ผมเห็นไอ้จืดนั่นทำตัวสนิทสนมเกินเหตุกับยัยจุ้น และความใกล้ชิดพวกนั้นอีกทำให้ผมโมโหหนักควันออกหูเดือดปุดๆ ตอนยัยจุ้นตามตื้อผมยังไม่เคยได้ใกล้ชิดตัวติดกันขนาดนี้เลย แล้วไอ้หน้าจืดนั่นมันเป็นใครทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของยัยจุ้นผมยอมไม่ได้ มันน่าโมโหให้ยัยจุ้นปล่อยตัวใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ ผมยอมให้ยัยจุ้นทำอย่างนั้นกับผมได้แค่คนเดียว เมื่อก่อนยังวิ่งตามผมอยู่ดีๆคิดจะเปลี่ยนใจไปจากผมมันไม่ง่าย ผมยอมไม่ได้ไม่อยากเสียฟอร์มและเสียแฟนพันธ์แท้ตัวยงให้ผู้ชายคนอื่น
"เดินเร็วๆสิยัยจุ้นไหนบอกว่าจะต้องซื้อของย้ายเข้าคอนโดใหม่ไม่ใช่เหรอ ชักช้าโอ้เอ้หาเรื่องถ่วงเวลาคงอยากอยู่กับพี่นานๆสินะบอกพี่ตรงๆเลยก็ได้ ไม่เจอกันนานคงคิดถึงพี่น่าดู มากอดพี่แน่นๆให้หายคิดถึงได้นะคราวนี้ยอมให้กอดนานๆ" ผมแกล้งพูดก่อกวนป่วนยัยจุ้นให้หัวเสียเล่นๆ เมื่อก่อนยัยจุ้นก็เคยทำให้ผมหงุดหงิดและหัวเสียอย่างนี้เหมือนกัน
"พี่จะมายุ่งกับข้าวปุ้นทำไมในเมื่อข้าวปุ้นก็มีคนที่อยากไปด้วยแล้วพี่ลากข้าวปุ้นมาทั้งที่ไม่เต็มใจ พี่อยากไปไหนหรืออยากไปจีบสาวที่ไหนก็เชิญไปตามสบายเราแยกกันตรงนี้ข้าวปุ้นจะไปกับกวินท์" ผมลากยัยจุ้นเดินมาไกลจากไอ้หน้าจืดขนาดนี้ ดูเหมือนยัยจุ้นจะยังคงอาลัยอาวรณ์อยากไปซื้อของกับไอ้หน้าจืดนั่น ไม่มีทางซะล่ะเคยตามจีบผมแบบไหนตอนนี้มันต้องเป็นอย่างนั้นจะไม่ปล่อยให้ไปตามตื้อใครได้อีก
"อย่าคิดว่าพี่จะปล่อยให้เราไปกับผู้ชายคนไหนอีก และอย่าคิดจะไปตามตื้อผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่พี่ไม่ยอม" ผมมือที่โอบเอวไว้รัดแน่นเข้าไปอีก ไท่เพียงเท่านั้นผมยังรั้งยัยจุ้นมาชิดติดตัวจะได้ไม่ดิ้นรนหนีผมไปได้
"พี่ธามมีสิทธิ์อะไรมาบอกข้าวปุ้นไม่ให้ไปตามตื้อผู้ชายคนอื่นนอกจากพี่น้องก็ไม่ใช่แค่คนรู้จักที่ไม่ได้สนิทสนม สำหรับข้าวปุ้นแล้วถ้าลองชอบใครสักคนก็จะตามติดคนนั้นใครก็ขวางความชอบความตั้งใจของข้าวปุ้นไม่ได้ และถ้าคนไหนที่ข้าวปุ้นไม่วิ่งไล่ตามแสดงว่าคนนั้นไม่อยู่ในสายตาข้าวปุ้นอีกต่อไป" ผมถึงกับเจ็บจี๊ดในใจกัดฟันดังกรอดๆด้วยความโมโห ยัยจุ้นกล้าพูดออกมาได้ยังไงว่าผมไม่อยู่ในสายตา ผมจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมต้องเป็นคนสำคัญเพียงคนเดียวของเธอ จะทำให้เป็นกระต่ายน้อยน่ารักอยู่ในโอวาทเดินตามผมเหมือนเดิม
"อ๋อ..เหรอ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู" ผมยังพูดจายียวนกวนประสาทยัยจุ้นมันได้ผลดีด้วยเธอกำลังจะอ้าปากคงจะสวนกลับผมนั่นแหละ
