เอยนั่งเล่นโทรศัพท์เงียบๆระหว่างรอเสี่ยเบลทำงานแต่สงสัยจะกินหมูกระทะมากเกินไปถึงได้ง่วงจนแทบลืมตาไม่ขึ้นแบบนี้ เธอเริ่มเอนตัวลงนอนแล้วฝืนเล่นโทรศัพท์ต่อไปทั้งที่เปลือกตาหนักอึ้งแทบจะขยับเปิดออกไม่ไหวแล้ว
หวังว่าเสี่ยเบลจะปลุกกันนะ!
"หนู...หลับแล้วเหรอ?" มองดูเวลาตอนนี้ก็ห้าทุ่มนิดๆแล้วคงจะง่วงมากเพราะก่อนหน้านี้อ่านหนังสือหนักเกินไป เขาวางมือจากงานแล้วเดินไปอย่างเงียบๆจับแขนเล็กเขย่าเบาๆปลุกให้ตื่นเพราะเดี๋ยวจะพากลับบ้านแทน
"จะกลับแล้วเหรอคะ?" น้ำเสียงงัวเงียถาม
"อื้ม คืนนี้ค้างที่บ้านเสี่ยนะแล้วพรุ่งนี้ไปฉลองวันเกิดกัน" ก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่ายังไงซะคืนนี้เขาจะพาเธอไปค้างที่บ้านแล้วยกเค้กให้เป่าเทียนตามลำพังในเวลาเที่ยงคืนจากนั้นวันพรุ่งนี้ก็จะใช้เวลาอยู่กับเธอทั้งวัน
เอยอายุสิบแปดแล้วนะ!
เขารอดจากคดีพรากผู้เยาว์แล้ว!!
"ค้างบ้านเสี่ยเบล!"
"ตกใจอะไรแค่ค้างบ้านแฟนเอง เสี่ยไม่ทำอะไรหรอกถ้าหนูไม่เต็มใจ"
"โกหกหนูรึเปล่าเนี่ย?"
"ที่ผ่านมาเสี่ยไปห้องหนูออกจะบ่อยโอกาสมีให้ทำก็ตั้งเยอะเสี่ยยังไม่ทำอะไรเลย คืนนี้อยู่กับเสี่ยนะรู้ไหมว่าไม่เจอกันหลายวันแล้วคิดถึงมากขนาดไหน"
"บ้า!"
"สามเดือนกว่าแล้วนะที่เสี่ยจีบหนูเนี่ย"
"งั้นก็ได้ค่ะ แต่ว่าหนูไม่มีชุดใส่ไม่มีอะไรให้เปลี่ยนเลยนะมันจะวุ่นวายเปล่าๆ แล้วที่บ้านของเสี่ยเบลจะไม่ว่าเหรอที่หนูไปค้างด้วย หนูว่า…"
"เสี่ยอยู่บ้านคนเดียวครับ"
รถเบนซ์สีขาวคันเดิมที่นั่งประจำแล่นไปตามท้องถนนในเส้นที่ไม่คุ้นเคยเท่าไรนักเพราะไม่เคยมาในเวลากลางคืน เสี่ยเบลแวะจอดที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอยเพื่อซื้อของใช้ส่วนตัวของเธอและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ผสมค่อนข้างน้อยเหมาะสำหรับคนคออ่อนแบบเธอด้วย จากนั้นก็ขับรถเข้าไปในซอยอีกประมาณสิบนาทีก็ถึงบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่มากเหมาะสำหรับชายโสดแบบเขาที่สุดเลย
เดี๋ยวนะ! เสี่ยเบลไม่โสดแล้วนี่นา
เขาเป็นแฟนของเธอ
"เสี่ยลงรูปคู่กับหนูนะ"
"อื้ม"
"แถวๆนี้ค่อนข้างเงียบมากส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหลังใหญ่พื้นที่กว้างขว้างเลยไม่ค่อยมีใครรบกวนกันมาก รู้สึกว่าทั้งซอยนี้บ้านเสี่ยน่าจะเล็กที่สุดแล้วแหละ"
"ก็ไม่เล็กนะ!"
