี่ลูกน้องเรา” สิ้นคำแนะนำของอริส อานนท์ถอนหายใจแผ่วเบาอย่างโล่งอก ผิดกับยี่หวาที่หนักใจขึ้นมาทันที เห็นทีเรื่องการไปทำงานกับอริส เธอคงต้องทบทวนใหม่ซะแล้ว เธอหวังว่าเมื่อเรียนจบคงไม่ต้องทำงานกลางคืนอีกแล้ว เธอคงสามารถหลบเลี่ยงชายหนุ่มที่พรากความสาวไปจากเธอได้ไม่ยาก แต่มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ชายหนุ่มร่างสูงมองอาการอึ้งจนพูดไม่ออกของหญิงสาวชุดชมพูอย่างพอใจ ริมฝีปากหนายกยิ้มออกมาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่จะเลือนหายไป งานเลี้ยงดำเนินไปท่ามกลางความสุขของเจ้าของวันเกิดและเพื่อนๆ แม้กระทั่งยี่หวาก็พลอยยิ้มและหัวเราะไปด้วย เธอพยายามไม่หันไปสบตาพี่ชายของอริสที่นั่งดื่มกับแฮรี่ และคุณป๋าทั้งสองในส่วนของฝั่งผู้ชาย กริ๊งๆๆๆ เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กของยี่หวาดังขึ้นแทรกเสียงเพลงในงานวันเกิด ทำให้เธอต้องเดินห่างออกมาเพื่อรับสายจากป้าน้อย ป้าข้างบ้านที่เธอฝากฝังให้ดูแลยายดวงใจในเวลาที่เธอไม่อยู่บ้าน “ สวัสดีค่ะป้าน้อย....” “ ยี่หวา..อยู่ไหนลูก คุณยายหกล้มในครัว ป้าไปเห็นอีกทียายดวงก็นอนนิ่งไปแล้ว ตอนนี้ป้าพามาส่งที่โรงพยาบาลใกล้บ้านเราแล้ว แต่ยายดวงก็ยังไม่ฟื้น คุณหมอจะให้ผ่าตัดเพราะมีเลือดคั่งในสมอง ยี่หวารีบกลับมานะลูก ยี่หวาต้องมาเซ็นอนุญาตให้คุณหมอผ่าตัด” หญิงสาวยังกล่าวทักทายป้าน้อยยังไม่จบคำ ก็ต้องช็อคไปอีกครั้งหลังจากได้ฟังการบอกเล่าของ ป้าน้อยที่พูดมาอย่างรัวเร็ว น้ำตาหญิงสาวไหลออกมาอาบหน้า เธอร้องให้สะอื้นปานจะขาดใจทรุดกายลงบนพื้นทรายอย่างหมดแรง “ ค่ะ ยี่หวาจะรีบกลับ” หญิงสาวเอ่ยบอกออกไปทั้งน้ำตา แล้วเธอจะทำอะไรต่อ จะกลับไปกรุงเทพอย่างไร ความรู้สึกผิดเกิดขึ้นในใจที่ปล่อยให้ยายอยู่บ้านคนเดียวแล้วตัวเองมาเที่ยวมีความสุขกับเพื่อนๆ หากยายดวงเป็นอะไรไปเธอจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย “ ยี่หวาเป็นอะไร ใครโทรมา เกิดอะไรขึ้น” คนที่เคยควบคุมสติได้เป็นอย่างดีเอ่ยถามออกมาอย่างร้อนรน เขาเห็นเธอเดินถือโทรศัพท์ออกห่างจากงานวันเกิด จึงเดินตามมาเงียบๆ และเห็นหญิงสาวร้องให้ทรุดกายอย่างคนหมดแรง ทำให้เขาต้องรีบเข้ามาถามเพื่อให้ได้คำตอบอย่างเร็วไว “ คุณสิงห์ ยายค่ะ ยายดวงหกล้มหมดสติ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลรอผ่าตัด ยี่หวาต้องรีบกลับกรุงเทพค่ะ หมอกำลังรอให้ยี่หวาไปเซ็นอนุญาตให้ผ่าตัด” หญิงสาวหันมาเจอชายหนุ่มที่เธอคิดจะหลีกเลี่ยง แต่ตอนนี้เธอกลับโผจับมือชายหนุ่มอย่างลืมตัว “ คุณสิงห์ พายี่หวาไปหายายนะคะ ยี่หวาขอร้อง” “ ได้ ฉันจะเป็นคนพาเธอกลับไปหายายเอง” ชายหนุ่มดึงโทรศัพท์เครื่องเล็กแต่คุณภาพสูงของตนเองออกมากดหามือขวาให้เตรียมรถเพื่อจะเดินทางกลับกรุงเทพทันที จากนั้นก็หันมาตวัดหญิงสาวร่างบางขึ้นอุ้มอย่างรวดเร็ว ทำให้ยี่หวาตั้งตัวแทบไม่ทัน มือบางโอบรอบคอคนตัวโตอย่างอัตโนมัติ “ ฉันอุ้มไปดีแล้ว เธอคงเดินไม่ไหว “ บอกพร้อมกับก้าวเท้าไปยังรถยนต์คันใหญ่ที่ไมเคิลเปิดประตูหลังรออย่างรู้ใจ อเล็กซ์อุ้มหญิงสาวไว้บนตักแกร่งแม้กระทั่งมาอยู่บนรถแล้วหญิงสาวก็ยังคงร้องให้สะอึกสะอื้นไม่หยุด ทำให้ชายหนุ่มต้องโทรศัพท์ไปหาเพื่อนที่เป็นหมอในโรงพยาบาลเอกชนใกล้บ้านหญิงสาว แจ้งให้เคลื่อนย้ายยายดวงใจจากโรงพยาบาลรัฐบาลไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนทันที และให้ดำเนินการรักษาไปโดยไม่ต้องรอการอนุญาตจากญาติ “ ไอ้หมอ แกทำยังไงก็ได้ แต่ต้องย้ายยายดวงใจไปรักษาที่โรงพยาบาลแกทันที ถ้ายายเป็นอะไรไปฉันจะระเบิดโรงพยาบาลแก” อเล็กซ์ส่งเสียงสั่งเพื่อนที่เป็นหมอไปทางโทรศัพท์ ‘เอ้ย อะไรวะ ยายดวงใจเป็นใคร ทำไมต้องรีบขนาดนั้น บอกมาก่อนไม่อย่างนั้นฉันไม่ทำตามคำสั่งแกแน่ อเล็กซ์’ หมอถามออกมาอย่างไม่จริงจัง ถึงเป็นใครเมื่อเพื่อนขอร้อง(แกมสั่ง)มา เข้าก็ต้องรีบดูแลให้อยู่แล้ว “ เป็นคนที่สำคัญกับคนสำคัญของฉัน แค่นี้นะ”พูดจบก็ตัดสายทันที “ ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันให้เพื่อนที่เป็นหมอดูแลยายเธออย่างดีแล้ว” อเล็กซ์กระซิบบอกคนร่างบางบนตัก พร้อมทั้งจูบซับน้ำตาที่หลั่งไหลอยู่ตลอดเวลา โดยไม่อายสายตาของไมเคิลที่ขับรถอยู่ข้างหน้า กลับกลายเป็นยี่หวาที่หน้าแดงเรื่ออย่างเขินอาย เธอพยายามดิ้นจากอ้อมแขนแกร่ง แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ยิ่งดิ้นแรงเท่าไร แรงรัดของอ้อมแขนยิ่งแน่นกว่าเดิม “ นอนซะ ถึงแล้วจะได้มีแรงดูแลยายดวง ถ้ายังดิ้นฉันจะจูบให้หมดแรงเลย” สิ้นเสียงชายหนุ่มอาการดิ้นของหญิงสาวก็หยุดนิ่งลงทันที โรงพยาบาลเอกชนหรู หญิงสาวนั่งจับมือเหี่ยวย่นของยายดวงที่นอนหลับอยู่บนเตียงคนป่วย ยายดวงใจได้รับการผ่าตัดจากหมอฝีมือดีที่สุด ทำให้การรักษาเป็นไปด้วยดี คุณหมอแจ้งว่าหากรอให้เธอมาเซ็นอนุญาตให้ผ่าตัดยายดวงใจอาจเสียชีวิตได้ เพราะมีเลือดออกจำนวนมาก หากแต่เพราะคำสั่งแกมขอร้องของอเล็กซ์ จึงทำให้ยายดวงใจสามารถมีชีวิตต่อได้ “ อีกซักพักคุณยายก็ฟื้น ญาติไม่ต้องห่วงนะครับ” หมอหนุ่มแจ้งแก่ญาติคนป่วยให้คลายกังวล ยี่หวายกมือไหว้ขอบคุณคุณหมออย่างซาบซึ้งใจ “ ขอบพระคุณ คุณหมอมากๆเลยนะคะ” “ ไม่เป็นไรเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว ถ้าจะขอบคุณก็ต้องขอบคุณคนโน้นที่โทรศัพท์มาสั่งให้กระผมทำตามเพราะถ้าไม่ทำตามเขาจะระเบิดโรงพยาบาลผม” หมอหนุ่มเอ่ยกับหญิงสาวแต่ก็แดกดันกระทบไปยังชายหนุ่มอีกคนที่ยืนอยู่ในห้อง ยี่หวาหันไปมองหน้าคนที่พาเธอกลับมากรุงเทพอย่างเร่งด่วน อีกทั้งยังจัดการเรื่องต่างๆให้ทั้งที่เธอไม่ได้ร้องขอ “ ยี่หวาขอบคุณ คุณสิงห์ มากนะคะ” “คุณสิงห์” เสียงหมอหนุ่มอุทานขึ้นหลังจากที่ได้ยินหญิงสาวร่างบางตรงหน้าเอ่ยเรียกชายหนุ่ม ก่อนจะหันมาพิจารณาหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง ‘คนที่สำคัญกับคนสำคัญของฉัน‘ นี่ซินะคนสำคัญที่ว่า คนที่ทำให้สิงห์หนุ่มอย่างอเล็กซ์ ร้อนรนได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD