"โอ๊ย..ซี๊ดด" จะร้องเจ็บแรงกว่านี้ก็ไม่กล้าเดี๋ยวลูกน้องรู้ว่าจอด ชายร่างสูงค่อยๆ ขยับตัวลงจากเตียง สองมือกุมน้องชายที่ถูกเธอเล่นงานเมื่อสักครู่ไว้
นิ้วชี้ยกขึ้นมาชี้หน้าเธอก่อนที่จะค่อยๆ ถอยออกจากห้องไป
"สมน้ำหน้า" หญิงสาวลุกขึ้นแล้วรีบไปปิดประตูห้องไว้ เธอมองหาอะไรก็ได้ที่สามารถดันประตูได้ แต่ในนี้ก็มีแค่ตู้กับเตียง
"ทำไมออกมาเร็วจังครับพ่อเลี้ยง"
"เรื่องของกู พวกมึงสองคนเฝ้าอยู่ที่นี่ ส่วนมึงตามกูมา" พ่อเลี้ยงพันฤทธิ์สั่งให้เชี่ยวชาญตามมาขับรถให้
"เราจะไปไหนกันครับ"
"ไปหาไอ้หมอ"
"ใครเป็นอะไรครับพ่อเลี้ยง"
"มึงไม่ต้องถามมากได้ไหม ขับรถเบาๆ ด้วยล่ะ"
เชี่ยวชาญมองผ่านกระจกดูใบหน้าของพ่อเลี้ยงที่นั่งอยู่ด้านหลัง แต่ก็ดูไม่มีอะไรผิดปกติ
[คลินิกในตัวอำเภอ]
"มีอะไรทำไมโทร ให้ออกมาหาดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้วะ" นายแพทย์กฤษณะเป็นเจ้าของคลินิกแห่งนี้ และเป็นเพื่อนรักของพ่อเลี้ยงพันฤทธิ์
"มึงช่วยดูกล่องดวงใจให้กูหน่อยสิวะ" เจ็บนะไม่ใช่ไม่เจ็บ แต่ก็ยังทนมาจนถึงมือหมอ
"หึหึ ไปโดนอะไรมาวะ"
"มึงจะขำกูอีกนานไหม ดูให้หน่อยว่ากูจะยังใช้งานได้ไหมเนี่ย"
"มึงแค่บอกมาว่าถูกอะไร เดี๋ยวกูจะจัดยาให้ไม่ต้องดูหรอก"
"เข่า"
"ฮ่าา" กฤษณะแค่อยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นใช้อวัยวะส่วนไหน พอรู้ว่าเป็นเข่าก็นึกถึงท่าทางได้
"ถ้ามึงไม่ใช่เพื่อนกูนะ กูสั่งเก็บมึงแล้วไอ้กฤษ! โอ๊ยย" จะใส่อารมณ์มากก็ไม่ได้เพราะมันสะเทือนถึงกล่องดวงใจ
"เก็บแรงไว้หายใจก่อนดีกว่าไหมมึง หึหึ" กฤษณะอยากเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเลยว่าเป็นคนยังไงถึงเล่นงานไอ้พ่อเลี้ยงเพื่อนรักได้
พอได้ยาเป็นที่เรียบร้อยพันฤทธิ์ก็ให้ลูกน้องพามาพักที่บ้านในตัวอำเภอ
เวลาเดียวกันนั้นบ้านหลังที่อยู่ในป่า..
วันจันทร์นอนไม่ค่อยหลับกลัวว่าเขาจะเข้ามาเอาคืน เธอก็เลยพลอยระแวงจนนอนไม่ได้
ตอนนี้ไม่ได้กลัวว่าจะพลาดเสียตัวอย่างเดียวแล้ว กลัวว่าเขาจะเอาคืนมากกว่า เล่นงานเขาไปหลายครั้ง ถ้าตายอยู่ในป่าแบบนี้คงไม่มีใครรู้ แต่ก็ช่างเถอะ ถึงรู้ก็คงไม่มีใครเสียใจกับเธอหรอก
เช้าวันต่อมา..
