และขณะตอบคำถาม รวิภาก็จ้องมองใบหน้าของคิวากรเขม็ง ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งและเอ่ยวิเคราะห์ออกมา “อืม...จะว่าไปแล้วน้องสกายเหมือนคิวามากเลยนะคะ น้องสกายเหมือนคิวามากกว่าคุณคมกริชซะอีก” คำพูดของรวิภาสะกิดเข้าไปในหัวของคิวากร และนาทีต่อมาสีหน้าของชายหนุ่มก็ซีดเผือดไร้สีเลือดกับความจริงที่ปรากฎอยู่ในใจของเขา “ไม่! เป็นไปไม่ได้!” “อะไรคะคิวา” รวิภาไม่เข้าใจที่คิวากรเอาแต่พึมพำและเบิกตาโพลงราวกับถูกผีหลอกตอนกลางวันแสกๆ และนาทีต่อมาก็ยิ่งตกใจเมื่อคิวากรลุกพรวดแล้วเดินเร็วๆ เป็นวิ่งออกจากบริเวณหน้าห้องเรียนที่นั่งคุยกับเธอ “คิวา! จะไปไหนคะ” “ผมจะกลับบ้าน ขอโทษด้วยนะวิ” คิวากรตะโกนตอบโดยไม่ได้หันมามองรวิภา ในหัวสมองของเขายามนี้เต็มไปด้วยเรื่องของลูกสาวของฟ้าครามและลูกของเขา ใช่! ครองขวัญหรือน้องสกายเป็นลูกของเขาอย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอด้วย ในค่ำคืนวันนั้นเขาไม่ได