ดอกรักในมือมาร
บทที่ 5.(จุดเริ่มต้น)
Perm Talk.
ไร่ดอกรัก...
"ไอ้ดอกรัก!" พอเห็นคนตัวเล็กที่ใส่เสื้อลายสก๊อตตัวใหญ่กับสวมหมวกปีกกว้างกำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่กับกองซากเถ้าถ่านผมก็ตะโกนเรียกมันทันทีด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน
"เสี่ยเปรม..."
"ขนแกะที่มึงต้องเอาไปส่งกูอยู่ไหน?"
ผมไม่สนใจเสียงงุ้งงิ้งเหมือนลูกแมวที่เอ่ยเรียกชื่อผม แต่ย้อนถามมันกลับแทนทั้งที่รู้ดีอยู่แล้วว่ามันไม่มี
"ขนแกะถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว"
เสียงเล็ก ๆ ที่ผมคิดว่ามันพยายามจะดัดให้คล้ายผู้หญิงเอ่ยตอบแผ่วเบา ที่เคยคิดไว้คงจะจริงสินะ ไอ้นี่มันต้องเป็นกระเทยหรือพวกแอบจิตแน่ๆ
ผมคิดในใจอย่างรังเกียจ
หมับ!
"อ๊ะ! เจ็บ.."
ผมกระชากแขนเล็กบางมาไว้ในอุ้งมือ ก่อนจะกัดฟันถามเสียงเข้ม
"ไม่มีขนแกะ มึงก็ค*****นกูมาซะ คืนให้หมดทุกบาทอย่าให้ขาดแม้แต่สตางค์แดงเดียว! "
ใบหน้าเล็กๆ ภายใต้หมวกปีกกว้างส่ายไปมา และพยายามดึงแขนของตัวเองออกจากการเกาะกุมของผม แต่ผมยิ่งกระชับมือแน่นขึ้นจนมันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บ
ดวงตากลมโตเริ่มมีน้ำตาคลอที่หางตา แต่อย่าคิดว่าผมจะสงสาร จะว่าไปไอ้ดอกรักนี่มันก็อ้อนแอ้นบอบบางเหมือนผู้หญิงจริงๆ เหมือนกันนะ ผมไม่แปลกใจเลยสักนิดที่มันเบี่ยงเบนแบบนี้
"ว่าไง! ...เงินน่ะ...เอามาคืน! "
ผมเอ่ยเร่งเสียงดุดัน บีบแขนมันแรงๆ อย่างเอาเรื่อง และคราวนี้ไอ้ดอกรักก็ปล่อยน้ำตาไหลลงมาทันที
เห็นแล้วยิ่งหงุดหงิด!
"มึงจะร้องไห้ทำซากอะไร ไปเอาเงินมาคืนกู! "
"ฮึก! ...ไม่มี...เงินไม่มีแล้ว...ฮือๆ ๆ ..."
"มึงว่าไงนะ! "
ผมตวาดเสียงดัง เงื้อหมัดขึ้นจะต่อยหน้าไอ้ดอกรักมันทันที พูดหมาๆ แบบนี้อย่าได้ลอยหน้าลอยตาอยู่เลยมึง!
"อย่าครับเสี่ย! ใจเย็นๆ ก่อน! "
กำปั้นของผมไม่ได้กระแทกหน้าของไอ้ดอกรักอย่างที่ตั้งใจไว้ เพราะลุงเมฆดันเข้ามาขวางไว้ซะก่อน พร้อมกับกอดรัดตัวของผมไว้ไม่ให่พุ่งเข้าไปทำร้ายไอ้ดอกรักนี่ แต่อย่าคิดว่าผมจะหยุดทุกอย่างไว้แค่นี้
"มันโกงเรา ลุงจะให้ผมใจเย็นอยู่อีกเรอะ!? "
ผมถามลุงเมฆเสียงขุ่น เงินไม่ใช่บาทสองบาทใครจะยอมถูกโกงกันวะ!
"เสี่ยใจเย็นๆ ก่อน ลุงขอคุยกับคุณดอกรักเองครับ"
ผมสะบัดตัวออกจากลุงเมฆทันที ก่อนจะหันไปมองหน้าไอ้ดอกรักอย่างเอาเรื่อง
"คุยยังไงก็ได้แล้วแต่ลุง แต่ผมต้องได้เงินคืน! "
ผมบอกและยืนปักหลักฟังที่ลุงเมฆคุยกับไอ้ดอกรักอย่างคุมเชิงอยู่ใกล้ๆ
"เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย คุณดอกรักค*****นให้เสี่ยเปรมเถอะครับ เรื่องจะได้จบ"
หึ!