"ทำไมในห้องเงียบจังวะ"
"เรื่องนั้นช่างมันเถอะแต่แกว่าเมื่อคืนพ่อเลี้ยงเจออะไร ทำไมถึงรีบออกมาจากห้องนั้น"
"คงเจอดีเข้าให้ล่ะสิ"
"กูก็ว่าเหมือนมึง แล้วพ่อเลี้ยงจะเก็บผู้หญิงคนนี้ไว้ทำไมวะ"
"เก็บไว้ทำไมมึงก็รู้ นั่นผู้หญิงของพ่อเลยนะ"
"ผู้หญิงของพ่อก็ของพ่อเถอะ ฆ่าหมกศพไว้ในป่าก็ไม่มีใครรู้แล้ว"
อึก! วันจันทร์ที่เอาหูแนบกับประตูแอบฟังอยู่ถึงกับรีบถอยออกไป พวกนี้โหดร้ายกว่าที่เธอคิด มันฆ่ามากี่คนแล้วเนี่ย
ที่เธอเอาหูแอบฟัง เพราะเริ่มจะหิวข้าวทำไมพวกเขาถึงไม่หาอะไรมาให้ แต่สิ่งที่ได้ยินมันทำให้เธอหวาดกลัวมาก
บ่ายคล้อยวันเดียวกัน..
ตอนเช้าพวกมันเปิดประตูให้เธอออกไปทำกับข้าว วันนี้วันจันทร์ทำกับข้าวอร่อยมาก เพราะเธอไม่กล้าทำรสชาติเหมือนเดิม
วันจันทร์ทำอาหารไว้เยอะ คงพอกินได้สองมื้อ ตอนเย็นเธอถึงจะออกไปทำใหม่อีกที
เราจะช่วยทำแผนของพ่อเลี้ยงนั้นต่อหรือหาทางหนีดี ถ้าเธอมีแรงเหมือนผู้ชายคงพังหน้าต่างออกไปได้แล้ว
ดึกๆ คืนเดียวกันสถานบันเทิงในตัวอำเภอ
"พ่อเลี้ยงขา นานแล้วนะคะ" นิ้วเรียวของหญิงสาวที่นั่งอยู่บนตักเขี่ยหน้าอกแน่นๆ ของพ่อเลี้ยงพันฤทธิ์เบาๆ
"ไม่กลัวเจ็บตัวอีกหรือไง" กับผู้หญิงพวกนี้เขาชอบใช้ความรุนแรงมันถึงใจดี
"อยากเจ็บตัวค่ะ" เจ็บตัวนิดเจ็บตัวหน่อยแต่ว่าเงินที่ได้มาอยู่ได้เป็นเดือนๆ เลย มันคุ้มกับการลงทุนมาก
อยู่ดีๆ ร่างเล็กของคนนั่งอยู่บนตักก็ถูกจับทุ่มลงบนโซฟาแบบไม่ทันตั้งตัว
"โอ๊ย" ตามด้วยเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ถูกกระชากออก แต่หญิงนางนั้นก็ยังคงนอนให้พ่อเลี้ยงกระทำ "ต่อสิคะพ่อเลี้ยงขาา" อยู่ดีๆ เขาก็หยุด จนผู้หญิงที่ทำงานสถานบันเทิงขอให้เขาทำต่อ
ที่พันฤทธิ์หยุดกลัวว่ามันจะเลยเถิดจนหยุดตัวเองไม่ได้เหมือนครั้งก่อน
แต่พอเห็นผู้หญิงนอนให้ท่า มือหนาก็ดึงเข็มขัดออกมา แล้วก็ฟาดลง..
"ซี๊ดดด แรงกว่านี้ค่ะพ่อเลี้ยงขา"
เพี๊ยะ!