"ถ้าคิดจะด่าพี่ออกมาเมื่อไหร่พี่จะทำให้เงียบด้วยปากพี่ อยากลองดูรสชาติหวานชวนวาบหวามดูบ้างไหมล่ะ" ยัยจุ้นหุบปากลงทันทีคงรู้ว่าผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร ตลอดทางที่ผมเดินมากับยัยจุ้นมีแต่ผู้ชายมองมาที่เธอตาเยิ้ม ทำผมหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก ดูชุดนักศึกษาที่เธอใส่สิโชว์รูปร่างเรียกเสือเรียกจระเข้ให้มองตามเป็นแถว เด็กจุ้นเปลี่ยนแปลงไปเยอะจนผมจำภาพข้าวปุ้นจอมจุ้นไม่ได้ สวยเปรี้ยวสะดุดตามีทุกอย่างที่ควรมีสมบูรณ์แบบ ตอนมัธยมว่าสวยใสน่ารัก ดูตอนนี้สิสวยจนน้ำลายหกอยากจะบ้าเคยสบประมาทยัยจุ้นไว้เยอะ ทำให้ผมนึกถึงคำพูดที่เคยพูดกับยัยจุ้นขึ้นมาได้
'นมโตเมื่อไหร่ค่อยคุยกัน' ผ่านไปสองปีตอนนี้นมโตผมก็คุยกับยัยจุ้นได้แล้วสิ เห็นแล้วอยากกินนมจากเต้ามันจะมโหฬารขนาดไหนของแท้หรือของปลอม หรือจะยัดฟองน้ำมาเหมือนตอนเรียนมัธยม ผมใช้สายตาแอบสำรวจส่วนนั้นของเธอเนียนๆ
"พี่ธามมองนมข้าวปุ้นทำไมคะ" คำพูดตรงๆทำผมสะอึกน้ำแทบพุ่งออกจากปาก ข้าวปุ้นมองผมตาขวางและดุรู้ได้ยังไงว่าผมมองนม ผมใช้ความชำนาญในการสำรวจแล้วนะยังถูกยัยจอมจุ้นจับได้อีก
"นมโตของจริงหรือยัดฟองน้ำคงไม่ได้ทำอย่างเก่าใช่ไหมข้าวปุ้น" ผมจำได้เคยบอกยัยข้าวปุ้นจอมจุ้นไปว่าถ้านมโตค่อยมาคุยกัน ความหมายของผมคือรอให้เธอเป็นผู้ใหญ่เป็นสาวเต็มตัวเป็นเด็กเป็นเล็กไม่อยากให้ทำตัวแก่แดดริมีความรัก ผมเห็นเธอเงียบไปคิดว่ายัยจุ้นจะเข้าใจ วันต่อมายัยจุ้นมาหาผมที่สนามบาสของโรงเรียนกับหน้าอกที่โตขึ้น ผมอยากจะบ้าตายยัยจุ้นไม่เข้าใจที่ผมบอกไปกลับยัดฟองน้ำมาเต็ม แล้วมีหน้ามาบอกผมนมโตแล้วพี่คุยกับข้าวปุ้นได้หรือยัง แค่วันเดียวนมมันจะโตขึ้นทันทีได้ยังไงถ้าไม่ยัดอะไรมาผมนี่ประสาทแดกไล่ยัยเด็กแก่แดดไป ประกาศชัดต่อหน้าทุกคนว่าชอบผู้หญิงที่มีอะไรสมส่วนไม่ใช่เด็กแบนอย่างยัยจุ้น แล้วควงผู้หญิงที่เป็นสเปคเย้ยข้าวปุ้นทุกวันไม่สนใจว่ายัยจุ้นจะรู้สึกยังไง อยู่ๆยัยจุ้นก็หายไปไม่มาให้ผมเจออีกเลย แรกๆมันก็ดีแต่หลังๆรู้สึกขาดๆแอบถามข่าวจากน้องสาวที่ไม่ยอมบอกอะไรเกี่ยวกับข้าวปุ้นให้ผมรู้ ถ้าไปตามหาก็กลัวเสียฟอร์มผมคอยสอดสายตาหาทุกที่ที่คิดว่าจะเจอผมใจหายอย่างบอกไม่ถูก ถ้าวันนี้จะกลืนน้ำลายตัวเองจะทำได้ไหมนะ
"ข้าวปุ้นไม่ทำอะไรเด็กๆเหมือนตอนนั้นหรอก แค่คิดยังรู้สึกยี้เลยไม่รู้ว่าไปตามตื้อพี่ได้ยังไงถ้าย้อนเวลากลับไปได้คงไม่ทำอย่างนั้น แล้วนมนี่ก็ของจริงแม่ให้มา" ผมสะอึกเจอข้าวปุ้นฟาดกลับเต็มแรง
"จริงหรือไม่มันจริงมันต้องลงมือพิสูจน์ถึงจะรู้ มองด้วยตาบอกไม่ได้หรอกสมัยนี้เทคโนโลยีมันดีทำได้ทุกอย่าง" ผมยังมองสำรวจความใหญ่โตอยากสัมผัสอยากครอบครองมันคงดี มันคงปฏิกิริยาของเสือที่เจอของดีมักอยากใช้มือไปสัมผัส มือมันไวกว่าสมองสั่งงานเสียอีก
"นั่นพี่คิดจะทำอะไร" เกือบได้สัมผัสข้าวปุ้นใช้มือปัดมือผมออกทันไม่งั้นก็ได้รู้ความจริงว่าแท้หรือไม่แท้เสียดายฉิบหาย
