ลี่อินยิ้มกว้างเมื่อน้องชายรับปาก ชีวิตนี้เธอมีเพียงฉีหลินเท่านั้นที่เป็นครอบครัว และน้องชายคือคนที่เธอรักมากที่สุด เธอไม่ต้องการให้น้องอยู่อย่างลำบากในบ้านหลังนี้
ในเมื่อเธอมีมิติพร้อมระบบฟาร์ม เธอจึงอยากให้น้องได้กินดีอยู่ดี จนกว่าจะถึงวันที่เธอจะขยับขยายออกจากหมู่บ้านแห่งนี้เมื่อถึงเวลา
ส่วนป้าต้วน เธอยังมีโอกาสตอบแทนโดยไม่ต้องบอกความลับของตนเอง
“อาฉีหลับตาและจับมือพี่ไว้ พี่จะพาไปยังที่แห่งหนึ่ง ในนั้นมีที่นอนให้อยู่อย่างสบาย มีอาหารให้กินตามที่อาฉีต้องการเลยละ”
“จริงหรือครับพี่ใหญ่ มีที่นอนนุ่ม ๆ ด้วยไหม”
“มีสิ มีที่นอนนุ่ม ๆ มีผ้าห่มหนา ๆ และอบอุ่นมากด้วย” ลี่อินยิ้มให้น้องชาย ก่อนที่จะจับมือฉีหลินและพาเด็กน้อยเข้ามิติ
“ลืมตาได้แล้วครับอาฉี” ลี่อินเอ่ยกับน้องชายเมื่อเข้ามาถึงด้านใน
“สวัสดีอีกครั้งเจ้านาย คุณชายน้อยฉีหลิน”
“หวาย... เสียงอะไรฮะพี่ใหญ่ ผะ…ผีหรือเปล่า” ฉีหลินลืมตกใจเรื่องที่เข้ามาในบ้านหลังใหญ่ แต่กลับตกใจเสียงของเหมยจู จนต้องมาหลบอยู่ข้างหลังลี่อิน
“เจ้านายดูคุณชายน้อยฉีหลินสิ มองเหมยจูเป็นผีไปเสียแล้ว” เหมยจูผู้ช่วยในมิติเอ่ยขึ้นด้วยความน้อยใจ
“เป็นใครก็ตกใจไหม มีแต่เสียงแต่ไม่มีตัวตน” ลี่อินหัวเราะเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เธอเองยังตกใจแล้วฉีหลินอายุเพียงห้าขวบไม่ตกใจก็แปลกแล้ว
“อาฉี พี่สาวคนนี้ชื่อเหมยจู เขาเป็นคนดูแลที่นี่ อาฉีไม่ต้องกลัวนะ ลองพูดคุยกับเหมยจูดูสิ” ลี่อินหมุนตัวกลับมาหาน้องชาย ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ฉีหลินค่อย ๆ โผล่หน้าออกมา และใช้สายตาของตนกวาดมองหา แต่ก็ไม่เจออย่างที่พี่สาวบอก เด็กน้อยพยายามใจสู้เอ่ยแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับพี่สาว ผมชื่อฉีหลิน เป็นน้องชายพี่ใหญ่ ฝากตัวด้วยนะครับ”
“สวัสดีค่ะคุณชายน้อยฉีหลิน ฉันชื่อเหมยจู เป็นคนดูแลที่นี่ค่ะ มีอะไรให้เหมยจูรับใช้บอกได้เลยนะคะ”
“เอ๋ พี่ตอบผมได้ แสดงว่าพี่ไม่ใช่ผี”
“ใช่ค่ะ ตัวตนเหมยจูถูกสร้างขึ้นมาด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ดังนั้นจึงมีเพียงเสียง แต่เมื่อไรที่ระบบถูกพัฒนา เหมยจูอาจจะมีรูปร่างเหมือนกับมนุษย์ แต่นั่นคงอีกนานค่ะ เวลานี้คุณชายน้อยและเจ้านายไปพักผ่อนก่อนดีกว่า ใกล้จะสว่างแล้ว ว่าแต่เช้านี้จะกินอะไรกันดีคะ เหมยจูจะเตรียมไว้ให้”