"โอ๊ยย ต่อเลยค่ะ" ร่างของผู้หญิงนางนั้นมีเลือดซิบออกมาให้เห็นบ้างแล้ว
สายตาคมมองดูเหยื่อที่อยู่ตรงหน้า ยิ่งเห็นผลงานนั้นมันยิ่งทำให้อุณหภูมิเลือดในกายของเขาเพิ่มสูงขึ้น
มือหนาเอื้อมมาแกะกระดุมกางเกงแล้วก็รูดซิปลง พอซิปถูกรูดลงมาจนถึงช่วงล่าง มือนั้นก็ไปสัมผัสถูกกล่องดวงใจ ความเจ็บที่เธอฝากไว้เมื่อวานนี้ยังคงไม่จางหายไปไหน เพียงแต่ว่ามันไม่เจ็บมากแล้ว
"เดี๋ยวก่อนสิคะพ่อเลี้ยง" วิไลวรรณรีบดันตัวลุกขึ้น แต่ด้วยความเจ็บปวดที่ถูกเข็มขัดฟาดบนร่างกายทำให้ลุกขึ้นไม่ได้
"เอาเงินไปให้เธอ" พันฤทธิ์สั่งลูกน้องที่ยืนรออยู่หน้าประตูแล้วก็ออกมาที่รถ
เชี่ยวชาญจัดการให้เจ้านายเสร็จก็รีบตามออกมา "เราจะไปไหนกันต่อดีครับ"
"ไม่รู้"
เชี่ยวชาญก็เลยขับรถพาพ่อเลี้ยงกลับมาที่บ้านพักในตัวอำเภอก่อน
"ยังไม่มีข่าวอะไรจากพ่อกูเลยเหรอ"
"ยังไม่มีข่าวอะไรเลยครับ"
"กลับบ้าน"
"บ้านไหนครับ"
"ปางไม้"
"ครับ?" ที่เชี่ยวชาญแปลกใจ เพราะเจ้านายจะเอาหน้าที่ไหนไปเจอพ่อ ลักพาตัวผู้หญิงของท่านออกมาแบบนี้
"กูบอกให้กลับบ้านไงวะ" พันฤทธิ์แค่อยากจะรู้ว่ามันเป็นแบบที่ตัวเองคิดไว้ไหม ถ้าเป็นแบบที่คิดจริงพ่อกำลังจะทำอะไร
ใช้เวลาร่วมชั่วโมงกว่าจะขับรถมาถึงปางไม้ และตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว เหลือแค่ลูกน้องที่เฝ้าเวรยามของพ่อเลี้ยงอิทธิพล
เช้าวันต่อมาที่โต๊ะอาหาร..
ขณะทานข้าวอยู่พ่อเลี้ยงอิทธิพลก็กรอกหางตามองดูลูกชาย
ส่วนลูกชายถึงแม้ไม่มองไป ก็รู้ว่าพ่อกำลังมองตนอยู่ แต่ที่พ่อพูดอะไรไม่ได้เพราะคนที่นั่งร่วมทานข้าวด้วยก็คือแม่
"เพื่อนไม่คิดว่าพี่ใหญ่จะมาทานข้าวที่บ้าน" พะเพื่อนเพิ่งรู้ว่าพันฤทธิ์มาค้างที่นี่เมื่อคืนนี้ พอมาถึงพะเพื่อนก็นั่งเบียดลงข้างๆ
หลังทานข้าวเสร็จ..
"นานเท่าไรแล้วที่พี่ใหญ่ไม่พาเพื่อนออกไปดูหนัง"
"พี่ไม่ว่างหรอก"
"ช่วงนี้พี่ใหญ่ไม่ได้ทำงานอะไรสักหน่อยทำไมถึงไม่ว่างคะ"
"ตาใหญ่มาคุยกับแม่หน่อย" สายตากนกจันทร์มองไปที่พะเพื่อนแบบไม่ปลื้ม
"ครับ"
"เพื่อนจะรออยู่นี่นะคะพี่ใหญ่"
"ไม่ต้องรอ มีอะไรทำก็ไปทำ"
"กว่าจะได้เจอหน้าพี่สักครั้งมันยากลำบาก..ก็ได้ค่ะ" พะเพื่อนหมุนตัวแล้วก็เดินออกไป
"มีอะไรครับแม่"
"กับแม่นั่นแม่ขอไว้แล้วใช่ไหม"
"พะเพื่อนน่ะหรือครับ แม่ก็อย่าลืมสิครับว่าผมกับพะเพื่อนเป็นพี่น้องกัน"
"แต่มันไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ"
"มันไม่มีทางเกิดขึ้นได้หรอกครับแม่"
"กับลูกน่ะไม่มีทางเกิดขึ้นแต่กับแม่นั่นดูให้ท่าเกินงาม"
"หึหึ ถ้าแม่กลัวเรื่องนี้ก็ไม่ต้องกลัวหรอกครับ ผู้หญิงข้างนอกยังมีอีกเยอะ"
"เรื่องผู้หญิงข้างนอกก็เหมือนกัน อย่าให้แม่ได้ยินนะว่าไปทำร้ายผู้หญิงที่ไหนอีก เดี๋ยวตำรวจก็ตามมาถึงบ้าน"
พันฤทธิ์ถูกแม่บ่นก็เลยออกมาจากบ้านก่อน ทีแรกคิดว่าจะมาดูปฏิกิริยาของพ่อ แต่แม่กลับไม่เปิดโอกาสให้เลย
"เราจะไปไหนกันต่อครับ" เชี่ยวชาญถามผู้เป็นเจ้านายโดยการมองผ่านกระจก
"ไปบ้านในป่า"