"กำลังจะพิสูจน์ความจริงยังไงล่ะปัดมือพี่ทำไมเห็นไหมเลยไม่รู้ความจริง" ผมกำลังจะยกมือขึ้นอีกครั้ง
"โอ๊ยย!! เจ็บนะนี่ฟาดพี่จริงเหรอ พี่แค่แกล้งแหย่เล่นไหม" ผมต้องลูบมือตัวเองวนไปมาแสบใช่ย่อยรอยแดงเต็มแขนตัวก็เล็กทำไมแรงฟาดถึงเยอะ
"ข้าวปุ้นไม่เชื่อพี่หรอกคนอย่างพี่ธามหื่นจะตายไอ้พี่เจ้าชู้" เสียงข้าวปุ้นไม่เบาเลยทำให้คนหันมามองที่ผมกับเธอเป็นตาเดียว
"ถ้านมโตของจริงคราวนี้เราก็คุยกันได้แล้วสิ" อยากคุยบนเตียงด้วยซ้ำไปก็น้องมันสวยเซ็กซี่น่ากินขนาดนี้
"เสียใจค่ะ พอนมโตแล้วข้าวปุ้นดันไม่อยากคุยกับพี่นี่สิ ข้าวปุ้นไม่เอาพี่แล้วค่ะ ข้าวปุ้นจะเอาคนอื่น" ยัยจุ้นลอยหน้าลอยตาพูดจายียวนกวนโมโห ฝันไปเถอะไม่ให้เธอไปเอากับใครทั้งนั้นข้าวปุ้นเคยเป็นยังไงมันต้องเป็นอย่างนั้นจะไม่ยอมให้เปลี่ยนใจไปจากผม
"อย่าฝันไปเลยข้าวปุ้น ของที่มันเคยเป็นของพี่มันก็ยังต้องเป็นของพี่อยู่ดี" ผมจะตามติดเป็นวิญาณไม่ให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ยัยจุ้น
"พี่ห้ามข้าวปุ้นไม่ได้หรอกค่ะ" ความดื้อของข้าวปุ้นเต็มสิบไม่เคยลดน้อยถอยลง ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุตอนที่ผมบอกไม่ชอบเธอยิ่งวิ่งเข้าใส่ ยิ่งหนีผมยิ่งเจอจนกลายเป็นความชินถึงจะเบื่อที่เธอตามไปทุกที่ บางทีถ้าไม่เจอก็เผลอตัวมองหาผมก็ไม่เข้าใจความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกันว่ารำคาญจริงๆใช่ไหม ยัยจุ้นทำตัวจุ้นสมฉายาที่ผมตั้งให้ไม่ว่าจะไปที่ไหน กินอะไร ชอบอะไรไม่ชอบอะไรยัยจุ้นจะรู้ทุกอย่างและวิ่งเอามาให้ผมเสมอ เป็นคนที่ซื่อตรงต่อความรู้สึกและทำจริงเห็นทีผมจะช้าไม่ได้แล้ว กลัวว่ายัยจุ้นจะทำอย่างที่พูด
"ก็ลองดู.." ผมคาดโทษยัยจุ้นไว้ผมจะจับตาดูเธอตลอดยี่สิบชั่วโมงถ้าคิดว่าลอดสายตาผมได้ให้รู้กันไป ผมลากยัยจุ้นมาถึงรถด้วยความทุลักทุเลกับสายตาพวกเสือหิวที่มันมองยัยจุ้นตลอดทาง อยากเข้าไปฟาดปากพวกนั้นมองยัยจุ้นของผมเสียของหมด อยากเก็บไว้มองคนเดียวผมควรจัดการเรื่องพวกนี้เป็นอันดับแรก
"ข้าวปุ้นจะขับรถไปเองพี่ธามกลับไปได้แล้ว" ผมเปิดประตูรถให้ยัยจุ้นที่ยังยืนนิ่งยืนยันจะไปเองไม่ยอมขึ้นรถไปกับผมง่ายๆ ดื้อขึ้นเยอะเมื่อก่อนยังทำตามผมอย่างว่าง่ายหรือว่าโตแล้วจึงเริ่มต่อต้าน
"จะขึ้นไปนั่งบนรถดีๆหรือจะให้พี่ทำอย่างอื่น พี่เองยังไม่เคยเอาท์ดอร์ด้วยอยากลองดูเหมือนกัน" ยัยจุ้นหน้าตึงกระทืบรองเท้าส้นสูงเสียงดัง ยอมขึ้นไปนั่งหน้าตึงหันหน้าหนีผม ผมได้แต่แอบขำเด็กน้อยที่พยายามต่อต้าน นิสัยยังเด็กแต่อย่างอื่นนี่สิไม่เด็กอยากกินหญ้าอ่อนเหมือนที่เพื่อนผมพูดแล้วสิ แล้วผมก็จะไม่ยอมปล่อยหญ้าอ่อนให้คลาดสายตาและหายไปอย่างวันนั้นอีก เธอต้องตามติดผมไปตลอด นานถึงสองปีกว่าจะเจอกันได้ผมจะไม่ปล่อยให้หลุดมือไปไหน