ดอกรักในมือมาร
บทที่ 3.(ผู้ชาย)
Perm Talk.
"ชิบหายแล้วไง! "
ผมสบทออกมาทันทีอย่างตกใจ ก่อนจะก้าวเท้าพรวดออกมาจากห้องและวิ่งออกจากบ้านไปทั้งที่ท่อนบนเปลือยเปล่า ผมออกวิ่งไป ไปไหนวะ ไร่ไอ้ดอกรักมันไปทางไหนวะเนี่ย(กูนี่ก็วิ่งออกมาได้ไม่ดูดินฟ้าอากาศ)
"ลุงเมฆโว้ย รีบนำไปสิวะ!"
ผมหยุดวิ่งและหันหลังไปตะโกนเรียกลุงเมฆที่วิ่งตามหลังผมมาติด ๆ แต่ในความรู้สึกของผมดูเหมือนว่าลุงแกจะเชื่องช้าไม่ทันใจผมเท่าไหร่นัก
"ทางนี้ครับเสี่ย! " ลุงเมฆร้องบอก จากนั้นก็วิ่งนำหน้าผมไปยังทางเข้าไร่ ก่อนจะลัดเลาะไปตามแปลงดอกเบญจมาศที่ชูช่อเหลืองอร่ามในความมืด
ลุงเมฆวิ่งนำผมมาจนถึงประตูท้ายไร่ที่ผมมายืนมองไอ้ดอกรักกับฝูงแกะของมันเมื่อตอนกลางวัน และเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมองไปบนท้องฟ้าที่แดงฉานเพราะเปลวไฟ ผมก็เห็นกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้ามองดูน่ากลัว
กระทั่งผมมาถึงที่ไร่ของไอ้คุณดอกรัก สิ่งที่ผมเห็นคือคนงานในไร่ของผมต่างพากันหาภาชนะที่พอจะใส่น้ำได้เพื่อไปช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกลามโรงเก็บอะไรสักอย่าง
เปลวไฟลุกลามขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีทีท่าว่าจะมอดดับลงง่าย ๆ ทุกคนรวมทั้งตัวผมต่างช่วยกันคนละไม้คนล่ะมือเพื่อจะดับไฟและป้องกันไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามไปยังบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ติดกัน
"ไฟดับแล้ว! เฮ ๆ ๆ"
ผ่านไปเกือบชั่วโมงเสียงกู่ร้องด้วยความดีใจของคนงานก็ดังขึ้น เมื่อเปลวเพลิงที่ลุกโชนมอดดับไปก่อนจะลุกลามไปที่อื่น แต่น่าเสียดายที่โรงเก็บของนั้นเหลือแค่เสากับเถ้าถ่าน ส่วนพวกเเกะลุงเมฆสั่งให้คนงานชายต้อนไปไว้ในไร่แล้วอย่างปลอดภัย
หลังจากที่เปลวเพลิงดับสนิท ผมกับลุงเมฆก็เดินไปที่บ้านไม้หลังเล็กที่ตอนนี้ยายบุญช่วยกำลังโอบกอดใครสักคนที่กำลังนั่งร้องให้เป็นวรรคเป็นเวรอยู่ตรงบันไดหน้าบ้าน ซึ่งผมเดาได้เลยว่านี่คือไอ้ดอกรักเจ้าของไร่นี้
สภาพของไอ้ดอกรักตอนนี้นั้นถูกคลุมตลอดตั้งแต่หัวลงไปด้วยผ้าเปียกน้ำผืนใหญ่ ใบหน้าของมันมอมแมมไปด้วยเถ้าถ่าน ผสมกับขี้มูกและน้ำตาแทบดูไม่ได้ มันร้องไห้สะอึกสะอื้นปานจะขาดใจจนผมเริ่มจะหมั่นไส้ขึ้นมาตะหงิด ๆ
'มันเป็นผู้ชายพันธ์ไหนวะ ร้องไห้ขี้มูกโป่งเป็นตุ๊ดเป็นแต๋วไปได้' ผมคิดในใจอย่างหงุดหงิด ขัดหูขัดตาเหลือเกินกับท่าทางนุ่มนิ่มผิดเพศของมัน
"คุณดอกรักเป็นยังไงบ้างครับ บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า?"