ในขณะที่เหมยจูพูดอยู่นั้น ภาพจอใหญ่ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าของสองพี่น้อง ซึ่งมีอาหารให้เลือกมากมายและหลายเชื้อชาติ ซึ่งลี่อินมีความทรงจำของลี่ซินเธอจึงไม่แปลกใจ เพราะล้วนเคยกินมาบ้างแล้ว แต่เด็กน้อยอย่างฉีหลินกลับตาโตด้วยความตื่นเต้น
“อาฉีอยากกินอะไรชี้บอกพี่เหมยจูเลย” ลี่อินเข้าใจและดีใจที่น้องชายมีแววตาเหมือนเด็กน้อยทั่วไปเมื่อเห็นสิ่งที่แปลกตา
“อาฉีกินของพวกนี้ได้จริงหรือพี่ใหญ่ แล้ว...แล้วอาฉีเอากลับไปฝากบ้านต้วนได้ไหม”
“คุณชายน้อยสามารถกินได้ทุกอย่างค่ะ แต่ไม่สามารถนำอาหารในคฤหาสน์ออกไปนอกมิติได้ นอกจากผลผลิตที่อยู่ในระบบฟาร์ม”
“ครับ” แม้จะเสียดายที่เอาไปฝากป้าต้วนไม่ได้ แต่ฉีหลินก็เข้าใจ ก่อนจะชี้บอกว่ามื้อเช้าต้องการกินอะไร ส่วนลี่อินเลือกอาหารเช้าทั่วไป จากนั้นสองพี่น้องจึงเดินขึ้นชั้นบน
“อาฉีนอนห้องนี้ได้ไหม พี่จะนอนอยู่ห้องข้าง ๆ”
“ได้ครับพี่ใหญ่”
“อาฉีอย่าเศร้าไปเลย แม้อาฉีจะเอาอาหารออกจากที่นี่ไปฝากป้าต้วนกับลุงไม่ได้ แต่เราสามารถซื้อของฝากได้ อาฉีเข้าใจพี่ใช่ไหม” ลี่อินกลัวน้องเสียใจเลยคิดจะอธิบาย
“อาฉีเข้าใจครับพี่ใหญ่ ถึงอาฉีจะยังเด็ก แต่อาฉีรู้ อาฉีจะไม่ทำให้พี่ลำบากใจแน่นอน”
“เก่งมากเด็กดีของพี่ และไม่โกรธใช่ไหมที่ต้องแยกห้องนอนกับพี่”
“ไม่ครับ อาฉีโตแล้ว พี่มีงานที่ต้องทำกับพี่สาวเหมยจู อาฉีนอนได้ แล้วอันนี้อะไรครับ” ฉีหลินตอบกลับด้วยท่าทีเกินอายุ จนลี่อินคลายกังวลกลัวน้องจะคิดมาก ก่อนฉีหลินจะเอ่ยถามในสิ่งที่ตนสงสัย
“อันนี้เขาเรียกว่าโทรทัศน์ อาฉีอยากดูไหม”
“โทรทัศน์คืออะไรครับพี่ใหญ่” ฉีหลินไม่เคยเห็นมาก่อน อีกทั้งหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กน้อยจะไม่เคยเห็น
ลี่อินจึงอธิบายให้น้องชายฟังด้วยความเอ็นดู หากได้ดูการ์ตูนน้องชายเธอคงไม่นอนแน่
“มีภาพด้วย”
“ใช่แล้ว แต่อาฉีต้องสัญญาว่าจะรีบนอน ตอนนี้ยังง่วงอยู่ไหม”
“ไม่ง่วงครับ เดี๋ยวก็สว่างแล้ว อาฉีขอดูได้ไหม” ฉีหลินเงยหน้ามองพี่สาว พร้อมกับส่งสายตาอ้อน นี่จึงทำให้ลี่อินอดที่จะพยักหน้าไม่ได้
“ตกลง แต่ถ้าง่วงก็อย่าฝืน อาฉีสามารถดูได้ทุกวันและตลอดเมื่อเราเข้ามาในนี้”
“ตกลงครับ”
เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ลี่อินจึงเดินกลับห้อง ก่อนจะล้มตัวนอนด้วยความอ่อนเพลีย ทว่าฉีหลินนั้นกลับไม่มีอาการง่วงให้เห็น เด็กน้อยสนใจการ์ตูนในโทรทัศน์มากกว่า
“คุณชายน้อย เหมยจูเข้าไปได้ไหม”
เมื่อได้ยินเสียงของเหมยจู ฉีหลินได้แต่เกาหัวแกรก ๆ และคิดในใจว่า ในเมื่อพี่สาวเหมยจูไม่มีตัวตน ทำไมต้องขออนุญาตด้วย แต่ก็ตอบกลับไปแต่โดยดี
“เข้ามาได้ครับ”
พึ่บ !!