เบลลงจากรถแล้วจับมือข้อมือเล็กพาเดินเข้าไปในบ้านสีขาวสไตล์ญี่ปุ่นที่ค่อนข้างเรียบง่ายแต่อบอุ่นมาก ภายในบ้านก็ไม่ค่อยมีอะไรมากมายเนื่องจากว่าเขาไม่ค่อยชอบเฟอร์นิเจอร์ที่เยอะเกินไปเพราะว่ามันรกสายตาดังนั้นของหลายอย่างจะเป็นการสั่งทำเพื่อเอื้ออำนายความสะดวกและถูกใจเจ้าของบ้าน
ห้องนอนที่ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนนอกจากแม่บ้านและแม่เข้ามายังคงเป็นระเบียบเรียบร้อยดีทุกอย่าง เขาส่งเอยเข้าห้องน้ำก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหาชุดที่เด็กสาววัยสิบแปดปีที่มีขนาดตัวค่อนข้างมินิไซซ์ด้วยความหนักใจเพราะขนาดตัวของเราค่อนข้างต่างกันมาก
ตัวเขาสูงหนึ่งร้อยแปดสิบแปดเซ็นติเมตรส่วนเธอน่าจะสูงประมาณร้อยหกสิบเซ็นติเมตรมั้ง ในที่สุดก็ได้เสื้อยืดคอวีสีขาวกับกางเกงเตะบอลขาสั้นของเขาที่เธอน่าจะใส่ได้ไปวางไว้ให้ที่หน้าประตูห้องน้ำ
เด็กสมัยนี้มันน่าขย้ำจริงๆ
"มองอะไรคะ?"
"เปล่า ง่วงรึเปล่าเสี่ยมีอะไรจะให้"
"นาฬิกาก็ได้มาแล้วยังมีของขวัญอย่างอื่นอีกเหรอ?"
"มีสิ รออยู่ที่นี่นะเดี๋ยวเสี่ยมา"
"แล้วไม่อาบน้ำก่อนเหรอคะ?"
"เดี๋ยวค่อยอาบก็ได้"
เธอมองตามเสี่ยเบลด้วยความมึนงงเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าเขาต้องการจะให้อะไรอีก ลำพังนาฬิกาเรือนเดียวก็มากเกินไปแล้วด้วยซ้ำเนื่องจากราคาแพงพอสมควร ตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งพอดีเป๊ะและเมื่อเดินออกไปส่องกระจกไฟในห้องก็ดับสนิทจนน่ากลัวว่าจะถูกผีหลอกเข้า เธอยืนนิ่งตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูกแล้วไม่คิดว่ามาบ้านเสี่ยเบลครั้งแรกจะถูกผีหลอก
นี่มันวันเกิดนะให้โชคดีไม่ได้รึไง!
"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ครับ"
"เสี่ยเบล...ปิดไฟเหรอคะ?"
"ลืมตาแล้วมองมาทางเสี่ยสิเอย" เด็กหนอเด็กแค่ไฟดับนิดเดียวคิดอะไรเป็นตุเป็นตะไปได้ เขาปิดไฟทันทีที่ยกเค้กมาถึงหน้าห้องนี้กำลังจะอ้าปากร้องเพลงก็ต้องมาขำกับท่าทีตกใจจนหลับตาปี๋ตัวแข็งทื่อของเธอ
"อวยพรหนูก่อนสิ"
"ขอให้หนูสอบติดคณะแพทย์ตามที่หวังนะคนเก่ง"
"ขอบคุณนะคะ" เธอไม่คิดว่าเขาจะเซอร์ไพรส์อะไรแบบนี้เลยด้วยซ้ำ เสี่ยเบลถือเค้กที่ปักเทียนเป็นตัวเลขสิบแปดเท่าอายุของเธอพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างอบอุ่นมาก เพียงแค่เป่านิดเดียวเทียนก็ดับแล้วเราตกอยู่ในความมืดและเงียบมาก
มือใหญ่ประคองใบหน้าเล็กเสยขึ้นก่อนจะจูบที่หน้าผากอย่างเเผ่วเบาคล้ายเป็นการบอกให้รู้ว่าจุดต่อไปมันคือตรงไหนหากว่ายังไม่ห้าม หัวใจเต้นกระหนำรุนแรงด้วยความกลัวและตื่นเต้นในคราเดียวกัน มือเล็กกำแน่นตัวแข็งทื่อในขณะที่รู้สึกเหมือนจะหายใจหอบหนักยิ่งขึ้น ดวงตากลมโตปิดลงในทันทีเมื่อสัมผัสจากปลายนิ้วกดลงที่กลีบปากแผ่วเบาคล้ายว่าปลอบใจ
ตอนนี้ทั้งกลัวทั้งตื่นเต้นและอยากลอง