ลุงเมฆเอ่ยถามอย่างเป็นห่วงเป็นใย และไอ้คุณดอกรักของแกก็ตอบกลับมาเป็นเสียงสะอื้นพร้อมกับส่ายหัวดุ๊กดิ็ก
"มันต้องเป็นฝีมือของไอ้แซมแน่ ๆ มันคงแค้นที่คุณดอกรักไม่ยอมขายไร่ให้มันสักที" คำพูดของลุงเมฆเรียกความสนใจจากผมทันที
"นี่มันคงส่งคนมาเผาไร่ หวังจะขู่ให้คุณดอกรักกลัวแล้วยอมขายไร่ให้มันล่ะสิ"
"เดี๋ยวนะลุง ไอ้เเซมนี่มันเป็นใคร?" ผมอดที่จะถามด้วยความอยากรู้ไม่ได้
"ลูกคนมีเงินในเมืองนี้ครับเสี่ย ไอ้แซมมันกว้านซื้อที่แถวนี้ไปจนเกือบหมด ใครไม่ยอมขายมันก็ใช้วิธีสกปรกข่มขู่เขาจนต้องยอมขายให้มันจนได้ ตอนนี้ก็เหลือแค่ไร่ของเสี่ยกับไร่ของคุณดอกรักเท่านั้นแหล่ะครับที่ไม่ยอมขายให้มัน ลำพังที่ไร่ของเราน่ะไม่เท่าไหร่หรอกครับเพราะพวกมันพอจะรู้จักชื่อเสียงของเสี่ยปลื้มดีอยู่ สงสารก็แต่คุณดอกรักเธอไม่มีใคร"
คำบอกเล่าจากปากของลุงเมฆทำให้ผมหันกลับไปมองใบหน้ามอมแมของไอ้ดอกรักอีกครั้งอย่างเห็นใจ ก่อนจะเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเห็นว่ามันยังเอาแต่ร้องไห้สะอึกสะอื้นไม่ยอมหยุดทั้งที่ไฟก็ดับได้แล้ว ไม่รู้ว่ามันยังจะร้องไห้หาพระแสงด้ามไหนของมันอีก
"เออ ๆ ไฟก็ดับได้แล้ว ให้คนงานแยกย้ายกันไปพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องทำงานกันอีก"
ผมพูดตัดความรำคาญที่ลอยกรุ่นอยู่ในใจ แถมเริ่มจะหนาวขึ้นมาอีกต่างหาก เพราะตอนวิ่งออกจากบ้านมันตกใจเลยไม่ได้คว้าเสื้อใส่มาด้วย
"คืนนี้คงต้องให้คุณดอกรักไปค้างที่ไร่นะคะเสี่ยเปรม ขืนทิ้งคุณดอกรักไว้ที่นี่คนเดียว ไอ้พวกนั้นมันอาจจะย้อนกลับมาเล่นงานคุณดอกรักอีกก็ได้"
ยายบุญช่วยพูดขึ้นมาอย่างเป็นห่วงคนในอ้อมแขน มือเหี่ยวย่นของแกลูบหลังลูบไหล่ไอ้ดอกรักตลอดเวลาจนผมเกิดอาการหมั่นไส้ขึ้นมาอีก
"ญาติพี่น้องมันไม่มีรึไงยาย!?"
ผมถามเสียงห้วน ผมมันไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำอะไรหรอก แต่ทำไมผมถึงได้รู้สึกไม่ถูกชะตากับไอ้ดอกรักมันนักก็ไม่รู้ มันไม่มีสาเหตว่ะ รู้แต่ว่าไม่ชอบ!
"คุณดอกรักเป็นลูกคนเดียวค่ะเสี่ย หลังจากที่พ่อของคุณดอกรักเสียไป คุณดอกรักก็เหลือตัวคนเดียวมาตลอด สงสารเธอเถอะค่ะเสี่ยเปรม"
คำพูดของยายบุญช่วยทำให้ผมเงียบไปอึดใจอย่างใช้ความคิด ถ้าผมไม่ให้ไอ้ดอกรักมันไปนอนค้างที่ไร่ ผมก็จะดูเป็นคนใจร้ายมจดำใช่ไหม เฮ้อออ....ก็ได้วะ!
"ก็แล้วแต่ยายแล้วกัน พากันกลับไร่ได้ละ หนาวจะตายชัก!" พูดจบผมก็ก้มลงมองหน้าไอ้ดอกรักตัวปัญหาอย่างเอือมระอา ก่อนจะหันหลังเดินกลับไร่ไป
แต่พอกลับมาถึงบ้าน เรื่องขัดหูขัดตาก็เกิดขึ้นอีก เมื่อยายบุญช่วยประคับประคองไอ้ดอกรักเดินเข้ามาในบ้านราวกับไข่ในหิน!
"เดี๋ยวยาย นั่นยายจะพามันไปไหน?" ผมถามเสียงขุ่นอย่างไม่พอใจ
"ยายจะพาคุณดอกรักไปนอนกับยายไงคะ"
"ไม่ได้!" ผมตวาดเสียงดังจนยายบุญช่วยและคนในอ้อมแขนของแกถึงกับสะดุ้ง
"จะให้มันไปนอนกับยายได้ยังไง ไม่ได้โว้ย!"
ผมเริ่มอาละวาด นี่ยายบุญช่วยเพี้ยนไปแล้วรึไงจะให้ผู้ชายเข้าไปนอนในห้องด้วยเนี่ย ถึงแกจะแก่แล้วแต่ยังไงไอ้ดอกรักมันก็เป็นผู้ชายไหม มันไว้ใจกันได้ที่ไหน
"แต่คุณดอกรักเธอ..."
"ไม่มีแต่ยาย ผมบอกว่าไม่ได้ ก็คือไม่ได้!" ผมพูดสวนไม่ให้ยายบุญช่วยแกมีโอกาสได้พูดจนจบประโยค
"ถ้าอย่างนั้นจะให้คุณดอกรักเธอไปนอนที่ไหนล่ะคะ หรือจะให้ยายจัดห้องให้เธอใหม่"
"ตลกเหรอยาย นี่มันจะตีสี่แล้ว ยายไปนอนเถอะไป ส่วนมัน..."
ผมพูดพร้อมกับหันไปมองใบหน้าใบหน้ามอมแมมที่โผล่ออกมาจากผ้านั่น
"มึงไปนอนกับกู!" พูดจบผมก็คว้าแขนไอ้ตัวปัญหานี่ขึ้นมาและลากมันให้เดินตามผมทันที
"เสี่ยเปรม... มันจะดีเหรอคะ!?" ยายบุญช่วยร้องถามหน้าตาตื่น ผวาเข้ามาขวางผมไว้
"ให้มันไปนอนกับผม ถ้าไม่นอนก็ไสหัวออกไปจากไร่ได้เลย เดี๋ยวนี้ด้วย!"
Perm End.