ผมกระตุกยิ้มขึ้นที่มุมปากทันที มันต้องอย่างนั้นสิลุงเมฆ แต่คำพูดที่ออกจากปากของไอ้ดอกรักนี่สิ ทำให้ผมหัวร้อนขึ้นมาอีกครั้ง!
"ฮึกก...เงินไม่มีแล้วจ้ะลุงเมฆ...ฮึกก...ดอกรักโอนไปเป็นค่ารักษาพยาบาลแม่หมดแล้ว..แม่ของดอกรักเป็นมะเร็งสมองระยะสุดท้าย...ฮึกก...แม่กำลังจะตาย...ฮือออ..."
"โกหก! "
ผมพูดสวนทันทีอย่างไม่เชื่อ! เมื่อคืนยายบุญช่วยเพิ่งจะบอกอยู่หยกๆ ว่ามันตัวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน แล้วจู่ๆ แม่ที่ป่วยใกล้จะตายของมันโผล่มาจากไหน!
"มึงโกหกไอ้ดอกรัก! "
"กูไม่ได้โกหก! "
เสียงเล็กตวาดแหวกลับมาเสียงดังลั่น!
"มึงกล้าขึ้นเสียงกับกูเหรอ!? "
ผมถามอย่างเอาเรื่อง และพุ่งเข้าไปหามันทันที แต่ลุงเมฆก็เข้ามาขวางผมไว้เหมือนเดิม
"เสี่ยใจเย็นๆ ก่อนครับ ค่อยๆ คุยกันคุณดอกรักเธอคงไม่มีจริงๆ ให้เวลาเธอหน่อยเถอะครับเสี่ย..."
คำพูดของลุงเมฆมันไม่ได้ทำให้ผมใจเย็นขึ้น แต่มันทำให้ผมได้คิดตามต่างหากล่ะ
"เอาอย่างนี้ มึงไปหาเงินมาใช้หนี้กูให้ได้ มึงจะทำยังไงก็ได้ จะขายที่ขายทาง ขายไร่นี้ หรือจะขายแพะขายแกะของมึง อะไรก็แล้วแต่ เรื่องของมึง แต่กูต้องได้เงินคืนเร็วที่สุด! "
"ไม่! ไม่มีทาง! กูจะขายแกะทั้งหมดก็ได้ แต่ไร่นี้กูไม่มีทางขายเด็ดขาด! "
"แล้วมึงจะเอายังไงวะ!? นู่นก็ไม่ขาย นี่ก็ไม่เอา กูจะบอกให้มึงรู้ไว้นะ ไอ้ลำพังฝูงแกะไม่กี่ตัวของมึงน่ะ ยังไม่พอค่าปรับและค่าเสียหายที่กูต้องจ่ายให้กับลูกค้าที่เขารอขนแกะจากมึงเลย"
ผมพูดอย่างหงุดหงิด
ไอ้ดอกรักมันเงียบไปทันที พลางก้มหน้าลงเหมือนกำลังใช้ความคิด แล้วมันก็เงยหน้าขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
"ถ้าอย่างนั้นกูจะทำงานใช้หนี้มึงเองเสี่ยเปรม งานอะไรก็ได้ในไร่ของมึง กูจะทำ"
ผมกระตุกยิ้มแบบชั่วร้ายขึ้นมาทันที ที่อยู่ๆ ไอ้ดอกรักนี่ก็ยื่นข้อเสนอดีๆ มาให้
เอาสิ...
ถ้ามันสะดวกแบบนั้น ผมก็ไม่ขัดศัทรา มาดูกันว่าคนอ้อนแอ้นบอบบางอย่างมันจะทนฟ้าทนฝนได้สักกี่น้ำ
"งั้นก็เริ่มงานของมึงได้เลย ส่วนเรื่องหนี้สิน กูจะให้ฝ่ายบัญชีสรุปยอดที่มึงต้องจ่ายมาให้มึงดู...ตามกูมานี่! "
พูดจบผมก็กระชากคอเสื้อดึงร่างเล็กๆ ให้เดินตามผมมาเพื่อเริ่มงานแรกของมันทันที
Perm End.