กานต์พิชารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ มันคือเช้าที่สดใสสำหรับหล่อน เพราะตลอดทั้งค่ำคืนมีพิริยะนอนอยู่เคียงข้าง
หล่อนหันไปมองคนข้างตัว ก็พบว่าเขายังคงนอนหลับใหลอยู่ รอยยิ้มอ่อนหวานผุดขึ้นบนใบหน้าขาวเนียน
หล่อนรักเขาเหลือเกิน...
มือเล็กค่อยๆ ยื่นไปแตะใบหน้าหล่อจัดของพิริยะอย่างแผ่วเบา และก็คาดหวังว่าจะไม่ทำให้เขาตื่น แต่ดวงตาคมเข้มก็ลืมขึ้นทันที
“เอ่อ... พิชาขอโทษค่ะที่ทำให้คุณหมอตื่น...” หล่อนละล่ำละลักขึ้นอย่างรู้สึกผิด
ชายหนุ่มพลิกตัวนอนตะแคงหันเข้ามาหา ใช้มือแข็งแรงรองศีรษะทุยของตัวเองเอาไว้ และจ้องมองใบหน้าแดงระเรื่อของหญิงข้างกาย
“คุณก็รู้ว่าเมื่อคืนผมไม่ค่อยได้นอน”
ยิ่งเขาพูดแบบนี้ หล่อนก็ยิ่งรู้สึกผิด
“พิชา... ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณหมอ...”
“ถ้าอยากขอโทษผม งั้นก็...”
แล้วคนตัวโตที่นอนตะแคงมองหล่อน ก็พลิกนอนหงาย พร้อมกับกระชากผ้าห่มที่คลุมอยู่บนร่างกายทิ้งไปข้างเตียง
ความเป็นชายของเขาชี้ตั้งโด่ปะทะกับสายตาตื่นๆ ของกานต์พิชา
“ขย่มผมสิ แล้วผมจะให้อภัย”
“คุ... คุณหมอ...”
ความรู้สึกผิดตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกเขินอายอย่างรวดเร็ว
“ทำไม่ได้เหรอ หื้อ?”
“เอ่อ... เมื่อคืนเราก็ทำกัน... เยอะแล้วนะคะ” หล่อนก้มหน้างุดขณะแย้งออกไป
“งั้นก็แสดงว่าคุณไม่อยากขอโทษผมแล้วสินะที่รบกวนเวลานอนอันน้อยนิดของผมน่ะ”
“มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะคะคุณหมอ”
หล่อนรีบเงยหน้าขึ้นสบตากับเขาทันที และละล่ำละลักปฏิเสธ
“ถ้างั้นก็แสดงให้ผมเห็นสิว่าคุณรู้สึกผิด และตั้งใจจะขอโทษผมจริงๆ น่ะ”
“คือ... พิชา...”
“ทำไมครับ”
“พิชา... ทำไม่ค่อยเป็น... กลัวคุณหมอจะ... ไม่ชอบน่ะค่ะ”
คำพูดที่เต็มไปด้วยความเป็นกังวลของกานต์พิชาทำให้พิริยะทั้งเอ็นดูทั้งเสน่หา
“ใครว่าคุณทำไม่เก่งกันล่ะ ครั้งที่แล้วคุณทำได้ดีมากๆ ต่างหาก จำไม่ได้หรือว่าผมแตกใส่คุณไปกี่รอบน่ะ”
“พิชา...”
“คุณทำได้ดีมาก และผมก็ชอบมองตอนที่คุณขย่มอยู่บนตัวของผม พิชา... ทำสิ... ขึ้นมาขย่มผมสิกานต์พิชา...”
มือแข็งแรงของเขายื่นมาสัมผัสกับต้นแขนของหล่อน ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความร้อนแรงหิวกระหาย
กานต์พิชาค่อยๆ ลุกขึ้นคุกเข่า ตั้งสติเล็กน้อยจึงขยับคร่อมทับกึ่งกลางลำตัวของคุณหมอหนุ่มสุดหล่อเอาไว้
“จับผมใส่เข้าไปในตัวคุณสิพิชา... เอาเลย... ผมรออยู่... อืมม”
มือเล็กจับท่อนเอ็นขนาดมหึมาให้ตรงกับร่องรูสาว จากนั้นก็กดสะโพกลงทีละนิด
“อู๊ยยย อา... อา...”
“อีก... กดลงอีก พิชา... อืมมมม”
ซวบบบ
“อ๊ะ... อ๊า...”
ในที่สุดกลีบสาวก็เขมือบท่อนเอ็นใหญ่เข้าไปจนมิดด้าม
ใบหน้าหล่อเหลาของพิริยะบิดเบี้ยวเหยเกเพราะถูกความเสียวกัดกิน ซึ่งหล่อนเองก็เสียวมากจนครางไม่หยุดเช่นกัน
“ขยับสิ... โอ้วววว... พิชา... ขยับเลย โอ้วววว ข้างในคุณนุ่มแน่นดีเหลือเกิน”
“อา... ซี๊ดดดด...” หญิงสาวหลับตาลงพร้อมกับเงยหน้าขึ้น ปากนุ่มเผยอแยกจากกัน และส่งเสียงครางกระเส่าตลอดเวลา
บั้นท้ายอวบงอนตอนนี้กำลังเคลื่อนไหวบดร่อนอยู่บนหน้าขาแข็งแรงของพิริยะ
“โอ้ววว... แรงอีก... ขยับแรงอีก พิชา โอ้วววว เสียววว... โอ้วววว”
เมื่อเขาร้องขอให้หล่อนบดร่อนบั้นท้ายให้ร้อนแรงขึ้น หล่อนก็จัดให้ตามคำร้องขอ ก้นงอนงามส่ายระริกบดยั่วด้วยลีลาที่ทำให้คนใต้ร่างร้องครางไม่หยุด
ชายหนุ่มเด้งสะโพกเพรียวขึ้นหาอย่างไร้สติ มือใหญ่ข้างหนึ่งจับเอวคอด อีกข้างขยำเต้านมที่กำลังกระเพื่อมตามการเคลื่อนไหวของกานต์พิชาเอาไว้แน่น
“โอ้วววว เสียววว โอ้วววว... พิชา...”
ผู้หญิงคนนี้ช่างเร่าร้อนเหลือเกิน
พิริยะไม่อาจจะละสายตาจากเรือนร่างอวบอัดที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนร่างหนุ่มได้เลยแม้แต่วินาทีเดียว
เจ้าหล่อนเริงร่าเหมือนนางแมวป่าที่กำลังคลั่งเซ็กซ์
เย้ายวน น่าคลั่งไคล้เป็นที่สุด
“โอ้วววว ไม่ไหวแล้ว พิชา... ผม... ผมจะแตกแล้ว โอ้ววว...”
กลีบสาวเล็กแคบที่ครูดรั้งกับท่อนเนื้ออวบใหญ่ถี่ระรัวนับครั้งไม่ถ้วน ทำให้พิริยะไม่สามารถทานทนกับความเสียวกระสันได้อีก
ในที่สุดเขาก็แตกระเบิด ตามติดกานต์พิชาออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน
หลังจากหลั่งรินน้ำสวาทออกมาจนหมดเกลี้ยงแล้ว กานต์พิชาก็ทิ้งตัวลงนอนซบกับอกกว้างของพิริยะอย่างหมดเรี่ยวแรง
พิริยะกอดร่างแน่งน้อยเอาไว้ และจูบศีรษะเล็กเบาๆ อย่างลืมตัว
ความอ่อนหวาน ความเสียวซ่าน จำนวนมากที่ได้รับจากกานต์พิชามันกำลังทำให้เขารู้สึกผูกพัน ซึ่งมันไม่ควรเกิดขึ้น
เพราะรู้ดีว่าเขากับกานต์พิชาไม่มีคำว่าตลอดไป ทำให้เขาดันร่างอรชรให้ลงไปนอนบนเตียงข้างกาย แล้วตัวเองก็ลุกขึ้น
“ผมต้องกลับแล้วล่ะ”
ความอ่อนหวานที่โอบกอดหัวใจอยู่บินหายไปในพริบตา เมื่อได้ยินคำพูดห่างเหินของเขา
“คุณหมอมีธุระเหรอคะ”
“ลียาอยากไปเที่ยวทะเลน่ะ ผมก็เลยต้องพาไป”
หัวใจสาวเหมือนถูกกรีดด้วยมีดโกนคมกริบ น้ำตาเจียนจะไหลแต่ก็ต้องกลั้นเอาไว้สุดกำลัง
“อ๋อ ค่ะ...”
“คุณคงไม่ได้ไม่พอใจใช่ไหมพิชา”
“ไม่ค่ะ พิชารู้ดีว่าตัวเองรู้สึกได้แค่ไหนค่ะ”
“ดีมาก นี่แหละที่ผมชอบ ผู้หญิงว่านอนสอนง่าย ไม่งี่เง่า ไม่สร้างความรำคาญให้กับผม”
แล้วเขาก็ทำเหมือนเคยนั่นก็คือดึงหล่อนเข้ามากอดและจูบแก้มเบาๆ เป็นรางวัล จากนั้นเขาก็ลงไปจากเตียงนอน
หล่อนเห็นเขาหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่เลยก็อดถามไม่ได้
“คุณหมอไม่... อาบน้ำก่อนเหรอคะ พิชาอยากอาบน้ำให้คุณหมอน่ะค่ะ”
“มันเป็นความคิดที่ดีนะ แต่ผมไม่มีเวลาแล้วน่ะสิ เอาไว้ครั้งหน้านะพิชา”
หล่อนจะทำอะไรได้ล่ะ นอกจากตอบรับด้วยรอยยิ้มฝืนๆ
“ค่ะ คุณหมอ”
แล้วเขาก็จากไป...
จากไปราวกับไม่เคยมีอยู่จริง...
มีเพียงร่องรอยยับย่นของผ้าปูเตียงกับความเจ็บระบมในร่องสาวเท่านั้นที่ทำให้รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความฝัน
น้ำตาที่สะกดกลั้นเอาไว้ตลอดระยะเวลาที่อยู่ต่อหน้าพิริยะค่อยๆ ไหลรินออกมา จนในที่สุดใบหน้าเศร้าหมองของหล่อนก็เปียกชุ่ม
เมื่อไหร่นะ หล่อนถึงจะเข้มแข็งและสามารถเดินออกไปจากวังวนนี้ได้สักที...