“อาหารว่างค่ะ เหมยจูคิดว่าคุณชายน้อยวัยแค่นี้ควรจะกินนมและขนมที่มีประโยชน์ เหมยจูเอามาให้ ให้เหมยจูอยู่ด้วยไหม เหมยจูมีประโยชน์นะคะ สอนหนังสือได้ด้วย อีกไม่นานคุณชายน้อยต้องเข้าโรงเรียนแล้ว”
“ขอบคุณครับพี่เหมยจู อาฉีกินได้ใช่ไหม”
“กินได้สิคะ คุณชายน้อยอยากกินอะไรบอกเหมยจูได้เลย”
ในระหว่างที่กินนมและขนม ฉีหลินเริ่มจะคุ้นเคยเสียงของเหมยจู เด็กน้อยจึงไม่มีความกลัวอีกแล้ว และเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น
“อาฉีอยากเรียนนะพี่เหมยจู แต่ไม่อยากให้พี่ใหญ่ลำบากต้องทำงานหนักเพื่อส่งอาฉีเรียน อาฉีพอจะช่วยอะไรพี่ใหญ่ได้บ้างไหมครับ”
“คุณชายน้อยสามารถช่วยเจ้านายได้ค่ะ โดยการทำตัวดีและเก็บเรื่องมิติแห่งนี้ให้เป็นความลับ ส่วนเรื่องเรียนคุณชายน้อยไม่ต้องเป็นกังวล เมื่อไรที่ระบบฟาร์มอัปเลเวลและเปิดระบบภายนอกได้แล้ว ก็สามารถนำผลผลิตในฟาร์มออกไปขายได้ ส่วนของในคฤหาสน์ ต้องรอให้เลเวลอัปเหมือนกัน”
“อาฉีไม่เข้าใจหรอกว่าที่พี่เหมยจูพูดมันคืออะไร แต่อาฉีเข้าใจเรื่องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ อาฉีรักพี่ใหญ่
อาฉีไม่อยากให้พี่ใหญ่จากไปเหมือนพ่อกับแม่ อาฉีมีครอบครัวเป็นพี่ใหญ่เท่านั้น อาฉีรู้ว่าบ้านย่านั้นรังเกียจอาฉี คิดว่าอาฉีเป็นตัวซวย”
“คุณชายน้อยไม่ใช่ตัวซวยเลยนะคะ ไม่เช่นนั้นระบบและมิติพวกนี้คงไม่โผล่มา ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเจ้านายไปช่วยคุณชายน้อยตกน้ำ อย่าโทษตัวเอง หากอยากช่วยเจ้านาย คุณชายน้อยต้องตั้งใจเรียนและเป็นคนดี นี่คือสิ่งตอบแทนที่มีค่าที่สุดของเจ้านาย เหมยจูเชื่อแบบนั้น และนี่คือของขวัญสำหรับเด็กดี เหมยจูให้คุณชายน้อยค่ะ”
เหมยจูพูดให้กำลังใจ ก่อนจะมีของเล่นเสริมสร้างพัฒนาการวางไว้ตรงหน้าของฉีหลิน
“ขอบคุณครับพี่เหมยจู”
ฉีหลินยิ้มกว้าง จากนั้นเหมยจูจึงใช้ระบบเสียงของตนเองสอนวิธีการเล่นของพวกนี้ให้กับฉีหลิน กลายเป็นว่าเด็กน้อยเรียนรู้เร็ว และเล่นจนลืมว่าตัวเองนั้นต้องนอน
เช้าวันต่อมา...
สองพี่น้องลงมาด้านล่าง เหมยจูเตรียมอาหารไว้ให้แล้ว ก่อนที่จะลงมือกินมื้อเช้าอย่างเอร็ดอร่อย ฉีหลินเองก็ยิ้มหน้าบานเมื่อได้กิน และได้ของเล่นที่ไม่เคยมีมาก่อน
“เหมยจูอยากเอาเสื้อผ้าให้เจ้านายและคุณชายน้อยเปลี่ยนนะคะ แต่เวลานี้ระบบภายนอกยังไม่เปิด หากเจ้านายและน้องชายออกไป คงร่างกายเปล่าเปลือย เช่นนั้นใส่ชุดเดิมไปก่อนนะ” เหมยจูเอ่ยเสียงอ่อย คิดว่าตัวเองนั้นยังไม่มีความสามารถพอ เลยทำให้เอาของใช้ต่าง ๆ ออกจากมิติแห่งนี้ไม่ได้ ซึ่งระบบของคฤหาสน์และระบบฟาร์มมีจุดที่แยกกัน
“อืม เดี๋ยวฉันค่อยมาพัฒนาระบบให้ อย่าลืมสิ หากระบบฟาร์มเปิดโลกภายนอก นอกจากของในฟาร์มแล้ว อย่างอื่นก็สามารถทำเงินให้ฉันได้เหมือนกัน”
เวลานี้ลี่อินเข้าใจถึงระบบแล้ว ในเมื่อเธอมีความทรงจำของลี่ซิน ความเป็นอัจฉริยะที่มีเธอต้องทำให้มันเกิดประโยชน์กับตนเองและน้องชายให้ได้มากที่สุด และเธอจะไม่หยุดพัฒนาระบบ ในเมื่ออุปกรณ์พร้อม สมองพร้อม เธอต้องทำให้มันไม่มีขีดจำกัด และเธอต้องการสร้างห้างสรรพสินค้าในระบบเกมฟาร์มแห่งนี้ด้วย ไม่เชื่อก็คอยดู !!