“จริงสินะ นิสัยเสีย ขี้วีน โวยวายไม่เลือกหน้าขนาดนี้ ใครเขาจะจ้างเธอล่ะธัญพิชชา” อดีตนางเอกสาวพึมพำถามตัวเอง ใบหน้างามเศร้าสลด ดวงตาแห้งผากไร้น้ำหล่อเลี้ยง ร่างบางระหงเดินตามพิมพ์มาดาไปขึ้นเครื่องบินด้วยอาการเหม่อลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พอทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ภายในเครื่องบินแล้ว ก็นึกถึงการใช้ชีวิตที่ผ่านๆ มาของตนเอง ที่ได้ใช้ชีวิตอย่างประมาท ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือย กระเป๋าใบละแสนสองแสนถึงหลักล้านก็เคยซื้อมาแล้ว รองเท้าคู่ละแสนก็เคยกว้านซื้อมาทั้งคอลเลคชั่นแล้ว เครื่องประดับที่มองดูแล้วไม่มีคุณค่า ไม่ควรแก่การหยิบจับมาสวมใส่ ทว่าราคากลับสูงพุ่งพรวดเหยียบหลักหมื่นหลักแสน เธอก็เคยซื้อมาประดับร่างกาย หยิบฉวยมาใช้แค่เพียงครั้งสองครั้งพอเบื่อหรือมองดูว่าล้าสมัย ไม่โก้ไม่หรูหรา ก็โยนทิ้งลงทั้งขยะ โดยไม่คิดเลยว่าตนเองกำลังโยนเงินหมื่นเงินแสนทิ้ง ไม่เคยคิดเสียดายข้าวของ คิดแค่ว่าวันพรุ่งนี